“แล้วแต่พวกเขาข้าคงไม่อาจเปลี่ยนตัวเองง่ายดายเพียงนี้”ซินอ๋องส่ายหน้า หันมามองงหน้าปุกปุยของชลชล
“ใต้เท้าเสี่ยวเปา ่วยหน่อยช่วยทำให้นายของเจ้ากลับมาเป็นฮ่องเต้คนเดิมฮ่องเต้ที่เต้มไปด้วยแรงผลักดัน เป็นฮ่องเต้ที่ไม่มีใครกล้าปรามาสได้”
“โฮ้งโฮ้ง (แน่นอน) ”เรียนจบจิตวิทยาการปรึกษามา เรื่องง่ายดายแค่นี้ซินอ๋องจากไป หลงตี้นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง
จ้านกงอะรไนั่นคงสำคัญกับหลงตี้ผู้นี้ยิ่งนัก
ไหนไหนก็มาอยู่แบบนี้แล้ว หาทางช่วยฮ่องเต้คนนี้ก่อน คงจะดีไม่น้อยทดสอบจิตใจตัวเองไปด้วยชลชลก็เศร้าหลงตี้เองก็กำลังเศร้า บางทีนี่อาจเป็นสวรรค์กำหนดไว้แล้ว
เวลาผ่านไปด้วยการที่ชลชลนั่งมอง หลงตี้เหม่อมองออกนอกหน้าต่างเจ้าเวลาล่วงเลย ฟ้ามืดครึ้งมอยากจะปิดปากหาว วันนี้ทั้งวันนั่งโง่ๆ เป็นหมาโง่ อยู่ตรงหน้า ฮ่องเต้สุดหล่อ
“ง่วงหรือยังไปนอนกันเถอะ”อุ้มชลชลขึ้นไปบนแท่นนอน ชลชลเปิดปากหาว เดินวนสามรอบ ไม่พบ ท่าที่เหมาะจนอน เดินวนอีกสามรอบ เสี่ยวหัวเราะใสใสของหลงตี้ที่เป็นท่าที เดินวนของชลชล ดึงร่างปุกปุยมากอด
“นอนได้แล้วเสี่ยวเปา”ความอบอุ่นจากอ้อมกอด ทำเอาชลชลแทบจะกลั้นน้ำตาไม่ไหว เมื่อคิดถึงอ้อมกอดของปานระพี
เสียงหริงหรีดเรไรส่งเสียงแว่วมาขับกล่อมในห้วงนิทรารมณ์ อากาศหนาวเหน็บ ชลชล เอื้อมมือคว้าผ้าห่มด้วยความเคยตัว พาดแขนไปโดนร่างกำยำ ข้างกาย
“โฮ้งโฮ้ง”ลุกขึ้นนั่งทำตาโต แสงเทียนในห้องแม้จะสลัว ชลชลก็พบกับตัวเองในร่างเปลือยเปล่า ร่างมนุษย์ไม่ได้มีขนปุกปุยเป็นสุนัข รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวที่เปลือยล่อนจ้อน
“เสี่ยวเปานอนได้แล้ว”หลงตี้ดึงเอวของชลชลก่อนจะเลิกคิ้วสูง เมื่อสัมผัสได้ถึงเนื้อหนัง ลืมตาตื่นจากการหลับใหล
“เจ้าเป็นใคร”เสียงเข้ม ทุ้มต่ำชลชลขยับกายถอยห่างมือใหญ่คว้าคอของ ชลชลไว้ไม่ให้หนี
“โฮ้งโฮ่ง”
“เฮ้ย ทำไมถึงเห่าได้ เสี่ยวเปา”ช่างเข้าใจอะไรง่ายดายเหลือเกิน
“อย่าบอกนะว่าเจ้าคือเสี่ยวเปา”
“โฮ้งโฮ่ง (ใช่แล้ว) ”
“เป็นไปได้อย่างไรข้าฝันไปใช่ไหม” ชลชลกัดฉับเข้าที่หลังมือของ หลงตี้
“โอ๊ย ไม่ได้ฝันนี่ เจ้าคือเสี่ยวเปา เสี่ยวเปาแน่ๆ หน้าตาเจ้าเหมือนกับเสี่ยวเปาไม่มีผิดเพี้ยน”เหมือนตรงไหนฟะ จับคางของชลชลบิดไปมาก้มหน้าลงมองใบหน้าของชลชล
“โฮ้งโฮ้ง (อย่านะ) ”ลมหายใจรินรด ยิ้มหวาน
“ถ้าสวรรค์จะเล่นตลก เสี่ยวเปาเจ้านี่ก็หล่อเหลาไม่เบานะหมาของข้่าก้ต้องหล่อไม่หนีข้าเท่าไหร่จริงไหม”ยิ้ม บางๆ ชลชลถอนหายใจ ทำไมพูดภาษาคนไม่ได้ ไหนไหนก็จะให้กลายร่างเป็นคนแล้วทำไมไม่ให้ ชลชลพูดได้เล่า แบบนี้ไม่แฟร์แล้วจะทำอะไรได้จะสื่อสารกันแบบไหน อยากจะเถียงอยากจะพูดก็พูดไม่ได้อึดอัดใจเหลือเกิน
“เสี่ยวเปา”พึมพำออกมาเบาๆ ด้วยเสียงแหบแห้ง“ตามหมอหลวง ใครก็ได้ตามหมอหลวง” ดึง เสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้กับ ชลชลที่นอนหงายเหยียดยาว“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองนั่นเสื้อคลุมมังกร คนผู้นี้ไม่ทราบว่าเป็นใครกัน”ตู้กังกับเจียงหยา ทรุดกายลงคุกเข่า“เสื้อคลุมมังกรแล้วอย่างไร” ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา เจียจิว มองหลงตี้ตาไม่กะพริบ ก้มลงแนบใบหูกับอกข้างซ้ายประสานมือกดไปที่ช่องออกทำซีพีอาร์ ก้มลงแนบหูกับออกก่อนจะกดริมฝีปากกับปากบางเป่าลมหายใจเข้าไปช่วยชีวิต ชลชลอย่างสุดกำลัง“แค่กๆๆๆ อ่อกกๆๆ ”ร่างของชลชลสะท้อนขึ้นมาข้างบน สำลักน้ำออกมาจากลำคอลืมตาขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม“ฝ่าบาท” หลงตี้กอดซบชลชลไว้ในอ้อมแขน น้ำตาไหลรินไม่อายสายตาของคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น“ข้าคิดถึงเจ้า ข้าคิดถึงเจ้าที่สุด แล้วสวรรค์ก็เมตตาส่งเจ้ามาพบกับข้าอีกครั้ง”ชลชล อมยิ้มช่าง โชคดีเหลือเกินว่าแต่ ไอ้หมอนั่นคนที่ชนชลชลจนตกสะพานนั่นมา มัน ใต้เท้าหลัวชัดๆแต่เป้นสมัยหนุ่มๆ“บ็อกๆๆๆๆ ”เสียง ลุกหมาตัวน้อยเห่าขู่คนทั้งหมด หลงตี้หันไปมองสุนัขตัวน้อยก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกันกับชลชล“ฝ่าบาทว่าแต่ เจ้าตัวน้อยเป็นหมาของใคร”“ข้ายกให
เฉิงตูโลกปัจจุบัน ชลสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เดินทอดน่องมองทิวทัศน์รอบๆ ที่แสนจะงดงามของเมืองเฉิงตู บางอย่างของเฉิงตู รูู้สึกคุ้นเคยเสียจริงชลชลอมยิ้มนี่เขาเป็นเอามาก เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่ฝันไม่ได้เป็นความจริงเสียหน่อยคนบ้าที่ไหนจะย้อนเวลาได้มีเฉพาะในนิยายเท่านั้น แล้วยังย้อนเวลาไปเป็นหมาอีกเสียงไกด์นำเที่ยวส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ไทยกับจีนปนกันไปมา ชลชลพอจะฟังออกบางคำบางคำก้ผสมปนเปกันมั่วไปหมดสวนสวย ด้านข้างกับรูปแกะสลักสุนัขพันธ์ุเชาเชา ชลชลอดที่จะเดินไปที่นั่นไม่ได้แหงนหน้ามองรูปสลักก่อนจะยิ้ม ใครช่างทำ เหมือนของจริงเปี๊ยบเลยหยุดยืนอยู่นานสองนานก่อนจะทอดสายตาออกไปสะพาน สูงที่งดงามจนไม่อาจละสายตาชลชลก้าวขาขึ้นไปบนสะพาน“เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหน”เสียงหญิงชาวจีนคนหนึ่ง ตวาดแวดใส่สามีหรือคู่รักไม่อาจทราบได้ ชลชลก็แค่เหลือบตามองไม่ทันได้เห็นใบหน้าของคนผู้ชายที่ยืนหันหลัง“ผมเบื่อแล้ว แม้แต่ตอนมาเที่ยวคุณยังหาเรื่องทะเลาะกับผม”“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”ยังตวาดไม่เลิกไม่อายสายตาใคร“ใครบอกไม่ได้ ผมบอกว่าได้ก็ได้สิ”ก้าวขาจากไป หญิงชาวจีน กระชากแขนสุดแรงก่อนที่ร่างสูงของอีกคนจะเซถลาชนเข้ากับร่างส
โลกปัจจุบัน“พี่ชล พี่ปานระพีมาเยี่ยม พี่”ธารธาร เดินเข้ามากอดอกที่หน้าประตูด้วยใบหน้า เบื่อหน่ายเต็มกำลัง“เชิญพี่เขาเข้ามา”“แต่พี่เขามากับ...ใครอีกคน”“เชิญเขาเข้ามา พี่ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว”ธารธารถอนหายใจ หันหลังเดินออกจากห้องไป“ชลเป็นอย่างไรบ้าง หายหรือยัง”น้ำเสียงห่วงใย ชลชลยิ้ม“พี่ปานระพีเล่าสบายดีไหม”“ก็ต้องสบายดิ ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย พี่มีใครจะแนะนำ”ชลชลกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ แม้จะทำใจไว้แล้วแต่ก้อดที่จะใจสั่น ไหววูบคล้ายจะเป็นลมเสียไม่ได้“นี่ ปัญยภัทร...เขาเป็น...อืมเราสองคนกำลังคบกันปัญยพัทรเขาย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดของพี่”พูดรัวเร็ว ชลชลยิ้มบางๆ กับใบหน้าที่คุ้นตาของหลงต่าชินอ๋องใน นามปัญยพัทร“ยินดีที่รู้จัก “อีกคนยิ้มเจื่อนๆ“ชลไม่โกรธพี่นะ”“ม่ายยย ไม่ โกรธจะโกรธเรื่องอะไรพี่สบายดีก็ดีแล้วมีความสุขก็ดีแล้วอีกอย่าง ชลก็ว่าเขา เป็นคนดีนะ”“ชลรู้ได้อย่างไร”“อ่อ เอิ่ม คือ ไม่สิ รู้สึกว่าถูกชะตากับน้องเขา”“อืม พี่ กลัวว่าชลจะโกรธแต่ได้ยินแบบนี้ ก็โล่งใจ”ปัญยภัทรยิ้ม แห้งๆ“ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้วตอนนี้ ชลเองก็ ...กำลังมองหาใครสักคนเหมือนกัน”“อืมไม่มีอะไรแล้วพี่กลับก่อน
จวนเสนาบดี“555สำเร็จสำเร็จไปขั้นหนึ่ง ของมีค่าเหล่านั้นข้าชนออกมาจนสิ้น สับเปลี่ยนบ้างหยิบฉวยออกมาเฉยๆ บ้าง เจ้าหน้าโง่ จ้านกงก็ไม่มีทางต่อกรกับข้า ฝ่าบาทก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจเรื่อง หมาป่วย แบบนี้อีกไม่นาน บีบให้สละบัลลังก์เสียก้ไม่ยาก หรือจะส่งมือสังหารอีกที”คนสนิทยิ้มกริ่ม“ใต้เท้า สิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้นมาอยู่ที่นี่หมดแล้ว ใต้เท้าจะไม่เชยชมมันหน่อยหรือไร”สอพลอ ใต้เท้าหลัวยิ้ม ก่อนจะก้าวขาไปเปิด หีบห่อของสิ่งของมีค่าเหล่านั้นที่สับเปลี่ยนหยิบฉวยมา“ข้านี้สุดแสนจะ ภูมิใจ”อ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งของ ในนั้นว่าไม่ใช่สิ่งของมีค่าอย่างที่ควรจะเป็น ปาสิ่งของในมือลงบนพื้นแตกกระจาย กำมัดแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นอย่างที่สุดก่อนหน้านั้น“ฝ่าบาทก็แค่ สับเปลี่ยนของพวกนั้นเสียเชื่อว่าไม่นานใต้เท้าหลัวจะต้องส่งคนมาชิงของพวกนั้นคืนไปหรือดีหน่อยอาจหาทางยักยอกหรือสับเปลี่ยนอย่างนั้นไม่สู้เราสับเปลี่ยนเสียก่อน”ชลชลนั่งอธิบายแผนการให้หลงตี้ฟังก่อนวันที่จ้านกงจะมาขอรับผิดชอบสิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้น“เจ้าเชื่อว่าข้าจะต้องมาชิงเอาของไปอย่างนั้นหรือ”“ของที่กำลังจะเป็นของเขา ฝ่าบาท คิดว่าเขา
วังหลวงภพอดีต"ท่านหมอ เสี่ยวเปาเป็นอย่างไรบ้าง""ฝ่าบาทพระอาญาไม่พ้นเกล้า อาการของใต้เท้าเสี่ยวเปาสาหัสยิ่งนัก ข้าน้อยเกรงว่า..."ตู้กังปาดน้ำตา"ทำอย่างไรจึงจะช่วยเจ้าหมาตัวนี้ได้""ฝ่าบาทลูกดอกทำลายหัวใจ ข้าน้อยไม่แน่ใจว่าจะฟื้นฟูมันกลับขึ้นมาได้""ข้าควรทำเช่นไร""ฝ่าบาท มีทางเดียวจำต้องป่าวประกาศออกไปหาคนที่มีความถนัดด้านสรีระและการรักษาสัตว์โดยเฉพาะ""ตู้กังป่าวประกาศออกไปทั่วแคว้นใครสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเปาให้ดีขึ้นมาได้ข้าจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม""ฝ่าบาท นั่นแค่หมาทำไมต้องทุ่มเทเพียงนี้"จ้านกงก้าวขาเข้ามาข้างในตู้กังกับหมอหลวงจากไปหลงตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น"เสี่ยวเปาไม่ใช่แค่หมา เสี่ยวเปาคือทุกอย่างของข้า""ฝ่าบาท เลิกคิดว่าเจ้าหมานั่นเป็นทุกอย่างได้แล้วเราคือมนุษย์พวกมันก็แค่สัตว์เลี้ยงหย่อนใจ""ไม่ไม่ จ้านกงท่านเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วนอกจากเสี่ยวเปา ข้าไม่ต้องการสิ่งใด”จ้านกงกอดรวบลำตัวของหลงตี้ไว้แน่น“ฝ่าบาท ฝ่าบาทลืมเลือนความสัมพันธ์ของเราแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมจ้านกงแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมรสจูบของจ้านกงแล้วหรือ”หลงตี้ดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของจ้านกง จ้านกงพลิกร่างของ
จวนเสนาบดีของใต้เท้าหลัว"พลาดย่างนั้นหรือข้าให้เจ้าสังหารหลงตี้แต่พลาดไปโดนเจ้าหมาโง่นั่นได้อย่างไร""ใต้เท้าเจ้าหมานั่น รู้ได้ทันทีว่าข้ากำลังเล็งธนูไปที่ฝ่าบาท""อืม ไม่น่าเชื่อเจ้าหมานั่นจะฉลาดเพียงนั้น""ใต้เท้า"จ้านกงประสานมือ"มีเรื่องใด"โบกมือให้มือสังหารออกไปก่อนกลัวว่าความลับเรื่องส่งมือสังหารสังหารหลงตี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับจ้านกงเขาประเมินจ้านกงต่ำไป"ของสำคัญใต้เท้าจ้านกงนำมันมาเก็บไว้ที่จวนแม่ทัพเรียบร้อยแล้วใต้เท้าส่งของเลียนแบบไปสับเปลี่ยนได้เต็มที่ระหว่างนี้ทยอยนำออกมาเสีย""555ไม่น่าเชื่อ ท่านแม่ทัพช่างทำงานได้รวดเร็วเพียงนี้""แล้วเรื่องที่ข้าไหว้วานใต้เท้า"ยิ้มมุมปาก"ข้า ส่งคนลอบสังหารทว่ากลับเป็นเจ้าหมาโง่นั่นที่รับลูกดอกแทน""เจ้าหมาโง่555สมน้ำหน้ายิ่งนัก อยากเห็นเหลือเกินว่าที่นี่จะเห่าหอนอย่างไร""เป็นเรื่องดีใช่หรือไม่""เป็นเรื่องดีที่สุดเจ้าหมานั่นสมควรตายอย่างที่สุดส่วนคนผู้นั้นไว้ข้านั่งบนบัลลังก์จึงค่อยกำจัดเขายังไม่สาย"ใต้เท้าหลัวยิ้มมุมปาก"ข้าจะทยอยส่งของเข้าไปสับเปลี่ยนเสียทั้งหมดในเร็ววัน วันนี้พบเจอเรื่องดี เด็กๆ นำสุราอาหารมาฉลองมิตรภาพของข้ากับ