หลงตี้ลุกขึ้นเท้าคางมอง ชลชลด้วยสายตาหลากหลายทั้งชื่นชมตื่นเต้น ดีใจและประหลาดใจ
“น่าจะพูดได้น้า แต่แบบนี้ก็ดีข้ากำลังเหงา เจ้ามาทันเวลาพอดี”
ดึงร่างเล็กกว่ามากอดแนบแน่น ความอบอุ่นอ่อนโยนแล่นเข้าสู่หัวใจ
“ปล่อยนะโว๊ย”เผลอตะโกนออกไปยกมือขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อมันเปล่งเสียงออกมาเป็นภาษาคน
“อย่าดิ้นสิ อุ่นเสียจริง อุ่นเข้าไปข้างในเลยเชียว อบอุ่นใจของข้ายิ่งนักเฮ๊ย มะมะเมื่อกี้ จะจะเจ้าพูดได้แล้วนี่”
ชลชลเบ้ปาก ผลักร่างใหญ่ออกห่าง
“โฮ้งโฮ้ง (ถอยไป) ” อ้าวทำไมกลายเป็นเห่าอีกแล้ว สวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกันแน่ เดี๋ยวคนเดี๋ยวหมา
"หูฟาดไป"หลงตี้ยิ้ม ยียวน
“เฮ้อ ไม่ยอมให้กอด ข้านี้ใจบางเลยก็ได้ ข้านอนห่างหน่อยก็ได้ แต่ขออย่างเดียวอย่าจากข้าไปไหนอย่าหนีไปไหนก็พอ”อยู่ๆ หลงตี้ก็รู้สึกว่าหัวใจเปี่ยมสุข นอนหลับตาไปพร้อมกับรอยยิ้ม
"เฮ้อ" ชลชลนั่งสัปหงกบนแท่นนอน กับผ้าห่มหนึ่งผืนจนรุ่งสาง อากาศเริ่มเย็นลงขยับตัวกอดผ้าห่ม
“เฮ้ย ขนมาไงอีกเนี๊ยะ”กลายเป็นเสี่ยวเปาเหมือนเดิม หลงตี้ลุกขึ้นนั่งมองตาค้าง
“จริงๆ ด้วยเจ้ากลายร่างจากคนเป็นหมา สวรรค์สวรรค์เป็นสวรรค์ที่ส่งเจ้ามา ส่งหมาเฮ้ยคนในร่างหมาหรือหมาในร่างคน เอาอย่างไรดีหมาพูดได้หรือคนมีขน”
ชลชลทิ้งตัวลงนอน หลับตาเสียไม่อยากมอง หลงตี้ที่เอาแต่ดีใจทั้งๆ ที่ชลชล เริ่มรู้สึกว่าชะตาชีวิตของตัวเองไม่แน่ไม่นอนแล้วต่อจากนี้ วันนี้เป็นหมากลางคืนเป็นคนแล้วหากคืนที่จะถึงนี้ไม่กลายเป็นนู่นนี่อีกหรือ
เช้าต่อมา
“ฝ่าบาทวันนี้ตื่นแต่เช้า”
“ข้าจะเข้าไปที่ท้องพระโรงเสียหน่อย ตู้กังอย่าเพิ่งเข้าไปกวนเสี่ยวเปา ไว้ข้ามาค่อยเข้าไปพร้อมกันตอนนี้เสี่ยวเปานอนอยู่”
“ใต้เท้าเสี่ยวเปาไม่หิวแต่เช้าหรือไร”
“เมื่อคืนเขานอนดึก”ไม่ได้นอนเลยเอาแต่นั่งจ้องหน้าเขาจนเมื่อรุ่งสาง เขาก็เห็นได้ชัดว่า หนุ่มหล่อคนนั้นกลายเป็นร่างปุกปุยของ เสี่ยวเปากับตาตัวเอง
ชลชลวิ่งแน่บตามตูดหลงตี้ไปทันที
"เฮ้ยเจ้าจะมาทำไมกัน"
"ใครจะอยู่คนเดียว แล้วที่แน่ๆที่นี่ฉันก็ไม่รู้จักใครอีกอย่างตามหลักก็ไม่ควรปล่อยคนที่มีอาการซึมเศร้าไปไหนคนเดียว"บ่นเบาๆหลงตี้ไม่ทันได้ยิน
"ดีอย่างน้อยก็มีเจ้าเป็นสหายในยามที่ต้องกลับเข้าไปในท้องพระโรงอีกครั้งในรอบปี"
น้ำเสียงช่างเศร้าสร้อยยิ่งนัก ชลชลรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวในน้ำเสียงเศร้าสร้อยนั้น ชลชลอยู่นี่ทั้งคนไม่ต้องกลัว555ทั้งๆที่ใจก็นึกหวั่น
ท้องพระโรงกว้างใหญ่
"ฮ่องเต้เสด็จจจจจจจจ"เสียงขานจากขันทีติดตาม เหล่าขุนนางต่างทำหน้าเหลอหลาบ้างก็ลืมแม้กระทั่งทำความเคารพฮ่องเต้ เสียงซุบซิบดังระหว่างทางที่ก้าวเดิน
"สุนัขตัวโปรดต้องให้พวกเรา ถวายพระพรด้วยไหมเป็นแค่หมาแต่ให้เดินข้างกายอย่างนี้เวลาพวกเราถวายพระพรมิต้องถวายพระพรหมาด้วยหรือ"
ชลชลหันมองคนพูด หลงตี้นิ่งเสีย
เอาวะ
"โฮ้งโฮ้ง โฮ่ง (ปากดีนัก) "
กระโจนเข้าใส่คนพูดจนล้มหงายหลัง ถอยหนีลนลาน ชลชลแกล้งงับที่ใบหน้าแต่ไม่ให้โดน
“เหวอ….เหวอ ฝ่าบาทโปรดอภัยฝ่าบาทสั่งให้ใต้เท้าเสี่ยวเปา หยุดที” ชลชล ถอนหายใจ กำลังสนุกเชียวเวลาเห็นสายตาขี้ขลาดของคนปากเก่งนี่ช่างสนุกเสียจริง
หลงตี้ผิวปากหวีดหวิว บาดหู เสียงผิวปากช่างยั่วยวนใจ ชลชลวิ่งแน่บไปกระดิกหางตรงหน้าหลงตี้ ยิ้มกว้างสุดกว้าง เหมือนต้องการให้เขาชม ตายห่าล่ะทำไมทำตัวเหมือนหมาขี้อ้อนแบบนี้ไปได้ อยากให้เจ้านายชมอย่างนั้นหรือ
หลงตี้ยกมือขึ้นลูบหัวเบาๆ ชลชล หลับตาพลิ้ม เฮ้อ!ปลื้มปริ่ม
“เสี่ยวเปาอย่าทำเขา”น้ำเสียงอ่อนโยน ชลชลแล่บลิ้นห้อยออกมา ดีใจที่โดนมืออุ่นลูบหัว
“โฮ้งโฮ้งโฮ้งโฮ้ง โฮ่ง (ก็เขานินทานาย) ” หลงตี้ หันไปมองขุนนางปากพล่อย
“เจ็บตรงไหนหรือไม่”เอ่ยปากถามอย่างเสียไม่ได้ทั้งๆที่เห็นว่าไม่ได้เจ็บอะไรแค่เช็ดน้ำลายของสุนัขออกจากใบหน้า
“ฝ่าบาท ท้องพระโรงคือสถานที่สำคัญไม่สมควรนำสุนัขเข้ามา”ขุนนางใจกล้าผู้หนึ่งก้าวออกมาประสานมือด้านหน้า
“ใช่ใช่ใช่”เสียงขุนนางต่างส่งเสียงพร้อมเพรียงกัน
“โฮ้ง”เห่าเสียงดังลั่น ขุนนางผู้นั้น ถอยหนี ทำท่าทีหวาดกลัว
“เสี่ยวเปา อย่าโมโห ไปไปกับข้า ในเมื่อไม่มีบาดแผลก็ถือว่าเลิกแล้วต่อกันเสีย คราวหลังเอาเป็นว่าข้าจะไม่ให้เสี่ยวเปาเข้ามา วันนี้ฉุกละหุก ข้าต้องการมารับฎีกาด้วยตัวเอง” ซินอ๋องเดินมายิ้มรับหลงตี้
“เสี่ยวเปา”พึมพำออกมาเบาๆ ด้วยเสียงแหบแห้ง“ตามหมอหลวง ใครก็ได้ตามหมอหลวง” ดึง เสื้อคลุมของตัวเองออกมาคลุมให้กับ ชลชลที่นอนหงายเหยียดยาว“ฝ่าบาทโปรดไตร่ตรองนั่นเสื้อคลุมมังกร คนผู้นี้ไม่ทราบว่าเป็นใครกัน”ตู้กังกับเจียงหยา ทรุดกายลงคุกเข่า“เสื้อคลุมมังกรแล้วอย่างไร” ยิ้มทั้งสีหน้าและแววตา เจียจิว มองหลงตี้ตาไม่กะพริบ ก้มลงแนบใบหูกับอกข้างซ้ายประสานมือกดไปที่ช่องออกทำซีพีอาร์ ก้มลงแนบหูกับออกก่อนจะกดริมฝีปากกับปากบางเป่าลมหายใจเข้าไปช่วยชีวิต ชลชลอย่างสุดกำลัง“แค่กๆๆๆ อ่อกกๆๆ ”ร่างของชลชลสะท้อนขึ้นมาข้างบน สำลักน้ำออกมาจากลำคอลืมตาขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม“ฝ่าบาท” หลงตี้กอดซบชลชลไว้ในอ้อมแขน น้ำตาไหลรินไม่อายสายตาของคนทั้งหมดที่อยู่ตรงนั้น“ข้าคิดถึงเจ้า ข้าคิดถึงเจ้าที่สุด แล้วสวรรค์ก็เมตตาส่งเจ้ามาพบกับข้าอีกครั้ง”ชลชล อมยิ้มช่าง โชคดีเหลือเกินว่าแต่ ไอ้หมอนั่นคนที่ชนชลชลจนตกสะพานนั่นมา มัน ใต้เท้าหลัวชัดๆแต่เป้นสมัยหนุ่มๆ“บ็อกๆๆๆๆ ”เสียง ลุกหมาตัวน้อยเห่าขู่คนทั้งหมด หลงตี้หันไปมองสุนัขตัวน้อยก่อนจะส่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกันกับชลชล“ฝ่าบาทว่าแต่ เจ้าตัวน้อยเป็นหมาของใคร”“ข้ายกให
เฉิงตูโลกปัจจุบัน ชลสอดมือลงไปในกระเป๋ากางเกง เดินทอดน่องมองทิวทัศน์รอบๆ ที่แสนจะงดงามของเมืองเฉิงตู บางอย่างของเฉิงตู รูู้สึกคุ้นเคยเสียจริงชลชลอมยิ้มนี่เขาเป็นเอามาก เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่ฝันไม่ได้เป็นความจริงเสียหน่อยคนบ้าที่ไหนจะย้อนเวลาได้มีเฉพาะในนิยายเท่านั้น แล้วยังย้อนเวลาไปเป็นหมาอีกเสียงไกด์นำเที่ยวส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ไทยกับจีนปนกันไปมา ชลชลพอจะฟังออกบางคำบางคำก้ผสมปนเปกันมั่วไปหมดสวนสวย ด้านข้างกับรูปแกะสลักสุนัขพันธ์ุเชาเชา ชลชลอดที่จะเดินไปที่นั่นไม่ได้แหงนหน้ามองรูปสลักก่อนจะยิ้ม ใครช่างทำ เหมือนของจริงเปี๊ยบเลยหยุดยืนอยู่นานสองนานก่อนจะทอดสายตาออกไปสะพาน สูงที่งดงามจนไม่อาจละสายตาชลชลก้าวขาขึ้นไปบนสะพาน“เดี๋ยวก่อน คุณจะไปไหน”เสียงหญิงชาวจีนคนหนึ่ง ตวาดแวดใส่สามีหรือคู่รักไม่อาจทราบได้ ชลชลก็แค่เหลือบตามองไม่ทันได้เห็นใบหน้าของคนผู้ชายที่ยืนหันหลัง“ผมเบื่อแล้ว แม้แต่ตอนมาเที่ยวคุณยังหาเรื่องทะเลาะกับผม”“คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ”ยังตวาดไม่เลิกไม่อายสายตาใคร“ใครบอกไม่ได้ ผมบอกว่าได้ก็ได้สิ”ก้าวขาจากไป หญิงชาวจีน กระชากแขนสุดแรงก่อนที่ร่างสูงของอีกคนจะเซถลาชนเข้ากับร่างส
โลกปัจจุบัน“พี่ชล พี่ปานระพีมาเยี่ยม พี่”ธารธาร เดินเข้ามากอดอกที่หน้าประตูด้วยใบหน้า เบื่อหน่ายเต็มกำลัง“เชิญพี่เขาเข้ามา”“แต่พี่เขามากับ...ใครอีกคน”“เชิญเขาเข้ามา พี่ไม่ได้อะไรกับเขาแล้ว”ธารธารถอนหายใจ หันหลังเดินออกจากห้องไป“ชลเป็นอย่างไรบ้าง หายหรือยัง”น้ำเสียงห่วงใย ชลชลยิ้ม“พี่ปานระพีเล่าสบายดีไหม”“ก็ต้องสบายดิ ไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย พี่มีใครจะแนะนำ”ชลชลกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ แม้จะทำใจไว้แล้วแต่ก้อดที่จะใจสั่น ไหววูบคล้ายจะเป็นลมเสียไม่ได้“นี่ ปัญยภัทร...เขาเป็น...อืมเราสองคนกำลังคบกันปัญยพัทรเขาย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดของพี่”พูดรัวเร็ว ชลชลยิ้มบางๆ กับใบหน้าที่คุ้นตาของหลงต่าชินอ๋องใน นามปัญยพัทร“ยินดีที่รู้จัก “อีกคนยิ้มเจื่อนๆ“ชลไม่โกรธพี่นะ”“ม่ายยย ไม่ โกรธจะโกรธเรื่องอะไรพี่สบายดีก็ดีแล้วมีความสุขก็ดีแล้วอีกอย่าง ชลก็ว่าเขา เป็นคนดีนะ”“ชลรู้ได้อย่างไร”“อ่อ เอิ่ม คือ ไม่สิ รู้สึกว่าถูกชะตากับน้องเขา”“อืม พี่ กลัวว่าชลจะโกรธแต่ได้ยินแบบนี้ ก็โล่งใจ”ปัญยภัทรยิ้ม แห้งๆ“ไม่ต้องกังวล ไม่มีอะไรแล้วตอนนี้ ชลเองก็ ...กำลังมองหาใครสักคนเหมือนกัน”“อืมไม่มีอะไรแล้วพี่กลับก่อน
จวนเสนาบดี“555สำเร็จสำเร็จไปขั้นหนึ่ง ของมีค่าเหล่านั้นข้าชนออกมาจนสิ้น สับเปลี่ยนบ้างหยิบฉวยออกมาเฉยๆ บ้าง เจ้าหน้าโง่ จ้านกงก็ไม่มีทางต่อกรกับข้า ฝ่าบาทก็เอาแต่เศร้าโศกเสียใจเรื่อง หมาป่วย แบบนี้อีกไม่นาน บีบให้สละบัลลังก์เสียก้ไม่ยาก หรือจะส่งมือสังหารอีกที”คนสนิทยิ้มกริ่ม“ใต้เท้า สิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้นมาอยู่ที่นี่หมดแล้ว ใต้เท้าจะไม่เชยชมมันหน่อยหรือไร”สอพลอ ใต้เท้าหลัวยิ้ม ก่อนจะก้าวขาไปเปิด หีบห่อของสิ่งของมีค่าเหล่านั้นที่สับเปลี่ยนหยิบฉวยมา“ข้านี้สุดแสนจะ ภูมิใจ”อ้าปากค้างเมื่อเห็นสิ่งของ ในนั้นว่าไม่ใช่สิ่งของมีค่าอย่างที่ควรจะเป็น ปาสิ่งของในมือลงบนพื้นแตกกระจาย กำมัดแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นอย่างที่สุดก่อนหน้านั้น“ฝ่าบาทก็แค่ สับเปลี่ยนของพวกนั้นเสียเชื่อว่าไม่นานใต้เท้าหลัวจะต้องส่งคนมาชิงของพวกนั้นคืนไปหรือดีหน่อยอาจหาทางยักยอกหรือสับเปลี่ยนอย่างนั้นไม่สู้เราสับเปลี่ยนเสียก่อน”ชลชลนั่งอธิบายแผนการให้หลงตี้ฟังก่อนวันที่จ้านกงจะมาขอรับผิดชอบสิ่งของมีค่าควรเมืองเหล่านั้น“เจ้าเชื่อว่าข้าจะต้องมาชิงเอาของไปอย่างนั้นหรือ”“ของที่กำลังจะเป็นของเขา ฝ่าบาท คิดว่าเขา
วังหลวงภพอดีต"ท่านหมอ เสี่ยวเปาเป็นอย่างไรบ้าง""ฝ่าบาทพระอาญาไม่พ้นเกล้า อาการของใต้เท้าเสี่ยวเปาสาหัสยิ่งนัก ข้าน้อยเกรงว่า..."ตู้กังปาดน้ำตา"ทำอย่างไรจึงจะช่วยเจ้าหมาตัวนี้ได้""ฝ่าบาทลูกดอกทำลายหัวใจ ข้าน้อยไม่แน่ใจว่าจะฟื้นฟูมันกลับขึ้นมาได้""ข้าควรทำเช่นไร""ฝ่าบาท มีทางเดียวจำต้องป่าวประกาศออกไปหาคนที่มีความถนัดด้านสรีระและการรักษาสัตว์โดยเฉพาะ""ตู้กังป่าวประกาศออกไปทั่วแคว้นใครสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเปาให้ดีขึ้นมาได้ข้าจะปูนบำเหน็จให้อย่างงาม""ฝ่าบาท นั่นแค่หมาทำไมต้องทุ่มเทเพียงนี้"จ้านกงก้าวขาเข้ามาข้างในตู้กังกับหมอหลวงจากไปหลงตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น"เสี่ยวเปาไม่ใช่แค่หมา เสี่ยวเปาคือทุกอย่างของข้า""ฝ่าบาท เลิกคิดว่าเจ้าหมานั่นเป็นทุกอย่างได้แล้วเราคือมนุษย์พวกมันก็แค่สัตว์เลี้ยงหย่อนใจ""ไม่ไม่ จ้านกงท่านเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วนอกจากเสี่ยวเปา ข้าไม่ต้องการสิ่งใด”จ้านกงกอดรวบลำตัวของหลงตี้ไว้แน่น“ฝ่าบาท ฝ่าบาทลืมเลือนความสัมพันธ์ของเราแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมจ้านกงแล้วหรือ ฝ่าบาทลืมรสจูบของจ้านกงแล้วหรือ”หลงตี้ดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของจ้านกง จ้านกงพลิกร่างของ
จวนเสนาบดีของใต้เท้าหลัว"พลาดย่างนั้นหรือข้าให้เจ้าสังหารหลงตี้แต่พลาดไปโดนเจ้าหมาโง่นั่นได้อย่างไร""ใต้เท้าเจ้าหมานั่น รู้ได้ทันทีว่าข้ากำลังเล็งธนูไปที่ฝ่าบาท""อืม ไม่น่าเชื่อเจ้าหมานั่นจะฉลาดเพียงนั้น""ใต้เท้า"จ้านกงประสานมือ"มีเรื่องใด"โบกมือให้มือสังหารออกไปก่อนกลัวว่าความลับเรื่องส่งมือสังหารสังหารหลงตี้จะสร้างความไม่พอใจให้กับจ้านกงเขาประเมินจ้านกงต่ำไป"ของสำคัญใต้เท้าจ้านกงนำมันมาเก็บไว้ที่จวนแม่ทัพเรียบร้อยแล้วใต้เท้าส่งของเลียนแบบไปสับเปลี่ยนได้เต็มที่ระหว่างนี้ทยอยนำออกมาเสีย""555ไม่น่าเชื่อ ท่านแม่ทัพช่างทำงานได้รวดเร็วเพียงนี้""แล้วเรื่องที่ข้าไหว้วานใต้เท้า"ยิ้มมุมปาก"ข้า ส่งคนลอบสังหารทว่ากลับเป็นเจ้าหมาโง่นั่นที่รับลูกดอกแทน""เจ้าหมาโง่555สมน้ำหน้ายิ่งนัก อยากเห็นเหลือเกินว่าที่นี่จะเห่าหอนอย่างไร""เป็นเรื่องดีใช่หรือไม่""เป็นเรื่องดีที่สุดเจ้าหมานั่นสมควรตายอย่างที่สุดส่วนคนผู้นั้นไว้ข้านั่งบนบัลลังก์จึงค่อยกำจัดเขายังไม่สาย"ใต้เท้าหลัวยิ้มมุมปาก"ข้าจะทยอยส่งของเข้าไปสับเปลี่ยนเสียทั้งหมดในเร็ววัน วันนี้พบเจอเรื่องดี เด็กๆ นำสุราอาหารมาฉลองมิตรภาพของข้ากับ