“ยินดีต้อนรับเข้าสู่งานจับมือเขียน โครงการอบรมสานฝันสืบงานเขียนค่ะ” เสียงของเด็กสาวหน้างานเอ่ยขณะอยู่ในชุดพนักงานของดิเรกสิงหะกรุ๊ป
“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะส่งใบสมัครให้หญิงสาวคนนั้น
พนักงานด้านหน้ารับมาตรวจดูแล้วส่งให้เธอเซ็นชื่อเพิ่มอีกที่
“เดี่ยวคุณพราวนภาเซ็นตรงนี้อีกที่นะคะ” จิลชวาในวัยอายุยี่สิบหกปีเอ่ยขณะชี้ไปที่จุดที่พราวนภาต้องเซ็น
“ค่ะ” พราวนภาควานหาปากาในกระเป๋าแล้วหยิบขึ้นมาเขียนชื่อของเธออย่างลวกๆ
“เดี่ยวเชิญรับอาหารว่างแล้วเดินเข้าไปในงานได้เลยนะคะ” จิลชวาเอ่ยเสียงชัดถ้อยชัดคำ
สตรีเบื้องหน้าของจิลชวาเป็นหญิงสาววัยกลางคน ภายใต้แว่นกันแดดสีชา จิลชวาลอบเห็นกรอบโครงหน้ารูปไข่ ผิวขาวเนียนละเอียดหมดจดไร้ไฝฝ้า
ผู้หญิงคนนี้แน่ๆ ที่เป็นภรรยาของพี่ชายของเธอ จิลชวาอดนึกในใจไม่ได้ว่า เวลาผ่านไปพราวนภาที่เธอเคยดูถูกกลับมีความสวยแปล่งประกายสะดุดตากว่าผู้เข้าร่วมทุกคนที่เธอเคยพบมา
“ค่ะ” พราวนภารับคำเพียงสั้นๆ แล้วหมุนตัวออกมาทันที
“ทางไปห้องน้ำไปทางไหนคะ” พราวนภาเอ่ยถามจิลชวาอย่างไม่คุ้นเคย
“เลี้ยวซ้ายเดินไปสุดทางแล้วเลี้ยวขวาค่ะ” จิลชวาเอ่ยเสียงหวานแล้วฉีกยิ้มอย่างเป็นมิตรที่สุดเท่าที่เธอเคยทำมา
"คนนี้เหรอคุณพราวนภา” เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นขณะพราวนภาเดินออกไปไกล
“เบาๆสิเดี่ยวคุณจิลได้ยิน” มิลรยาเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของเจ้านายสาวที่สีหน้าบอกบุญไม่รับ
“มิลรยา” จิลชวาเอ่ยเรียกเสียงเข้ม
“คะ” มิลรยาเดินออกมาจากมุมตรงทางเดินพร้อมซีน่า เพื่อนสนิทสุดรักของเธอ
“คุณจิลชวามีอะไรเหรอคะ” มิลรยาเอ่ยถามเสียงหวานแล้วสาวเท้าเดินเข้าไปหาเจ้านายสาว
“ฉันมีเรื่องจะให้เธอสองคนไปทำ” จิลชวาเอ่ยอย่างกระซิบกระซาบข้างหูของพนักงานสาวทั้งสอง แม้จะเบาราวกระซิบ หากแต่ได้ยินชัดเต็มสองหูของใครบางคนที่แอบซุ่มฟังอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
ห้องน้ำ
ม่ายสาววางกระเป๋าไว้ด้านหน้ากระจก ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับกว่าเดิม
‘วันนี้แล้วซินะ ที่เราจะได้เจอกันอีกครั้ง คุณธนู’พราวนภาคิดในใจ
พราวนภาเอื้อมมือเปิดกระเป๋าสะพายราคาแพงหูฉี่ หญิงสาวแต้มริมฝีปากด้วยลิปสติกสีแดงจัด
เธอจำได้ว่า ‘คุณธนู’ ไม่ชอบอะไร และชอบอะไร ความจำของพราวนภาเป็นเลิศโดยเฉพาะกลับมนุษย์ที่ทำให้หญิงสาวน้ำตาซึมบ่อยครั้ง
“มันจะไม่มีอีกแล้ว พราวนภา” หญิงสาวเอ่ยขึ้น
ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าของพราวนภาคือสตรีสวมชุดเดรสสั้นเลยเข่า
เรือนไหมสีน้ำตาลเข้มแกมแดงปล่อยสยายยาวถึงกลางหลัง เส้นผมของสตรีม่ายทิ้งตัวลงอย่างมีน้ำหนัก
ดวงตาคู่งดงามไล่ระดับสายตาลงมาถึงทรวงอกดุนดัน ที่วันนี้ซุกซ่อนมิดชิดภายใต้เดรสสีแดงสดสั้นที่เผยเรียวขานวลละเอียดลออ
แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด หากแต่พราวนภากลับยังคงความสาวความสวยไว้เหนียวแน่นราวสาวสองพันปี
“กึก” เสียงประตูถูกล็อกดังเล็ดลอดเข้ามาด้านใน ไม่นานนักไฟก็พลันดับลง
“ว้าย” พราวนภาหวีดร้องอย่างตระหนก
พราวนภาสัมผัสได้ถึงบางอย่าง ตั้งแต่ที่เธอเจอจิลชวาน้องสาวของสามีเก่าเธอ ที่เบื้องหน้ากลับยิ้มแย้ม หากแต่เบื้องหลังกลับมีใจคด
ด้วยความสงสัยพราวนภาเดินไปดูหน้าบ้าน แม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์กวาดสายตา ไปบริเวณหน้าบ้านภาพที่ปรากฏ ตรงหน้าอดทำให้พราวนภาตะลึงไม่ได้“เป็นเขานั่นเอง” ธนพ ทายาทเพียงคนเดียว ของ ตระกูลดิเรกสิงหะ กำลังเดินไปเดินมาอยู่หน้าบ้านคฤหาสน์ที่แยกตัวจากถนนเหตุการณ์เมื่อวานยังคงติดตรึงในใจของพราวนภาดวงหน้าหวานแต้มสีเรื่อจางๆคิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิด แม่ม่ายสาวอย่างพราวนภารู้สึกถึงความปั่นป่วนในห้วงใจ ของหล่อนเองเวลานี้เธอจะให้ลัลลาวีร์รู้เรื่องนี้ไม่ได้นะ คิดสิ พราวนภาคิดในใจ หากแต่เวลานี้พราวนภาสาวเท้าออกไปเพื่อเปิดประตูมาเพื่อให้ลูกสาวเพียงคนเดียวของพราวนภาไม่สงสัย ว่ามารดาของเธอหายไปไหนมาทั้งคืนพราวนภาแม่ม่ายสาว เดินออกไป ม่ายสาวสวมรองเท้าแตะคีบสีดำตัดกับปลายเท้าสะอาดขาวผ่องของเธอ พราวนภาสืบเท้าออกไป ใกล้ประตูรั้วบ้าน สายลมเย็นเวลานี้พัดกรีดผิวของหญิงสาว “มาทำไมรึ” พราวนภาเอ่ยถามอย่างตระหนกเล็กน้อย “อ้าวพี่พราว” ธนพเอ่ยขึ้น พลางชูกระเป๋าสะพาย ของพราวนภาขึ้นมา“พอดีผมเอากระเป๋ามาคืนครับ” ธนพเอ่ยอย่างเป็นต่อ“ขอบคุณค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้น แล้วกุลีกุจอ เปิดประตูรั้วบ้านให้กับเขา
“พราวผมส่งแค่นี้นะ” ธนูเอ่ยขึ้นขณะจอดรถใกล้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่พราวนภาอาศัยอยู่“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างเลื่อนลอยมือเรียวสวยเอื้อมเปิดประตูรถสปอร์ตแล้วก้าวลงมาจากรถอย่างรวดเร็วพราวนภาสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอดินหลังฝนตกหมาดๆเธอค่อยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อยพราวนภาเดินออกไปจากบริเวณเดิมนานแล้ว หากแต่ธนูยังคงจับจ้องมองยังเรียวขาขาวนวลอย่างเผลอไผลเรือนกายขาวผ่องที่เขาแตะต้องเธอเพียงไม่กี่ครั้งยังคงติดตราตรึงเข้าไปในโสตประสาทของเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธนูยกมือขึ้นลูบคางอย่างใช้ความคิด คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิดเพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่หนุ่มใหญ่คิดออก เขาถอยรถออกจากบริเวณบ้านของพราวนภาออกไปในทันที“แม่คะ หายไปไหนมา” ลัลลาวีร์ในวัยมัธยมต้นวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหามารดา“พอดีแม่เจอเพื่อนเก่านิดหน่อย เลยแวะทักทายเขานานไปหน่อย” พราวนภาเอ่ยตอบอย่างรู้สึกผิด“ไม่เป็นไรค่ะ ลัลหิวข้าวแล้ว” เด็กสาวยกมือขึ้นลูบท้องอย่างเคยชินพราวนภาอดน้ำตาซึมไม่ได้ในฐานะคนเป็นแม่ ม่ายสาวจูงมือลูกสาวเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์หลังใหญ่โดยมีสายตาของธนพแอบมองตามลัลลาวีร์ไม่วางตาธนพที่ซ่อนตัวแอบดูพฤติกรรมของพี่สะใภ้สาว
แม่ม่ายทรงเครื่องสัมผัสได้ว่า ธนูแทรกตัวผ่านช่องทางสวรรค์ของเธออย่างไม่ปรานี กระนั้นในโพรงปากกับมีแท่งไอติมเขื่องธนพคาอยู่ธนพจับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างแผ่วเบาที่สุด หากแต่พราวนภากลับรู้สึกพึงใจต่อเหตุการณ์เช่นนี้อย่างถึงที่สุดตั้งแต่เกิดมา พราวนภาไม่เคยรู้สึกราวกับผกผินได้เช่นนี้มาก่อน ม่ายสาวรู้สึกนี่คือสวรรค์รำไรของเธอขณะที่พราวนภาตกอยู่ในภวังค์ห้วงวสุข ธนูเองก็ขยับเข้าออกช่องทางสวาทของเธออย่างเป็นจังหวะบทบรรเลงเกมกามารมณ์เริ่มต้นขึ้นอย่างดุเดือดธนพเองก็จับศีรษะของพราวนภาเข้าออกอย่างไม่หยุดหย่อนดวงหน้าคมคายคล้ายธนูแหงนขึ้นอย่างกระสันต์ถึงที่สุดเฉกเช่นเดียวกับพราวนภา ธนพอดร้องครางออกมาราวกับสิงห์คำรามไม่ได้เช่นเดียวกันกับธนูหนุ่มใหญ่อดรู้สึกไม่ได้เลยว่าเขาชอบบทเพลงรักที่แสนจะดุเดือดแบบนี้มากเพียงใด ยิ่งยามเห็นแววตาของพราวนภาที่แสดงออกถึงความสุขที่เธอไม่เคยได้รับทำให้เขายิ่งกระแทกเธอแรงกระชั้นขึ้นกว่าเดิมธนูอดรู้สึกดีไม่ได้ เขามักจะแข็งตัวทุกครั้งที่เห็นฝ่ายหญิงเป็นหมากเบี้ยล่างอย่างนี้ ยิ่งยามนี้ได้เห็นภรรยาเก่าของเขาสุขสันต์ยิ่งสร้างความกระหายให้เขาอย่างหาที่สุดไม่ได้ลม
พราวนภาอดตอบรับสัมผัสนั้นไม่ได้ ม่ายสาวแอ่นเรือนกายขาวผ่องตอบสนองต่อแรงปรารถนานั้นทันที “อ๊า” พราวนภาครวญเสียงหวานอย่างเผลอไผลธนูลอบสังเกตอย่างเงียบกริบ หนุ่มใหญ่อดรู้สึกหวามใจไม่ได้ ดวงตาคู่คมเปล่งประกายระยับกว่าเดิมหนุ่มใหญ่ไม่รอช้าถลันเข้าหาหุบเขาแห่งมวลหมู่ดอกไม้ที่เปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมทันที“อ๊าย” พราวนภาร้องครางเสียงหลง ยามเมื่อทายาทอันดับแรกดอมดมกลีบดอกไม้ของเธอ ขณะเดียวกันกับที่ธนพยังคงเล้าโลมเธอด้วยริมฝีปากอย่างยั่วเย้าหนุ่มใหญ่สะบัดลิ้นไปมาอย่างกระสันต์เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธนพบดจูบขยี้ริมฝีปากของพราวนภาพราวนภารู้สึกราวกับนี่คือภาพฝัน ม่ายสาวทรงเครื่องอย่างเธอกลับถูกพี่น้องสองคนรุมเร้าด้วยแรงปรารถนาอย่างสุขสันต์...นี่ซิความสุขอย่างแท้จริงสาวใหญ่เริ่มปลดปล่อยอารมณ์ให้เตลิดราวกับดอกบัวพลิ้วเอนไหวไปตามแรงลม “พี่พราวชอบไหมครับ” ธนพเอ่ยดวงดวงหน้าแดงระเรื่อ ขณะมือยังคงเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มได้รูปสวยอย่างมันส์มือ“อื้ม” พราวนภาตอบรับเพียงสั้นๆ“พราวเราสองคนพี่น้องชอบคุณมานานแล้ว แต่ธนพไม่กล้าที่จะบอกออกไป” ธนูเอ่ยขึ้นดวงหน้าคมคายของเขาแต้มรอยยิ้มจริงใจที่สุดเท่าที่พราวนภาเคย
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาแยงดวงตาของธนู หนุ่มใหญ่ขยี้ตาอย่างแรงเหตุการณ์เมื่อคืนราวกับจะตอกย้ำให้ธนูรู้ชัดว่าน้ำพริกถ้วยเก่าอย่างพราวนภารสเลิศเพียงใด กระนั้นหนุ่มใหญ่ยังอดชำเลืองมองภรรยาเก่าของเขาไม่ได้หากแต่เวลานี้พราวนภากลับอันตธานหายไปเสียแล้วกระนั้นร่องรอยน้ำสวาทยังคงมีอยู่ให้เห็นจนหนุ่มใหญ่อดใจหายไม่ได้“ตื่นแล้วเหรอคะ...” พราวนภาเอ่ยถามขณะหนุ่มใหญ่ตรงหน้ากำลังจมลึกในห้วงภวังค์ธนูสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่าพราวนภาสวมชุด...เมื่อวานที่เขาบรรจงถอดมันออกมากับมือเดรสสีแดงสั้นเผยให้เห็นว่าสตรีตรงหน้างดงามเพียงใดดวงหน้าอ่อนหวานล้อมกรอบด้วยเรือนไหมสีน้ำตาลแดงปล่อยยาวสยายถึงกลางหลังธนูสังเกตว่าพราวนภามีริมฝีปากที่สะดุดสายตามากกว่าสิ่งอื่นใดบนดวงหน้างดงามหนุ่มใหญ่ไล่ระดับสายตามายังเอวคอดที่โค้งเว้าอย่างสมดุลพราวนภาคนใหม่มีท่าทางแตกต่างจากภรรยาคนเก่าของเขามาก แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงกลับเจนจัดมากกว่าเดิมแม่ม่ายสาวประเมินสถานการณ์ตรงหน้าอย่างชั่งใจ...พราวนภาไม่มีทางเลือกมานักหากว่าเธอไม่ตัดสินใจทำไรสักอย่าง“คุณลืมเรื่องเมื่อวานเถอะ พราวผมขอโทษ” ธนูพูดแล้วรีบสวมเสื้อผ้าให้เร็วกว่าเดิม
“อ๊า” พราวนภาคร้องเสียงหลงยามเมื่อธนูโลมเลียไปทุกกลีบของดอกไม้ราวกับภมรรุมทึ้งเกสรอย่างกระหายธนูเร่งระดับความต้องการของเขาขึ้น หนุ่มใหญ่เล้าโลมพราวนภาอย่างใคร่กระสันต์พราวนภาครวญกระชั้นขึ้น เธอรู้สึกหายใจติดขัดเมื่อแท่งไอติมขนาดมโหราฬสอดเข้ามาในช่องทางสวรรค์ที่หญิงสาวของขาดมานานเรื่องบนเตียงเวลานี้ทำให้พราวนภา ม่ายสาวพราวเสน่ห์ ลืมเสียสนิทว่าเธอมาทำอะไรที่นี่พราวนภากระแทกสวนยามเมื่อธนูกระแทกเข้าออกอย่างเป็นจังหวะมากกว่าเดิม“พราวผมรักคุณ” ธนุเอ่ยคำนี้ขณะคร่อมร่างของแม่ม่ายสาวพราวเสน่ห์ พราวนภาไว้เวลานี้ในสายตาธนู พราวนภาเปรียบดั่งกระดังงาเพียงแค่ลนไฟกลับลุกโหมอย่างไม่น่าเชื่อสายตาตนเองพราวนภาครางลั่นยิ่งยามเมื่อธนูบิดยอดปทุมของหล่อนแล้วหยอกเย้าอย่างซุกซนสำหรับพราวนภาเวลานี้เธอกำลังคุมเกม เพียงแค่พราวนภาเริ่มหยอกเย้าคนอย่างธนู ดิเรกสิงหะกลับตอบสนองเธอได้ดีถึงเพียงนี้เชียวหรือนี่...เป็นไปได้ยาก“พราวผมจะจดทะเบียนสมรสกับคุณใหม่นะ” หนุ่มใหญ่เอ่ยขณะเล้าโลมเรือนกายขาวนวลอย่างรุนแรง“ค่ะ” พราวนภาเอ่ยแล้วสบสายตาจริงจังแม่ม่ายสาวแสนฉลาดตรงหน้ารู้ได้ทันที่ว่าในห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พราว