Mag-log inตอนที่ 3 ลองควบอีกหน่อยได้ไหมครับ“ท้าทายแบบนี้ ผมจะจัดให้หนัก”เขาตรึงสะโพกเธอกับที่นอนแล้วกระแทกสวนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ท่อนเนื้อเคลื่อนตัวเข้า ผนังอุ่นในตัวเธอก็ตอดรัดเแน่นขึ้น จนเสียงครางหลุดไม่เป็นคำ“อ๊าย… เสียวมากขุนนน …ซี้ดด ดีจัง อื้ออ” ร่างหนารีบก้มลงจูบกลบเสียงครางนั้น กักเก็บรสหวานไว้ในปาก พลางไล้ปลายนิ้วที่ยอดอกให้เธอสั่นไหวไม่หยุดจากนั้นก็ถอนจูบออกมา มองใบหน้าแดงนะเรื่อของคุณนายประจำคฤหาสน์ ที่ตอนนี้เธอกำลังครางอยู่ใต้ร่างของเขา ขุนชะลอจังหวะลงนิดเพื่อให้เธอหายใจทัน มือใหญ่เลื่อนจากเอวไปสอดใต้แผ่นหลัง ยกเธอขึ้นจนอกแนบอก แล้วยื้อรั้งให้เธอพลิกขึ้นมาคร่อมเขาแทน“ลองควบอีกหน่อยได้ไหมครับ” เขาลูบสะโพกเธอเป็นวง “อยากเห็นว่าคุณนายจะยังขย่มไหวหรือไม่”เธอหน้าแดงจัดแต่แววตาเป็นประกาย “ได้…ฉันจะขย่มให้นายแตกคารูเลย”เธอค่อย ๆ ทาบสะโพกลง ปล่อยน้ำหนักตัวเองลงบนความแข็งที่ยังตึงแน่นอยู่ข้างใน จากความเปียกลื่นทำให้เธอเผลอกัดริมฝีปาก ส่วนเขาเชิดหน้า สูดลมหายใจยาว“อื้ม…” เธอโยกเอวเป็นวงช้า ๆ ให้ความแน่นคืบลึกทีละมิลลิเมตร พลางก้มลงจูบปลายคางเขา ผกามาศเริ่มขยับเร็วขึ้น โยกล
ตอนที่ 2 ฉัน...เหงาเหลือเกินคืนตกดึก ความเงียบของคอกม้าถูกกลบด้วยเสียงหายใจและเสียงฟึดฟัดของสัตว์ใหญ่ที่กำลังนอนพัก ท้องฟ้ามืครึ้มเหมือนฝนจะตกในเพิงเล็กข้างคอกม้า ร่างสูงนอนพลิกตัวไปมาอยู่บนฟูกเก่า ๆ ที่ปูบนพื้นไม้ผุ เขาหลับตาเท่าไร ใจก็ไม่ยอมสงบลง เสียงหนึ่งยังดังชัดเจนวนเวียนอยู่ในหัว “คืนนี้… ฉันจะไปหา”ทุกครั้งที่คำพูดนั้นแว่วขึ้น หัวใจเขาก็เต้นแรงเหมือนคุมไม่อยู่ กล้ามเนื้อแน่นไปทั้งอก ความร้อนพลุ่งพล่านแล่นผ่านเส้นเลือดจนแทบระเบิด ราวกับว่าเวลาเดินเชื่องช้าลงนับตั้งแต่เธอพูดคำนั้นเขาเงยหน้ามองเพดานสังกะสีที่มีรอยสนิม ความรู้สึกตีกันระหว่าง หวาดกลัว กับ โหยหากลัวว่าเขาไม่คู่ควร กลัวว่ามันจะเป็นบาปผิดใหญ่หลวงที่ไม่อาจหวนกลับแต่ในขณะเดียวกัน ความว่างเปล่าและความโดดเดี่ยว กำลังถูกแทนที่ด้วยภาพร่างบางของคุณนายผกามาศ ที่ซบอิงอกเขาในทุ่งกว้างเมื่อช่วงกลางวันขุนพลิกตัวอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่เผลอยกขึ้นลูบอกตัวเองตรงจุดที่เธอเคยซบ ลมหายใจถี่สั้นราวกับจะระเบิด ทุกเสียงรอบข้างเงียบหายไป เหลือเพียงจังหวะหัวใจที่เต้นแรงรัว ไม่รู้ว่าเธอจะมาจริงหรือไม่ ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ควรมา แต่ในใจลึก ๆ
ตอนที่ 1 อยากขี่ม้าผกามาศ…หญิงสาววัยยี่สิบปลาย ๆ ผู้มีผิวขาวนวลละมุนราว ใบหน้ารูปไข่รับกับดวงตาเรียวยาวคมหวานที่ซ่อนประกายเศร้า ริมฝีปากอิ่มสีระเรื่อที่แม้ไม่ได้แต้มชาดก็ยังเย้ายวน รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้น เธอเปรียบดังบุปผางามที่ถูกเก็บไว้ในกรงทอง งดงามแต่ไร้ชีวิตชีวาครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตหรูหราท่ามกลางคฤหาสน์โอ่อ่าและสมบัติพัสถานของตระกูล พ่อของเธอคือพ่อค้าใหญ่ที่รุ่งเรืองในอดีต แต่โชคชะตากลับเล่นตลก กิจการล้มละลาย พ่อแม่ถูกหนี้สินรุมเร้า ทางเดียวที่จะกอบกู้ชื่อเสียงและเงินทองได้ คือการยกบุตรสาวคนงามไปแต่งงานกับเศรษฐีเฒ่าผู้มั่งคั่งเศรษฐีคนนั้นอายุคราวปู่ นอนติดเตียงอยู่ในห้องหรูหรา เธอจึงกลายเป็นเพียงเงาประดับที่ไร้ค่า ไม่มีทั้งความรัก ไม่มีแม้ความสนใจจากผู้ที่เรียกตัวเองว่าสามี แม้สวมชุดผ้าหรูหรา แต่หัวใจของผกามาศกลับว่างเปล่า…ทุกย่างก้าวของเธอเต็มไปด้วยความเหงาจนกระทั่งในวันหนึ่ง.สายตาของผกามาศเหลือบไปเห็นหนุ่มคนเลี้ยงม้าที่เดินจูงม้าอยู่ในทุ่งหญ้ากว้าง หลังคฤหาสน์ เขาคือ ขุน หนุ่มบ้านนอก รูปร่างสูงใหญ่ กว้างไหล่ กล้ามเนื้อแข็งแรงราวกับหล่อขึ้นมาจากเหล็ก ผิวแทนกร้านแดด แต่กลับใบหน
ตอนที่ 8 : หัวใจที่ไม่แบ่งแยกเช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดอ่อนลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาร่างทั้งสามนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงนอนใหญ่ ร่างเปลือยของอิงฟ้านอนแนบอยู่ระหว่างเทียนชัยกับอโณทัย ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอราวกับยังหลับสนิทแต่เมื่อเวลาล่วงเลยไป...“หนูฟ้า..” เสียงของเทียนชัยเอ่ย มือเอื้อมไปแตะเบา ๆ ที่ไหล่เธอแต่ทว่าว่างเปล่า..เขาลืมตาขึ้นพริบตาถี่ ร่างเล็กข้างกายหายไป กลางเตียงว่างเปล่า ผ้าห่มที่คลุมตัวเธอกองอยู่ข้าง“อิงฟ้า” เขาลุกขึ้นนั่ง อโณทัยตื่นตามเขา สีหน้าครึ้มลงทันทีที่พบว่าหญิงไม่อยู่“เธอไปไหน...” เขากระซิบกับตัวเอง แล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็วทั้งสองวิ่งไปทั่วบ้าน ห้องน้ำ ห้องครัว หน้าบ้าน แม้กระทั้งกระท่อมท้ายสวน ทุกที่ที่เธออาจจะอยู่ แต่ไม่มีวี่แวว ไม่มีแม้แต่โน้ต ไม่มีข้อความ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น มีแค่ความเงียบงัน และกลิ่นจาง ๆ ของเธอที่ยังคงหลงเหลืออยู่อิงฟ้าหายไป...@หนึ่งวันผ่านไปเทียนชัยเดินไปมาในบ้านอย่างร้อนรน เขาไม่เคยรู้สึกอึดอัดกับความเงียบแบบนี้มาก่อน“หรือทำรุนแรงเกินไป” เขาพึมพำ ขณะจ้องมองโซฟาที่พวกเขาเคยร่วมรักกันอย่างดิบเถื่อน"หรือหนูฟ้าเสียใจ” อโณทัยพูดเสียงเรี
ตอนที่ 7 : ความสุขที่ล้นทะลัก งั้นบทรักที่เร่าร้อนตรงหน้า เขาก็มีสิทธิ์ที่จะร่วมวงด้วยสิ มือหนาของอโณทัยผลักประตูออกจนกว้าง แล้วเดินเข้าไปอยู่เบื้องหน้าของทั้งสอง "อา..อาทัย อืมมม" เสียงครางเรียกเขาอย่างเสียวซ่าน เมื่อเห็นร่างหนาของเขามาหยุดอยู่ตรงหน้า ทั้งที่พ่อผัวกระแทกอยู่ทางด้านหลังอโณทัยยืนมือไปลูบหัวของเธอที่กำลังสั่นคลอนจากแรงกระแทก จากนั้นจึงได้คุกเข่าลงแล้วจูบปากของเธอราวกับคนหิวกระหาย "อืมม.." เขาคำรามเสียวต่ำอยู่ในลำคอจากนั้นจึงถอนจูบออกแล้วยืนขึ้น ถอนเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรีบร้อน ท่อนเนื้อที่แข็งจนปวดหนึบอยู่นานก็ดีดผึ่งออกมาตั้งตระหง่านอยู่ห่างจากใบหน้าหญิงสาวไม่ถึงคืบเขายืนสาวท่อนเนื้อใหญ่จนปลายหัวหยักถอกขึ้นถอกลง อิงฟ้ามองการกระทำของเขาตาเป็นประกาย จนเธอเผลอขมิบรูรักตอดท่อนเนื้อของพ่อผัวที่ยังกระเด้าไม่หยุด"อ่าาา เหมือนหนูฟ้าจะชอบ ดุ้นของนายด้วยนะอโณทัย ร่องเธอตอดของฉันไม่หยุดเลย" เทียนชัยเอ่ยบอกน้องชายอย่างเสียวซ่าน "จริงเหรอหนูฟ้า อยากได้ดุ้นของอาด้วยไหม" ไม่พูดเปล่าเขายังเอาจับปลายหัวหยกแตะ ๆ ที่ริมฝีปากเธออีกด้วย"ยะ..อยากได้ค่ะ อา..." เพียงแค่เธออ้าปากพูด
ตอนที่ 6 : ทั้งสองคน...NC20++เธอเลือกใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้จริง ๆ เธอต้องการพวกเขาทั้งสองคน..."อืมมม พ่อเทียน" เสียงลมหายใจของเทียนชัยดังอยู่ข้างหู ร่างใหญ่เคลื่อนตัวอยู่เหนือเธอบนโซฟา ริมฝีปากของเทียนชัยบดขยี้ลงมาราวกับพายุที่ถาโถมใส่เธอโดยไม่ให้ตั้งตัว อิงฟ้ารู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในวังวนของอารมณ์ที่เธอไม่สามารถหนีได้ แม้จะรู้ดีว่าเขากำลังลงโทษเธอ ทั้งทางกายและใจ แต่เธอกลับไม่สามารถผลักไสเขาออกไปได้หัวใจของเธอปวดหนึบจนแทบระเบิด ไม่ใช่เพียงเพราะความผิดที่ก่อไว้ แต่เธอกำลังเห็นแก่ตัวเธอไม่อยากเลือกใครคนใดคนหนึ่งปากของเขากดลงที่ต้นคอ ไล่ลงมาด้วยแรงอารมณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อิงฟ้าหลับตาแน่น ร่างกายสั่นสะท้านทุกครั้งที่ปลายลิ้นและริมฝีปากร้อน ๆ ของเขาไล้ผ่าน ร่างกายของเธอมันรู้สึกดีแบบนี้ หัวใจของเธอก็เต้นแรงราวกับจะกระแทกออกจากอก“พ่อเทียน ซี้ด” เธอเรียกเสียงเบา ริมฝีปากเผยอขณะที่ มือหนาเคลื่อนต่ำลงมาจนเธอสะดุ้ง“อย่ามาทำเสียงอ่อยแบบนั้นตอนนี้ หนูฟ้าเลือกไม่ได้ใช่ไหม” เทียนชัยกระซิบเสียงต่ำ ดวงตาของเขาแดงก่ำแต่ดูแล้วมันไม่ได้เกิดจากโทสะ มันเกิดจากความปรารถนาต่างหาก"พ่อเทียนจ







