Home / โรแมนติก / รอยรัก...ของซาตาน / บทที่ 7 ความสับสน

Share

บทที่ 7 ความสับสน

last update Huling Na-update: 2025-03-08 18:40:20

ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิทเดินเข้ามาในร้านด้วยท่าทางสง่างาม ดวงตาสีนิลมองไปรอบๆร้านอย่างคุ้นเคย งานศิลปะของอดีตคนรักถูกออกแบบอย่างปราณีตและถูกสวมใส่โดยหุ่นจำลอง ผ้าไหมและส่าหรีเต็มไปด้วยสีสันงดงามและมีความหรูหรา พลันสายตาก็สะดุดกับหญิงสาวในชุดส่าหรีสีแดงเข้มเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ

" คุณมาขอพบฉันมีอะไรหรือเปล่าคะ ศิวะ" ดวงตาสีน้ำผึ้งอ่อนของหญิงสาววูบไหวเล็กน้อย เธอซ่อนความรู้สึกผิดเอาไว้ในใจ น้ำเสียงอ่อนหวานสั่นเครือช่วงท้ายประโยค

" ผม...อยากได้ส่าหรีให้แม่สักชุด กำลังจะถึงวันเกิดของท่านแล้วผมก็อยากให้อะไรที่มันพิเศษ " ชายหนุ่มบอกหญิงสาวเสียงนุ่ม พลางมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาคนึงหา ในใจของเขาก็พลันรู้สึกเจ็บปวด คนที่เคยอยู่เคียงข้าง เคยใกล้ชิด เคยได้รัก ตอนนี้เธอก็เดินไปเคียงข้างคนอื่นเสียแล้ว

" จริงด้วย ถ้างั้นฉันจะเป็นคนตัดส่าหรีให้คุณป้าเองค่ะ รับรองว่าเสร็จก่อนวันงานแน่ๆ" เสียงหวานกล่าวกับชายหนุ่มอย่างมั่นเหมาะ ถึงอย่างไรมารดาอีกฝ่ายก็ดีกับเธอมาก อัมมาวดีอยากให้ของขวัญชิ้นนี้พิเศษกว่าทุกชิ้น

" รบกวนหรือเปล่า"

"ไม่หรอกค่ะ วันเกิดคุณป้าทั้งที" รอยยิ้มสดใสปรากฏบนดวงหน้าหวาน ศิวะมองรอยยิ้มนั้นอยู่นาน ก่อนเสหน้าไปทางอื่น ตอนนี้ชายหนุ่มเหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่มองอดีตของตัวเองจากที่ไกลๆ ไม่สามารถครอบครองมันได้อีกแล้ว ดวงตาสีนิลเข้มขึ้นด้วยอารมณ์บางอย่างก่อนที่จะเลือนหายไป

" ถ้ายังไงผมจะกลับมารับอีกทีตอนเย็นนะ...แล้วก็งานวันเกิดของคุณแม่..." ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกไป

"ผมอยากจะเชิญคุณและครอบครัวไปด้วยน่ะครับ" สิ้นประโยคอัมมาวดีก็เงียบไป เธอก็ไม่คิดว่าจะได้ยินคำเชิญนี้จากปากเขาเพราะว่าหญิงสาวทำกับเขาไว้เจ็บแสบ ทว่า..มารดาของอีกฝ่ายก็ดีกับเธอมาก

" ศิวะคะ...คือฉัน.."

"ไปเถอะครับ แม่ผม ท่านเข้าใจ" สายตาคาดหวังของเขาทำให้เธอปฏิเสธเขาไม่ลง

" ได้ค่ะ ฉันจะไปแน่นอน ขอบคุณที่เชิญนะคะ"เธอพยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติแต่ว่าในใจเธอกลับหนักอึ้งอย่างบอกไม่ถูก อัมมาวดีรู้สึกขอบคุณอีกฝ่ายที่ยังดีกับเธอไม่เปลี่ยนแปลงทั้งๆที่เธอนอกใจเขา หักหลังเขา ศิวะเป็นคนดีจริงๆ แต่ผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมเธอก็หมดรักเขาซะได้

"ยินดีครับ " ใบหน้าคมเข้มเผยรอยยิ้มอ่อนโยน ทว่าในใจกลับเจ็บแปลบขึ้นมา... ความรู้สึกทั้งรัก ทั้งแค้นประทุขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวตรงหน้าคือคนที่เขารัก เมื่อจินตนาการถึงสายตาของคนที่รักกำลังแสดงความเจ็บปวดยามที่เขาได้แก้แค้นสำเร็จ หัวใจของเขากลับปวดหน่วง

แต่...ทำไมเขาจะต้องเป็นฝ่ายเจ็บล่ะ

" ถ้าชุดเสร็จเมื่อไหร่คุณโทรมาบอกผมนะครับ เดี๋ยวผมมารับ" สายตาของเขาวูบไหวเล็กน้อยก่อนจะกลับมาเป็นปกติในเสี้ยววินาที เสียงนาฬิกาโบราณดังขึ้นภายในร้าน เป็นสิ่งที่ดังไพเราะแต่สำหรับเขามันเป็นเสียงตอกย้ำว่าอดีตได้ผ่านพ้นไปแล้ว ชายหนุ่มเรื่องสายตาไปรอบๆร้านก่อนจะชะงักเมื่อเห็นชุดส่าหรีชุดหนึ่งสวมอยู่ที่หุ่นจำลอง เป็นชุดสีแดงเข้มประกายทอง ผ้าส่าหรีทำด้วยผ้าไหมจัณฑีเนื้อเนียนละเอียดราวกับสายน้ำ ชายส่าหรีและพรมชาย ปากลวดลายดอกไม้โมเกรา(Mogra) และดอกชบาเป็นดอกไม้ที่พระแม่ปารวตีโปรดปราน และเสื้อเบลาส์ แขนยาวทำด้วยผ้าไหมสีทองอ่อน ปักลวดลายเล็กๆด้วยเส้นด้ายสีแดงและสีทองอย่างปราณีต ขอบส่าหรีเย็บเสริมด้วยมุกสีขาวนวล เป็นชุดที่สวยงามหรูหรา ชุดนี้หญิงสาวเป็นคนออกแบบกับมือ

เพราะ...มันเป็นชุดแต่งงานของเธอกับเขา

ครั้งหนึ่ง... เขาเคยเคียงข้างเธอในยามค่ำคืนเวลาเธอตัดเย็บ ชุดนี้อย่างตั้งใจ

ครั้งหนึ่ง... เธอเคยบอกว่าอยากใส่ชุดนี้..ในงานแต่งงานของเรา

" ศิวะคะ ถ้าฉันใส่ชุดนี้ในงานแต่งของเรา คุณจะมองฉันเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลกไหมคะ"

"แน่นอนอยู่แล้ว คุณสวยที่สุดสำหรับผมเสมอ" ภาพในอดีตไหลย้อนเข้ามาในความทรงจำราวกับสายน้ำ ชุดนี้เคยเป็นชุดที่มีค่าที่สุดสำหรับหญิงสาว..

ตอนนี้... มันกลับถูกเอามาวางขายในร้าน ราวกับว่ามันไม่มีค่าอะไร

รอยยิ้มของชายหนุ่มค่อยๆเลือนหาย ก่อนจะเดินออกจากร้านไปด้วยความเร่งรีบ อัมมาวดีมองตามแผ่นหลังของอดีตคนรักไป สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอโทษอยู่ในใจ

" ขอโทษนะ ศิวะ" สายตาสีน้ำตาลอ่อน มองไปยังชุดที่เธอตัดเย็บมัน ตั้งใจว่าจะใส่มันในงานแต่งของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินกลับเข้าห้องไป

ในขณะเดียวกันอัมพิกาก็เดินเข้ามาพร้อมของกินในมือมากมาย ใบหน้าสวยหวานเปื้อนรอยยิ้ม ชายหนุ่มหยุดชะงัก ดวงตาสีนิลมองหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนจะหลุบตาลงอย่างใช้ความคิด

อัมพิกา เจ้าหญิงในกรงทองของครอบครัวเชาฮาน เธอน่ารัก นิสัยดี อ่อนโยน และไม่รู้เรื่องอะไรเลย ชายหนุ่มเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆแต่... เธอเป็นน้องสาวที่อดีตคนรัก รักมาก ถ้าการใช้เธอทำให้อัมมาวดีต้องเจ็บปวด เขาก็จะไม่ลังเลที่จะทำ

" อัมมาวดี.คุณจะต้องจดจำความเจ็บปวดนี้ไปอีกนาน" เสียงทุ้มต่ำรอดออกจากริมฝีปากหนา ฝ่ามือของเขากำหมัดแน่น อารมณ์โทสะพี่มอบดับไปแล้วกลับประทุขึ้นมาใหม่ราวกับไฟจากนรก

ในเมื่อความรักของเขามันไม่มีค่า.. ก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

ในเมื่ออดีตคนรักเลือกที่จะฉีกอดีตที่มีร่วมกันทิ้งอย่างเลือดเย็น

เขาก็จะทำให้เธอจดจำเขาไปตลอดชีวิตเช่นกัน....

อัมพิกา คือหมากชั้นดีที่จะทำให้เขาแก้แค้นได้สำเร็จ

คฤหาสน์หรูย่าน Civil Lines., เมืองชัยปุระ

คฤหาสน์หรูสไตล์ราชสถานตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมอินเดียดั้งเดิมผสมผสานกับความทันสมัย มีพื้นที่กว้างขวางและสวนน้ำพุขนาดใหญ่ สมกับเป็นเจ้าของธุรกิจการผลิตและการขายสินค้าอุตสาหกรรม ชายหนุ่มในชุดสูทสีดำสนิทเดินก้าวเข้ามาด้านใน เคยให้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าตรงกลางห้อง ผ้าม่านปักลวดลายสวยงามพริ้วไสวตามสายลม

" กลับมาแล้วเหรอลูก" หญิงวัยกลางคนในชุดส่าหรี่สีฟ้าครามเรียบง่ายเดินเข้ามาถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

" ครับแม่ " ศิวะเดินโผลเข้ากอดมารดาอย่างแผ่วเบา อ้อมกอดของมารดาทำให้เขารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นทุกครั้งที่ได้กลับบ้าน หัวใจของเขารู้สึกเหมือนได้พักผ่อนหลังจากที่เจอมรสุมมาอย่างหนัก

ศุมิตรา ลูบหลังลูกชายคนเดียวของเธอด้วยความอ่อนโยน

" ไหน..ขอแม่ดูหน่อย" เธอผละออกจากลูกชาย ก่อนจะสำรวจดูชายหนุ่ม

" ลูกผอมลงนะ... ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย" เธอพูดดุลูกชายยกใหญ่ ร่างสูงได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบอะไรเธอไป

" กลับมาได้แล้วหรอ!" เสียงทุ้มห้าวตวาดลั่นพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของชายวัยกลางคน ใบหน้าคมเข้มมีหนวดเคราถูกตัดแต่งไว้อย่างดี สวมชุดครุตา เดินออกมาจากห้องทำงานอย่างสง่างาม

" อกหักครั้งเดียว ถึงกับไม่กลับบ้านกลับช่อง แกคิดว่าบ้านเป็นโรงแรมเอาไว้พักชั่วคราวหรือไง" นารายณ์ อัคราวัล แม่อายุจะร่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้ว แต่เขาก็ยังรักษาร่างกายให้แข็งแรงเรากับคนอายุสี่สิบ

" ผมต้องทำงานครับ " ชายหนุ่มตอบกลับผู้เป็นพ่อไป พลางเอามือล้วงกระเป๋า

"หึ... แกคิดว่าฉันจะเชื่อหรอ!" นารายณ์ที่เห็นการกระทำนั้นของลูกชายก็รู้สึกหมั่นไส้ ปนความเป็นห่วงอยู่ลึกๆที่ไม่แสดงออก เขาเลิกคิ้วถามลูกชายกลับไปเสียงสูง

"ครับ" พูดจบเขาก็เดินหนีไปอีกทางทันที เพราะอยู่เถียงไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี

"คุณดูมันสิ ดูมันยอกย้อมผม" เขาหันไปฟ้องภรรยาทันที ศุมิตรามองหน้าสามีอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหัวเบาๆ

" คุณก็อย่าไปต่อปากต่อคำกับลูกสิคะ "

" คุณเข้าข้างมันหรอ!!" เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เสียงโวยวายของสามีทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยใจ

" เอาล่ะค่ะคุณนารายณ์ เมื่อไหร่คุณจะเลิกทะเลาะกับลูกสักทีคะ"

" มันมากกว่าที่ชวนผมทะเลาะ"

" ฉันไม่คุยกับคุณแล้วค่ะ" เมื่อเห็นสามีเถียงเขาเป็นเอ็น ศุมิตราก็หาทางหนีทีไล่เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาเหมือนกัน

นารายณ์ที่ถูกภรรยาและลูกชายเดินหนีเขาก็รู้สึกฮึดฮัดในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะว่านั่นก็ภรรยาที่เขารัก นั่นก็ลูกชายที่เขาภูมิใจ

" ให้มันได้อย่างนี้สิ"

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 35 คำถาม

    บ้านเชาฮาน, เมืองอุทัยปุระสายลมเย็นพัดผ่านร่างของหญิงสาวที่ออกมารับลมเล่นที่ระเบียงห้อง ดวงตาสีน้ำผึ้งทอดมองไปยังพื้นผิวของน้ำทะเลสาบที่เป็นประกายระยิบระยับใต้แสงแดด เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งเป็นจังหวะ บรรยากาศดูสงบร่มเย็น ทว่า...หัวใจของเธอกลับไม่ได้สงบเช่นบรรยากาศ นี่ก็ผ่านมาห้าวันแล้วนับแต่วันที่เธอออกจากโรงพยาบาล ศิวะไม่ได้ติดต่อมาอีกเลย จะมีเพียงแค่ส่งข้อความมากวนประสาทเป็นบางวัน เธอละสายตาจากวิวทะเลมาที่โทรศัพท์เครื่องหรูในมือ ปลายนิ้วเลื่อนปลดล็อคหน้าจอ เธอเปิดค้างอยู่ที่รายชื่อติดต่อ เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงเปิดหน้านี้ค้างไว้ แต่... อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานหมั้นของพี่สาวของเธอ และปราโมทย์พ่อของเธอก็เชิญเขามางานนี้ด้วย ซึ่งเธอไม่มั่นใจเลยว่าชายหนุ่มจะทำอะไรที่เหนือความคาดหมายหรือเปล่า"เลิกคิดเถอะ..." เสียงหวานพึมพำกับตัวเอง ปลายนิ้วของเธอลูบคลำบนหน้าจอโทรศัพท์ไปมา ก่อนจะปิดหน้าจอลง หญิงสาวพยายามทำให้ใจสงบ ทว่า... ยิ่งพยายามสงบใจมากขึ้นเท่าไหร่ ความรุ่มร้อนภายในจิตใจก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น...ความคิดมากมายทะลักเข้ามาในหัว มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ถ้าเกิดว่า...

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 34 ความรู้สึกที่ซ่อนเร้น

    เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว ปราโมทย์ก็อยู่เป็นเพื่อนลูกสาวอย่างเงียบๆ เขานั่งปอกผลไม้อย่างชำนาญ เก็บแอปเปิ้ลที่ถูกหั่นชิ้นอย่างสวยงามยื่นไปที่ปากของอัมพิกาอัมพิกาอ้าปากรับผลไม้ที่คนเป็นพ่อส่งให้ด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวปิดปากเคี้ยวด้วยความเอร็ดอร่อย การที่พ่อของเธอมานั่งปอกผลไม้และป้อนเธอนั้นเป็นสิ่งที่เห็นได้ยาก เพราะปกติแล้วปราโมทย์จะนั่งอยู่ในห้องทำงานทั้งวัน ยกเว้นเวลาทานอาหาร "ขอบคุณนะคะพ่อ" "ขอบคุณอะไร?" น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาอย่างเรียบเฉย มือที่กำลังปอกผลไม้อยู่ถึงกับชะงัก "ก็... ขอบคุณที่ดูแลหนู แล้วก็เข้าไปช่วยหนูไงคะ" หญิงสาวเอนตัวไปซบที่แขนแกร่งอย่างออดอ้อน รู้สึกถึงฝ่ามือที่กำลังลูบผมเธออย่างอ่อนโยน ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มรับรู้ถึงความรักของพ่อที่มีต่อเธอ "ลูกสาวตกอยู่ในอันตรายทั้งที พ่อจะอยู่เฉยได้ยังไง" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น พลางดันตัวลูกสาวออกมาเบาๆ "ค่า...แล้วแม่เป็นยังไงบ้างคะ?" "ก็เรื่อยๆ... ปกติดี ไม่ได้แพ้อะไร" อัมพิกาพยักหน้า มารดาของเธออายุก็มากแล้ว แต่ดันมาตั้งครรภ์อีก ไม่รู้ว่า... น้องในครรภ์จะเป็นผู้หญิงหรือ ผู้ชายกันนะ หญิงสาวคิดขึ้นมาด้วยความสงสัย มือบางหยิบแอป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่33 บาดเจ็บ

    อีกด้านหนึ่งของป่า ราฟีและปราโมทย์พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินแกะรอยทั้งสามคนเข้ามาในป่า ที่นี่เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ทำให้ป่าที่นี่ค่อนข้างจะสมบูรณ์ และมีสัตว์ร้ายชุกชุม พวกเขาก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง จนกระทั่ง...ปัง! ปัง! มีเสียงปืนดังขึ้นในอีกด้านหนึ่งของป่า ทำให้พวกเขาหยุดชะงัก หัวใจของคนเป็นพ่ออย่างปราโมทย์เต้นรัวด้วยความหวาดกลัวและเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กอย่างสุดซึ้ง เขาภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้าให้พระองค์คุ้มครองลูกสาวของเขาด้วย "เร็วเข้า!" ปราโมทย์คำรามใส่เจ้าหน้าที่เสียงดังลั่น คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน เขาเดินไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว ราฟีและเจ้าหน้าที่เร่งเดิมตามหลังชายหนุ่มใหญ่อย่างเร่งรีบ นักการเมืองหนุ่มรับรู้ถึงความเป็นห่วงพี่มีต่อลูกสาวคนเล็กของปราโมทย์ได้เป็นอย่างดี ทว่า...เสียงปืนที่ดังใกล้ขนาดนี้ บางทีพวกเขาอาจจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้ก็ได้ "เดี๋ยวก่อน" ชายหนุ่มหยุดว่าที่พ่อตาเอาไว้ ใบหน้าเคร่งเครียดของเขาทำให้ปราโมทย์ถึงกับหยุดชะงัก"มีอะไร?" "เสียงปืนดังใกล้ขนาดนี้ พวกคุณคิดว่าจะเป็นพวกไหน?" น้ำเสียงเรียกเฉยของเขาเอ่ยขึ้นมาอย่างเนิบนาบ ราฟีประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าเอาไว้ หากว

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่32 บาดเจ็บ

    "บ้าเอ๊ย!" อาร์มันสบถในลำคอ ก่อนจะพุ่งเข้าเข้าไปตวัดขาใส่คนพูดเป็นแรก ท่ามกลางกลุ่มคนที่มีอาวุธครบมือ ปัง! ปัง! เสียงปืนดังก้องไปทั่วป่า กระสุนวิ่งผ่านหูในระยะประชิดจนทำให้อาร์มันเบี่ยงตัวหลบหลังต้นไม้แทบไม่ทัน เปลือกไม้แตกตามแรงปะทะ ท่อนไม้ในมือศิวะถูกเหวี่ยงออกไปผัวะ! กระทบกับร่างกายของกลุ่มชายในเครื่องแบบอย่างรุนแรง จนเซถอยไปหลายก้าว ฮาร์มันสบโอกาสก็พุ่งเข้าไปตวัดเท้ากระแทกปืนในมือศัตรูจนมันหลุดกระเด็นไป ด้านศิวะก็ไม่น้อยหนาใช้เท้าเตะเสยคางหนึ่งในนั้นจนสลบเหมือดอึก! อาร์มันรีบเข้าเตะซ้ำจนแน่ใจว่าอีกฝ่ายหมดสภาพแล้ว ก่อนจะหันหลังเข้าหากันเมื่อคนที่เหลือกระจายตัวมาล้อมพวกเขาเอาไว้ "คุณเคยแสดงละครไหม?" อาร์มันหอบหายใจหนัก พลางพูดหยอกเย้าอีกฝ่ายอย่างขี้เล่น"หึ!" ใบหน้าคมเข้มกระตุกรอยยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งเข้าหักแขนศัตรูไปด้านหลัง พร้อมกับรับปืนมาอยู่ในมือ ปัง! เสียงลั่นไกกระทบไหล่ของชายอีกคนดังลั่น แล้วเอี้ยวตัวไปยิงเข้าที่ลำตัวของเขาทันทีโดยใช้ร่างของเพื่อนศัตรูเป็นเกราะกำบัง "เวรเอ๊ย!... ฉันไม่ใช่นักแสดงหนังบู๊นะ" อาร์มันพึมพำเสียงเบาๆ ในใจนึกถึงหน้าลูกเมียเอาไว้เพื่อเป

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่ 31 รู้สึก

    หญิงสาวขยับตัวเล็กน้อย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อรู้สึกถึงความฟกช้ำตามร่างกาย ดวงตาคู่สวยค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น สายตากวาดไปรอบๆด้วยความมึนงง ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นช้าๆ การกระทำของเธออยู่ในสายตาของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกล"ตื่นแล้วสินะ" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างเนิบนาบ อัมพิกาหันไปมองทางต้นเสียง ศิวะกำลังยืนกอดอกมองหน้าเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก "..." เธอไม่ได้ตอบเขา หญิงสาวเคลื่อนตัวออกมาจากเพิง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นยืน ทว่า... ขาทั้งสองกลับอ่อนแรงจนเธอเกือบจะล้มลง "อ๊ะ!" แต่...วงแขนแกร่งเข้ามาโอบร่างของเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้น "ระวังหน่อย" ร่างสูงเอ่ยขึ้นมาเสียงดุ ใบหน้าเคร่งขรึมของเขามองเธออย่างคาดโทษ หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น พยายามดันตัวออกมาจากอ้อมกอดของเขา แต่เรี่ยวแรงของเธอก็ช่างมีน้อยเหลือเกิน "อยู่เฉยๆ " เสียงทุ้มดุของเขาเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะช้อนตัวเธอขึ้นมาแนบอก ซึ่งบุคคลที่สามอย่างอาร์มันก็มองภาพตรงหน้าด้วยสายตายิ้มๆ พลางส่ายหน้าเบาๆ "ไหนบอกเป็นแค่เครื่องมือไง" ผู้ช่วยหนุ่มพึมพำเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้าหาทั้งสองคน " ให้ผมช่วยไหมครับ?" ศิวะปรายตามองอาร์มันอย่าง

  • รอยรัก...ของซาตาน   บทที่30 มุมมืด

    "หนูผิดเอง...หนูผิดเองค่ะ" เสียงสั่นเครือของเธอเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากอย่างแผ่วเบา หญิงสาวกล่าวโทษตัวเองที่เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวตกอยู่ในอันตราย ถ้าเธอ...ไม่เข้าไปช่วยแม่ค้าคนนั้น น้องสาวของเธอคงจะยืนอยู่ตรงนี้"มันไม่ใช่ความผิดของคุณ อามู" ราฟีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทว่า...คำอธิบายของชายหนุ่มกลับทำให้อีกคนเดือดดาล และรู้สึกไม่พอใจมากขึ้นเมื่อเรื่องที่ทำให้ลูกสาวของเขาถูกตามล่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง"เพราะแค่เรื่องหยุมหยิมพวกนี้ พวกมันถึงกับตามล่าลูกสาวฉันเลยหรอ" ปราโมทย์แทบสบถออกมา เสียงเย็นเยียบของเขากล่าวออกมาจนราฟีเองก็สัมผัสได้ถึงแรงโทสะที่กำลังปะทุอยู่ในใจของชายสูงวัย "ใช่ครับ" ชายหนุ่มตอบสั้นๆ "พวกมันไม่ใช่แค่เป็นพ่อค้าคนกลางธรรมดา แต่ว่าพวกมันมีเบื้องลึกมากกว่านั้น พวกมันมีเส้นสายกับนักการเมืองท้องถิ่นบางคนและจ่ายส่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็เลยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้เท่าไหร่" "แล้วไอ้คนที่ถูกคุมตัวอยู่มันพูดว่าอะไรบ้าง?" เขาถามกลับ "ตอนแรกก็ไม่ยอมพูดอะไรครับ แต่ว่าพอใช้วิธีนิดหน่อย พวกมันก็เลยยอมพูด" ราฟีหรี่ตามองบิดาของคนรัก พลางยิ้มมุมปากเล็

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status