Beranda / LGBTQ+ / รอยรักหวนคืน / ตอนที่ ๑ พบเจ้าอีกครา...

Share

รอยรักหวนคืน
รอยรักหวนคืน
Penulis: PinkPenguin

ตอนที่ ๑ พบเจ้าอีกครา...

Penulis: PinkPenguin
last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-21 18:17:18

“อาส์...คุณนี่...ยังเก่งเหมือนเดิมเลยนะครับ”

“เก่งแล้วชอบมั้ยคะ...”

เสียงสนทนาสุดสยิวของชายหญิงคู่หนึ่งภายในห้องทำงานขนาดใหญ่โดยไม่กลัวกว่าใครจะมาได้ยิน เพราะห้องนี้เก็บเสียงได้เป็นอย่างดี ถ้ามองจากประตูทางเข้าจะเห็นโต๊ะทำงานระดับผู้บริหารที่สั่งทำด้วยไม้อย่างดี โดยมีชายหนุ่มหน้าตี๋ ความหล่อระดับพระเอกมินิซีรี่ย์จีน แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีกรมท่าและผูกเนคไทสีน้ำตาลอ่อนยี่ห้อหรูราคาแพงหูฉี่นั่งหลับตาพริ้มอยู่ เขาขบกรามแน่นเพราะรู้สึกเสียวไปทั้งแก่นกาย ภายใต้โต๊ะทำงานขนาดใหญ่ปรากฏเป็นหญิงสาวผู้เป็นเลขาหน้าห้องของเขา กำลังผงกหัวขึ้นลงดูดเลียแท่งร้อนของชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายด้วยความเอร็ดอร่อย เสียงดังจ๊วบจ๊าบหยาบโลนดังไปทั่วห้อง

“ชอบ...ชอบมาก...อาส์...ซี๊ดดดด”

บดินทร์ครางเสียงแตกพร่าด้วยความเสียวซ่าน เขาคือ MD หนุ่มวัย 30 ปลาย ๆ ของ C กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม เขามีนิสัยรักสนุก มักมากในกามารมณ์ มีเด็กในสังกัดเป็นโหล เพราะความหล่อเหลา หน้าที่การงานดี สายเปย์ จึงทำให้มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายยอมพลีกายให้เขามากมาย ใช่แล้ว...ทั้งหญิงและชาย เพราะบดินทร์เอาได้หมดขอแค่สวยหล่อตรงสเปค

“ถ้าชอบต้องให้รางวัลดาเยอะๆ นะคะบอส”

ดารัญแหงนหน้าส่งสายตาหยาดเยิ้มพูดออดอ้อนและก้มหน้าลงกลับไปกับดูดเลียหัวบานที่กำลังบวมเป่งของเจ้านายหนุ่มด้วยความถี่รัว

“อาส์...”

ไฟสวาทที่ถูกกระตุ้นมากขึ้นทำให้บดินทร์จับหัวดารัญบดเข้าหากลางกายของตน แท่งร้อนยาวใหญ่แทงเข้าไปในลำคอเลขาสาวมิดลำ คนที่โดนยัดแท่งรักเข้ามาในปากก็รู้งาน เม้มปากเก็บฟันตัวเองพร้อมเอาลิ้นคว้านดุนเป็นวงกลม

“อ๊าส์...เสียวหัวสุดๆ...คุณทำผมจะแตกแล้วนะคนสวย”

บดินทร์ครางเสียงดังพร้อมกับเด้งเอวรับรัวๆ เป็นจังหวะเข้าออก

“อ๊ะ...แตกแล้ว...ผมแตกแล้ว...อา...”

ร่างหนากระตุกเป็นจังหวะพร้อมกับพ่นน้ำคาวหนืดข้นเข้าไปเต็มโพรงปากของหญิงสาว เธอดูดกินมันไปจนหมดด้วยความชำนาญ

“เก่งแบบนี้ ผมให้รางวัลหนักๆ เลย”

ติ๊ง...เสียงแจ้งเตือนธนาคารบอกว่ามีเงินจำนวน 20,000 บาทโอนเข้าบัญชีของดารัญ

“กรี๊ดดด ขอบคุณมากค่ะบอส ว่าแต่...บอสพอแค่นี้เองเหรอคะ...บอส...ไม่อยากกินดาเหรอ...”

ดารัญเอ่ยถามด้วยเสียงยั่วยวน ขึ้นไปนั่งบนตักของบดินทร์ พร้อมกับลูบไล้แผงอกกว้าง

“อยากสิ...แต่อีก 15 นาทีผมมีประชุม คุณก็รู้ว่าเวลาผมกิน ผมมูมมามแค่ไหน เอาไว้...คืนนี้มาหาผมที่คอนโด ผมจะทบต้นทบดอกให้หนำใจเลย ดีมั้ย หืม?”

“ดีที่สุดเลยค่ะบอสขา...ดาจะยอมบอสทุกท่าเลย”

หลังจากที่ดารัญออกไปแล้ว บดินทร์นั่งอ่านเอกสารต่อเพื่อเตรียมตัวประชุม สายตาพลันเหลือบไปเห็นแฟ้มประวัติของว่าที่พนักงานงานใหม่ที่ผ่านการสัมภาษณ์จาก HR เรียบร้อยแล้ว จึงหยิบมาไล่เปิดอ่านทีละคนจนไปสะดุดตาเข้ากับหนึ่งในว่าที่พนักงานใหม่ เพราะรูปสมัครงานดูดีมาก ๆ ตรงสเปคเขาทุกอย่าง โดยเฉพาะไฝใต้หางตาราวกับหยดน้ำตานั้นดูมีเสน่มากจริง ๆ

“นายพุทธชาดเหรอ? หึ...รูปนี่ของจริงหรือฟิลเตอร์กันนะ...”

11:30 น. หน้าบ้านหลังหนึ่งใจกลางเมืองกรุงเทพฯ

“สู้เว้ย!!! ไอ้พุด แกต้องทำได้!!!”

เสียงตะโกนเรียกกำลังใจให้ตัวเองของพุทธชาดหรือพุด ชายหนุ่มหน้าหวาน ดวงตากลมโต ผิวขาวเนียนละเอียด รูปร่างเพรียวบาง ส่วนสูงประมาณ 172 ตามมาตรฐานชายไทยดังก้องไปทั่วบริเวณบ้าน ขณะนี้เขายืนอยู่หน้าบ้านสีขาวทรงโบราณหลังใหญ่สไตล์กึ่งไทยกึ่งยุโรปผสมผสานกัน แม้จะดูเก่าไปสักหน่อย แต่ก็ยังสวยงามและน่าอยู่มากในสายตาของพุด วันนี้เป็นวันที่พุดขนของย้ายเข้ามาอยู่เป็นวันแรกหลังจากที่เรียนจบและเพิ่งได้งานทำหมาด ๆ เขาจึงตัดสินใจหาบ้านเช่าแถวใกล้ ๆ ที่ทำงาน

“พ่อพุด...พ่อพุด...”

“ฮึ เสียงใครเรียก???”

พุดหันซ้ายหันขวา เหมือนจะได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองแว่ว ๆ แต่ก็ไม่เห็นใครสักคนอยู่แถว ๆ นี้

“สงสัยหูฝาดล่ะมั้ง...”

รอคอย...เธอมาแสนนาน...ทรมานวิญญาณหนักหนา...’

เสียงเรียกเข้าเพลงโปรดของพุดที่เป็นบทเพลงเก่าแต่ยังคงความคลาสสิคค่อย ๆ ดังขึ้นพร้อมกับการสั่นของโทรศัพท์มือถือ ได้ดึงความสนใจจากพุดที่กำลังคุยกับตัวเองอยู่

“ฮัลโหล ว่าไงหยก”

“แก เป็นไงบ้าง? ถึงยัง? ขนของเข้าบ้านยัง? แล้วมีใครช่วยมั้ย?”

เสียงปลายสายถามมาด้วยความตื่นเต้นแกมเป็นห่วง

            “ใจเย็นแก เอาทีละคำถาม เรามาถึงแล้วกำลังจะขนของเข้าบ้าน มีเราคนเดียวนี่แหละจะมีใครอีกล่ะ”

“ก็เราเป็นห่วงแกนี่ เราขอโทษนะที่ไม่ได้ไปช่วย ยังไม่ผ่านโปรลางานไม่ได้เลยอ่ะ”

“ไม่เป็นไร ๆ แค่นี้เองเราสบายมาก”

“เค ไว้เลิกงานเราไปหา ว่าแต่แกเริ่มงานวันไหนนะ?”

“พรุ่งนี้”

“แก...ระวังตัวด้วยนะ เราได้ยินพี่ที่ทำงานเค้าเม้าท์กันว่า MD ของบริษัทที่แกกำลังจะไปทำงานเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเลย จ้องแต่จะเคลมพนักงานใหม่ หญิงหรือชายก็ไม่เว้น เราเป็นห่วงอ่ะ ไม่อยากให้แกทำงานที่นั่นเลย”

“คิดมากน่ะแก คนเค้าก็ลือกันไป ที่นั่นให้เงินเดือนเยอะที่สุด เราไม่เอาก็โง่แล้ว”

“เออ ๆ ขอให้โชคดีในการทำงานแล้วกันแต่ยังไงก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ ก็แกออกจะหน้าตาจิ้มลิ้มขนาดนี้แถมยังใจดีมาก ๆ อีก อย่าให้ใครมาเอาเปรียบแกนะ”

“ค้าบบบบบคุณแม่”

“ย่ะ! เย็นนี้เจอกัน”

“เค ๆ”

พุดกดวางสายพร้อมกับส่ายหัวเอ็นดูเพื่อนรักในความเป็นห่วงตนเกินเหตุ แต่พุดก็เข้าใจเพื่อนคนนี้ดี ตั้งแต่รู้จักกันตอนเข้ามหาวิทยาลัย ใบหยกก็คอยปกป้องเขามาตลอด เพราะเขาเป็นคนที่ใจดี มีน้ำใจ ไม่คิดเล็กคิดน้อย เลยโดนเพื่อนๆ ในห้องเอาเปรียบอยู่บ่อย ๆ

“จุดเริ่มต้นของช่วงชีวิตใหม่ ขอให้เจอแต่เรื่องดี ๆ ด้วยเถิด สาธุ…เอ๊ะ?!”

ขณะที่พุดหลับตาพนมมืออธิษฐานเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนเข้าไปในบ้าน ได้มีลมเย็นอ่อนๆ พัดผ่านใบหน้าจนผมปลิวไหววูบหนึ่ง

“ลมมาจากไหน? แต่หอมจัง กลิ่นดอกอะไรนะ คุ้น ๆ แฮะ”

หลังจากที่พยายามนึกว่ากลิ่นที่ลอยมากับสายลมเย็นนั้นเป็นกลิ่นของดอกอะไร พุดก็ส่ายหัวสะบัดไล่ความคิดและเริ่มขนของเข้าบ้าน ตลอดช่วงบ่ายเขาค่อย ๆ ไล่ทำความสะอาดและจัดของใช้ให้เป็นระเบียบ ด้วยความที่พุดมีของไม่เยอะเลยทำให้ใช้เวลาจัดไม่นานนัก ตะวันยังไม่ทันตกดินก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“เฮ้อ...เสร็จสักที”

หนุ่มหน้าหวานยิ้มตาหยีหลังจากที่ตนเองจัดของเสร็จแล้ว เขามองไปรอบๆ บ้านด้วยความภาคภูมิใจและมีความรู้สึกว่าที่นี่คือบ้านของตัวเองจริง ๆ

“รู้สึกรักที่นี่แล้วสิ...”

พุดนั่งลงตรงโซฟาหนังสีเบจ พร้อมหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า กะว่าจะพักสายตาสักหน่อย ในขณะที่กำลังจะ   เคลิ้ม ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกลูบหัวเบาๆ ทำให้เขาสะดุ้งลืมตาขึ้น แต่กลับพบเพียงความวางเปล่า สมองที่กำลังเริ่มงุนงงก็เปลี่ยนจุดสนใจเพราะเสียงกดกริ่งจากผู้มาเยือน

ปิ๊งป่องงงง

พุดจึงรีบเดินออกไปต้อนรับเพราะรู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของตัวเองนั่นเอง

“มาเร็วมากกกก คุณใบหยกเพื่อนเลิฟ”

“วันนี้งานเสร็จเร็ว เจ้านายอนุญาตให้กลับไว เราเลยรีบบึ่งรถมาหาแกเลยเนี่ย ไหน...จัดของเสร็จยัง มีอะไรให้เราช่วยมั้ย?”

“เรียบร้อย ไม่ต้องถึงมือแกหรอก แค่นี้เอง ปะ...เข้าบ้านกันเถอะ ถึงแกจะไม่ต้องช่วยเราจัดของแล้ว แต่แกต้องทำกับข้าวให้เรากินเดี๋ยวนี้ เพราะเราหิวมากกกกก”

พุดลากแขนเพื่อนเข้าไปในบ้าน พร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วย บ่งบอกว่าตอนนี้หิวมาก เพราะเขายังไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่มื้อกลางวันแล้ว

“จัดไป!!! เดี๋ยววันนี้แม่จะโชว์ฝีมือเองลูก”

เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง...กับข้าว 2-3 อย่างถูกจัดในจานสวยงามเสร็จสรรพพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนจากหม้อหุงข้าวว่าข้าวสวยสุกพร้อมทานแล้ว

“หอมมากกกกก ไม่ไหวละ กินละนะ”

“รออะไรล่ะ ลุยยยย”

            สองเพื่อนรักนั่งทานข้าวด้วยกันพร้อมเม้าท์มอยด้วยความสนุกสนาน ใบหยกมองไปรอบ ๆ บ้านแล้วเกิดความสงสัยบางอย่าง จึงได้เอ่ยถามพุด

“เฮ้ยแก เราสงสัยว่ะ บ้านหลังนี้ออกจะใหญ่โตขนาดนี้ เค้าปล่อยเช่าในราคานี้ได้ไง? แก...เจออะไรแปลก ๆ บ้างยัง?”

“จะบ้าเหรอแก เรามาอยู่ตั้งหลายชั่วโมงแล้วไม่เห็นมีไรเลย แถมเรายังรู้สึกชอบที่นี่มาก ๆ ด้วย มันสบายใจแบบบอกไม่ถูก เจ้าของบ้านบอกว่ามันเป็นจังหวะพอดี ปกติไม่คิดจะปล่อยเช่า แต่ช่วงนี้เค้าอารมณ์ดีเลยอยากปล่อยเช่าถูก ๆ น่ะ”

“ฮะ? เหตุผลอะไรวะเนี่ย ฟังแล้วยิ่งแหม่ง ๆ เข้าไปอีก”

“เอาน่า อย่าไปคิดเยอะ ถือว่าเราโชคดีแล้วกัน คิดแล้วก็รู้สึกดีใจที่วันนั้นตัดสินใจเดินเข้ามาดูในซอยนี้”

“ไอ้สวยก็สวยอยู่หรอก แต่เราว่าบรรยากาศมันวังเวงแปลก ๆ”

“วังเวงอะไรล่ะ นี่น่ะ เค้าเรียกว่าเงียบสงบต่างหาก ถ้ามาตอนกลางวันนะ ลมพัดเย็นสบายไม่ร้อนเลย”

“เออ ๆ ก็แล้วแต่แกแหละ แกเป็นคนอยู่นี่นา ชอบก็ดีแล้ว ว่าแต่ได้บอกที่บ้านมั้ยว่ามาอยู่ที่นี่อะ”

“ไม่ได้บอกหรอก ไม่รู้จะบอกทำไม พวกเค้าไม่สนใจอะไรเราอยู่แล้ว” พุดเอ่ยด้วยเสียงที่หม่นหมองลง

“เฮ้ย...ไม่เอาไม่เศร้า ดีแล้วที่ไม่บอก เดี๋ยวพี่ชายชั่ว ๆ ของแกได้ตามมาหาเรื่องอีก”

พุดพยักหน้ารับพร้อมยิ้มอ่อน ๆ ให้กับเพื่อนสาว คำว่าพี่ชายชั่ว ๆ ที่ใบหยกกล่าวมานั้นไม่ได้ผิดจากความเป็นจริงเลย พุดเกิดมาในครอบครัวยากจน พ่อแม่ไม่พร้อมที่จะมีเขา แถมยังทุ่มเทความรักไปให้พี่ชายคนโตหมด เพราะหมอดูทักว่าพี่ชายคนนี้จะเป็นคนใหญ่โตในภายภาคหน้า ทำให้พี่ชายของเขามีนิสัยอันธพาล หลงตัวเอง ทำตัวเป็นลูกเทวดาชอบรังแกและทำร้ายร่างกายน้องชายอย่างเขา และพ่อกับแม่ไม่มีใครปกป้องเขาเลย เพราะต้องการเอาใจลูกชายคนโต เขาเกือบจะได้เรียนจบแค่ ม.3 เพราะที่บ้านส่งให้เรียนแค่การศึกษาภาคบังคับ บอกว่าจะเก็บเงินไว้ส่งพี่ชายเรียน แต่ด้วยความพากเพียรของพุดที่ขยันหางานพาร์ทไทม์ทำรวมถึงสอบชิงทุนได้ ทำให้เขาส่งเสียตัวเองมาได้จนจบ ป.ตรี และวันนี้เป็นวันแรกในการย้ายมาอยู่บ้านใหม่ แม้จะเป็นบ้านเช่า แต่เขารู้สึกว่ามันอบอุ่นและคุ้นเคยมากกว่าบ้านของตัวเองเสียอีก

นาฬิกาบอกเวลา 2 ทุ่ม

“กลับก่อนนะเด็กน้อย เดี๋ยววันเสาร์มัมหมีมารับไปเที่ยว”

“ค้าบบบมัมหมี เดินทางปลอดภัย ขับรถระวัง ๆ  นะ”

หลังจากส่งเพื่อนเสร็จ พุดก็เข้ามานอนอ่านหนังสือบนเตียงจนรู้สึกง่วง จึงปิดไฟแล้วนอนหลับไปในที่สุด ขณะนั้นเอง ร่างสูงของชายคนหนึ่งเดินออกมาจากกำแพงห้อง เดินเข้าไปใกล้คนหน้าหวานที่กำลังนอนหลับไม่รู้สึกตัวอยู่ เขาค่อย ๆ นั่งลงบนเตียง แม้จะปิดไฟแล้ว แต่แสงจันทร์จากภายนอกยังคงสาดส่องเข้ามาภายในห้องเพราะพุดไม่ได้ปิดผ้าม่าน เผยให้เห็นผู้มาใหม่แบบชัดเจน ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม ดวงตาสีนิลสวยงามราวอัญมณี นัยน์ตาโศกคู่นั้นกำลังจ้องมองพุดด้วยความอ่อนโยนระคนคะนึงหา เขาโน้มตัวลงไปจุมพิตที่หน้าผากของคนที่กำลังนอนหลับใหล มือหนาค่อย ๆ ลูบผมคนหน้าหวานอย่างอ่อนโยน

“ในที่สุด พี่ก็ได้เจอเจ้าอีกครา...”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รอยรักหวนคืน   ตอนพิเศษ ทุกชาติไป จบ

    ณ บ้านทรงไทยกึ่งยุโรปที่คุ้นตา“วันนี้เป็นวันรับปริญญาของผม ผมเรียนจบแล้วนะครับ”ณภัทรยืนยิ้มคุยกับกรอบรูป 2 ใบ ที่บุคคลในรูปหนึ่งมีใบหน้าเหมือนตนเองอย่างกับแกะกับอีกรูปที่เป็นภาพวาดของชายหนุ่มคนหนึ่งตั้งเคียงคู่กัน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน ทุก ๆวันณภัทรจะมาคุยกับบุคคลในรูปนี้เสมอ แม้จะไม่เคยรู้จัก รู้แต่เพียงว่าเป็นเพื่อนเก่าคุณย่าที่เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว และถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ ที่เคยมาบ้านต่างกลัวรูปทั้งสอง เพราะถูกตั้งไว้บนแท่นไม้ที่มีกระถางธูปตั้งอยู่ตรงกลางประหนึ่งหิ้งบูชารูปบรรพบุรุษ แถมคนในรูปยังหน้าเหมือนกับณภัทรอย่างกับคนเดียวกัน ใครเห็นก็ต้องรู้สึกขนลุกเป็นธรรมดา แต่ณภัทรกลับรู้สึกคุ้นเคยและผูกพันกับรูปตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูกปิ๊งป่อง...เสียงกดกริ่งหน้าบ้านทำให้ณภัทรเดินออกไปดูว่าใครมากดเล่น หรือมีคนมาหาเขาจริง ๆ เพราะร้อยวันพันปีไม่เคยมีใครมาหา จะมีก็แต่เพื่อนที่มหาวิทยาลัยเคยมา 1 ครั้งเพราะจำเป็นต้องมาทำงานกลุ่ม แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีใครอยากมาอีกเลยเพราะรู้สึกว่าบ้านหลังนี้วังเวงเกินไปประตูหน้าบ้านค่อย ๆ ถูกเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าแขกผู้มาเยือน ความรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนไ

  • รอยรักหวนคืน   ตอนพิเศษ ทุกชาติไป 1

    ณ บ้านสวนหลังใหญ่ ชานเมืองเชียงใหม่ ตัวบ้านถูกล้อมรอบไปด้วยสวนกุหลาบพื้นที่ประมาณ 100 ไร่ แม้จะสร้างจากไม้ทั้งหลัง แต่ก็ดูทันสมัยสวยงามน่าอยู่และร่มรื่นไปด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้บริเวณรอบ ๆ ตัวบ้าน รถแฟมิลี่คาร์สีดำยี่ห้อหรูแล่นเข้ามาจอดตรงประตูหน้าบ้าน เด็กชายตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มวัย 5 ขวบวิ่งลงจากรถเข้าไปในบ้านด้วยรอยยิ้มสดใส“คุณย่า!!! น้องภีมคิดถึงจังเลย”เด็กชายวิ่งไปหาผู้เป็นย่า พร้อมกับโผเข้ากอดด้วยความคิดถึง“ไม่ต้องมาทำเป็นคิดถึงย่าเลย ได้ข่าวว่าเที่ยวเพลินเลยนะเราน่ะ”“น้องภีมคิดถึงคุณย่าจริงๆ น้า เวลาน้องภีมกินขนมอร่อย ๆ ก็คิดถึงคุณย่า คุณย่าทำอร่อยกว่าตั้งเยอะ เวลาน้องภีมเที่ยวสวนสนุกก็คิดถึงคุณย่า อยากให้คุณย่ามาด้วยฮะ”“ประจบเก่งจริง ๆ เด็กคนนี้ แล้วพ่อกับแม่เราล่ะ”“คุณพ่อคุณแม่กำลังช่วยกันขนของลงจากรถฮะ น้องภีมรีบเข้ามาหาคุณย่าก่อน เพราะคิดถึงม้ากมากกก”ใบหยกลูบหัวผู้เป็นหลานชายด้วยความเอ็นดู ผ่านไปหลายปี ตอนนี้เธอเป็นคุณย่าแล้ว มีหลานชายตัวน้อยน่ารัก 1 คน ชีวิตเธอตอนนี้มีความสุขที่สุด แม้ช่วงแรกที่เพื่อนรักจากไป เธอจะคิดถึงพุดอยู่ตลอดเวลา แต่หลานชายตัวน้อยทำให้เธออ

  • รอยรักหวนคืน   ตอนที่ ๑๓ ทางที่เลือกเดิน

    “ในที่สุดก็จะเสร็จสิ้นภารกิจเสียที” “คุณตาว่าอะไรนะครับ” “เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกไอ้หนู แต่ตาว่าไม่ต้องทำสัญญาเช่าแล้ว เซ็นสัญญาโอนบ้านเลยแล้วกัน” “ห๊า....คุณตาว่าอะไรนะครับ” “ตาบอกว่าช่วยเซ็นรับบ้านหลังนี้ไปทีนะ ตาจะโอนให้” ขณะที่พุดกำลังงุนงงกับคำพูดของคุณตาเจ้าของบ้าน วิญญาณของท่านชายก็มากระซิบข้างหูพุด “รับไว้เถิด มันเป็นของเจ้า” โดยที่มีเพียงพุดที่ได้ยิน “ตาไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่บ้านหลังนี้มันเป็นของหนู ช่วยเซ็นรับเพื่อให้ตาได้ปลดภาระอันยาวนานนี้เสียทีเถอะนะ” จากวันนั้นพุดก็ได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แบบเต็มตัว และพุดมาเข้าใจแจ่มแจ้งทีหลังว่าท่านชายรู้อยู่แล้วว่าคุณตาเจ้าของบ้านมีหน้าตาเหมือนกับเสด็จพ่อของตัวเอง ซึ่งก็คือพระองค์เจ้าพงษ์จักรพรรณมาเกิดใหม่เป็นรุ่นลูกหลานของตระกูลรัชนีพงษ์ แต่ที่ไม่ได้เล่าให้พุดฟัง เพราะมันคือวิบากกรรมที่เสด็จพ่อของเขาได้ผูกไว้กับพุด ซึ่งท่านจะต้องแก้ไขกับพุดเองตามโชคชะตาและวาสนานำพา ส่วนตัวท่านชายกับเสด็จพ่อ ไม่มีสิ่งใดติดค้างกันแล้ว เพราะเสด็จพ่

  • รอยรักหวนคืน   ตอนที่ ๑๒ พี่เปย์เจ้าเอง

    เช้าวันต่อมา...พุดนอนซม ไข้ขึ้นสูงจากสงครามรักเมื่อคืน พอรู้ว่าเพื่อนรักป่วย ใบหยกจึงรีบบึ่งรถมาหาแต่ก็พบว่าพุดเช็ดตัวเสร็จเรียบร้อยและไข้ค่อย ๆ ลดลงแล้ว เลยได้แต่ป้อนโจ๊กให้ ใบหยกคิดว่าพุดคงจะเครียดเรื่องงานเมื่อวานเลยทำให้ป่วย“แกบอกมีเรื่องจะบอกเราไม่ใช่เหรอหยก?”“ตอนแรกก็มี แต่พอเห็นแกป่วยแบบนี้ เอาไว้ให้แกหายก่อนดีกว่า”“เฮ้ย...ไม่เป็นไร แค่เป็นไข้นิดหน่อยเอง เหลามาเลยนะ อย่ามาทำให้อยากแล้วจากไป” พุดกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แกล้งข่มขู่เพื่อนสาวแต่ทว่าก็อยากรู้จริง ๆ“คือ...ไอ้เจ้านายเก่าแกมันใช้เส้นสายและตำแหน่งหน้าที่ร่อนอีเมลไปตามบริษัทต่าง ๆ บอกว่าแกคือบุคคลอันตราย ถูกไล่ออกเพราะทำร้ายร่างกายเจ้านายอะ เราว่า...แกน่าจะหางานยากแล้ว”“อืม...เราคิดไว้แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้”“แล้วแกจะทำยังไงต่อ”“ยังคิดไม่ออก”พุดสีหน้าหนักใจขึ้นมาจนใบหยกต้องรีบพูดปลอบเพื่อน“ไม่เป็นไร ๆ อย่าเพิ่งคิดมาก แกดูแลตัวเอง พักผ่อนเยอะ ๆ รอให้หายก่อน เดี๋ยวเรามาช่วยกัน มันต้องมีสักที่ที่ให้โอกาสคนดี ๆ มีความสามารถแบบแกสิ”“อื้ม!!!” พุดพยักหน้ายิ้มรับพร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาทานโจ๊กจนหมดเกลี้ยงหลังจากที่ใบห

  • รอยรักหวนคืน   ตอนที่ ๑๑ ยินยอมด้วยหัวใจ

    “กลับมาแล้วหรือ?”ท่านชายปรกณ์ณพัฒน์เอ่ยถามพุดด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้พุดกลับบ้านค่อนข้างดึก“กลับ..มา...ล้าวววว”เสียงพูดยานคางของพุดทำให้ท่านชายรู้ว่าพุดดื่มแอลกอฮอลล์มา จึงเดินไปประคองพุดให้นั่งลงบนโซฟาพร้อมกับห้าผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้“เมาหรือ?”ท่านชายถามพลางเช็ดหน้าให้พุดไปพลาง“ไม่มาววว แต่ไม่เหมือนเดิมมมม”พุดพูดยานคางพร้อมกับส่ายหัวไปมา ท่าทางทะเล้นของพุดทำให้ท่านชายปรกณ์ณพัฒน์เอ็นดูแกมหมั่นไส้ เลยเอานิ้วดีดหน้าผากพุดไปหนึ่งที“งึ!!!..ท่านพี่อะ ดีดหน้าผากพุดทำไม”พุดหน้ามุ่ยเอามือลูบหน้าผากตัวเอง“เจ้าหิวหรือไม่? กินอะไรมาหรือยัง?”เสียงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนทำให้ใจพุดอุ่นวาบ เพียงแค่คำถามเรียบง่าย แต่เป็นคำถามที่พุดไม่เคยได้จากครอบครัวตัวเองเลย พอได้ฟังจากปากของท่านชาย น้ำตาก็พลันไหลออกมาอาบแก้ม“เจ้าร้องไห้ทำไม? คนดีของพี่ มีอะไรอัดอั้นตันใจก็ระบายให้พี่ฟังเถิด”ท่านชายเอ่ยถามพร้อมเอามือปาดน้ำตาของคนน้องออกด้วยความเบามือ พุดเอื้อมมือไปกุมมือของท่านชายพร้อมกับแนบแก้มของตัวเองรับสัมผัสที่อ่อนโยนนั้น ความรู้สึกที่เหนื่อยล้าทั้งกายและใจเพราะเจอเรื่องบั่นทอนจิตใจหลายเรื่องราวใน

  • รอยรักหวนคืน   ตอนที่ ๑๐ ฟางเส้นสุดท้าย

    เช้าวันต่อมา...พุดเดินมาทำงานด้วยใจที่เหม่อลอยเพราะกำลังคิดถึงเรื่องที่ท่านชายบอกเมื่อคืน‘มนุษย์กับวิญญาณ หากสมสู่กัน พลังวิญญาณของเจ้าจะถูกกลืนกินไปทีละนิด ส่งผลให้อายุขัยสั้นลงเรื่อย ๆ’เขากำลังคิดว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหลือเกิน เพราะตอนนี้ความรู้สึกของพุดกับท่านชายพัฒน์นั้นลึกซึ้งเหมือนเป็นคู่ชีวิตกันไปแล้ว ความโหยหาที่สั่งสมมาจากอดีตชาติทำให้เขาอยากสัมผัส อยากได้ไออุ่นจากท่านชายมากกว่านี้ ความทรมานจากความชิดใกล้แต่ก็เหมือนยังห่างไกลแบบนี้ ต่อไปมันจะดีหรือร้ายกันแน่‘เราหมกมุ่นเกินไปหรือเปล่าวะ ขอแค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้วมั้ย ไม่ต้องทำเรื่องแบบนั้นก็ได้ เอาน่าอย่าไปคิดมาก มันเพิ่งเริ่มต้น ทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข’“โอ๊ย!!!” พุดเดินชนเข้ากับเจ้านายตัวเอง อีกแล้ว...“...”“เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ซุ่มซ่ามขนาดนี้จะไปทำงานอย่างอื่นได้ยังไง”เสียงตะคอกจากบดินทร์ทำเอาพุดงุนงงกับท่าทีของเขาที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนที่ควรโกรธมันควรเป็นเขาไม่ใช่หรือ? ความจริงเขาคิดว่าวันนี้บดินทร์คงจะมาขอโทษเขาแล้วบอกว่าไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์ชั่ววูบ เมา หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แสดงความรู้สึกผิดบ้าง

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status