“เธอนั่นแหละที่พูดไม่รู้เรื่อง! อยากให้ฉันใช้ภาษากายสื่อสารแทนไหมล่ะ บางทีมันอาจจะทำให้เธอเข้าใจอะไรๆ ง่ายขึ้น!”
“ไม่มีทางเด็ดขาด อ๊ะ! ปล่อยนะไอ้คนบ้า” มะลิฉัตรกรีดร้อง เสียงหลงเพราะถูกคนปากว่ามือถึงรวบตัวแล้วอุ้มลอยขึ้น
“เธอมีปัญหากับการสื่อสารนะรู้ตัวไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยก่อน จะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
“ปล่อยเดี๋ยวนี้! ไม่งั้นคุณเจ็บตัวแน่ๆ” มะลิฉัตรโกรธจนหน้าแดงก่ำที่ถูกลวนลาม ‘หึ! เจ้าของโรงแรมก็เจ้าของโรงแรมเถอะวะ ตายเป็นตาย!’ หญิงสาวเตรียมท่าพร้อมจะสู้
“หึ! เธอจะทำอะไรฉันเหรอ” เลโอนาดท์ยิ้มยั่วอย่างนึกสนุก
“ก็จะทำแบบนี้ไง” เธอบอกพร้อมกับฝังฟันซี่เล็กๆ ลงที่ต้นคอของอีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
“อ๊ากกกกกก” เลโอนาดท์ร้องลั่น เจ็บจนเนื้อเต้น แต่ก็ยังอุ้มสาวเจ้าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
เมดสาวถอนฟันซี่เล็กออกจากต้นคอหนา มองดูสิงโตหนุ่มแหกปากร้องคำรามอย่างสะใจ “ฉันเตือนคุณแล้วนะ”
“หึ! กลัวตายละ” เลโอนาดท์กะพริบตาไล่หยดน้ำที่ปริ่มๆ ดวงตา ก่อนจะอุ้มสาวเจ้าเดินตรงไปยังอ่างอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
“ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ! นี่คุณอยากเจ็บตัวอีกใช่ไหม?” เธอเริ่มกลัวขึ้นมานิดๆ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายทำสีหน้าขึงขัง
“เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าฝากรอยเอาไว้บนตัวฉัน พระเจ้า! ฉันจะทำยังไงกับเธอดี มะลิ!” ชายหนุ่มถามเสียงลอดไรฟัน
“กะ... ก็ปล่อยฉันไง” มะลิฉัตรหลบสายตาคมกล้าด้วยหัวใจสั่นๆ ‘พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วยเถอะ’
ตู้ม!!
“กรี๊ดดดด” เมดสาวกรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจ เมื่ออีกฝ่ายโยนเธอลงในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่
“เธอบอกเองนะว่าให้ปล่อย!” เลโอนาดท์โยนเสื้อคลุมออกแล้วตามสาวเจ้าลงไปในอ่างอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องหลังจากที่เห็นขีปนาวุธขนาดเขื่องของอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ ตาแบบไม่มีการเซ็นเซอร์ใดๆ
“หึ! ชอบใช่ไหมล่ะ?” ชายหนุ่มถามพร้อมกับขยิบตาให้
“อ๊ายยย ไอ้โรคจิต!” เธอรีบหันหลังให้คนหน้าไม่อายทันที
‘แม่เจ้า! อะไรจะใหญ่ยักษ์ขนาดนี้’ มะลิฉัตรหน้าแดงก่ำ ทั้งอาย ทั้งโกรธ และสั่นเหมือนเจ้าเข้าทรงขึ้นมาทันทีทันใด
“ใช่! จิตฉันกำลังหงุดเงี้ยวอยู่น่ะ เธอรู้ได้ไง?”
‘พระเจ้า ชักสนุกแล้วสิ!’ เลโอนาดท์ขยับเข้าไปใกล้คนที่ยืนสั่น หันหลังให้ตนอย่างชอบใจ
“จะ... จิต-หงุด-เงี้ยว” เมดสาวทวนคำอย่างงงๆ
“ใช่! ลองผวนคำดูสิ!” เขากระซิบข้างๆ ใบหูของสาวเจ้า
“กรี๊ดดดด ไอ้บ้ากาม” คนที่เพิ่งถึงบางอ้อกรีดร้องอย่างสติแตก คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะหื่นได้แม้กระทั่งกับ พนักงานที่ตัวเล็กๆ อย่างเธอ
“ฮ่าๆๆ โอเค! เอาเป็นว่าฉันยอมรับแล้วกัน!” ชายหนุ่มเอ่ยขณะจ้องมองหน้าอก 37 คัพซีผ่านเสื้อสีขาวที่แนบเนื้อ ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้น ‘ยัยนี่ตัวเล็กนิดเดียว แต่หน้าอกใหญ่เป็นบ้า!’
“ไม่นะ! อ๊ะ... นี่คุณจะทำอะไร” เมดสาวตกใจ เมื่อมือหนาๆ รวบเอวของเธอเข้ากกกอดจากด้านหลัง
“อาบน้ำกับเธอไง เบบี้!” สิงโตหนุ่มบอกพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างฉงนในใจ ‘เอวเล็กขนาดนี้ ถ้าจับกระแทกแรงๆ จะแหลกคามือไหมนะ?’
“ไม่! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้” หญิงสาวดิ้นพล่าน
“อยู่นิ่งๆ สิ!” เลโอนาดท์เอ่ยเสียงดุ ขณะพยายามดึงเสื้อของหญิงสาวออกอย่างรู้สึกรำคาญสายตา
“ห้ามถอดเสื้อฉันออกนะ”
แควก!
“กรี๊ดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เมื่อคนหื่นจับตัวเธอให้หันมาเผชิญหน้า แล้วดึงเสื้อฉีกขาดออกจากตัว จนเหลือเพียงบราลายลูกไม้สีฟ้าอ่อนๆ ที่โอบอุ้มหน้าอกเอาไว้เท่านั้น
“ก็เธอบอกว่าไม่ให้ถอด ฉันก็ไม่ได้ถอดนี่! ฉีกเอาง่ายกว่าเยอะเลย หึๆ” คนที่เอาแต่จ้องดอกไม้งาม บอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
มะลิฉัตรน้ำตาคลอขึ้นมาทันทีทันใด ตวัดฝ่ามือลงที่ใบหน้าหนาอย่างเต็มๆ แรง ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หลังจากที่ถูกอีกฝ่ายลวนลามและเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเธอ
เพียะ!
“พระเจ้า! นี่เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ” เลโอนาดท์หันกลับมามองด้วยสายตาเดือดดาล ‘ให้ตาย! ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหน กล้าลองดีขนาดนี้มาก่อน!’ คนที่โกรธจนหน้าแดงก่ำ คว้าร่างบางเข้ามาบดขยี้ริมฝีปากอย่างต้องการจะสั่งสอน
“อ๊ะ... อื้อ” มะลิฉัตรดิ้นและทุบหน้าอกกว้าง ขณะที่มือไม้ของอีกฝ่ายนั้น กำลังลูบไล้ไปทั่วส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างถือดี!
“อืม...” ชายหนุ่มครางในลำคออย่างถูกใจกับความหวานของ ริมฝีปากบาง ก่อนจะสะดุดกับน้ำอุ่นๆ ที่ไหลล้นออกจากหางตาของสาวเจ้า จึงตัดใจถอนจูบออกอย่างแสนเสียดาย
“ฮึก! ฮือๆๆๆ” เธอปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“พระเจ้า!”
คนที่อารมณ์กำลังเตลิดจนแทบจะลุกเป็นไฟ จำต้องหยุดชะงักการกระทำทั้งหมด เพราะสาวตรงหน้ากำลังร้องไห้จนตัวสั่น
“ฮึก! ได้โปรด... อย่าทำมะลิเลยค่ะ ฮือๆๆ” เธอรีบยกมือไม้ขึ้นไหว้อย่างหวาดกลัว
“ให้ตายสิ!” เลโอนาดท์สบถเสียงดังอย่างหงุดหงิด ก่อนจะดันสาวเจ้าให้หันกลับไป แล้วสวมกอดเธอจากด้านหลังแทน
“ฮือๆๆ ได้โปรด...” เมดสาวสะอื้นไห้ น้ำตานองหน้า
“โอเค! หยุดร้องไห้ก่อน แล้วเรามาคุยกัน” เขาเอ่ยก่อนจะเอาคางวางลงที่ไหล่เล็กของเธอ พร้อมกับโก่งตัวให้ช่วงล่างที่แข็งจนปวดออกห่างแผ่นหลังบางอย่างห้ามใจ
“ฮึก! มะลิแค่มาทำงาน มะ... ไม่ใช่ผู้หญิง...” มะลิฉัตรพยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังยอมหยุดและฟังเธอ
‘พระเจ้า! ปวดอะไรอย่างนี้วะ’ คนที่กำลังต่อสู้กับความต้องการของร่างกาย กัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มๆ
“ฉันรู้! ฉันขอโทษ ฉันก็แค่หงุดหงิดที่เธอดื้อ”
“แต่เมื่อกี้คุณทำท่าทางเหมือนกับจะข่มขืนฉัน ฮือๆๆ”
“ฉันแค่อยากให้เธอถูหลังแล้วก็สระผมให้เท่านั้น! ไม่ได้จะ...” คนปากไม่ตรงกับใจรีบแก้ตัว
“ไม่จริง! เมื่อกี้คุณจะข่มขืนฉัน”
“โอเค! ใช่ก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันไม่ทำแล้ว” คนหื่นกลอกตาก่อนจะเอ่ยรับอย่างแกนๆ
“ฉันจะเชื่อคุณได้ไหม?” มะลิฉัตรหยุดร้องไห้ แล้วเอ่ยขอคำมั่น
“ได้! ถ้าเธอรับปากว่าจะอาบน้ำและสระผมให้ฉัน ฉันก็รับปากว่าจะไม่ล่วงเกินเธอ!” เลโอนาดท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
‘หึ! ขุดหลุมฝังตัวเองเข้าไปลีโอ’
เมดสาวยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้ง ก่อนจะบอกอีกฝ่ายที่เอาคางมาเกยไหล่เธอราวกับเป็นคนที่สนิทชิดเชื้อกันมานาน ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันได้ไม่ถึงชั่วโมง! “ฮึก... โอเค! งั้นคุณก็หันหลังไปสิ”
“สระผมก่อนนะ” ชายหนุ่มอมยิ้มเมื่อสาวเจ้ายอมว่าง่าย
“ค่ะ” มะลิฉัตรตอบรับอย่างมึนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอต้องยอมทำตามที่อีกฝ่ายขอ ทั้งๆ ที่สถานการณ์ก่อนหน้ามันเกือบจะทำให้เธอสติแตกไปแล้ว
“โอเค! นายไปพักเถอะ” คนที่อดหลับอดนอนมาทั้งคืนบอกเสียงเรียบๆ“บอสก็พักบ้างนะครับ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเราจะต้องเจอคุณมะลิ” เจซีบอกอย่างรู้สึกเป็นห่วง“อืม!” เลโอนาดท์ตอบก่อนจะลุกเดินกลับเข้าไปในห้องนอนด้วยใบหน้าเคร่งขรึมเวลา 09:40 น. อรินขับรถกระบะพามะลิฉัตรออกเดินทางขึ้นดอยด้วยกันแต่เช้า ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงบ้านบนดอยที่มะลิฉัตรเคยมาพักเมื่อปีก่อนกับพิมาลา“ว้าว! ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ” มะลิฉัตรมองไปรอบๆ ก่อนจะยิ้มกว้างที่เห็นมารดาของเพื่อนเดินออกมาต้อนรับ“ห้องเดิมที่เธอพักก็ยังว่างจ้า” อรินหันมาบอกยิ้มๆ“มากันแล้วเหรอสาวๆ” วลีเอ่ยทักทาย สีหน้าตื่นเต้นระคนดีใจ“สวัสดีค่ะคุณแม่ สบายดีไหมคะ” มะลิฉัตรลงจากรถพร้อมกับ ยกมือไหว้ผู้ใหญ่“สบายดีจ้ะมะลิ แล้วหนูพิไม่ด้วยเหรอ?” วลีถามพร้อมกับจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่สวยขึ้นกว่าครั้งก่อนที่เจอ“พิติดงานค่ะเลยอดมาเที่ยว แล้วคุณพ่อล่ะคะ อยู่ไหม?” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่อง“พ่อเขาไปประชุมที่กรุงเทพฯ อีกสองวันถึงจะกลับจ้ะ” วลีบอก“ว้า! อดเจอคุณพ่อเลย” มะลิฉัตรบอกอย่างเสียดาย“แม่ทำอะไรกินเหรอ?” อรินถามเพราะรู้สึกหิวขึ้นมานิดๆ“เข้าไปดูเองดีกว่า
“เห็นแต่ข้างหลังเนี่ยนะ?” เจซีว่าก่อนจะก้มลงมองมือถือต่ออย่างไม่สนใจ“สวยมากจริงๆ นะพี่ เสียดายที่บอสไม่มาด้วย แหม! อยากให้ได้เห็นจริงๆ”“มึงก็ถ่ายรูปพวกเธอส่งไปให้บอสสิวะ!” เจซีบอกอย่างเริ่มรู้สึกรำคาญขึ้นมานิดๆ“เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยพี่” จอห์นบอกก่อนจะล้วงมือถือในกระเป๋าขึ้นมาเตรียมเก็บภาพของสองสาว“ฮ่าๆๆ เอาที่มึงสบายใจนะ กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน” เจซีส่ายหน้าอย่างเพลียๆ กับท่าทางซื่อแกมโง่ของลูกน้อง ‘หึ! ลองส่งไปดูสิ!เดี๋ยวมึงจะรู้สึก’“เดินดีๆ นะพี่” จอห์นตะโกนตาม ก่อนจะหันมาสนใจสองสาวที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ เพื่อดักรอถ่ายรูปส่งให้ผู้เป็นนายดูสิบนาทีต่อมา... ขณะที่เจซีเดินออกจากห้องน้ำมาได้เพียงสองก้าว มือถือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็สั่นขึ้น เขาจึงล้วงมันออกมาดู ก็เห็นสายของผู้เป็นนายโทร. เข้า จึงรีบเดินแกมวิ่งออกไปที่ด้านนอกร้าน เพื่อกดรับสาย“แกอยู่ไหน?” เลโอนาดท์ถามด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ“อยู่ที่หน้าร้านครับ!” เจซีบอก“ผู้หญิงที่ไอ้จอห์นมันถ่ายรูปส่งมาคือมะลิ! แกเฝ้าเธอให้ดีๆ จนกว่าฉันจะไปถึง!” เลโอนาดท์บอ
Bangkok 14:30 น. Rocasander Grand Hotel...หลังจากที่ลงเครื่องเสร็จโดมินิกก็พาพราวดาราตรงไปยังโรงแรมของเพื่อนรัก เพื่อเอาของสำคัญที่เก็บไว้ในเซฟห้องนอนตนเลโอนาดท์ที่เพิ่งกลับจากชลบุรีมาถึงโรงแรมทันได้เห็นหลังของเพื่อนรักไวๆ จึงรีบวิ่งตาม“ซาเก้! ซาเก้!”โดมินิกที่กำลังรอลิฟต์หันไปมองตามเสียง “อ้าว! ลีโอ”“นายมาเมื่อไหร่?” เลโอนาดท์ถาม“เพิ่งมาถึง! จะพาพราวมาเปิดตัวคืนนี้ พรุ่งนี้จะพาไปลองชุดไทย ที่ห้องเสื้อ” โดมินิกบอกพร้อมกับดึงสาวเจ้าเข้ามาแนบกาย“สวัสดีครับคุณพราว” เลโอนาดท์เอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สะ... สวัสดีค่ะ” พราวดารายกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย ทำหน้าไม่ถูกเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เจอกับเขาที่โรงแรมเอื้องลานนา“ยินดีด้วยนะครับ” เลโอนาดท์บอก“เอ่อ... ค่ะ” พราวดาราเอ่ยรับไม่เต็มเสียง“ฉันว่าจะไปตามหามะลิที่เชียงใหม่น่ะ” เลโอนาดท์หันไปบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มตึงนิดๆ“ผู้หญิงคนนั้น?” โดมินิกถามพร้อมกับทำท่าครุ่นคิด“ใช่! เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าววันนั้น” เลโอนาดท์ตอบ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เอ่อ... เรื่องนี้ดิฉันไม่ทราบค่ะ ยังรอมะลิติดต่อกลับมาบอกเช่นกัน” จันทร์ฉายบอกพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ“ทำไมถึงเกิดเรื่องบ้าๆ แบบขึ้นได้ฮะ” เมลิซ่าหันไปเล่นงานบุตรชาย“ผมทะเลาะกับมะลิก็เลยลงไปนั่งดื่มที่คลับชั้นล่างของโรงแรม แล้วอยู่ๆ นางแบบนั่นก็เข้ามานั่งด้วย” เลโอนาดท์ถอนหายใจอย่างเพลียๆ เมื่อถูกซักไซ้ถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นอีกครั้ง“แล้ว...” เมลิซ่าเลิกคิ้วถามอย่างต้องการรายละเอียด“แล้วผมก็ลุกเดินหนีขึ้นไปที่ชั้นบนไงครับ” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ หลังจากถูกมารดาถามเหมือนกับคนที่ไม่ได้มาด้วยกัน“ตอนนั้นหนูมะลิอยู่ที่ไหน?” เอเดนถามอย่างสงสัย“ที่ห้องนอนของผมครับ”“แล้วเธอหายไปได้ยังไงโดยที่ลูกไม่รู้” เมลิซ่ายิงคำถามต่อ“โธ่! นี่มัมไม่เชื่อใจผมใช่ไหม ถึงถามเหมือนจับผิดผมแบบนี้น่ะ” เลโอนาดท์ตัดพ้อด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“แม่ไม่ได้จับผิด แต่อยากจะรู้ทุกๆ อย่าง คุณจันทร์เองก็คงอยากจะรู้ใช่ไหมคะ?” เมลิซ่าบอกพลางหันไปขอความเห็นจากอีกฝ่าย“เอ่อ... ค่ะ” จันทร์ฉายตอบไม่เต็มเสียง“งั้นฟังนี่แล้วช่วยตัดสินผมใหม่ด้วยนะ
วันต่อมา เวลา 10:27 น. Rocasander Grand Hotelที่ห้องรับรองของโรงแรมหนาแน่นไปด้วยนักข่าวจากหลากหลายสำนัก ที่มารอทำข่าวของหัวเรือใหญ่ โรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น คนปัจจุบัน ที่เป็นข่าวฮ็อตหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน“ได้ข่าวว่าครอบครัวของคุณเลโอนาดท์ กับครอบครัวของคุณโดมินิกเดินทางมาถึงไทยเมื่อวานใช่ไหมครับ” นักข่าวเปิดคำถามแรกอย่างไม่รอช้า“ครับ! พวกท่านเดินทางมาสู่ขอเจ้าสาวให้กับโดมินิก” เลโอนาดท์ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ“คุณโดมินิกกับคุณพราวดารามีกำหนดจะหมั้นหมายกัน ในอีกห้าวันข้างหน้าใช่ไหมครับ?”“ครับ! ที่เชียงใหม่ โรงแรมเอื้องลานนา”“แล้วคุณเลโอนาดท์ล่ะครับ ใกล้จะมีข่าวดีหรือยัง?”“ก็น่าจะไล่ๆ กันครับ” เลโอนาดท์ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆ“พอจะเปิดเผยได้ไหมครับว่าสาวผู้โชคดีคนนั้นเป็นใคร ใช่นางเอกดังหรือเปล่าครับ?”“ไม่ใช่ครับ!”“แต่จากรูปที่เห็นวันก่อนในไนต์คลับ ทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าคุณเลโอนาดท์กับคุณเชอร์รี่กำลังคบกันอยู่นะครับ”“เธอเข้ามานั่งคุยกับผมครับ มันเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่นาทีก่อนที่ผมจะลุกออกไป”
ชั้นบนสุด... โรงแรมโรคาซานเดอร์ แกรนด์“บอสครับ! บอส!” เจซีเอ่ยเรียกคนที่นั่งเหม่อให้รู้สึกตัว“มีอะไร?” เลโอนาดท์หันมามองคนสนิทแวบหนึ่ง แล้วหันกลับไปมองทางเดิม“ผมสั่งอาหารเอาไว้! บอสลุกมาทานก่อนเถอะครับ”“ฉันยังไม่หิว!”“แต่บอสต้องทานอะไรบ้างนะครับ”“ฉันบอกว่าไม่...” เลโอนาดท์กำลังจะหันไปต่อว่า แต่ก็ตกใจที่เห็นบิดากับมารดาเดินเข้ามาด้านหลังของคนสนิท “แด๊ด! มัม”“เกิดอะไรขึ้น? เธอคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้ลูกเปลี่ยนไป”เมลิซ่าถามพร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ให้บุตรชาย ที่มีสภาพเหมือนสิงโตที่ตายซากมานับเดือน“ไม่ใช่ครับ” เลโอนาดท์รับหนังสือพิมพ์มาดูก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะใกล้ๆ ด้วยท่าทางหงุดหงิด“งั้นคนไหน?” เมลิซ่าถามอย่างสงสัย“เธอไม่ได้อยู่ที่นี่ครับ”“หมายความว่า...” เอเดนถามพลางจ้องมองบุตรชายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาว่าอีกฝ่ายจะโทรมไปได้ถนัดตา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน“เธอหนีไปหลังจากที่เห็นข่าวนั่นครับ” เลโอนาดท์บอก“ก็สมควรนะ” เมลิซ่าบอกลูกชายตัวดี ด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน“โธ่! มัมครับ!”