ฟองสบู่ที่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บดบังขีปนาวุธขนาดเขื่องที่กำลังพร้อมรบเอาไว้ได้ เลโอนาดท์รีบจัดระเบียบช่วงล่างให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะหันไปบอกเมดสาว
“หันมาได้”
“เอ่อ... มะลิขอไปใส่เสื้อก่อนได้ไหมคะ” คนที่เหลือแต่บราและกระโปรงตัวเดียวบอกอย่างรู้สึกอาย กลัวว่าอีกฝ่ายจะเจ้าเล่ห์แอบหันมามองหน้าอกของเธอ
“ไม่ต้อง! ฉันนั่งเครื่องมานาน ฉันอยากอาบน้ำ ทานข้าว แล้วก็นอนพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องเข้าประชุมใหญ่ และถ้าเธอยังประวิงเวลาออกไปเรื่อยๆ บางทีฉันอาจจะเปลี่ยนใจแล้วทำเหมือนเมื่อกี้กับเธออีก! และครั้งนี้มันคงจะหยุดไม่ได้ เข้าใจใช่ไหม?” เลโอนาดท์เอ่ยเตือนคนที่ทำท่าจะยึกยัก ขณะเดียวกันก็แอบท้วงตัวเองในใจอย่างหงุดหงิด
‘นี่เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่อยากให้ยัยนี่อาบน้ำและสระผมให้’
“ขะ... เข้าใจแล้วค่ะ” มะลิฉัตรตอบก่อนจะค่อยๆ หันกลับ ก็เห็นแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่นของอีกฝ่ายชัดๆ
‘พระเจ้า! คนหรือยักษ์เนี่ย’
“รีบลงมือเร็วๆ สิ! เดี๋ยวเธอยังต้องทำอาหารให้ฉันทานอีก” คนที่เพิ่งจะข่มอารมณ์หื่นให้สงบ ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเป็นการเป็นงาน
“ค่ะท่าน” มะลิฉัตรเอ่ยรับเบาๆ อย่างทำใจ
“หึ! เรียกท่านได้แล้วเหรอ?” เลโอนาดท์ยิ้มกริ่มอย่างชอบใจ ที่ได้ยินน้ำเสียงน่ารักๆ ดังขึ้นใกล้ๆ หู
หญิงสาวไม่ตอบ! แต่หันไปจับฝักบัวที่อยู่ใกล้ๆ มาปรับ แล้วไล่น้ำลงไปตามเส้นผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวเกือบครึ่งหลังอย่างเบามือ จากนั้นก็หยิบขวดแชมพูมาบีบลงที่กลางศีรษะของอีกฝ่าย ก่อนจะลงมือสระผมให้คนเรื่องมาก
“อื้อ... สบายจัง น้ำหนักมือกำลังดี อย่างกับช่างมืออาชีพแน่ะ” คนที่หลับตาพริ้มเอ่ยชม
“มะลิเคยเป็นลูกมือช่างที่ร้านเสริมสวยมาก่อนค่ะ” สาวเจ้าเอ่ยขณะที่ไล่นิ้วนวดลงมาตามแนวไรผมข้างๆ ขมับจนถึงต้นคอ
“ว้าว! เธออายุเท่าไหร่เนี่ย” เลโอนาดท์เอ่ยถามอย่างทึ่งๆ
“21 ค่ะท่าน”
“ฉันนึกว่า 17-18 นะนี่ แล้วเรียนจบหรือยัง?”
“จบแล้วค่ะ แต่บางครั้งก็ต้องไปช่วยงานอาจารย์ค่ะ”
“งานอะไร? แล้วอาจารย์ผู้หญิงหรือผู้ชาย” เลโอนาดท์ที่กำลังอารมณ์ดี เริ่มหน้าตึงขึ้นมานิดๆ อย่างไม่มีสาเหตุ
“คืออาจารย์เขาจ้างให้ช่วยวิเคราะห์รายงานของนักศึกษาน่ะค่ะ” มะลิฉัตรตอบ ก่อนจะหันไปจับฝักบัวมาฉีดล้างแชมพูออก
“อาจารย์ผู้หญิงหรือผู้ชาย” เขาถามต่อด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ผู้ชายค่ะ อ๊ะ... อย่าหันมาสิ มะลิโป๊อยู่นะ” เมดสาวร้องอย่างตกใจ ที่อยู่ๆ อีกฝ่ายก็ทำท่าจะเอี้ยวตัวหันกลับมาหาเธอ
“โทษที! ฉันลืมไป เอ่อ... แล้วเธอต้องไปช่วยงานวันไหนบ้างล่ะ” คนที่ลืมตัวถามด้วยใบหน้าแดงก่ำ อาการผ่อนคลายหายไป เหลือแต่อาการอยากฆ่าคนตายเข้ามาแทนที่
“ก็แล้วแต่อาจารย์จะบอกค่ะ” สาวเจ้าตอบอย่างมึนๆ ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะถามอะไรนักหนา
“ไปตั้งแต่กี่โมง?”
“ตั้งแต่เช้าเลยค่ะ”
“กลับกี่โมง?”
“สี่ทุ่มค่ะ อาจารย์มาส่ง มะ... มีอะไรหรือคะ?” มะลิฉัตรถามกลับอย่างสงสัย หลังจากที่เอาแต่ตอบคำถามของอีกฝ่ายมาได้สักพัก!
“ไม่มีอะไร ก็แค่ถามดู” คนที่เพิ่งรู้จักกันเพียงชั่วโมงกว่าๆ ทำน้ำเสียงนอยด์ๆ ราวกับคนรักที่กำลังงอน
“อืม! แล้วท่านจะทานอะไรดีคะ มะลิจะได้โทร. สั่งให้ถูก” เธอรีบถามเรื่องที่ต้องทำต่อ หลังจากที่สระผมและอาบน้ำให้อีกฝ่ายเสร็จ
“เธอต้องเป็นคนทำอาหารให้ฉันทาน ตลอดเวลาที่ฉันพักอยู่ ที่ประเทศไทย” เลโอนาดท์บอกด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“แต่มะลิทำเป็นสองสามอย่างนะคะ”
“อะไรก็ได้ที่เธอทานได้ ฉันก็ทานได้!”
“ท่านจะอยู่ไทยกี่วันหรือคะ? เอ่อ... ขอโทษที่ละลาบละล้วงค่ะ” มะลิฉัตรกลั้นใจถามเพราะอยากจะรู้ชะตากรรมของตัวเอง
“ไม่กี่วัน! ทำไม?” เลโอนาดท์ถามกลับทันใด
“เปล่าค่ะ แค่ถามดูเฉยๆ” สาวเจ้าเฉไฉ
“เธอไม่อยากดูแลฉันอย่างนั้นเหรอ?”
“ค่ะ!” เมดสาวเอ่ยรับตรงๆ
“อะไรนะ” เลโอนาดท์เอ่ยเสียงดัง! พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมอง สาวเจ้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ก้มลงไปค่ะ!” มะลิฉัตรกดศีรษะได้รูปให้ก้มลงมองข้างล่าง เพราะหัวของอีกฝ่ายกำลังจิ้มหน้าอกของเธอเข้าเต็มๆ
“ตอบมา!” เลโอนาดท์โกรธจนหน้าแดงก่ำกับคำตอบเมื่อครู่
“ก็ตอบไปแล้วนี่คะ” เธอบอกพร้อมกับกลั้นยิ้มที่เห็นท่าทางขึงขังของสิงโตหื่น
“ฉันเป็นเจ้าของโรงแรมนี้นะ!” ชายหนุ่มเอ่ยย้ำสถานะของตัวเอง
“ค่ะ! แล้ว?”
“แล้วฉันก็ไล่เธอออกได้ยังไงล่ะ!”
“ถ้าท่านจะไล่ออกเพราะคำถามเมื่อกี้ละก็... ท่านก็เป็นผู้ชายที่...” มะลิฉัตรเอ่ยต่ออย่างไม่รู้สึกกลัว แต่ออกจะขำที่ทำให้อีกฝ่ายร้อนขึ้นมาได้
“ที่อะไร!”
“พูดได้เหรอคะ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกอีก!”
“พูดมา!”
“ตัวใหญ่ แต่กลับคิดเล็ก คิดน้อย แล้วก็เอาแต่ใจสุดๆ” เมดสาวได้ทีก็ขยายความอย่างไม่รอช้า
“นี่เธอกล้าว่าฉันเหรอ!” เลโอนาดท์ถามอย่างไม่เชื่อหู ว่าอีกฝ่ายจะกล้าวิจารณ์ตน
“แล้วท่านบอกให้มะลิพูดทำไมคะ ถ้ารับความจริงไม่ได้ก็ไม่น่าจะถามตั้งแต่แรก” เมดสาวย้อนศรกลับทันใด
“ก็ที่เธอบอกมา มันไม่ใช่ความจริงยังไงล่ะ” ชายหนุ่มบอกอย่างรับไม่ได้กับคำกล่าวหา
“อยู่นิ่งๆ สิคะ จะหันมาทำไมเนี่ย” เธอต่อว่าคนที่พยายามจะหันหน้ามองเธออย่างขำๆ
“พอแล้ว! วันนี้ฉันจะสอนเธออาบน้ำแล้วกัน พรุ่งนี้เธอค่อยอาบให้ฉัน!” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับหันมาเผชิญหน้ากับคนปากดี!
“กรี๊ดดดดดดด”
เมดสาวกรีดร้องเสียงดังอย่างตกใจที่เห็นบางอย่างเข้าเต็มๆ ตา อีกครั้ง จึงรีบหันกลับแล้วยกมือขึ้นปิดตาอย่างหวาดกลัว ‘พ่อแก้วแม่แก้ว ยะ... ใหญ่เท่าแขนแน่ะ!”
“จะอายทำไม อีกหน่อยเธอจะต้องเห็นมันทุกวัน” เลโอนาดท์สบถอย่างหัวเสียกับท่าทางของเมดสาว! ‘ผู้หญิงนี่เจ้าบทบาทเสียจริงๆ’
“ไอ้คนลามก ไปใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ” มะลิฉัตรต่อว่าเสียงสั่น
เลโอนาดท์กลอกตาอย่างเซ็งๆ ที่อีกฝ่ายเปลี่ยนสรรพนามเรียกตน จึงขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วกระชากกระโปรงที่รกหูรกตาออก
“มะลิ! ลีโอ! มาถ่ายรูปกัน” โดมินิกเอ่ยชวนมะลิฉัตรกับเลโอนาดท์ยิ้ม ก่อนจะรีบเข้าไปร่วมเก็บภาพความทรงจำ ที่มีโดมินิก พราวดารา อริน คเชนทร์ พิมาลา ธีรติ ธาริณี เอเดน เมลิซ่า อังเดร ไอรดา เพียงดาว หม่อมหลวงอภิชาต และจันทร์ฉายกับเด็กๆบ้านเดือนแรมบรรยากาศในงานดำเนินต่อไปท่ามกลางสีหน้ายิ้มแย้มของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกที่มาร่วมงานต่างสังสรรค์กันต่ออย่างสนุกสนาน จวบจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม ทุกคนก็ออกมาส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นรถที่ด้านหน้าของงาน เพื่อจะเดินทางไปยังสถานที่ที่ใช้เป็นเรือนหอนักข่าวที่ดักรออยู่ด้านหน้า ต่างกระหน่ำกดชัตเตอร์ขณะที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งสองคู่เข้าไปในรถลีมูซีน“เราจะไปไหนกันเหรอคะ?” มะลิฉัตรถามเมื่อเข้ามานั่งในรถคันหน้ากับเจ้าบ่าว ขณะที่พราวดารานั่งลีมูซีนคันหลังกับโดมินิก“ยังไม่บอก ผมอยากให้คุณเซอร์ไพรส์!” เลโอนาดท์ดึงร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก แล้วมอบจูบที่เร่าร้อนให้กับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายอย่างไม่รอช้า“อื้อ...” มะลิฉัตรครางท้วงได้เพียงครู่ก็ต้องยอมโอนอ่อนตามเจ้าบ่าวอย่างเลี่ยงไม่ได
“เชิญคุณรินที่โต๊ะดีกว่าครับ”โดมินิกเอ่ยทำลายความเงียบ หลังจากที่มองตามหลังเพื่อนไปด้วยความรู้สึกผิด ที่พูดเล่นออกไป แต่ดันไปสะกิดบางอย่างเข้าอย่างจัง!“ค่ะ” อรินพยักหน้ารับเบาๆ“เธอมากับหนุ่มหล่อคนนั้นได้ยังไง” พราวดารากระซิบแซวเพื่อนสาวยิ้มๆ“เรื่องมันยาว” อรินกระซิบตอบ“ยาวแค่ไหนฉันก็พร้อมรับฟัง” พราวดาราบอกยิ้มๆ“แหม ว่าแต่ตัวเองเถอะ! ไหนบอกว่าจะเข้ามาหาที่โรงแรมแล้วทำไมอยู่ๆ วันนั้นก็หายไปเฉยเลย” อรินเท้าความเรื่องครั้งก่อน“เดี๋ยวเราค่อยเล่าให้ฟังนะ!” คนที่ไม่ยอมเอ่ยชวนเพื่อนคนไหนมาร่วมงานแต่ง บอกด้วยน้ำเสียงตึงนิดๆ เพราะวันนั้นเธอหิ้วเค้กที่ทำเองกับมือไปเซอร์ไพรส์วันเกิดของอรินที่โรงแรมเอื้องลานนา แต่กลับ เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น จนสุดท้าย... ต้องมาสวมชุดเจ้าสาวอยู่ในงานแต่งวันนี้!“ฉันจะรอฟังจ้ะ” อรินยิ้มก่อนจะเข้าไปนั่งที่โต๊ะตามเพื่อนสาวและเจ้าบ่าวของอีกฝ่าย“ขอแชมเปญสามแก้ว!” โดมินิกบอกพนักงาน ก่อนจะหันมาเอ่ยถามเรื่องสมัยเรียนของพราวดารากับอรินต่ออย่างสนอกสนใจ“ซาเก้! พาสาวๆ ไปนั่งที่โต๊ะใหญ
ห้าวันต่อมา... Rocasander Grand Hotel (งานแต่ง)เวลา 09:09 น. งานแต่งของเลโอนาดท์กับมะลิฉัตร และโดมินิกกับพราวดาราถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการด้วยบรรยากาศแบบไทยๆ ท่ามกลางแขกผู้หลักผู้ใหญ่ที่สนิทและเครือญาติ ที่เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างคับคั่งเลโอนาดท์หันไปมองเจ้าสาวของตน ที่สวยราวกับนางในวรรณคดีด้วยสีหน้าชื่นชม ขณะที่แขกต่างเข้าแถวต่อคิวรดน้ำสังข์ โดยที่ธีรติกับพิมาลา คอยช่วยดูแลเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งสองคู่อยู่ใกล้ๆ“คุณสวยมากเลย” เลโอนาดท์กระซิบ“ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรหันไปยิ้มบางๆ ให้เจ้าบ่าวอย่างขำๆ เพราะตั้งแต่ที่เข้าพิธี อีกฝ่ายก็หันมาบอกเธอแบบนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้ว“เดี๋ยวเสร็จพิธีช่วงเช้าแล้ว ผมขอเป็นคนถอดชุดนี้ออกนะ” เลโอนาดท์กระซิบบอกด้วยใบหน้าแดงก่ำ“บ้า!” มะลิฉัตรอายหน้าแดงกับคำพูดหื่นๆ ของเจ้าบ่าวด้านโดมินิกที่นั่งโต๊ะถัดไป ก็เอาแต่หันมองเจ้าสาวของตัวเองบ่อยๆ ราวกับคนไม่เคยพบเคยเห็นกันมาก่อน จนทำให้แขกในงานถึงกับแอบอมยิ้มตามๆ กัน“หน้าฉันมีอะไรติดงั้นเหรอ?” พราวดาราถามขึ้นอย่างอดไม่ได้“ไ
“เรื่องอะไร?” อังเดรหันไปถามอย่างสงสัย ทำเอาทุกคนที่นั่งอยู่โต๊ะวีไอพี หันมามองชายหนุ่มตามๆ กัน“เรื่องแต่งงานครับ” โดมินิกบอกพร้อมกับหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มของคู่หมั้นสาวแวบหนึ่ง แล้วหันกลับมามองคนอื่นๆ‘ไอ้บ้านี่กำลังจะทำอะไรนะ’ พราวดารารู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมานิดๆ“มีอะไรหรือเปล่า?” อังเดรถามต่ออย่างสงสัย“กำหนดแต่งงานเดิม มันช้าไปครับ เอ่อ... ผมกลัวว่า...”“นี่คุณจะพูดอะไรซาเก้” เธอเอ่ยตัดขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ“พราว! คุณอยากใส่ชุดเจ้าสาวแต่งงานหรืออยากใส่ชุดคนท้องแต่งงาน?” เขายิงคำถามใส่เธอ แต่กลับทำให้ทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะต่างช็อกไปตามๆ กันพราวดาราหน้าชาวาบทันใด ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะบิดพลิ้วคำพูด โดยการลากเธอมาตบกลางสี่แยกไฟแดง ด้วยคำว่าชุดคนท้อง!“ละ... แล้วจะแต่งเมื่อไหร่ล่ะซาเก้” หม่อมหลวงอภิชาตเอ่ยทำลายความเงียบ ขณะหัวใจยังสั่นไม่หายกับคำบอกเมื่อครู่“อีกสองอาทิตย์ครับคุณพ่อ” โดมินิกหันไปบอกว่าที่พ่อตายิ้มๆ“เร็วขนาดนี้ เอ่อ... พ่อว่าเราจัดงานไม่ทันแน่ๆ” หม่อมหลวงอภิชาตให้ความเห็น พลางหันไปมองบุตรสาวที่น้ำตาคลอ ป
แปะๆๆๆๆ พนักงานยี่สิบกว่าคนที่ออกมารอต้อนรับปรบมือและส่งเสียงเฮ! ดังไปทั่วอย่างดีใจเลโอนาดท์ยิ้ม ก่อนจะหันไปมองว่าที่เจ้าสาว ก็เห็นสาวเจ้าอายจนหน้าแดงก่ำ จึงเอ่ยขอตัวกับทุกคนแล้วรีบพาเธอขึ้นห้องพักเชียงใหม่...เมื่อคืนหลังจากงานเลี้ยงการหมั้นหมายของโดมินิกกับพราวดารา ที่มีแต่กลุ่มเครือญาติทั้งสองฝ่ายที่โรงแรมเอื้องลานนา ไอรดาโกรธจนหน้าแดงก่ำ ที่อยู่ๆ บุตรชายของเธอก็แอบพาว่าที่ลูกสะใภ้หนีออกจากงานไปแบบไม่บอกไม่กล่าวใคร ทำเอาหม่อมหลวงอภิชาตกับคุณหญิงเพียงดาวเดินตามหาบุตรสาวไปทั่วงาน จนกระทั่งมาทราบจากดีนภายหลังว่าทั้งสองขับรถออกจากงานไปได้สักพัก ไอรดากับอังเดรถึงกับทำหน้าไม่ถูก ไม่คิดว่าบุตรชายของตัวเองจะกล้าทำอะไรบ้าๆ แบบไม่เกรงอกเกรงใจผู้ใหญ่ไอรดาจึงโทร. ไปขู่ว่าถ้าไม่พาพราวดารากลับมาที่ไร่สิรันยากรณ์ก่อนห้าโมงเย็น ตนจะสั่งยกเลิกงานแต่งทั้งหมดโดมินิกจึงจำใจพาสาวเจ้ากลับ จากนั้นก็ตีเนียนไปพูดเรื่องชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ตนโทร. ให้เจ้าของห้องเสื้อดัง ขนมาประเคนให้เลือกถึงที่ ร่วมร้อยกว่าชุดเช้าวันต่อมา...เล
“ไอวี่จะยอมจบง่ายๆ เหรอ” โดมินิกถามต่ออย่างเป็นห่วง“ก็แล้วนายจะให้ทำยังไงล่ะ? ฉันไม่ได้รักเธอนี่” เลโอนาดท์ตอบพลางยักไหล่ขึ้นอย่างไม่แคร์“แล้วนายจะแต่งงานที่ไหน”“คงแต่งที่ไทยให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยพามะลิไปอังกฤษด้วย”“นายจะแต่งเมื่อไหร่” โดมินิกถามต่อ“อีกสองอาทิตย์” เลโอนาดท์บอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น“อะไรนะ!” โดมินิกถึงกับอึ้งไปสามวินาทีที่ได้ยินคำตอบ“อีกสองอาทิตย์ แด๊ดกับมัมฉันเตรียมการเอาไว้แล้ว”“ทะ... ทำไมถึงเร็วกว่างานแต่งของฉันอีกวะ” คนที่ถูกตัดหน้างานแต่งถามอย่างไม่เข้าใจ“อ้าว! ก็แล้วทำไมนายไม่เร่งให้เร็วขึ้นล่ะ?” เลโอนาดท์ถามกลับด้วยสีหน้าขบขัน“จริงด้วย! งั้นฉันไปเร่งแด๊ดกับมัมบ้างดีกว่า” โดมินิกบอกราวกับคนค้นพบทางสว่างของชีวิต“ฮ่าๆๆ ขอให้สำเร็จนะ” เลโอนาดท์หัวเราะร่าอย่างชอบใจ“เออ!” โดมินิกเดินกลับเข้าไปในงานด้วยสีหน้าตึงเครียดหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนรักจะวิวาห์สายฟ้าแลบก่อนตนเลโอนาดท์หันไปจ้องมองร่างบางที่มารดาของตนพาไปแนะนำแขกผู้ใหญ่ในงานด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะเริ่มนึกถึ