เข้าสู่ระบบชานนท์ปรับความเข้าใจกับเกตุศิรินทร์ได้ไม่นาน เพราะจิตใจของเขากลับล่องลอยไปหาแต่ภาพใบหน้าสวยหวานของสุริยาวดีเข้าเสียแล้ว ทุกคำพูดของเกตุศิรินทร์ราวกับเสียงกระซิบที่แผ่วเบา ไม่สามารถดึงความสนใจของเขาไปจากรัศมีอันเจิดจ้าของสุริยาวดีได้เลย
สุริยาวดีสังเกตเห็นท่าทีของชานนท์ หล่อนจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสนใจอย่างจงใจ
“ได้ข่าวว่าคุณกำลังจะแต่งงานเหรอคะ คุณชานนท์?”
ชานนท์หันขวับมามองสุริยาวดีทันที ราวกับถูกปลุกจากภวังค์
“ครับ... เป็นความต้องการของผู้ใหญ่” เขาตอบเสียงแผ่ว ดวงตายังคงจับจ้องอยู่ที่ความงามของหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่ลดละ
สุริยาวดีคลี่ยิ้มบางๆ ที่มุมปาก ดวงตาของเธอดูลึกลับและเย้ายวน
“น่าเสียดายนะคะ...คุณไม่น่ารีบแต่งงานเลย” หล่อนเว้นจังหวะเล็กน้อย ราวกับกำลังรอคอยบางสิ่ง
“ครับ...ผมก็รู้สึกแบบนั้น เสียดายทำไมผมไม่เจอคุณเร็วกว่านี้” เขาพลั้งปากออกไปโดยไม่ทันคิดถึงความหมายที่แท้จริง
สุริยาวดีหัวเราะเบาๆ เสียงใสราวกับระฆังแก้ว
“ถ้าอย่างนั้น... ฉันขอถามบ้างได้ไหมคะ?” หล่อนจ้องมองชานนท์ด้วยแววตาที่ท้าทาย
ชานนท์รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “เชิญครับคุณสุริยาวดี”
“ถ้าคุณไม่ยังแต่งงาน... คุณจะจีบฉันมั้ยคะ?” สุริยาวดีเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความหมายที่ชวนให้ใจเต้นแรง
ชานนท์ถึงกับพูดไม่ออก หัวใจของเขาเต้นระรัวราวกับกลองศึก ดวงตาของเขาจับจ้องอยู่ที่สุริยาวดีอย่างลุ่มหลง
“ยิ่งกว่าจีบอีกครับ ผมจะคุกเข่าตรงนี้ เพื่อขอคุณแต่งงานเลยก็ยังได้” เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
สุริยาวดีคลี่ยิ้มกว้างขึ้น คราวนี้รอยยิ้มของเธอดูอบอุ่นและเชื้อเชิญยิ่งกว่าเดิม
“ขนาดนั้นเชียวเหรอคะ”
เกตุศิรินทร์มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกปวดหนึบในใจ เธอรับรู้ได้ถึงสายตาที่ชานนท์มีต่อสุริยาวดี และคำพูดที่แฝงไปด้วยความนัยนั้น... ชานนท์กำลังหันเหความสนใจไปจากเธออย่างชัดเจน
นับตั้งแต่วินาทีนั้น ชานนท์ก็เริ่มหาโอกาสแวะเวียนมาที่คฤหาสน์เทวาลัยบ่อยครั้งขึ้น โดยอ้างกับเพื่อนฝูงและคนสนิทว่าจะมาเยี่ยมปลอบใจเกตุศิรินทร์ แต่สายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่สุริยาวดีเสมอ ราวกับถูกมนตร์สะกดให้ไม่อาจละไปได้ สุริยาวดีเองก็ดูเหมือนจะพึงพอใจกับความสนใจที่ชานนท์มอบให้ เธอแสดงท่าทีเป็นมิตรและเย้ายวน ทำให้ชานนท์ยิ่งหลงใหลในเสน่ห์อันตรายของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เขาไม่รู้เลยว่ากำลังก้าวเข้าสู่กับดักมรณะ...
สุริยาวดีเองก็ดูเหมือนจะพึงพอใจกับความสนใจที่ชานนท์มอบให้ เธอแสดงท่าทีเป็นมิตรและเย้ายวน ราวกับแมงมุมที่กำลังล่อเหยื่อ ทำให้ชานนท์ยิ่งหลงใหลในเสน่ห์อันตรายของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
คืนหนึ่ง
หน้าคฤหาสน์เทวาลัย สุริยาวดีและชานนท์ยืนเผชิญหน้ากันบนความเงียบอบอวลไปด้วยกระแสแห่งความปรารถนาอันร้อนรุ่ม ชานนท์ตัดสินใจเอ่ยสารภาพความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ในใจในคืนก่อนที่เขาจะแต่งงาน
สุริยาวดีเพียงแย้มรอยยิ้มลึกลับ ดวงตาของเธอดูลุ่มลึกราวกับรู้ทุกสิ่ง ก่อนจะเชื้อเชิญเขาเข้าไปในคฤหาสน์ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความเสน่หา
ภายในนอนของเธอ แสงสลัวจากโคมไฟระย้าชั้นดี สร้างบรรยากาศที่ชวนให้ลุ่มหลง ทั้งสองใกล้ชิดกันมากขึ้น ความปรารถนาที่ชานนท์มีต่อสุริยาวดีท่วมท้นจนยากจะควบคุม
ด้วยมืออันสั่นเทา ชานนท์ค่อยๆ ปลดกระดุมชุดราตรีผ้าไหมเนื้อดีของสุริยาวดีออกทีละเม็ด เผยให้เห็นผิวขาวผ่องที่ซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้า เมื่อกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดออก ชุดราตรีก็ร่วงหล่นลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นเรือนร่างอรชรที่ไร้ซึ่งอาภรณ์อื่นใด
เต้านมตูมเต่งของสุริยาวดีล้นทะลักออกมา ชานนท์ไม่อาจอดกลั้นความปรารถนาได้อีกต่อไป เขาก้มลงอ้าปากครอบครองทรวงอกอวบอิ่มนั้นอย่างหิวกระหาย กลิ่นกายหอมละมุนของเธอลอยมาแตะจมูก
นมหยุ่นนุ่มเด้งสู้ริมฝีปากของเขา มือของชานนท์ลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างแผ่วเบา ก่อนจะสอดมือล้วงลึกลงไปภายใต้ร่มเงาเนินเนื้อสามเหลี่ยมที่ปกคลุมด้วยเส้นขนละเอียดอ่อน
สุริยาวดีไม่ได้สวมใส่อาภรณ์ชิ้นใดภายใต้ชุดราตรี มือของชานนท์สัมผัสกับร่องสวาทอุ่นชื้นของเธออย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มดันเรียวขาของสุริยาวดีให้ถ่างกว้างขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดนิ้วลงไปสัมผัสกับความเร่าร้อนที่ซ่อนอยู่ภายใน...
ชานนท์กดนิ้วจมลึกเข้าไปในรอยแยกกลางกลีบกุหลาบ ปลายนิ้วขยับเขยื้อนอยู่ครู่หนึ่ง ก็รับรู้ถึงความเปียกชื้นที่เอ่อล้น น้ำเมือกใสลื่นไหลเคลือบปลายนิ้ว เขาควักน้ำหวานจากร่องสวาทของสุริยาวดีออกมา ชะโลมไล้ไปทั่วกลีบกุหลาบอวบอูม แล้วปลายนิ้วก็สะดุดกับเม็ดทับทิมสีสวยที่แข็งขันชูชัน
ชายหนุ่มลงนิ้วคลึงเคล้นพร้อมกับดูดดึงทรวงอกอิ่มของสุริยาวดีแรงขึ้น ความปรารถนาในกายคุกรุ่นราวกับไฟบรรลัยกัลป์ เขาโลมเล้าอยู่ครู่ใหญ่ก็ผละออก เลื่อนชุดราตรีของสุริยาวดีไปกองที่ปลายเท้าอย่างไม่ใยดี
“อ๊ะ!! คุณชานนท์”
ชานนท์เปลื้องผ้าออกจากกายของตัวเอง ปลดปล่อยแท่งรักที่แข็งขืนกระดกหัวขึ้นลงราวกับมีชีวิต จังหวะนั้นเองที่สายตาของเขาเหลือบไปเห็นจี้เม็ดงามบนลำคอที่ของสุริยาวดีชั่วครู่มันสว่างวาบจนแสบตาแล้วก็คืนกลับปกติก ความหวาดหวั่นแล่นปราดเข้ามาในสมอง แต่ความใคร่ก็ผลักไสความกลัวนั้นออกไปอย่างรวดเร็ว
ชานนท์โยกเรียวขาสุริยาวดีให้แหวกกว้างขึ้น ยกขาข้างหนึ่งมาพาดไว้บนบ่า อีกข้างจับไว้ด้วยอุ้งมือ มืออีกข้างประคองแท่งรักที่กำลังกระตุกเร้า จ่อตรงร่องสวาทอุ่นชื้น หัวบานหยักครูดเอาน้ำเมือกใสมาเคลือบจนเปียกลื่น ชายหนุ่มโยกสะโพกเบียดหัวบานหยักเข้ากับกลีบกุหลาบสีชมพูระเรื่อ มองภาพกลีบเนื้อที่ยู่หลบแรงแท่งรักอย่างลุ่มหลง หัวบานหยักค่อยๆ บาดลึกจมลงไปในร่องแคบเรื่อยๆ
ตอนที่ 25 เพลิงแค้นการแข็งเมืองขององค์หญิงมนทิราณีเทวี และกองทัพผีดิบที่นางสร้างขึ้น ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด ในที่สุดพระเจ้าธรณินทร์ก็ทรงมีราชโองการให้หมื่นสุนทรเทวานำทัพไปยังนครสิงหปุระบรรพต เพื่อแก้ไขสถานการณ์ แม้ในใจของหมื่นสุนทรเทวาจะอาวรณ์พระนางยโสธราเทวีเพียงใด แต่ด้วยหน้าที่และความจงรักภักดี เขาก็มิอาจปฏิเสธพระราชโองการได้เสียงก้องกังวานในท้องพระโรงยังคงดังก้องในหูของหมื่นสุนทรเทวา ถ้อยคำประกาศก้องถึงการแข็งเมืองขององค์หญิงมนทิราณีเทวีแห่งสิงหปุระบรรพต ราวกับสายฟ้าฟาดกลางใจ พระพักตร์ของพระเจ้าธรณินทร์มืดครึ้มดุจเมฆฝน มิเพียงแต่ทรงขัดขืนพระราชโองการ หากแต่ยังใช้อำนาจแห่งเวทมนตร์ดำ ปลุกเหล่าทหารที่ล้มตายให้ลุกขึ้นเป็นกองทัพแห่งความมืด ปกป้องนครของตนมิให้ผู้ใดกล้ำกรายพระเจ้าธรณินทร์ทรงกริ้วโกรธดั่งพายุคลั่ง ตรัสบัญชาเสียงก้องกังวาน ให้หมื่นสุนทรเทวา นำทัพกล้าไปยังสิงหปุระบรรพตโดยพลัน เพื่อปราบปรามความอหังการของพระธิดา และนำความสงบสุขกลับคืนสู่แผ่นดินหมื่นสุนทรเทวาน้อมรับพระราชโองการด้วยความหนักอึ้งในใจ ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ทับถมบนบ่ากว้าง ในขณะที่หัวใจอีกดวงหนึ่งยังคงผูกพันอย
ตอนที่ 24 หัวใจและหน้าที่ NCสติสัมปชัญญะของพระนางยโสธราในยามนั้น ราวกับล่องลอยในห้วงแห่งความฝัน สิ่งที่คงอยู่มีเพียงความปรารถนาอันแรงกล้า ที่โหยหาให้สัมผัสจากหมื่นสุนทรเทวาลูบไล้ไปทั่วสรรพางค์กาย และเมื่อทรงรับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่บดเบียดอยู่เบื้องล่าง พระองค์ก็ยิ่งเคลิบเคลิ้มโหยหาจนสุดจะทานทนสองกรเรียวงามโอบกอดรัดร่างของหมื่นสุนทรเทวาไว้แนบแน่น ราวกับต้องการหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว อารมณ์ปรารถนาที่ร้อนระอุในอุระของพระนาง แผ่ซ่านไปทั่วพระวรกาย จนกลีบกุหลาบงามกลางหว่างพระเพลา เริ่มชุ่มฉ่ำด้วยน้ำหวานแห่งความใคร่ ราวกับบุปผาแรกแย้มที่ต้องน้ำค้างยามเช้า“ท่านหมื่น... ได้โปรด...” พระนางกระซิบเสียงแผ่วพร่าองค์รักหนุ่มค่อยๆ เคลื่อนกายทาบทับร่างบางอย่างนุ่มนวล แท่งกายที่แข็งขันค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในความคับแน่นและอุ่นร้อนภายใน ราวกับดอกไม้ที่แย้มรับหยาดน้ำค้าง ความรู้สึกเสียดสีและบีบรัดนั้น ก่อให้เกิดความเสียวซ่านที่แล่นริ้วไปทั่วสรรพางค์กายของทั้งคู่“อืมม์...” พระนางยโสธราทรงครางแผ่วเบา พระพักตร์เหยเกด้วยความซาบซ่านหมื่นสุนทรเทวาเริ่มขยับกายช้าๆ ทว่าหนักแน่น สอดประสานจังหวะรักอย่างต่อเนื่อง
ตอนที่ 23 ร้อยรัด...เสน่หา NCภายหลังจากการลาดตระเวนที่ชายป่า หมื่นสุนทรเทวากลับมาพร้อมรอยแผลจากการปะทะกับสัตว์ร้าย องค์หญิงยโสธราเทวีทรงทราบเรื่องก็ทรงเป็นห่วงยิ่งนัก ทรงมีพระบัญชาให้หมื่นสุนทรเทวามาพักรักษาตัวในตำหนัก และทรงอาสาจะดูแลบาดแผลให้เขาด้วยพระองค์เองในห้องบรรทมเล็ก องค์หญิงยโสธราทรงนั่งอยู่ข้างเตียงที่หมื่นสุนทรเทวานอนพัก พระหัตถ์เรียวค่อยๆ เช็ดคราบโลหิตบริเวณบาดแผลที่แขนของเขาด้วยความเบามือ พระพักตร์ของนางเต็มไปด้วยความตั้งใจและกังวล“เจ็บมากหรือไม่ ท่านหมื่น?” พระนางตรัสด้วยสุรเสียงอ่อนโยนหมื่นสุนทรเทวาทอดสายตาไปยังพระพักตร์งดงามที่อยู่ใกล้เพียงเอื้อม“เพียงเล็กน้อยพ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง ความเจ็บปวดทางกายหาได้สำคัญเท่าความห่วงใยที่พระองค์ทรงมีให้ไม่... ความเมตตาของพระองค์ต่างหากเล่า ที่ประหนึ่งทิพยโอสถ ชโลมใจให้กระหม่อมคลายจากทุกข์ตรมได้สิ้น” สิ้นคำนั้น พระพักตร์ขององค์หญิงยโสธราก็ปรากฏรอยแย้มสรวลน้อยๆ ราวกับบุปผาแรกแย้ม พระเนตรของนางทอดลงต่ำเล็กน้อย แต่ริมฝีปากบางนั้นกลับยกขึ้นอย่างปิดไม่มิด ความรู้สึกปลาบปลื้มเอ่อล้นในพระทัย จนมิอาจซ่อนเร้นได้มิด“ท่านนี่... ช่างมีวาทศิล
ตอนที่ 22 ร้อยคำรัก... สลักทรวงครั้นเมื่อเวลาล่วงเลยผ่าน...นครสิงหปุระบรรพตกลับคืนสู่ความสงบสุขดังเดิม องค์หญิงมนทิราณีเทวี ทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุข หมื่นสุนทรเทวาหาได้คลายจากการถวายอารักขาพระองค์ แม้เพียงเสี้ยวนาที ความผูกพันของทั้งสอง งอกงามดั่งบุปผาในอุทยานแห่งรัก ท่ามกลางภาระหน้าที่อันหนักอึ้งทว่า... คลื่นลมแห่งความสงบสุขนั้นมิได้ยืนยงนานนัก ข่าวการรุกรานจากแคว้นอุดรทิศ ดุจพายุโหมกระหน่ำ แผ่สะพัดไปทั่วแผ่นดิน พระเจ้าธรณินทร์ ทรงมีราชโองการเรียกคืน เหล่าขุนศึกกล้าหาญ และนักรบผู้มีฝีมือ กลับสู่พระนคร เพื่อร่วมกันป้องกันราชอาณาจักร หมื่นสุนทรเทวา ก็เป็นหนึ่งในบรรดาผู้ที่ต้องหวนคืนสู่เมืองหลวงในท้องพระโรงเล็กของปราสาทสิงหปุระบรรพต แสงทองยามเช้าสาดส่อง องค์หญิงมนทิราณีเทวี ทรงยืนประทับอยู่เบื้องหน้า หมื่นสุนทรเทวา ซึ่งกำลังคุกเข่าคำนับ พระพักตร์ของนางเต็มไปด้วยความกังวลและอาลัยอาวรณ์“ท่านหมื่น... จำเป็นฤๅ ที่ท่านต้องคืนสู่พระนคร เพื่อช่วยราชกิจแห่งเสด็จพ่อ?” องค์หญิงมนทิราณีเทวีตรัสด้วยสุรเสียงแผ่วเบา เจือด้วยความอาวรณ์หมื่นสุนทรเทวาเงยหน้าขึ้น สบพระเน
ตอนที่ 21 พันธรัก...ใต้แสงจันทร์นครสิงหปุระบรรพต เมืองที่อยู่ภายใต้อำนาจแห่งพระเจ้าธรณินทร์ กษัตริย์ผู้ทรงแผ่อำนาจเหนือดินแดนกว้างใหญ่ ต่อมาพระเจ้าธรณินทร์ได้ส่งพระธิดาองค์โต พระนามว่า มนทิราณีเทวี ผู้ทรงมีพระสิริอันโฉมงดงามและพระทัยเมตตา ไปปกครองเมืองนี้ โดยมีนักรบหนุ่มผู้หาญกล้า นามว่า หมื่นสุนทรเทวา เชื้อสายขุนศึกผู้เกรียงไกร ติดตามเสด็จไปถวายการอารักขาอย่างใกล้ชิด ด้วยความจงรักภักดีและภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระเจ้าธรณินทร์“มนทิราลูกรัก” พระเจ้าธรณินทร์ตรัสด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม พระหัตถ์ลูบศีรษะบุตรีอย่างอ่อนโยน“พ่อมอบหมายให้เจ้าไปปกครองนครสิงหปุระบรรพตแห่งนี้ จงนำความเจริญรุ่งเรืองและความสงบสุขไปสู่แผ่นดินแห่งนั้น” มนทิราณีเทวีเงยพระพักตร์ขึ้น สบพระเนตรพระบิดาด้วยความเคารพ“เพคะ เสด็จพ่อ หม่อมฉันจะจงรักภักดีและทำทุกวิถีทางเพื่อให้นครสิงหปุระบรรพตเจริญรุ่งเรืองสมดังพระประสงค์”ข้างๆ องค์หญิง มีร่างสูงสง่าของนักรบหนุ่มในชุดเกราะหนังสีดำสนิทยืนอยู่ เขาคือ หมื่นสุนทรเทวา บุตรแห่งขุนศึกผู้เกรียงไกร ใบหน้าคมสันของเขามีแววเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ“หมื่นสุนทรเทวา!!!” พระเจ้าธรณินทร์ตร
ตอนที่ 20 ปริศนาแห่งกาลเวลาสิงขรจ้องใบหน้าสวยของสุริยาวดี ราวกับต้องการค้นหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้รอยยิ้มนั้น ความสับสนในจิตใจค่อยๆ จางหายไป เหลือไว้เพียงความรู้สึกผูกพันอันแน่นหนา ราวกับสายใยที่ถักทอมานานนับร้อยปี หัวใจของเขารับรู้ถึงความคุ้นเคยนั้น แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมาเนิ่นนานเพียงใดก็ตามที“ผม...” สิงขรเอ่ยเสียงแผ่ว ราวกับกระซิบจากส่วนลึกของหัวใจ ก่อนจะตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “ผมจะอยู่กับคุณ... สุริยาวดี”ทันทีที่สิ้นคำ สุริยาวดีก็คลี่ยิ้มสดใส ราวกับบุปผาแรกแย้มต้องแสงอรุณ นางโผเข้ากอดสิงขรแน่น ซบใบหน้าลงบนอกแกร่งของเขา ความตื้นตันเอ่อล้นจนน้ำเสียงสั่นเครือ“ขอบคุณค่ะ... ท่านหมื่น... ขอบคุณที่ท่านกลับมาหาข้า...”สิงขรกอดตอบนางอย่างอบอุ่น ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยคุกรุ่นในใจค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดนาง ความปรารถนาที่จะโอบอุ้ม ปกป้อง และดูแลหญิงสาวในอ้อมแขนนี้ กลับทวีความรุนแรงขึ้นจนยากจะต้านทานในห้วงเวลาแห่งความเสน่หานั้นเอง เสียงโทรศัพท์มือถือของสิงขรก็ดังแทรกขึ้น ราวกับเสียงกระดิ่งที่ปลุกให้ตื่นจากความฝันอันแสนหวาน เขาจำต้องผละออกจากอ้อมกอดอุ่นของสุริยาวดีด้วยค







