“อ๋อ เอ่อ ฉันมากับเพื่อนค่ะ เรามากันหลายคน โน่นไงคะกำลังสนุกเชียว” พูดจบเธอก็บุ้ยหน้าไปตรงกลางฟลอ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเยอะมาก นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เท่านี้เขาก็เดาได้แล้วว่าพวกเธอมาจากที่ไหนกัน“ให้ผมเดา บัณฑิตจากจอร์จทาวน์” เขาเดาได้ถูกต้องเลยทีเดียว ซึ่งเธอคิดว่าเขาได้ข้อมูลมาจากคาร่านั่นแหละ“อะไรทำให้คุณเดาได้ถูกต้องขนาดนั้น” ไอลดาหันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงหวาน สายตายั่วยวนแปลกๆ “ก็ไม่เห็นจะยาก ผับนี้ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด อีกอย่างคุณมากับเพื่อนนับสิบๆ คนแบบนี้ ก็ต้องเป็นกลุ่มนึกศึกษาอยู่แล้ว” เขาเดาได้ถูกต้องอีกแล้ว และมันยิ่งสร้างความมั่นใจให้เธอเพิ่มมากขึ้น ว่าเขาคือคนที่คาร่าส่งมาชัวร์“แสดงว่าคุณก็มาที่นี่บ่อย ถึงได้ดูออกขนาดนี้ หรือไม่ก็ควงสาวนักศึกษามาด้วยหรือเปล่าคะ” เธอถามหยั่งเชิง“หึๆ เห็นผมควงใครล่ะครับ” เขายิ้มและส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับเธอ ทำให้รู้สึกเขิน แต่ไม่ชอบความเจ้าชู้ของเขาเลย นิสัยเพลย์บอยแบบนี้ไม่ขอใกล้จะดีกว่า แต่เพื่อให้แผนของคาร่าดำเนินไปได้ ไอลดาต้องเล่นไปตามน้ำเสียก่อน จากนั้นจะตอกหน้าผู้ชายคนนี้ให้หงายไปเลย “ก็ไม่แน่ว่าคนที่คุณควงมาอาจจะอยู่ในกลุ่มของเพื่อน
“คนแปลกหน้าคงไม่รู้จักชื่อกัน แต่ผมรู้จักชื่อคุณแล้วนะไอซ์” เมื่อ นิโคไลพูดจบ เธอจึงเอี้ยวตัวหันกลับไปหาและไม่ทันได้ระวังว่าเขายืนประชิดด้านหลัง ทำให้เธอชนเข้ากับแผงอกกว้างๆ จนต้องเซถลาเล็กน้อย เป็นจังหวะให้นิโคไลสอดวงแขนขวา คว้าเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม ก่อนจะรั้งเข้ามากอดโดยอัตโนมัติ“เอ่อ ขอบคุณค่ะ” เธอรีบตั้งสติแล้วก็ดันตัวออกจากวงแขนของเขาทันที ในความยั่วและอ่อยของเธอ เขามองว่ามีความระมัดระวังตัวอยู่พอสมควร เหมือนจะง่ายแต่ไม่ง่ายซะทีเดียว เขาคิดและยิ้มกริ่มเจ้าชู้“นะครับเต้นรำกัน” นิโคไลเอ่ยปากขอร้องอีกครั้ง ดูซิว่าเธอจะยอมหรือเปล่า แน่นอนว่าเธอจะยั่วให้ถึงขีดสุด“แต่ในมือคุณยังถือแก้วเหล้าอยู่เลย เอาเป็นว่าเราไปนั่งดื่มต่อดีกว่านะคะ” ไอลดายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอ่ย ก่อนจะจับมือเขา แล้วพาเดินกลับออกไปนั่งที่เดิม จากนั้นเธอจึงปล่อยมือเขาให้เป็นอิสระ “ดูเหมือนคุณไม่อยากจะสนุกกับเพื่อนสักเท่าไหร่” นิไคไลถามพร้อมกับนั่งลงที่เก้าอี้และหันหน้าออกไปฟลอ “ฉันมีเรื่องที่น่าสนใจต้องทำค่ะ” พูดจบปุ๊บไอลดาก็ปรายตามองเขาด้วยแววตาแพรวพราว“อย่างเช่น...” เขาถามเพื่อว่าคำตอบจะเป็นการเล่นสนุกกับเข
“อื้อ! พระเจ้า!” เขาอุทานด้วยความเจ็บและจุก ส่วนมือก็กุมส่วนนั้นเอาไว้ก่อนจะทรุดกายลงกับพื้น หากแสงสว่างมากกว่านี้คงได้เห็นเขาหน้าเขียวแล้วเพราะของรักโดนรังแก“ลาก่อนคุณแอนตัน” ไอลดากล่าวยิ้มๆ ก่อนจะเดินจากไปทว่าต้องชะงักแล้วหันมาเอ่ยกับเขาอีกครั้ง“อ๋อ ฝากอีกสักครั้งนะคะ” ทันทีที่พูดจบเธอก็มองไปที่เคาน์เตอร์ ขณะที่บาร์เทนเดอร์กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มให้แขกอีกคนอยู่พอดี เธอจึงคว้าเอาแก้วเหล้าแล้วสาดใส่หน้าเขาอีกครั้ง หมดกันความหล่อ“ดื่มให้สนุกนะคะ” พอสาดเหล้าใส่หน้าเขาได้ยังไม่พอ เธอยังใช้มือแตะที่ใบหน้าของเขาเบาๆ เหมือนจะเยาะเย้ย จากนั้นจึงส่งแก้วกลับคืน แล้วเดินจากไปพร้อมกับรอยยิ้มของความสะใจ“พระเจ้า! อ่า!” เจ็บและจุกยังไม่พอ ยังเสียหน้าเพราะถูกเหล้าสาดจนเปียก จังหวะเดียวกันนั่นเองเพื่อนของนิโคไลสองคนก็เข้ามาหาพอดี อันที่จริงก็สังเกตอยู่สักครู่แล้ว ว่ากำลังมีเรื่องกับสาวสวยคนนั้น“นิค! เฮ้! เป็นอะไรวะเพื่อนทำไมเนื้อตัวมีแต่กลิ่นเหล้า” แจ็คสันเพื่อนคนหนึ่งถาม พร้อมกับพยุงเขาให้ลุกขึ้น“ก็จะอะไรซะอีกล่ะ อืม พยุงทีสิ” นิโคไลลุกไม่ขึ้นเพราะยังจุกอยู่“ให้ตายสิ เพื่อนฉันโดนลบเหลี่ยมสิ้นล
“จูบอะไรช่างจืดชืด ห่วยแตก ไม่ได้เรื่อง” ไอลดาแสร้งว่าไปอย่างนั้นเอง “หึๆ นี่ถ้าอยากได้จูบหวานๆ โรแมนติกล่ะก็ ต้องแกล้งยอมเสียบ้าง ไม่ใช่ไม่ยอมคนแบบนี้” “ไม่ต้องสอนน่าเทรซีย์ ไม่มาเป็นฉันไม่รู้หรอก เฮ็งซวยที่สุด แบบนี้น่ะหล่อแค่ไหนก็ไม่มีทางเก็บไปฝันแน่นอน” “จริงเหรอ เขาก็น่าฝันถึงเหมือนกันนะ หล่อขนาดเนี่ยยอมให้จูบเลยเอ๊า” ให้ตายสิ เทรซีย์ไม่นึกเป็นห่วงเพื่อนเลย“เชิญเธอฝันไปคนเดียวเถอะ” ไอลดาว่าด้วยความไม่พอใจ ขณะเดียวกันกลุ่มเพื่อนๆ ทั้งชายและหญิงต่างพากันเดินมาสมทบที่โต๊ะ เมื่อเต็มแล้วก็นั่งโต๊ะข้างๆ ที่จองกันเอาไว้ เรียกได้ว่าไอลดารายล้อมไปด้วยเพื่อนนับสิบคน ตอนนี้คนที่กำลังหาโอกาสหรือจังหวะเวลาที่จะเข้ามาถึงตัวเธอนั้นยากยิ่งขึ้นไปอีก ทำให้แผนการที่จะลากเธอไปนอนด้วยแล้วแบลคเมลนั้นเป็นไปได้ยากเสียแล้ว เช่นเดียวกัน เพราะไอลดาก็ดันเข้าใจว่านิโคไล คือเพื่อนของคาร่า แถมยังแก้เผ็ดและหักหน้านิโคไลเสียจนลงไปนั่งจุกอยู่กับพื้น เล่นกับผู้ชายผิดคนแบบนี้เธอมีโอกาสแย่โดยไม่รู้ตัว ส่วนนิโคไลก็รอแก้แค้นแม่ตัวดีที่ตบหน้า กระทุ้งเป้า และไหนจะเอาเหล้าสาด เรียกได้ว่าสาม กระทง โดยที่เขาไม่ได้มีคว
“เอางั้นเหรอ ให้ฉันไปส่งไหมเพื่อน” เทรซีย์ขันอาสา แต่ถ้าไอลดากลับเองได้ ไม่ได้น่าเป็นห่วงเพราะย่านนี้เป็นย่านที่คนพลุกพล่านตลอดทั้งคืน อพาร์ต์เมนท์ของไอลดาก็อยู่ไม่ห่างจากผับสักเท่าไหร่ ไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัว“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ฉันกลับเองเป็นประจำอยู่แล้ว ห้องพักก็อยู่ไม่ไกลด้วย อีกอย่างเธอยังไม่อยากกลับ ฉันรู้” ไอลดาบอกอย่างรู้ทัน ทำให้เทรซีย์ยิ้มหน้าเจื่อนๆ “ก็แหม หนุ่มๆ เยอะขอฉันอยู่ต่ออีกสักพักก่อน”“งั้นหนุ่มๆ ก็อยู่เป็นเพื่อนเทรซีย์ก็แล้วกันนะ เอาไว้เราเจอกันใหม่ บายนะเพื่อนๆ” “บาย!” เพื่อนๆ ของไอลดาต่างโบกมือลา จากนั้นไอลดาจึงคว้าเสื้อคลุมหนัง พร้อมกับกระเป๋าสะพายแล้วออกจากร้านไป แต่ทุกอย่างอยู่ในสายตาของนิโคไลทั้งสิ้น รวมถึงครูสเพื่อนของคาร่าก็มองตามไปจนกระทั่งไอลดาเดินพ้นจากร้าน และเมื่อครูสเห็นดังนั้นจึงรีบตามไปทันที เพราะถึงอย่างไรมันก็คือโอกาส“ฉันไปละ” นิโคไลบอกอย่างรีบร้อน ก่อนจะใส่เสื้อสูทเอาไว้ตามเดิม แล้วเดินออกไปจากร้านเช่นกัน แต่กว่าจะออกมาได้ก็ต้องเบียดเสียด จนทำให้เสียเวลาเพราะกลัวว่าไอลดาจะคลาดสายตา ขณะเดียวกันคนที่ทำให้นิโคไลรีบร้อน กำลังเดินออกมาจนถึงหน้าร้าน เ
กระทั่งเธออ่อนระทวยเสียเองและพานให้หมดสติไปด้วยฤทธิ์เตกีลา ยังไม่ทันที่เขาจะได้อิ่มเอมทว่าเธอหลับไปเสียดื้อๆ ทำเอาอารมณ์ค้างไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ถอยห่างออกมาเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ “หึๆ แม่ตัวดี เดี๋ยวคุณรู้ว่าเล่นอยู่กับใคร” นิโคไลบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะหันไปจับพวงมาลัย และปล่อยให้เธอหลับไป จากนั้นก็ออกรถทันที จุดหมายปลายทางไม่ใช่อพาร์ต์เม้นต์ของไอลดาอย่างแน่นอน เพราะเขามีอะไรจะเล่นสนุกกับเธอนิดหน่อย ฉะนั้นก็ต้องเป็นเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของเขาถึงจะถูก งานนี้ไม่รู้จะโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่ไอลดาดันมาเจอกับนิโคไล ผู้ชายเพลบอยในฝันของสาววอร์ชิงตัน เพนท์เฮ้าส์ของนิโคไลอยู่ไม่ไกลจากผับแห่งนี้เช่นกัน แถมยังอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยจอร์จทาว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ไอลดาเรียน อีกทั้งใกล้กับสถานที่ทำงานและหลายๆ สถานที่ซึ่งสะดวกสบายมาก เขาใช้เวลาขับรถอยู่เพียงสิบนาทีก็เดินทางถึง ตึกสูงตระหง่านกว่าสี่สิบเก้าชั้น หรูหราราคาแพงและมีแต่มหาเศรษฐีเป็นเจ้าของ หนึ่งในนั้นคือนิโคไล เมื่อลงจากรถได้ก็อ้อมมาเปิดประตูแล้วช้อนอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะล็อกรถให้เรียบร้อย แล้วพาขึ้นลิ
“อย่ามาเรียกฉันว่าที่รัก” สะใจเขาเหลือเกินที่ทำให้เธอมีสีหน้าเหมือนจะระเบิดอารมณ์ออกมาเนี่ย“ก็เรานอนด้วยกันทั้งคืน คุณก็เป็นที่รักของผมแล้วจริงไหม แต่เมื่อคืนคุณก็บอกให้ผมเรียกที่รักนี่นะ จำไม่ได้จริงๆ เหรอ” พูดจบเขาก็ยิ้มกริ่มเจ้าเล่ห์ “ปล่อย ฉันจะกลับ” ยิ่งเธอพยายามที่จะดันตัวออกห่างมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรัดเอาไว้แน่นกว่าเดิม คราวนี้เธอเลยทุบและตีเขาอีกรอบกะเอาให้ช้ำกันไปข้างหนึ่งเพียะ! เพียะ! เพีย! ตุบ! ตุบ! ตุบ! “โอ้ยที่รัก! ไม่เอาอย่าดุสิ จะแปลงร่างเป็นแม่เสือตอนนี้ผมก็ไม่ไหวนะ” ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งโมโห และฝ่ามือของเธอไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านหรืออย่างไร เธอคิด “ไอ้ฝรั่งบ้า ปล่อย” เธอตัดสินใจผลักเขาออกแรงๆ กระทั่งหลุดออกจากกัน เท่านั้นแหละเธอก็รีบกระโดดลงจากเตียง แต่จังหวะเดียวกันนั้นนิโคไลกำลังจะก้าวตามหมายจะไปขวางไม่ให้เธอไปไหน ทว่าเธอตะโกนขึ้นเสียก่อน“หยุด!” คำห้ามปรามของเธอทำให้เขาหยุดชะงักจริงๆ“อะไรอีก” นิโคไลถามด้วยความสงสัยหรือแกล้งโง่กันแน่เนี่ย เธอคิดพลางมองตาขวาง“ไม่ต้องลงมานั่งอยู่ตรงนั่นแหละ” ไอลดาชี้นิ้วสั่ง สีหน้าและแววตาบอกได้เลยว่าเตรียมที่จะขย้ำคอเขาได้ทุกเ
เพื่อความแน่ใจ และเอาให้สาแก่ใจในสิ่งที่เธอทำ นิโคไลจึงจับมือเธอเอาไว้ดังเดิมและค่อยๆ กดต่ำลงไปหมายจะให้เธอจับที่เอวของเขา “นี่คุณจะทำอะไร” เธอถามทั้งที่ยังไม่ลืมตา แต่มือเรียวถูกบังคับให้เอื้อมต่ำลงทำให้เธอตกใจ“อยากรู้ก็ลืมตาสิ” เขาก้มหน้ากระซิบแผ่วเบา“มะ มะ ไม่ ปล่อยมือฉัน” เธอพยายามดึงมือกลับแต่ไม่เป็นผล และเขายิ่งจับมือเธอไว้แน่น“คุณแอนตัน ปล่อย” เธอกลัวเหลือเกินที่จะต้องสัมผัสกับส่วนนั้น ส่วนที่กำลังนึกถึงอยู่เนี่ย“ผมจะไม่ปล่อยจนกว่าคุณจะลืมตา” พอพูดจบก็ได้โอกาส เพราะเขายื่นหน้าเข้าไปแนบชิดริมฝีปากกับใบหูของเธอเสียเลย และคิดว่าถ้าหากไม่อยากเสียเปรียบเขา เธอก็ต้องลืมตาขึ้น“ไม่นะ หยุด ฉันลืมตาแล้วก็ได้” เมื่อความกลัวทำให้เธอกล้า จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นทีละนิดและทีละข้าง อันดับแรกเบื้องคือแผงอกกว้างเปลือยเปล่าอยู่ใกล้แค่คืบ จากนั้นเธอจึงไล่สายตาลงอย่างเชื่องช้าเพื่อมองที่มือของตนเอง แต่แล้วก็ต้องเบิกดวงตากว้างจะว่าหน้าแตกหรือโมโหก็ไม่รู้ที่ถูกเขาแกล้งแบบนี้“นี่! คุณไม่ได้แก้ผ้านี่” เธอต่อว่าด้วยความไม่พอใจ“แล้วใครบอกว่าผมแก้ผ้า คุณน่ะคิดลึกเองต่างหาก ในสมองคิดจะเห็นส่วนนั้นของผมล
“คิดถึงผมไหมไอซ์” นิโคไลกระซิบเสียงนุ่มพร้อมกับเอื้อมมืออีกข้างปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกแต่ไม่หมด จากนั้นจึงขยับมือไปลูบไล้ตรงทรวงอกของเธอผ่านชุดแสก และบีบขยำเบาๆ พลางใช้ปากงับเอาไว้ ปลายจมูกซุกไซ้สูดดมราวกับหิวกระหาย“ฉันไม่... อืม” ไอลดากำลังจะบอกว่าไม่คิดถึงเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ทว่าความเสียวซ่านที่เริ่มก่อตัวขึ้นตรงกลางกายทำให้เธอชะงักคำพูด และหายใจเข้าออกติดขัดคล้ายจะสำลัก มือทั้งสองจากที่ผลักใสเขาอยู่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นโอบกอดรัดต้นคอเขาเอาไว้โดยไม่รู้ตัว“คุณทำให้ผมคลั่งอยู่หลายเดือนนะที่รัก” นิโคไลบอกด้วยน้ำเสียงหอบพร่า พร้อมกับความต้องการของร่างกายที่พุ่งพล่านเกินจะเก็บกดอารมณ์“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ ได้โปรด” เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นทว่าจะสู้แรงต้านทานของร่างกายได้หรือ“ผมจะลงโทษคุณ ที่หนีผมมา” เขากระซิบบอกอีกครั้งพร้อมกับใช้มือบีบเค้นทรวงอกหนักขึ้น ส่วนมืออีกข้างกำลังกรีดกรายและบดเบียดเม็ดเสียวขึ้นลงกระทั่งมีน้ำหวานอุ่นๆ ซึมไหลออกมา เขากระตุกยิ้มด้วยค
“จะไม่ออกไปใช่ไหม ได้... งั้นฉันออกไปเอง” ว่าแล้วเธอจึงรีบเดินไปหมายจะเปิดประตู ทว่าเขาวิ่งมาขวางพร้อมกับล็อกเอาไว้ทันที“นี่! หลีกไป” ไอลดาไม่ได้พูดเสียงดังนัก เพราะยืนอยู่ตรงประตูแล้วกลัวพนักงานด้านนอกจะได้ยิน“ผมก็แค่อยากจะทบทวนว่าคืนนั้นของเรา มันส่งผลให้เราเป็นอะไรกัน มันไม่ใช่อุบัติเหตุ”“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และคืนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ เราเมาด้วยกันทั้งคู่” เธอรู้ตัวดีว่าไม่ได้เมา รู้ตลอดเวลา“เราออกเดตกันแล้ว และคนเมาที่ไหนเขาจะมีแรงขนาดนั้น หลายยกเลยนะที่รัก”“หุบปากได้แล้วนิคกี้ คุณต้องการอะไรฉันจากฉันกันแน่เนี่ย”“ถ้าอยากให้ผมหุบปาก คืนนี้ขึ้นไปหาผมบนห้องสิ รับรองเรื่องของเรา คู่หมั้นคุณจะไม่มีทางรู้” เธอไม่มีวันเชื่อเขาหรอก และการที่เขายุ่มย่ามกับเธอก็ไม่ต่างอะไรกับประกาศให้คนอื่นได้รู้นั่นแหละ“อย่ามาขู่ฉันให้ยาก” เธอพยายามข่มความกลัวและมองว่าเ
“อย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ชอบ ฉันอยากให้คุณไปตามตารางที่เราจัดเอาไว้ให้จะได้มีไกด์”“นี่คุณไม่ตามใจแขกวีไอพีเลยนะ ยัดเยียดให้ไปในที่ที่ผมไม่อยากไป”“เรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ไม่ได้บังคับนะคะ”“ดูเหมือนคุณอยากจะอยู่ห่างๆ ผมเหลือเกิน” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้เธอก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะพูดเรื่องอื่น“คุณจะเอาผู้ติดตามของคุณไปด้วยหรือเปล่า” ไอลดาไม่อยากตอบคำถามของเขา จึงพูดเรื่องอื่นเสียอย่างนั้น“แน่นอน ผมจะเอาผู้ติดตามไปทุกคนนั่นแหละ แต่คุณต้องไปดูแลผมด้วยตัวเอง ห้ามให้คนอื่นไป” ยังดีที่เขาไม่ขอให้ไปตามลำพัง“แต่ฉันก็ต้องมีผู้ช่วยไปด้วย เผื่อขาดเหลืออะไร” เพื่อเป็นไม้กันหมามากกว่าเป็นผู้ช่วยกระมัง เขาคิด“เอาไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผมไม่อยากเห็นหน้าผู้ช่วยคุณ ผมแค่อยากเห็นหน้าคุณคนเดียว” เขาพูดออกมาตรงๆ ชัดเจนจนทำให้เธอถึงกับอึ้งและกลืนน้ำลายไม่ลงคอเลยทีเดียว“แต่ฉันไม่ได้อยาก
วันรุ่งขึ้น ไอลดารีบไปทำงานแต่เช้า ถึงโรงแรมแปดโมงครึ่ง พนักงานบางคนยังมาไม่ถึง โดยเฉพาะเลขานุการหน้าห้องของเธอ เธอจึงเข้าห้องโดยไม่สนใจใคร แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เพราะเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของเธอมันขยับโยกไปมาก อีกทั้งอยู่ในลักษณะที่ผิดไปจากเดิมนั่นคือหันหลัง แต่แล้วอยู่ๆ เก้าอี้ก็หมุนกลับมา“อรุณสวัสดิ์ที่รัก” น้ำเสียงทักทายทุ้มต่ำไร้รอยยิ้มของชายหนุ่มผู้บุกรุก ทำให้ไอลดาถึงกับช็อกไปชั่วขณะดวงตา แต่ต้องรีบเก็บอาการ“เอ่อ คุณ! เข้ามาได้ยังไง ไม่มีใครเห็นคุณเหรอ” ไอลดาถามด้วยความหวาดหวั่นระคนด้วยความโกรธ“ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้ ผมเป็นสามีคุณนะ” บ้าแล้ว ถือสิทธิ์มาเรียกร้องคำว่าสามีอย่างนั้นหรือ“คุณไม่ใช่ อย่ามาเพ้อเจ้อ” เธอว่าน้ำเสียงดุเข้มก่อนจะวางกระเป๋าถือเอาไว้บนโต๊ะ แล้วไปนั่งที่โซฟารับแขกแทน ขณะเดียวกันเขาก็แสร้งทำเป็นมองบนโต๊ะทำงาน เห็นภาพบาดตานั่นคือภาพคู่ของกันตพงษ์กับไอลดา เห็นอย่างนั้นแล้วเขาจึงถือวิสาสะจับภาพนั้นคว่ำหน้าลงเสียเลย จาก
“ผมอยากเที่ยวแบบเป็นส่วนตัว จะได้ไหม” คำว่าจะได้ไหม คล้ายกับเป็นการบังคับไปในตัว น้ำเสียงแข็งกระด้างขึ้น หากจะปฏิเสธคงมีปัญหาสินะ เธอคิด“งั้นก็ ฉันจะจัดหาเจ้าหน้าที่ดูแลคุณเป็นพิเศษค่ะ อยากไปที่ไหนก็บอกเขาได้เลย”“ทำไมคุณต้องโยนหน้าที่ของตัวเองไปให้คนอื่นล่ะสวีตตี้”“เรามีเจ้าหน้าที่ดูแลแต่ละฝ่ายค่ะ และกรุณาอย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันมีคู่หมั้นแล้ว”“คู่หมั้นหรือจะสู้สามีได้ ไม่เห็นแปลกถ้าผมจะเรียก เพราะผมเป็นสามีคนแรก”“คุณแอนตัน กรุณาให้เกียรติกันด้วย ฉันกับคุณไม่ได้รู้จักกัน”“หึๆ อย่าพูดแบบนี้นะที่รัก เพราะไม่อย่างนั้นคู่หมั้นและว่าที่สามีคนที่สองของคุณได้รู้แน่ ว่าผมเป็นใคร” ไอลดาต้องพยายามเหลือเกินที่จะไม่ตอบโต้ให้เสียเวลา“คุณต้องการอะไร” ไอลดาตัดสินใจถามตรงๆ แม้จะเริ่มมีอารมณ์โกรธแล้วก็ตาม“ต้องการให้ทุกวินาทีของผม มีคุณอยู่ใกล้ๆ ไง&rdquo
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ระหว่างที่นิโคไลกำลังขบคิดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเดินไปเปิดให้“อยากได้อะไรเพิ่มเติมไหมครับ” เจอร์รี่ถามทันทีที่เห็นหน้า ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูให้เรียบร้อย“หมายถึงอะไร ไม่อยากได้อะไรหรอก” นิโคไลตอบเสียงเครียด ทำให้เจอร์รี่อดเป็นห่วงไม่ได้“เป็นอะไรไปครับเจ้านาย” เจอร์รี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ขณะที่นิโคไลเดินกลับไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง“เหนื่อย เจทแล็ค” นิโคไลตอบสั้นๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ“อ้าว! ไม่เห็นบอกว่าเจทแล็คนี่ครับ งั้นพักผ่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องงานผมดูแลต่อก็ได้ครับ”“จัดการด้วยก็แล้วกัน ยังไงซะเราก็ได้คุณกันตพงษ์เป็นลูกค้าแล้วล่ะ” นิโคไลค่อนข้างมั่นใจในการทำงาน ที่สำคัญคือมีเวลาคุยกันเป็นเดือนๆ“เอ่อ ผมมีอีกเรื่องอยากจะถาม”“เจ้านายจะอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆ เลยจริงเหรอครับ ผมยังไม่ได้บอกทางโน้นเอาไว้เลย คิดว่
“เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดามาก่อน แต่ก็แค่หน้าคล้ายน่ะครับ คงไม่ใช่คนเดียวกัน”“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ หรือถ้าจะเคยเจอก็อาจจะเป็นที่อเมริกา ไอซ์เคยเรียนอยู่ที่นั่น”“ที่วอร์ชิงตัน” นิโคไลเสริมขึ้นพร้อมกับปรับสีหน้าให้เรียบตึง และสติเขากลับเข้าที่เรียบร้อย“เอ่อ ใช่... คุณทราบได้ยังไงครับ” กันตพงษ์ถามด้วยความสงสัย“ผมเดาน่ะ เพราะผมอยู่วอร์ชิงตัน เคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดาและเธอก็อยู่ที่นั่นมาก่อนเหมือนกัน ผมคิดว่าคนเอเชียหน้าคล้ายๆ กัน” นิโคไลบอกเสียงเรียบพลางมองหน้าไอลดาอย่างมีเลศนัย“ฉันว่า คุณคุ้นหน้าฉันตอนอยู่ในลิฟต์มากกว่ามั้งคะ” ไอลดาแทรกขึ้นเสียงเรียบ“ก็อาจเป็นได้ครับ ตอนอยู่ในลิฟต์ เอ่อขอโทษทีที่ไม่ได้ทักทายครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณสองคนที่ผมต้องมาทำธุรกิจด้วย ผมนึกว่าเป็นแขกของโรงแรมด้วยซ้ำ” นิโคไลแสร้งเออออกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่อย่างนั้น&
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ภายในห้องพักระดับวีไอพีสนนราคาอยู่ที่คืนละหนึ่งแสนบาทบนชั้นสูงสุดที่ชั้น 22 ถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับบอสรูปหล่อของเจอร์รี่ ซึ่งเจอร์รี่ได้ขึ้นมาต้อนรับที่บนห้อง พร้อมกับให้กุญแจห้องเอาไว้กับเจ้านายเรียบร้อย กระเป๋าถูกนำมาเก็บในตู้เสื้อผ้า แต่เจ้าของห้องกลับเดินไปยังระเบียง ซึ่งมีกระจกใสบานสไลด์ขนาดใหญ่ เขาเปิดผ้าม่านออก แล้วแสร้งมองวิวเมืองกรุงเทพ ฯ อย่างไร้จุดหมาย“เจ้านายครับ ผมนัดคุณกันตพงษ์และเจ้าของโรงแรมมาดินเนอร์กับเราคืนนี้นะครับ” เจอร์รี่เอ่ยพลางสังเกตอาการของเจ้านายหนุ่มจากทางด้านหลัง“คุณกันตพงษ์กับเจ้าของโรงแรมอย่างนั้นเหรอ” นิโคไลถามกลับ ทว่าไม่ได้หันหน้ามาแต่อย่างใด“ครับผม อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เจอร์รี่ตอบและถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ แล้วเจ้าของโรงแรมเป็นใคร” นิโคไลถามด้วยความอยากรู้“จริงสิเจ้านายยังไม่ทราบ เดี๋ยวคงจะได้เจอเธอในตอนเย็นนี้ล่ะครับ เธอชื่อ... คุณไอลดาเป็น...”ก
ทำไมเขาต้องเกิดมาเป็นผู้ให้ด้วยวะ เขาคิดแต่ยังคงมีความสุขดี แม้จะเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉาบเอาไว้ให้คนภายนอกเห็น และมองว่าเขากับไอลดาเป็นคู่หมั้นที่เหมาะสมสำหรับการแต่งงานมากที่สุดก็ตาม แต่เบื้องหลังนี่สิที่ภายในครอบครัวเท่านั้นที่รู้สามปีมาแล้วที่กันตพงษ์กับไอลดาอยู่ในฐานะคู่หมั้น ภายใต้สัญญาที่ว่ากันด้วยเรื่องธุรกิจ เธอกลับมาเมืองไทยได้ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการบริหารโรงแรม จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงต้องขอความช่วยเหลือให้ฝ่ายของกันตพงษ์ซึ่งเป็นเครือญาติเข้ามาช่วยอีกแรง โดยการให้กันตพงษ์เข้ามาถือหุ้นในโรงแรมเกินกว่าครึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่โอบอุ้มต่อลมหายใจของโรงแรมต่อไปแต่กันตพงษ์ไม่อยากขึ้นชื่อว่าฮุบโรงแรมที่สร้างจากครอบครัวไอลดามาเป็นของตัวเอง และไม่ได้ต้องการให้ใช้หนี้คืนแต่อย่างใด เขาจึงยื่นข้อเสนอเนียนๆ ให้ไอลดาแต่งงานด้วย หรือเรียกว่าเอาตัวมาแลกกับเงินก็ยังได้ และเพื่อเขาจะได้เข้ามาช่วยบริหารงานแบบไม่ต้องรู้สึกผิดนักครั้งแรกไอลดาไม่ยอมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรักและเคารพกัน