Share

บทที่ 4

last update Huling Na-update: 2025-04-10 11:11:14

“เอางั้นก็ได้ แต่รอจังหวะก่อน จากนั้นฉันจัดเต็มอย่างแน่นอน” เมื่อพูดจบครูสจึงยกเหล้าขึ้นดื่ม และรอจังหวะที่ต้องการ ระหว่างนี้ก็เฝ้ามองไอลดาเป็นระยะ แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นครูสกับคาร่าไม่ทันได้สังเกตว่าการคุยกันของทั้งคู่จะมีใครมาได้ยินเข้า เพราะเสียงเพลงมันดังพอสมควร ทว่าหนึ่งในเพื่อนของไอลดาดันมาได้ยินเข้าพอดี ฉะนั้นเพื่อเป็นการปกป้องเพื่อน เรื่องนี้จึงต้องไปถึงหูไอลดาแต่โดยเร็ว เพื่อจะได้รับมือกับผู้ชายที่อยากจะรวบกินเธอ 

เมื่อไอลดารู้เรื่องเข้า เธอจึงหาทางรับมือกับผู้ชายที่คาร่าส่งมา แต่ก็หวั่นใจไม่น้อย เพราะคนพวกนี้เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวจนตามไม่ทัน แต่สุดท้าย เธอต้องหยุดคิดเพื่อลดความเครียด ไปที่เคาน์เตอร์เพื่อสั่งเครื่องดื่มที่ชอบ

“เตกีล่าค่ะ” ไอลดาสั่งกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มพร้อมกับชูหนึ่งนิ้ว จังหวะเดียวกันนั้น หนุ่มหล่อสามคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม และเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ สำเนียงภาษาอังกฤษค่อนไปทางเอเชียเล็กน้อยก็ทำให้พวกเขาหันมามอง 

หนุ่มหล่อสองคนแค่ชื่นชมความสวย และมองสัดส่วนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เสียมารยาท แต่อีกหนุ่มนั้นสำคัญคือนิโคไล เขานั่งตรงกลางแต่โน้มตัวไปค้ำที่เคาน์เตอร์ พร้อมกับปรายตามองไปทางด้านซ้ายมือของตนเอง ด้วยความที่เป็นหนุ่มนักรักทำให้เขาตาลุกวาวเมื่อเห็นสาวเอเชียแต่หุ่นระดับนางแบบ แม้ในความสลัวของแสงไฟ เขาก็ยังมองเห็นว่าอกเป็นอก เอวเป็นเอว 

“อะแฮ่ม!” บาร์เทนเดอร์หนุ่มกระแอมพร้อมกับยิ้มกริ่มเหมือนจะรู้ทัน ทำเอานิโคไลถึงกับสะดุ้งแล้วกันมองบาร์เทนเดอร์ด้วยแววตาตำหนิ ก่อนจะละสายตาไปจากเจ้าของรูปร่างสูงเพรียวนั่น 

“ไม่ออกไปสนุกกับเพื่อนๆ ล่ะครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่เสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับไอลดาถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเธอสั่งเสร็จก็นั่งหน้าเคาน์เตอร์ ก่อนจะยกเตกีล่าขึ้นดื่ม

“เมื่อยตัวค่ะก็เลยเข้ามาพักน่ะ” ไอลดาตอบและยิ้มอย่างเป็นมิตร

“นั่งคนเดียวเหงาแย่เลยครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มชวนคุยอีกครั้งแต่ปรายตามองนิโคไลด้วยสายตาแปลกๆ 

“หึๆ ไม่เหงาหรอกค่ะ ดูสิคนนั่งตั้งเยอะอีกอย่างเสียงเพลงก็เปิดดังขนาดนี้ จะให้เหงาได้ยังไง” 

“จริงสิครับ ผมก็ลืมไป” บาร์เทนเดอร์หนุ่มพูดจบก็จัดเตกีล่าให้เธออีกหนึ่งแก้ว ทั้งที่ยังไม่ได้สั่งเลย 

“เอ่อ ฉันยังไม่ได้สั่งนะคะ” ไอลดาถามด้วยความแปลกใจ 

“ไม่เป็นไรครับ มีคนจัดการให้คุณแล้ว” บาร์เทนเดอร์บอก ทว่าไม่ได้ส่งซิกส์ให้รู้เท่านั้นเองว่าเป็นใคร

“มี... มีคนจัดการให้แล้วอย่างนั้นเหรอคะ ใครคะ” ไอลดาอ้ำอึ้งไม่กล้ารับเพราะกลัวในแก้วที่ให้มาจะมีอะไรผสม

“เขาไม่ให้บอกครับ คนนี้ชอบทำตัวลึกลับ” 

“ฉันไม่กล้ารับไว้หรอกค่ะ” ไอลดาตอบปฏิเสธอย่างสุภาพ 

“รับไว้เถอะครับผมเพิ่งเทเมื่อครู่ ไม่ต้องกลัวว่าจะมีอะไรผสม ผมรับรองได้” ดูเหมือนบาร์เทนเดอร์หนุ่มจะรู้ทัน

“งั้นก็ขอบคุณค่ะ ฝากขอบคุณเขาด้วย” 

ว่าแล้วไอลดาจึงรับเอาไว้ แต่ดื่มแก้วเดิมที่สั่งมาก่อนหน้านี้ให้หมดเสียก่อน จากนั้นจึงพยายามกวาดตามองว่ามีใครที่มีพิรุธหรือไม่ เผื่อว่าจะเป็นคนที่เลี้ยงดื่มเธอ และอีกนัยหนึ่งที่ไม่ไว้ใจก็เพราะว่ากลัวจะเป็นคนของคาร่าเสียมากกว่า 

เธอจึงแทบจะไม่สนใจหนุ่มหล่อโคตรๆ ที่นั่งข้างๆ เลย และเมื่อไม่พบความผิดปกติ เธอจึงนั่งดื่มอยู่เพียงลำพัง ไม่ได้คิดจะออกไปเต้นกับเพื่อนๆ อีกแล้ว ทว่ายังคงโยกตัวไปตามจังหวะเพลงฮิบฮอบ 

 

 

 

ขณะเดียวกัน คนที่เลี้ยงเครื่องดื่มไอลดาก็นั่งอยู่ใกล้ๆ มีเพียงฝรั่งอีกคนนั่งคั่นกลางเอาไว้เท่านั้น แต่ให้ตายเถอะความโดดเด่นของชายหนุ่มไม่สามารถดึงความสนใจของเธอได้เลย ฉะนั้นเขาก็ได้แต่มองแล้วมองอีก และด้วยความที่เพื่อนนั่งคั่นกลาง จึงยากที่จะหาโอกาสคุย แต่เพื่อนก็รู้ใจจึงแสร้งขอออกไปเต้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับนิโคไลได้คุยกับหญิงสาว

ขณะที่เสียงเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ ไอลดาก็โยกตัวเล็กน้อยไม่ได้ออกสเต็ปมาก สายตาก็กวาดมองไปทั่วด้วยความเพลิดเพลิน ก่อนจะหันมามองทางซ้ายมือของตัวเอง แล้วก็ปะทะเข้ากับสายตาของหนุ่มอเมริกันที่หล่อเหลาราวกับนายแบบ เขายกแก้วขึ้นเพื่อเป็นการทักทายพร้อมกับยิ้มมุมปาก 

ไอลดาจึงยกแก้วเตกีล่าขึ้น เพื่อรับการทักทายเช่นกันเพราะไม่อยากเสียมารยาท และยิ้มกลับเล็กน้อย ในใจอดคิดไม่ได้ว่าคนนี้คือคนที่เลี้ยงเครื่องดื่มเธอหรือเปล่า และแอบคิดว่าเขาคือคนที่ยัยคาร่าตัวแสบส่งมาจีบแน่ๆ เพราะมีเขากับเพื่อนๆ ที่เธอเห็นว่าเป็นคนแปลกหน้าในค่ำคืนนี้ 

“สวัสดีครับ” นิโคไลเริ่มกล่าวทักทาย ทว่าไม่ได้ขยับมาหาเธอแต่อย่างใด

“ค่ะ” ไอลดาทักทายกลับ ก่อนจะแสร้งมองไปยังกลุ่มเพื่อนๆ ตามเดิม ทำทีเป็นไม่สนใจต่อสายตาของเขา ที่มองมาราวอยากจะกลืนกินเธอเสียให้ได้ คิดว่าผู้ชายคนนี้แน่ๆ ที่คาร่าส่งมาจีบ ขณะเดียวกันเมื่อนิโคไลเห็นเธอไม่สนใจ เขาก็ต้องถอนหายใจแล้วก็หันมามองบาร์เทนเดอร์ ซึ่งแน่นอนว่าโดนยุหนักเข้าไปอีก ว่าแล้วเขาจึงขยับไปนั่งเก้าอี้ตัวติดกับเธอ พร้อมทั้งหันหน้าออกไปทางฟลอเต้นรำ ในมือถือแก้ววิสกี้แล้วยกขึ้นดื่ม ปรายตามองเธอเล็กน้อยเพื่อหยั่งเชิง

“มาคนเดียวเหรอครับ” นิโคไลเริ่มถามเมื่อเห็นว่าเธอเงียบ แต่ให้ตายสิไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเมินใส่เขาขนาดนี้เลย คิดแล้วก็หงุดหงิดใจเสียอย่างนั้น

“ขา? ถามฉันเหรอ” ไอลดาหันหน้ามาหาเขา แล้วแสร้งถามเหมือนไม่รู้ตัวเสียอย่างนั้น

“เรานั่งกันอยู่สองคนนะครับ” เขาตอบยิ้มๆ

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 72 (จบ)

    “อยู่กันแค่นี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้คุยกันแบบผู้ใหญ่ เพราะผมเองก็อยากจะรู้จักคุณ” ถึงเวลาที่ลูกผู้ชายจะต้องคุยกันเสียทีสินะ ซึ่งไม่มีอะไรมากเพียงแต่ภูชิตอยากรู้จักคนที่จะมาเป็นพ่อของน้องเมย์ และเป็นสามีของบุตรสาวเท่านั้นเองเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป หัวนอนปลายเท้า เพราะรู้คร่าวๆ ว่า มาด้วยเรื่องธุรกิจกับกันตพงษ์แต่เมื่อนิโคไลเล่าให้ฟังจึงได้รู้ ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบเครื่องบินในอเมริกา ส่วนเรื่องที่รู้จักกับไอลดาอย่างไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นได้ชิมลูกปืนของพ่อตาแน่ ๆการทำความรู้จักและคุยกันก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นการสู่ขอไปในตัว อีกทั้งนิโคไลสัญญาว่าจะดูแลไอลดากับน้องเมย์ให้ดีที่สุด แต่ก็น่าอายเหลือเกินที่นิโคไลต้องรับรู้ว่าไอลดาหมั้นกับกันตพงษ์ทำไม เมื่อถอนหมั้นกันแล้วก็ต้องใช้หนี้คืนกลับไป ซึ่งนิโคไลยินที่จะจัดการส่วนนี้ให้ในฐานะลูกเขย ส่วนเรื่องการเจรจาขอให้ไอลดากับน้องเมย์ไปอยู่อเมริกานั้นรอไว้ก่อน เพราะมันเร็วเกินไปกลัว ตากับยายจะรับไม่ทันต้องให้เวลากับท่านด้ว

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 71

    “งั้นเข้าไปในนั่งในห้องรับแขกก่อนนะคะ รอไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่อีกสักพักโน่นแหละค่ะ” ลัลลดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเชิญทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก ทว่าไม่ได้สังเกตสีหน้าบุตรสาวเลย ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแค่ไหน มีความรู้สึกว่ามันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียเหลือเกิน และดูเหมือนว่า นิโคไลจะไม่เกรงกลัวกับความจริงเลย“เชิญนั่งนะคะ ยัยไอซ์” ลัลลดาเป็นคนบอกอีกครั้ง พร้อมกับเรียกบุตรสาวเพื่อเรียกสติของเธอ เนื่องจากสังเกตดูว่ามีอาการเหม่อลอย พอได้สติไอลดาก็ปรับอารมณ์ให้เรียบเฉย“คุณพ่อกับคุณแม่ลงมาก็ดีค่ะ ไอซ์มีเรื่องจะคุยด้วย”“เกี่ยวกับเราทุกคนเลยเหรอลูก คุณนิโคไลด้วยหรือเปล่า” บิดาถามพลางมองสองหนุ่มสลับกัน“เอ่อ” ไอลดากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ส่วนมารดาก็ช่างสังเกต กระทั่งสายตาเหลือบเห็นสองมือที่ประสานกันไว้แน่น เหมือนมีความประหม่าและหวาดหวั่น แต่ที่สะดุดตาเลยนั่นคือ นิ้วนางข้างซ้ายไม่มีแหวนอีกแล้ว“เอ่อ ไอซ์กับคุณกัน” มารดาแค่เกริ่นเ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 70

    “พี่ก็พยายามแล้ว แต่ก็เปลี่ยนให้มารักไอซ์เหมือนน้องสาวไม่ได้เหมือนกัน พี่รักไอซ์นะ” ให้ตายสิ เธออยากจะแยกร่างได้เป็นสองร่างเสียเหลือเกินจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“ไอซ์... ไอซ์รู้ค่ะ เราหยุดซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะ ไอซ์ไม่อยากทำให้พี่กันเสียใจไปมากกว่านี้ เป็นพี่ชายของไอซ์เถอะนะคะ” อย่างไรเสียเธอก็ยังยืนยันคำเดิมสินะ“ถามจริงๆ พ่อของน้องเมย์เป็นใคร แล้วตอนนี้เขามาขอคืนดีกับไอซ์เหรอ”“คือ ค่ะ ไอซ์ไม่อยากให้พ่อลูกต้อง... ไม่อยากขัดขวาง”“พี่เข้าใจ” เข้าใจ ทว่าหัวใจนี่สิที่กำลังเจ็บอยู่ ความจริงเขาอกหักตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ทำให้เธอเป็นคู่หมั้นแล้วแสร้งว่ามีความสุข ทั้งที่เป็นทุกข์มาโดยตลาดเพราะบังคับ รักเองเจ็บเองมานานแล้ว“ไอซ์ขอโทษค่ะพี่กัน” เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะที่เขาเอื้อมมือลงไปจับที่มือเรียวพลางมองไปที่แหวนหมั้น“ละครของเราสองคนคงจบแล้วสินะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหม่นเล็กน้อย“ฝืนไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นนะคะ ไอซ์อยากให้พี่กันได้เจอใครสักคนที่รักพ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 69

    ช่วงเวลาต่อมา ประมาณหกโมงเย็น ไอลดาพาน้องเมย์ออกมาวิ่งเล่นที่หน้าบ้าน พร้อมกับเจ้าโกโก้อย่างสนุกสนาน ความน่ารักสดใสของน้องเมย์ ทำให้เธอยิ้มแย้มมีความสุขลืมปัญหา และความทุกข์ไปได้ตลอดระยะสองปีที่น้องเมย์ถือกำเนิด อีกทั้งน้องเมย์คือกำลังใจสำคัญของชีวิต และเป็นคนที่ทำให้เธอยอมใจอ่อนกับนิโคไล เพียงเพราะอยากให้ลูกมีพ่อ อีกอย่างพ่อต้องการลูก ก็ได้แต่หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีแม้จิตใจของใครบางคนอาจจะชอกช้ำ แต่เชื่อว่ามันจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็ทุกข์เพราะความคิดถึง และเพิ่งจะสุขก็ตอนที่ละทิ้งทิฐินี่เอง“น้องเมย์ ชอบโกโก้ไหมลูก” ไอลดาเอ่ยถามน้องเมย์ขณะที่กำลังหยอกล้อกับเจ้าโกโก้“ชอบค่ะ” น้องเมย์ตอบสั้นๆ และยิ้มสดใส“แล้วชอบลุงฝรั่งไหม” ไอลดาแสร้งถามไปอย่างนั้นเอง เพราะเด็กยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นยังไง“ลุงพะหลั่งใจดี” เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้ว ทำให้คนที่กำลังเดินมาจากหน้าบ้านได้ยินเข้าพอดี”“กำลังคุยอะไรกันอยู่จ๊ะสองแม่ลูก” กันตพงษ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงส

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 68

    “พูดอย่างนี้หมายความว่า เขามาตามหาไอซ์เหรอ ไหน มันอยู่ไหน มันทำลูกพ่อท้องแล้วไม่รับผิดชอบเนี่ย”“คุณพ่อคะ เขาไม่รู้ว่าไอซ์ท้องนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รับผิดชอบ”“เขามาตามง้อไอซ์เหรอลูก” มารดาถามด้วยความอยากรู้“พ่อกับแม่จะโกรธเขาไหมคะ แต่ว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย” ไอลดายังไม่กล้าบอกว่าเขาอยู่ที่ไหน แค่หยั่งเชิงหากนิโคไลอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น“เขาอยู่ที่ไหน มาเมืองไทยแล้วหรือยัง” มารดาถามราวกับจะหาเรื่องเขาเสียอย่างนั้น แบบนี้ใครจะกล้าบอกล่ะ“คงต้องคุยกันหน่อยนะลูก ตามประสาลูกผู้ชาย จะโกรธเหรอก็คงไม่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นพ่อของน้องเมย์ ลูกเสียอีกที่ผิดเพราะไม่ยอมบอกเขา ทำให้น้องเมย์เป็นกำพร้าพ่อมาจนลูก 2 ขวบ” บิดาให้ความเห็น“ก็ตอนนั้นไอซ์คิดว่าเขาจะไม่สนใจไอซ์นี่คะ”“ไอซ์ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือยัง หรืออยู่อเมริกา” บิดาถามย้ำคำของมารดาอีกครั้

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 67

    “ก็ ฝึกความอดทนหน่อยสิคะ” พูดจบเธอก็เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบตรงแก้มที่สากไปด้วยเคราหนักๆ หนึ่งที ก่อนจะดันตัวออกแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ จูบนี้มันทดแทนคำว่ารักได้ แต่สำหรับเขายังไม่เพียงพอว่าแล้วจึงรีบวิ่งตามไปทันที กระทั่งวิ่งทันจึงโอบกอดเธอเอาไว้และพรมจูบตรงเรือนผม จากนั้นจึงเดินทอดน่องไปตามริมหาดเรื่อยๆ งดคุยเรื่องเครียดเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญกับปัญหา ไม่ใช่แค่กับกันตพงษ์เท่านั้น แต่กับครอบครัวของไอลดาด้วยสามวันสองคืนกับการใช้ชีวิตบนเกาะ โดยที่ฝ่ายกรุงเทพฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง ทุกคนเข้าใจว่าไอลดาไปกับแขกก็เท่านั้น แต่มาบัดนี้ วันนี้ทั้งสองเดินทางกลับ ทุกคนจะได้รู้ว่านิโคไลไม่ใช่แขกอีกต่อไปต่อมาเมื่อถึงกรุงเทพฯ ไอลดาขอให้นิโคไลอยู่ที่โรงแรมเสียก่อน เพราะเธอต้องไปบอกความจริงกับบิดาและมารดา เพื่อเปิดทางเสียก่อน หากไปตอนนี้มีหวังปัญหาอาจตามมาได้ แต่นิโคไลหรือจะเชื่อฟัง“แม่จ๋า...” เสียงเด็

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status