Share

บทที่ 3

last update Huling Na-update: 2025-04-10 11:11:03

“ขอเป็นเตกีลา ว่าแต่คืนนี้ใครเลี้ยงเนี่ย” ไอลดาสั่งและแสร้งถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้หวังจะให้ใครมาเลี้ยง

“มากับหนุ่ม ๆ งานนี้ก็ต้องให้หนุ่มเลี้ยงสิ ใช่ไหม เดฟ” เทรซีย์หันไปขอความเห็นจากเพื่อนชายในกลุ่มซึ่งชื่อเดวิด

“ใช่ สั่งเลย เผลอๆ อาจมีหนุ่มๆ ในนี้อยากจะเสนอตัวเลี้ยง ดริ้งค์ด้วยก็เป็นได้นะ” เดวิดให้ความยิ้มๆ จากนั้นจึงลุกไปพร้อมกับเพื่อนผู้ชายคนอื่น เพื่อสั่งเครื่องดื่มและนำมาให้สาวๆ ที่โต๊ะ

“ถามจริงโต๊ะเรามากันแค่สี่คนเองเหรอ ไหนว่าปาร์ตี้เพื่อนๆ ที่เรียนจบพร้อมกันไง แต่กลุ่มยัยคาร่าตั้งสองโต๊ะ” 

“นี่สังเกตด้วยเหรอเนี่ย กลุ่มยัยนั่นนักเที่ยวทั้งนั้นนี่จ้ะ แถมยังมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีก ส่วนกลุ่มเราเดี๋ยวก็มาสมทบ ฉันชวนเพื่อนๆ ประมาณสิบคน เอาเป็นว่าทั้งคณะ ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่หมด” 

“งั้นก็คงสนุกแน่ๆ แต่เราเหมาที่นี่หรือเปล่าเนี่ย” 

“เปล่า ใครจะกล้าเหมาล่ะเพื่อน แขกทั่วไปก็มีเราไม่ได้มีอิทธิพลขนาดนั้น ว่าแต่หนุ่มๆ น่าสนนะ” เทรซีย์พูดพลางมองไปรอบๆ ก็สะดุดตาที่หนุ่มหล่อสามคนซึ่งนั่งอยู่ตรงเคาน์เตอร์ไม่ห่างจากพวกเธอนัก แต่เสียอย่างเดียวคือมองเห็นแต่เพียงแผ่นหลังเท่านั้น

  “เห็นหนุ่มๆ เป็นไม่ได้เลยนะเทรซีย์ อดใจไว้บ้าง” 

“อายุขนาดนี้แล้วฉันก็อยากจะมีประมาณว่า เดทแรกในค่ำคืนปาร์ตี้สักครั้ง และพรุ่งนี้ก็สานสัมพันธ์ต่อ” ที่เทรซีย์พูดเช่นนี้ก็เพราะเวลามาเที่ยวทีไรได้แค่ความสัมพันธ์แค่ข้ามคืนน่ะสิ และเธอก็เป็นนักเที่ยวตัวยงเช่นกัน ผิดกับไอลดาลิบลับแต่ใครจะรู้ เพราะว่าไอลดาไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่นอนกับใครก็ได้ แต่แอบคิดอยู่ลึกๆ ว่าอยากจะมีใครสักคนเหมือนกันและอยากจะจริงจังด้วยมากกว่าที่จะเป็นทางผ่าน

“ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะเทรซีย์ เรามันไม่ใช่พวกฮอตนี่นะ จริงไหม”

“แต่เราสวยย่ะ” เทรซีย์บอกด้วยความมั่นใจ ขณะเดียวกันนั้นบรรดาเพื่อนๆ ที่เรียนคณะเดียวกันก็เริ่มทยอยกันเข้ามาร้านในแล้วเกินกว่าครึ่ง อย่างที่เทรซีย์บอกว่าทั้งคณะ ก็มากโขอาจจะเต็มผับเลยก็ว่าได้ 

ทุกคนเริ่มดื่มกินและพากันโยกย้ายไปตามเสียงเพลง แอลกอฮอลเข้าปากก็เริ่มสนุก บ้างก็มีอาการเมาแล้ว ยกเว้นก็แต่ไอลดาที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเมาแต่อย่างใด เพราะเธอดื่มเตกีลาเพียงแก้วเดียวแล้วก็ออกไปเต้นร่วมกับเพื่อนๆ และแล้วความเจิดจรัสของเธอเริ่มไปเตะตาหนุ่มๆ ที่ไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่ หนุ่มๆ ในกลุ่มของคาร่ามองเธอเป็นตาเดียวเนื่องจากความโดดเด่นที่เป็นสาวไทยเพียงคนเดียวในคณะ 

“สนใจไหมครูส” คาร่าเอ่ยถามกับเพื่อนผู้ชายในกลุ่มของเธอ ขณะที่ชายหนุ่มกำลังเพ่งมองไอลดาท่ามกลางแสงไฟสลัว 

เขาไม่ใช่นักศึกษา หากแต่เป็นคนนอกที่คาร่าชวนมาเที่ยวด้วยกันนั่นเอง ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้จักเขาเลย 

“ใช่ เพื่อนเธอหรือเปล่า” เขาถามพลางมองไปที่ไอลดาตามเดิม

“เปล่า แค่รู้จักและเรียนคณะเดียวกันเท่านั้นเอง ไม่ได้สนิท” คาร่าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบพลางยักไหล่และเย้ปาก 

“เป็นสาวเอเชียวใช่ไหม เธอสวยมากโดดเด่นมาเชียว” ครูส ออกปากชมพร้อมกับดวงตาวาวโรจน์ ซึ่งทำให้คาร่ามองออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไร 

“ถ้าสนใจ ไม่เห็นจะยาก” คาร่าบอกอย่างมีแผน 

“แล้วคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ” 

“หึๆ นักเที่ยวอย่างหล่อนน่ะ ยังไงก็ได้ ง่ายๆ อยู่แล้ว” 

“น่าสนใจ สาวเอเชียน่าลอง” 

“อยากได้ก็เอาสิ จะกลัวอะไร”

“แล้วเธอได้อะไรคาร่า” ดูเหมือนเขาจะรู้ทันความคิดของเธอ 

“ฉัน... ไม่ได้อะไรสักหน่อย” 

“บอกมาเถอะ ฉันรู้ทันหรอกน่าเธอไม่ค่อยชอบคนเอเชีย” นี่แหละที่ครูสรู้ทัน

“ฉันไม่เคยชอบหน้าหล่อนอยู่แล้วตั้งแต่เรียนมาจนจบเนี่ย ผู้หญิงเอเชียผิวขาวเหลืองคนเดียวในคณะ น่ารังเกียจแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีแต่คนสนใจแม่นี้นัก ถ้านายทำให้เธอนอนอยู่บนเตียงกับนายได้อย่าลืมถ่ายคลิปเอาไว้ด้วย ฉันจะเอาไว้เยาะเย้ยให้สะใจเล่นๆ” จะบอกว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิวก็ยังได้ เพราะคาร่าผิวสีน้ำผึ้งที่ผ่านการอาบแดดมาอย่างเธอนี่แหละผู้ดีนักและสำหรับชาติเอเชียต่อให้สวยแค่ไหนก็ถูกเหยียดสีผิวอยู่ดี

“เข้าใจแล้ว แต่แม้ว่าเธอจะเป็นคนเอเชียแต่ก็สวยบาดใจเชียวนะ” ให้ตายสิครูสยังจะชมไอลดาต่อหน้าคาร่าอีก 

“ไม่ต้องชมหล่อนต่อหน้าฉันจะได้ไหม ฉันไม่เคยมองว่าหล่อนสวยเลย” 

“โอเค เดี๋ยวจะไปยืนชมใกล้ๆ หูเธอเลย แต่หวังว่าเธอจะยังไม่มีแฟน” ครูสถามเพื่อความแน่ใจ เพราะไม่อยากจะยุ่งกับคนมีแฟน หากเป็นโสดล่ะก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

“แฟนน่ะไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ หล่อนก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบเที่ยวกลางคืนกับคู่หูอย่างเทรซีย์ เล่นสนุกแบบชั่วคืนสำหรับหล่อนก็คงไม่แปลก” 

“ถ้าอยากได้แล้วจะฝ่าด่านหนุ่มๆ ที่อยู่โต๊ะเดียวกับเธอยังไงดีล่ะ” ครูสถามเพราะเริ่มสนใจขึ้นมาจริงๆ 

“หาจังหวะเอาสิเพื่อน อาศัยช่วงเมาก็ได้นี่นะ จริงไหม”

 

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 72 (จบ)

    “อยู่กันแค่นี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้คุยกันแบบผู้ใหญ่ เพราะผมเองก็อยากจะรู้จักคุณ” ถึงเวลาที่ลูกผู้ชายจะต้องคุยกันเสียทีสินะ ซึ่งไม่มีอะไรมากเพียงแต่ภูชิตอยากรู้จักคนที่จะมาเป็นพ่อของน้องเมย์ และเป็นสามีของบุตรสาวเท่านั้นเองเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป หัวนอนปลายเท้า เพราะรู้คร่าวๆ ว่า มาด้วยเรื่องธุรกิจกับกันตพงษ์แต่เมื่อนิโคไลเล่าให้ฟังจึงได้รู้ ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบเครื่องบินในอเมริกา ส่วนเรื่องที่รู้จักกับไอลดาอย่างไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นได้ชิมลูกปืนของพ่อตาแน่ ๆการทำความรู้จักและคุยกันก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นการสู่ขอไปในตัว อีกทั้งนิโคไลสัญญาว่าจะดูแลไอลดากับน้องเมย์ให้ดีที่สุด แต่ก็น่าอายเหลือเกินที่นิโคไลต้องรับรู้ว่าไอลดาหมั้นกับกันตพงษ์ทำไม เมื่อถอนหมั้นกันแล้วก็ต้องใช้หนี้คืนกลับไป ซึ่งนิโคไลยินที่จะจัดการส่วนนี้ให้ในฐานะลูกเขย ส่วนเรื่องการเจรจาขอให้ไอลดากับน้องเมย์ไปอยู่อเมริกานั้นรอไว้ก่อน เพราะมันเร็วเกินไปกลัว ตากับยายจะรับไม่ทันต้องให้เวลากับท่านด้ว

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 71

    “งั้นเข้าไปในนั่งในห้องรับแขกก่อนนะคะ รอไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่อีกสักพักโน่นแหละค่ะ” ลัลลดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเชิญทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก ทว่าไม่ได้สังเกตสีหน้าบุตรสาวเลย ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแค่ไหน มีความรู้สึกว่ามันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียเหลือเกิน และดูเหมือนว่า นิโคไลจะไม่เกรงกลัวกับความจริงเลย“เชิญนั่งนะคะ ยัยไอซ์” ลัลลดาเป็นคนบอกอีกครั้ง พร้อมกับเรียกบุตรสาวเพื่อเรียกสติของเธอ เนื่องจากสังเกตดูว่ามีอาการเหม่อลอย พอได้สติไอลดาก็ปรับอารมณ์ให้เรียบเฉย“คุณพ่อกับคุณแม่ลงมาก็ดีค่ะ ไอซ์มีเรื่องจะคุยด้วย”“เกี่ยวกับเราทุกคนเลยเหรอลูก คุณนิโคไลด้วยหรือเปล่า” บิดาถามพลางมองสองหนุ่มสลับกัน“เอ่อ” ไอลดากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ส่วนมารดาก็ช่างสังเกต กระทั่งสายตาเหลือบเห็นสองมือที่ประสานกันไว้แน่น เหมือนมีความประหม่าและหวาดหวั่น แต่ที่สะดุดตาเลยนั่นคือ นิ้วนางข้างซ้ายไม่มีแหวนอีกแล้ว“เอ่อ ไอซ์กับคุณกัน” มารดาแค่เกริ่นเ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 70

    “พี่ก็พยายามแล้ว แต่ก็เปลี่ยนให้มารักไอซ์เหมือนน้องสาวไม่ได้เหมือนกัน พี่รักไอซ์นะ” ให้ตายสิ เธออยากจะแยกร่างได้เป็นสองร่างเสียเหลือเกินจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“ไอซ์... ไอซ์รู้ค่ะ เราหยุดซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะ ไอซ์ไม่อยากทำให้พี่กันเสียใจไปมากกว่านี้ เป็นพี่ชายของไอซ์เถอะนะคะ” อย่างไรเสียเธอก็ยังยืนยันคำเดิมสินะ“ถามจริงๆ พ่อของน้องเมย์เป็นใคร แล้วตอนนี้เขามาขอคืนดีกับไอซ์เหรอ”“คือ ค่ะ ไอซ์ไม่อยากให้พ่อลูกต้อง... ไม่อยากขัดขวาง”“พี่เข้าใจ” เข้าใจ ทว่าหัวใจนี่สิที่กำลังเจ็บอยู่ ความจริงเขาอกหักตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ทำให้เธอเป็นคู่หมั้นแล้วแสร้งว่ามีความสุข ทั้งที่เป็นทุกข์มาโดยตลาดเพราะบังคับ รักเองเจ็บเองมานานแล้ว“ไอซ์ขอโทษค่ะพี่กัน” เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะที่เขาเอื้อมมือลงไปจับที่มือเรียวพลางมองไปที่แหวนหมั้น“ละครของเราสองคนคงจบแล้วสินะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหม่นเล็กน้อย“ฝืนไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นนะคะ ไอซ์อยากให้พี่กันได้เจอใครสักคนที่รักพ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 69

    ช่วงเวลาต่อมา ประมาณหกโมงเย็น ไอลดาพาน้องเมย์ออกมาวิ่งเล่นที่หน้าบ้าน พร้อมกับเจ้าโกโก้อย่างสนุกสนาน ความน่ารักสดใสของน้องเมย์ ทำให้เธอยิ้มแย้มมีความสุขลืมปัญหา และความทุกข์ไปได้ตลอดระยะสองปีที่น้องเมย์ถือกำเนิด อีกทั้งน้องเมย์คือกำลังใจสำคัญของชีวิต และเป็นคนที่ทำให้เธอยอมใจอ่อนกับนิโคไล เพียงเพราะอยากให้ลูกมีพ่อ อีกอย่างพ่อต้องการลูก ก็ได้แต่หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีแม้จิตใจของใครบางคนอาจจะชอกช้ำ แต่เชื่อว่ามันจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็ทุกข์เพราะความคิดถึง และเพิ่งจะสุขก็ตอนที่ละทิ้งทิฐินี่เอง“น้องเมย์ ชอบโกโก้ไหมลูก” ไอลดาเอ่ยถามน้องเมย์ขณะที่กำลังหยอกล้อกับเจ้าโกโก้“ชอบค่ะ” น้องเมย์ตอบสั้นๆ และยิ้มสดใส“แล้วชอบลุงฝรั่งไหม” ไอลดาแสร้งถามไปอย่างนั้นเอง เพราะเด็กยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นยังไง“ลุงพะหลั่งใจดี” เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้ว ทำให้คนที่กำลังเดินมาจากหน้าบ้านได้ยินเข้าพอดี”“กำลังคุยอะไรกันอยู่จ๊ะสองแม่ลูก” กันตพงษ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงส

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 68

    “พูดอย่างนี้หมายความว่า เขามาตามหาไอซ์เหรอ ไหน มันอยู่ไหน มันทำลูกพ่อท้องแล้วไม่รับผิดชอบเนี่ย”“คุณพ่อคะ เขาไม่รู้ว่าไอซ์ท้องนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รับผิดชอบ”“เขามาตามง้อไอซ์เหรอลูก” มารดาถามด้วยความอยากรู้“พ่อกับแม่จะโกรธเขาไหมคะ แต่ว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย” ไอลดายังไม่กล้าบอกว่าเขาอยู่ที่ไหน แค่หยั่งเชิงหากนิโคไลอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น“เขาอยู่ที่ไหน มาเมืองไทยแล้วหรือยัง” มารดาถามราวกับจะหาเรื่องเขาเสียอย่างนั้น แบบนี้ใครจะกล้าบอกล่ะ“คงต้องคุยกันหน่อยนะลูก ตามประสาลูกผู้ชาย จะโกรธเหรอก็คงไม่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นพ่อของน้องเมย์ ลูกเสียอีกที่ผิดเพราะไม่ยอมบอกเขา ทำให้น้องเมย์เป็นกำพร้าพ่อมาจนลูก 2 ขวบ” บิดาให้ความเห็น“ก็ตอนนั้นไอซ์คิดว่าเขาจะไม่สนใจไอซ์นี่คะ”“ไอซ์ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือยัง หรืออยู่อเมริกา” บิดาถามย้ำคำของมารดาอีกครั้

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 67

    “ก็ ฝึกความอดทนหน่อยสิคะ” พูดจบเธอก็เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบตรงแก้มที่สากไปด้วยเคราหนักๆ หนึ่งที ก่อนจะดันตัวออกแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ จูบนี้มันทดแทนคำว่ารักได้ แต่สำหรับเขายังไม่เพียงพอว่าแล้วจึงรีบวิ่งตามไปทันที กระทั่งวิ่งทันจึงโอบกอดเธอเอาไว้และพรมจูบตรงเรือนผม จากนั้นจึงเดินทอดน่องไปตามริมหาดเรื่อยๆ งดคุยเรื่องเครียดเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญกับปัญหา ไม่ใช่แค่กับกันตพงษ์เท่านั้น แต่กับครอบครัวของไอลดาด้วยสามวันสองคืนกับการใช้ชีวิตบนเกาะ โดยที่ฝ่ายกรุงเทพฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง ทุกคนเข้าใจว่าไอลดาไปกับแขกก็เท่านั้น แต่มาบัดนี้ วันนี้ทั้งสองเดินทางกลับ ทุกคนจะได้รู้ว่านิโคไลไม่ใช่แขกอีกต่อไปต่อมาเมื่อถึงกรุงเทพฯ ไอลดาขอให้นิโคไลอยู่ที่โรงแรมเสียก่อน เพราะเธอต้องไปบอกความจริงกับบิดาและมารดา เพื่อเปิดทางเสียก่อน หากไปตอนนี้มีหวังปัญหาอาจตามมาได้ แต่นิโคไลหรือจะเชื่อฟัง“แม่จ๋า...” เสียงเด็

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status