แชร์

บทที่ 5

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-10 11:11:25

“อ๋อ เอ่อ ฉันมากับเพื่อนค่ะ เรามากันหลายคน โน่นไงคะกำลังสนุกเชียว” พูดจบเธอก็บุ้ยหน้าไปตรงกลางฟลอ ซึ่งบอกได้คำเดียวว่าเยอะมาก นับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เท่านี้เขาก็เดาได้แล้วว่าพวกเธอมาจากที่ไหนกัน

“ให้ผมเดา บัณฑิตจากจอร์จทาวน์” เขาเดาได้ถูกต้องเลยทีเดียว ซึ่งเธอคิดว่าเขาได้ข้อมูลมาจากคาร่านั่นแหละ

“อะไรทำให้คุณเดาได้ถูกต้องขนาดนั้น” ไอลดาหันมาถามเขาด้วยน้ำเสียงหวาน สายตายั่วยวนแปลกๆ 

“ก็ไม่เห็นจะยาก ผับนี้ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด อีกอย่างคุณมากับเพื่อนนับสิบๆ คนแบบนี้ ก็ต้องเป็นกลุ่มนึกศึกษาอยู่แล้ว” เขาเดาได้ถูกต้องอีกแล้ว และมันยิ่งสร้างความมั่นใจให้เธอเพิ่มมากขึ้น ว่าเขาคือคนที่คาร่าส่งมาชัวร์

“แสดงว่าคุณก็มาที่นี่บ่อย ถึงได้ดูออกขนาดนี้ หรือไม่ก็ควงสาวนักศึกษามาด้วยหรือเปล่าคะ” เธอถามหยั่งเชิง

“หึๆ เห็นผมควงใครล่ะครับ” เขายิ้มและส่งสายตาเจ้าชู้ให้กับเธอ ทำให้รู้สึกเขิน แต่ไม่ชอบความเจ้าชู้ของเขาเลย นิสัยเพลย์บอยแบบนี้ไม่ขอใกล้จะดีกว่า แต่เพื่อให้แผนของคาร่าดำเนินไปได้ ไอลดาต้องเล่นไปตามน้ำเสียก่อน จากนั้นจะตอกหน้าผู้ชายคนนี้ให้หงายไปเลย 

“ก็ไม่แน่ว่าคนที่คุณควงมาอาจจะอยู่ในกลุ่มของเพื่อนฉันก็ได้นี่คะ” 

“หึๆ พวกเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของผม” นิโคไลพูดตรงๆ ซึ่งมันทำให้เธออยากจะหัวเราะเสียเหลือเกิน

“คุยกันตั้งนาน ผมนิโคไล แอนตันครับ แล้วคุณ...” นิโคไลแนะนำตัวกึ่งบังคับให้เธอบอกชื่อตัวเองอีกต่างหาก ถ้าไม่บอกคงจะเป็นการเสียมารยาททางสังคมสินะ 

“ไอลดา วีระวัชรนานนท์” ไอลดาแนะนำตัวรัวๆ ชนิดที่เขาฟังไม่ทันเลยทีเดียว

“หืม! เอ่อ อีกทีสิครับ” เขาฟังชื่อยาวๆ รัวๆ ของเธอแล้วระบุไม่ได้เลยว่าเป็นคนชาติไหน

“ไอลดา วีระวัชรนานนท์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก” 

“พระเจ้า! ชื่อคุณ ยาวชะมัดและผมฟังไม่ออก” 

“เรียกสั่นๆ ว่าที่รักก็ได้ค่ะ” เธอแกล้งยั่วเพื่อให้เขาเข้าใจว่าเธอกินง่าย

“ว่าไงนะครับ ผมได้ยินไม่ถนัด ที่รักอย่างนั้นเหรอ” เขาก็แกล้งถามไปอย่างนั้นเอง

“หึๆ เรียกไอซ์เถอะค่ะ” เธอบอกชื่อเล่นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นๆ เหมือนชื่อนั่นแหละ

“ใจคุณคงจะเหมือนชื่อ” เขาถามกลับ แต่น้ำเสียงช่างตรงข้ามกับเธอเสียจริง เซ็กซี่แถมยังหื่นอีกต่างหาก เธอคิดและยักไหล่นิดๆ ก่อนจะเอ่ย

“ตรงข้ามกันเลยต่างหาก ใจฉัน... ร้อนเหมือนไฟ” ไอลดาปรับน้ำเสียงให้เบาลง อีกทั้งสีหน้าและแววตาเป็นประกาย เหมือนกำลังยั่วยวนให้เขาตกหลุมพราง เข้าทางคนเจ้าชู้เลยทีเดียว

“ผมอยากลองเป็นน้ำ เอาไว้ดับไฟ” คำตอบที่ได้จากปากเขามันทำให้เธอถึงกับอมยิ้ม พร้อมกับยกเตกีลาขึ้นดื่มจนกระทั่งหมดแก้ว 

“ฉันนึกว่าคุณอยากจะเป็นน้ำมันเสียอีก” เธอกำลังยั่วยุให้เขาตอบโต้ อ่อยเพื่อให้เขาพูดอะไรที่มันมากกว่านี้

“ผมจะเป็นน้ำมันตอนที่ไฟลุกเบาๆ แต่เมื่อไฟลุกโหมกระหน่ำขึ้นผมก็จะกลายเป็นน้ำ ดับไฟในกายคุณให้สงบอีกครั้งไง” ให้ตายสิ เธอปล่อยให้เขาพูดจาสองแง่สองง่ามอยู่ได้ แต่เธอก็อยากฟังลีลาการจีบหญิงของเขานี่นะ 

“คุณเนี่ยช่าง... พูดจาเพ้อเจ้อได้เก่งเหมือนกันนะคะ นี่เราเพิ่งเจอกันนะเนี่ย” ไอลดาหันมาสบตาแล้วพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงหวาน

“ผมก็ไม่อยากให้มันเป็นแค่เรื่องเพ้อเจ้อสักเท่าไหร่” คำพูดของเขาดูเหมือนจะยิ่งตรงขึ้นเรื่อยๆ แสดงเจตนารมได้เป็นอย่างดี ว่าคิดอะไรกับเธอ

“หึๆ” ไอลดาได้แต่หัวเราะในลำคอเบาๆ เท่านั้น แล้วจึงมองไปเบื้องหน้าเหมือนจะเป็นการหยุดสนทนา

“เตกีล่าที่ผมสั่งให้ คุณไม่ยักแตะต้อง” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเธอนิ่งไป

“นี่เป็นของคุณเหรอคะ แล้วฉันไว้ใจได้หรือเปล่าล่ะคะ” ไอลดาหันกลับมาถามอีกครั้ง พลางหรี่ตาลงเล็กน้อย และหยักยิ้มนิดหน่อยตรงมุมปาก

“ผมไม่มอมใครหรอกครับ ถ้าไม่จำเป็น คิดเสียว่าเพื่อมิตรภาพ” ตายจริง การที่เธอยอมคุยกับเขาอยู่นาน ก็หมายความว่าสร้างมิตรภาพสินะ ผู้ชายเนี่ยช่างเออออเก่งนัก

“งั้นก็ขอบคุณมากค่ะ” จบคำไอลดาจึงหันไปหยิบเอาเครื่องดื่มที่นิโคไลเป็นคนเลี้ยง แล้วชูให้เขาดูก่อนจะยกขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว เพราะมันเป็นแก้วเล็กๆ หรือเรียกว่าแก้วช็อตนั่นเอง

“คุณดื่มแบบไม่กลัวเมา” เขาแสร้งถาม

“ฉันเพิ่งดื่มไปแค่สามช็อตเองนะคะ ไม่ได้เมาง่ายขนาดนั้น”

เธอพูดเช่นนี้ก็เพราะว่ามันเป็นเครื่องดื่มประจำตัวเธอน่ะสิ และแค่สามช็อตเล็กๆ มันไม่ได้ทำให้เมาได้จริงๆ นั่นแหละ 

“สงสัยผมคงจะมอมเหล้าผิดคนซะแล้ว” เขาแกล้งแซว

“เมื่อกี๊คุณเพิ่งบอกว่า ไม่ชอบมอมใครอยู่เลย” เธอถามเสียงหวาน

“ผมบอกว่าถ้าไม่จำเป็น แต่ผมอยากมอมคุณ แต่ท่าจะมอมยากซะแล้ว” 

“หึๆ” เธอหัวเราะและเอียงคอมองเขาเล็กน้อยเพื่อแสดงอาการยั่วยวน และเขาก็ชอบเสียด้วยสิ

“ขอตัวนะคะ” หัวเราะยั่วๆ แล้วก็ลุกเดินจากไปทำให้เขาอารมณ์ค้าง ขณะที่เธอเดินอยู่ สายตาของเขาดันจับจ้องไปที่ท่วงท่าการเดินเฉิดฉายราวกับนางแบบ แต่มันดึงดูดสายตาก็ตรงที่สะโพกผายที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะการเดินเชื่องช้า ตามด้วยท่าทางสะบัดปลายผมเล็กน้อย 

นิโคไลถึงกับมองตาไม่กระพริบ พลางกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความลืมตัว คิดว่าคืนนี้เขาจะทำให้เธอมาซบอยู่แทบอกให้ได้เชียว เพราะยั่วเก่งขนาดนี้ เชื่อแน่ว่าเธอไม่ธรรมดา และเช่นเดียวกันไอลดาก็แกล้งปลีกตัวมาจากนิโคไลเพื่อสมบทกับเพื่อนๆ และเต้นรำกันที่กลางฟลอ

  นิโคไลไม่อยากชวดของดี เพราะฉะนั้นยิ่งรุกเร็วก็ยิ่งได้เร็ว ว่าแล้วจึงเดินตรงไปยังกลางฟลอช้าๆ เพราะต้องแหวกเหล่าบรรดาแขกชายหญิงที่กำลังเต้นอย่างสนุกสนาน กระทั่งเขาก็เดินไปจนถึงจุดที่ไอลดายืนอยู่ จากนั้นก็แทรกตัวอยู่ทางด้านหลังแล้วโน้มหน้าเข้ามากระซิบข้างหูของไอลดาเบาๆ 

“คุณหนีผมมา” นิโคไลกระซิบเสียงนุ่ม ทำให้ไอลดาเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาโดยไม่ให้เขารู้ ขณะเดียวกันเพื่อนรักอย่างเทรซีย์ก็เห็นนิโคไลอยู่ก่อนแล้ว จึงได้แต่ยิ้มก่อนจะเอ่ยกับเพื่อน

“ฉันว่าเธอมีเพื่อนเต้นรำแล้วนะ” ทันทีที่เทรซีย์พูดจบปุ๊บเสียงเพลงก็จบลงและถูกเปลี่ยนเป็นจังหวะช้า โรแมนติกเพื่อให้คู่หนุ่มสาวได้เต้นรำ 

“ฉันไปก่อนนะ” เทรซีย์กล่าวยิ้มๆ และรีบปลีกตัวไปจากเพื่อนทันที

“เดี๋ยวสิเทรซีย์” ไอลดาเรียกเพื่อนเบาๆ แต่ก็รั้งเอาไว้ไม่ทันเสียแล้ว เทรซีย์เองก็ดูเหมือนจะรู้ดีเหลือเกินว่าชายคนนี้มาเพื่ออะไรกันแน่

“เต้นรำกับผมสักเพลงนะ” นิโคไลกระซิบข้างหูเธอจากทางด้านหลังอีกครั้ง 

“ฉันไม่เต้นรำกับคนแปลกหน้าค่ะ” เธอตอบเสียงหวานราวกับการอ่อยเป็นผลสำเร็จ เพราะเขากำลังติดกับ

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 72 (จบ)

    “อยู่กันแค่นี้ก็ดีเหมือนกัน เราจะได้คุยกันแบบผู้ใหญ่ เพราะผมเองก็อยากจะรู้จักคุณ” ถึงเวลาที่ลูกผู้ชายจะต้องคุยกันเสียทีสินะ ซึ่งไม่มีอะไรมากเพียงแต่ภูชิตอยากรู้จักคนที่จะมาเป็นพ่อของน้องเมย์ และเป็นสามีของบุตรสาวเท่านั้นเองเพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไป หัวนอนปลายเท้า เพราะรู้คร่าวๆ ว่า มาด้วยเรื่องธุรกิจกับกันตพงษ์แต่เมื่อนิโคไลเล่าให้ฟังจึงได้รู้ ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการประกอบเครื่องบินในอเมริกา ส่วนเรื่องที่รู้จักกับไอลดาอย่างไรนั้นขอเก็บไว้เป็นความลับ เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็เป็นได้ชิมลูกปืนของพ่อตาแน่ ๆการทำความรู้จักและคุยกันก็ไม่ต่างอะไรกับเป็นการสู่ขอไปในตัว อีกทั้งนิโคไลสัญญาว่าจะดูแลไอลดากับน้องเมย์ให้ดีที่สุด แต่ก็น่าอายเหลือเกินที่นิโคไลต้องรับรู้ว่าไอลดาหมั้นกับกันตพงษ์ทำไม เมื่อถอนหมั้นกันแล้วก็ต้องใช้หนี้คืนกลับไป ซึ่งนิโคไลยินที่จะจัดการส่วนนี้ให้ในฐานะลูกเขย ส่วนเรื่องการเจรจาขอให้ไอลดากับน้องเมย์ไปอยู่อเมริกานั้นรอไว้ก่อน เพราะมันเร็วเกินไปกลัว ตากับยายจะรับไม่ทันต้องให้เวลากับท่านด้ว

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 71

    “งั้นเข้าไปในนั่งในห้องรับแขกก่อนนะคะ รอไปทานมื้อค่ำด้วยกัน แต่อีกสักพักโน่นแหละค่ะ” ลัลลดาเอ่ยขึ้นพร้อมกับเชิญทุกคนเข้าไปในห้องรับแขก ทว่าไม่ได้สังเกตสีหน้าบุตรสาวเลย ว่ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแค่ไหน มีความรู้สึกว่ามันพร้อมหน้าพร้อมตาเสียเหลือเกิน และดูเหมือนว่า นิโคไลจะไม่เกรงกลัวกับความจริงเลย“เชิญนั่งนะคะ ยัยไอซ์” ลัลลดาเป็นคนบอกอีกครั้ง พร้อมกับเรียกบุตรสาวเพื่อเรียกสติของเธอ เนื่องจากสังเกตดูว่ามีอาการเหม่อลอย พอได้สติไอลดาก็ปรับอารมณ์ให้เรียบเฉย“คุณพ่อกับคุณแม่ลงมาก็ดีค่ะ ไอซ์มีเรื่องจะคุยด้วย”“เกี่ยวกับเราทุกคนเลยเหรอลูก คุณนิโคไลด้วยหรือเปล่า” บิดาถามพลางมองสองหนุ่มสลับกัน“เอ่อ” ไอลดากลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ ส่วนมารดาก็ช่างสังเกต กระทั่งสายตาเหลือบเห็นสองมือที่ประสานกันไว้แน่น เหมือนมีความประหม่าและหวาดหวั่น แต่ที่สะดุดตาเลยนั่นคือ นิ้วนางข้างซ้ายไม่มีแหวนอีกแล้ว“เอ่อ ไอซ์กับคุณกัน” มารดาแค่เกริ่นเ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 70

    “พี่ก็พยายามแล้ว แต่ก็เปลี่ยนให้มารักไอซ์เหมือนน้องสาวไม่ได้เหมือนกัน พี่รักไอซ์นะ” ให้ตายสิ เธออยากจะแยกร่างได้เป็นสองร่างเสียเหลือเกินจะได้ไม่ต้องแย่งกัน“ไอซ์... ไอซ์รู้ค่ะ เราหยุดซะตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่านะคะ ไอซ์ไม่อยากทำให้พี่กันเสียใจไปมากกว่านี้ เป็นพี่ชายของไอซ์เถอะนะคะ” อย่างไรเสียเธอก็ยังยืนยันคำเดิมสินะ“ถามจริงๆ พ่อของน้องเมย์เป็นใคร แล้วตอนนี้เขามาขอคืนดีกับไอซ์เหรอ”“คือ ค่ะ ไอซ์ไม่อยากให้พ่อลูกต้อง... ไม่อยากขัดขวาง”“พี่เข้าใจ” เข้าใจ ทว่าหัวใจนี่สิที่กำลังเจ็บอยู่ ความจริงเขาอกหักตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ทำให้เธอเป็นคู่หมั้นแล้วแสร้งว่ามีความสุข ทั้งที่เป็นทุกข์มาโดยตลาดเพราะบังคับ รักเองเจ็บเองมานานแล้ว“ไอซ์ขอโทษค่ะพี่กัน” เธอเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา ขณะที่เขาเอื้อมมือลงไปจับที่มือเรียวพลางมองไปที่แหวนหมั้น“ละครของเราสองคนคงจบแล้วสินะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงหม่นเล็กน้อย“ฝืนไปมันก็ไม่ได้ดีขึ้นนะคะ ไอซ์อยากให้พี่กันได้เจอใครสักคนที่รักพ

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 69

    ช่วงเวลาต่อมา ประมาณหกโมงเย็น ไอลดาพาน้องเมย์ออกมาวิ่งเล่นที่หน้าบ้าน พร้อมกับเจ้าโกโก้อย่างสนุกสนาน ความน่ารักสดใสของน้องเมย์ ทำให้เธอยิ้มแย้มมีความสุขลืมปัญหา และความทุกข์ไปได้ตลอดระยะสองปีที่น้องเมย์ถือกำเนิด อีกทั้งน้องเมย์คือกำลังใจสำคัญของชีวิต และเป็นคนที่ทำให้เธอยอมใจอ่อนกับนิโคไล เพียงเพราะอยากให้ลูกมีพ่อ อีกอย่างพ่อต้องการลูก ก็ได้แต่หวังว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดีแม้จิตใจของใครบางคนอาจจะชอกช้ำ แต่เชื่อว่ามันจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็ววัน เพราะที่ผ่านมาเธอเองก็ทุกข์เพราะความคิดถึง และเพิ่งจะสุขก็ตอนที่ละทิ้งทิฐินี่เอง“น้องเมย์ ชอบโกโก้ไหมลูก” ไอลดาเอ่ยถามน้องเมย์ขณะที่กำลังหยอกล้อกับเจ้าโกโก้“ชอบค่ะ” น้องเมย์ตอบสั้นๆ และยิ้มสดใส“แล้วชอบลุงฝรั่งไหม” ไอลดาแสร้งถามไปอย่างนั้นเอง เพราะเด็กยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นยังไง“ลุงพะหลั่งใจดี” เสียงสดใสดังเจื้อยแจ้ว ทำให้คนที่กำลังเดินมาจากหน้าบ้านได้ยินเข้าพอดี”“กำลังคุยอะไรกันอยู่จ๊ะสองแม่ลูก” กันตพงษ์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงส

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 68

    “พูดอย่างนี้หมายความว่า เขามาตามหาไอซ์เหรอ ไหน มันอยู่ไหน มันทำลูกพ่อท้องแล้วไม่รับผิดชอบเนี่ย”“คุณพ่อคะ เขาไม่รู้ว่าไอซ์ท้องนะคะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รับผิดชอบ”“เขามาตามง้อไอซ์เหรอลูก” มารดาถามด้วยความอยากรู้“พ่อกับแม่จะโกรธเขาไหมคะ แต่ว่าเขาไม่ได้ผิดอะไรเลย” ไอลดายังไม่กล้าบอกว่าเขาอยู่ที่ไหน แค่หยั่งเชิงหากนิโคไลอยู่ที่นี่จะเกิดอะไรขึ้น“เขาอยู่ที่ไหน มาเมืองไทยแล้วหรือยัง” มารดาถามราวกับจะหาเรื่องเขาเสียอย่างนั้น แบบนี้ใครจะกล้าบอกล่ะ“คงต้องคุยกันหน่อยนะลูก ตามประสาลูกผู้ชาย จะโกรธเหรอก็คงไม่ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นพ่อของน้องเมย์ ลูกเสียอีกที่ผิดเพราะไม่ยอมบอกเขา ทำให้น้องเมย์เป็นกำพร้าพ่อมาจนลูก 2 ขวบ” บิดาให้ความเห็น“ก็ตอนนั้นไอซ์คิดว่าเขาจะไม่สนใจไอซ์นี่คะ”“ไอซ์ยังไม่ได้บอกพ่อกับแม่เลยว่าเขาอยู่ที่นี่หรือยัง หรืออยู่อเมริกา” บิดาถามย้ำคำของมารดาอีกครั้

  • รอยเสน่หาเทพบุตรเถื่อน   บทที่ 67

    “ก็ ฝึกความอดทนหน่อยสิคะ” พูดจบเธอก็เขย่งปลายเท้าแล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบตรงแก้มที่สากไปด้วยเคราหนักๆ หนึ่งที ก่อนจะดันตัวออกแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ จูบนี้มันทดแทนคำว่ารักได้ แต่สำหรับเขายังไม่เพียงพอว่าแล้วจึงรีบวิ่งตามไปทันที กระทั่งวิ่งทันจึงโอบกอดเธอเอาไว้และพรมจูบตรงเรือนผม จากนั้นจึงเดินทอดน่องไปตามริมหาดเรื่อยๆ งดคุยเรื่องเครียดเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กันอย่างมีความสุข ก่อนที่จะกลับกรุงเทพฯ ไปเผชิญกับปัญหา ไม่ใช่แค่กับกันตพงษ์เท่านั้น แต่กับครอบครัวของไอลดาด้วยสามวันสองคืนกับการใช้ชีวิตบนเกาะ โดยที่ฝ่ายกรุงเทพฯ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนทั้งสอง ทุกคนเข้าใจว่าไอลดาไปกับแขกก็เท่านั้น แต่มาบัดนี้ วันนี้ทั้งสองเดินทางกลับ ทุกคนจะได้รู้ว่านิโคไลไม่ใช่แขกอีกต่อไปต่อมาเมื่อถึงกรุงเทพฯ ไอลดาขอให้นิโคไลอยู่ที่โรงแรมเสียก่อน เพราะเธอต้องไปบอกความจริงกับบิดาและมารดา เพื่อเปิดทางเสียก่อน หากไปตอนนี้มีหวังปัญหาอาจตามมาได้ แต่นิโคไลหรือจะเชื่อฟัง“แม่จ๋า...” เสียงเด็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status