One night stand คำที่ นิโคไล แอนตัน มหาเศรษฐีเพลย์บอย เลือกมาใช้กับชีวิตที่เต็มไปด้วยสีสันและ มีความสุขแบบไร้ข้อผูกมัด แต่แล้วค่ำคืนที่แสนหฤหรรษ์ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล เพราะผู้หญิงแปลกหน้าที่ทำให้เขาพอใจตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอกลับทำร้ายเขาเพราะความเข้าใจผิด ทำให้ได้อับอายต่อสายตานับร้อยคู่ เพียงคำขอโทษเท่านั้นที่เขาต้องการ ทว่าไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะดันเจอกับผู้หญิง หัวแข็ง ปากร้ายและดื้อ ทางเดียวที่จะกำราบและให้เธออยู่ในอ้อมกอดอันแน่นหนาของเขาได้ นั่นคือขังเธอเอาไว้เสียเลย พร้อมกับข้อตกลงเพียงข้อเดียว ดินเนอร์แล้วจบ ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวทำให้ ไอลดาต้องหนีความรู้สึกผิดต่อตัวเอง และหนีจากความทรงจำคืนเดียวที่แสนวาบหวาม หอบกายใจที่เต็มไปด้วยรอยรักจากชายแปลกหน้ากลับประเทศไทย แต่หารู้ไม่ว่ามันไม่ใช่แค่รอยรักที่ติดตัว มาด้วยเท่านั้น หากแต่เป็นพยานรักที่ถือกำเนิดขึ้นโดยไม่รู้มาก่อน จนกระทั่งได้พบเขาอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้เธอต้องหนีใจตัวเองและปกปิดความลับบางอย่างไม่ให้เขารู้ว่า พยานรักตัวน้อยเป็น “ลูกใคร”
View More“จะไม่ออกไปใช่ไหม ได้... งั้นฉันออกไปเอง” ว่าแล้วเธอจึงรีบเดินไปหมายจะเปิดประตู ทว่าเขาวิ่งมาขวางพร้อมกับล็อกเอาไว้ทันที“นี่! หลีกไป” ไอลดาไม่ได้พูดเสียงดังนัก เพราะยืนอยู่ตรงประตูแล้วกลัวพนักงานด้านนอกจะได้ยิน“ผมก็แค่อยากจะทบทวนว่าคืนนั้นของเรา มันส่งผลให้เราเป็นอะไรกัน มันไม่ใช่อุบัติเหตุ”“เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และคืนนั้นมันเป็นอุบัติเหตุ เราเมาด้วยกันทั้งคู่” เธอรู้ตัวดีว่าไม่ได้เมา รู้ตลอดเวลา“เราออกเดตกันแล้ว และคนเมาที่ไหนเขาจะมีแรงขนาดนั้น หลายยกเลยนะที่รัก”“หุบปากได้แล้วนิคกี้ คุณต้องการอะไรฉันจากฉันกันแน่เนี่ย”“ถ้าอยากให้ผมหุบปาก คืนนี้ขึ้นไปหาผมบนห้องสิ รับรองเรื่องของเรา คู่หมั้นคุณจะไม่มีทางรู้” เธอไม่มีวันเชื่อเขาหรอก และการที่เขายุ่มย่ามกับเธอก็ไม่ต่างอะไรกับประกาศให้คนอื่นได้รู้นั่นแหละ“อย่ามาขู่ฉันให้ยาก” เธอพยายามข่มความกลัวและมองว่าเ
“อย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันไม่ชอบ ฉันอยากให้คุณไปตามตารางที่เราจัดเอาไว้ให้จะได้มีไกด์”“นี่คุณไม่ตามใจแขกวีไอพีเลยนะ ยัดเยียดให้ไปในที่ที่ผมไม่อยากไป”“เรียกว่าอย่างนั้นก็ได้ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป ไม่ได้บังคับนะคะ”“ดูเหมือนคุณอยากจะอยู่ห่างๆ ผมเหลือเกิน” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้เธอก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วเบือนหน้าหนีเล็กน้อย ก่อนจะพูดเรื่องอื่น“คุณจะเอาผู้ติดตามของคุณไปด้วยหรือเปล่า” ไอลดาไม่อยากตอบคำถามของเขา จึงพูดเรื่องอื่นเสียอย่างนั้น“แน่นอน ผมจะเอาผู้ติดตามไปทุกคนนั่นแหละ แต่คุณต้องไปดูแลผมด้วยตัวเอง ห้ามให้คนอื่นไป” ยังดีที่เขาไม่ขอให้ไปตามลำพัง“แต่ฉันก็ต้องมีผู้ช่วยไปด้วย เผื่อขาดเหลืออะไร” เพื่อเป็นไม้กันหมามากกว่าเป็นผู้ช่วยกระมัง เขาคิด“เอาไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะผมไม่อยากเห็นหน้าผู้ช่วยคุณ ผมแค่อยากเห็นหน้าคุณคนเดียว” เขาพูดออกมาตรงๆ ชัดเจนจนทำให้เธอถึงกับอึ้งและกลืนน้ำลายไม่ลงคอเลยทีเดียว“แต่ฉันไม่ได้อยาก
วันรุ่งขึ้น ไอลดารีบไปทำงานแต่เช้า ถึงโรงแรมแปดโมงครึ่ง พนักงานบางคนยังมาไม่ถึง โดยเฉพาะเลขานุการหน้าห้องของเธอ เธอจึงเข้าห้องโดยไม่สนใจใคร แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องสะดุ้งด้วยความตกใจ เพราะเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานของเธอมันขยับโยกไปมาก อีกทั้งอยู่ในลักษณะที่ผิดไปจากเดิมนั่นคือหันหลัง แต่แล้วอยู่ๆ เก้าอี้ก็หมุนกลับมา“อรุณสวัสดิ์ที่รัก” น้ำเสียงทักทายทุ้มต่ำไร้รอยยิ้มของชายหนุ่มผู้บุกรุก ทำให้ไอลดาถึงกับช็อกไปชั่วขณะดวงตา แต่ต้องรีบเก็บอาการ“เอ่อ คุณ! เข้ามาได้ยังไง ไม่มีใครเห็นคุณเหรอ” ไอลดาถามด้วยความหวาดหวั่นระคนด้วยความโกรธ“ทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้ ผมเป็นสามีคุณนะ” บ้าแล้ว ถือสิทธิ์มาเรียกร้องคำว่าสามีอย่างนั้นหรือ“คุณไม่ใช่ อย่ามาเพ้อเจ้อ” เธอว่าน้ำเสียงดุเข้มก่อนจะวางกระเป๋าถือเอาไว้บนโต๊ะ แล้วไปนั่งที่โซฟารับแขกแทน ขณะเดียวกันเขาก็แสร้งทำเป็นมองบนโต๊ะทำงาน เห็นภาพบาดตานั่นคือภาพคู่ของกันตพงษ์กับไอลดา เห็นอย่างนั้นแล้วเขาจึงถือวิสาสะจับภาพนั้นคว่ำหน้าลงเสียเลย จาก
“ผมอยากเที่ยวแบบเป็นส่วนตัว จะได้ไหม” คำว่าจะได้ไหม คล้ายกับเป็นการบังคับไปในตัว น้ำเสียงแข็งกระด้างขึ้น หากจะปฏิเสธคงมีปัญหาสินะ เธอคิด“งั้นก็ ฉันจะจัดหาเจ้าหน้าที่ดูแลคุณเป็นพิเศษค่ะ อยากไปที่ไหนก็บอกเขาได้เลย”“ทำไมคุณต้องโยนหน้าที่ของตัวเองไปให้คนอื่นล่ะสวีตตี้”“เรามีเจ้าหน้าที่ดูแลแต่ละฝ่ายค่ะ และกรุณาอย่าเรียกฉันแบบนี้ ฉันมีคู่หมั้นแล้ว”“คู่หมั้นหรือจะสู้สามีได้ ไม่เห็นแปลกถ้าผมจะเรียก เพราะผมเป็นสามีคนแรก”“คุณแอนตัน กรุณาให้เกียรติกันด้วย ฉันกับคุณไม่ได้รู้จักกัน”“หึๆ อย่าพูดแบบนี้นะที่รัก เพราะไม่อย่างนั้นคู่หมั้นและว่าที่สามีคนที่สองของคุณได้รู้แน่ ว่าผมเป็นใคร” ไอลดาต้องพยายามเหลือเกินที่จะไม่ตอบโต้ให้เสียเวลา“คุณต้องการอะไร” ไอลดาตัดสินใจถามตรงๆ แม้จะเริ่มมีอารมณ์โกรธแล้วก็ตาม“ต้องการให้ทุกวินาทีของผม มีคุณอยู่ใกล้ๆ ไง&rdquo
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ระหว่างที่นิโคไลกำลังขบคิดเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น เขาจึงเดินไปเปิดให้“อยากได้อะไรเพิ่มเติมไหมครับ” เจอร์รี่ถามทันทีที่เห็นหน้า ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องและปิดประตูให้เรียบร้อย“หมายถึงอะไร ไม่อยากได้อะไรหรอก” นิโคไลตอบเสียงเครียด ทำให้เจอร์รี่อดเป็นห่วงไม่ได้“เป็นอะไรไปครับเจ้านาย” เจอร์รี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ขณะที่นิโคไลเดินกลับไปที่ระเบียงห้องอีกครั้ง“เหนื่อย เจทแล็ค” นิโคไลตอบสั้นๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ“อ้าว! ไม่เห็นบอกว่าเจทแล็คนี่ครับ งั้นพักผ่อนเถอะครับ ส่วนเรื่องงานผมดูแลต่อก็ได้ครับ”“จัดการด้วยก็แล้วกัน ยังไงซะเราก็ได้คุณกันตพงษ์เป็นลูกค้าแล้วล่ะ” นิโคไลค่อนข้างมั่นใจในการทำงาน ที่สำคัญคือมีเวลาคุยกันเป็นเดือนๆ“เอ่อ ผมมีอีกเรื่องอยากจะถาม”“เจ้านายจะอยู่ที่นี่เป็นเดือนๆ เลยจริงเหรอครับ ผมยังไม่ได้บอกทางโน้นเอาไว้เลย คิดว่
“เปล่าครับ ผมแค่รู้สึกว่าเคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดามาก่อน แต่ก็แค่หน้าคล้ายน่ะครับ คงไม่ใช่คนเดียวกัน”“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ หรือถ้าจะเคยเจอก็อาจจะเป็นที่อเมริกา ไอซ์เคยเรียนอยู่ที่นั่น”“ที่วอร์ชิงตัน” นิโคไลเสริมขึ้นพร้อมกับปรับสีหน้าให้เรียบตึง และสติเขากลับเข้าที่เรียบร้อย“เอ่อ ใช่... คุณทราบได้ยังไงครับ” กันตพงษ์ถามด้วยความสงสัย“ผมเดาน่ะ เพราะผมอยู่วอร์ชิงตัน เคยเจอคนหน้าคล้ายคุณไอลดาและเธอก็อยู่ที่นั่นมาก่อนเหมือนกัน ผมคิดว่าคนเอเชียหน้าคล้ายๆ กัน” นิโคไลบอกเสียงเรียบพลางมองหน้าไอลดาอย่างมีเลศนัย“ฉันว่า คุณคุ้นหน้าฉันตอนอยู่ในลิฟต์มากกว่ามั้งคะ” ไอลดาแทรกขึ้นเสียงเรียบ“ก็อาจเป็นได้ครับ ตอนอยู่ในลิฟต์ เอ่อขอโทษทีที่ไม่ได้ทักทายครับ ไม่คิดว่าจะเป็นคุณสองคนที่ผมต้องมาทำธุรกิจด้วย ผมนึกว่าเป็นแขกของโรงแรมด้วยซ้ำ” นิโคไลแสร้งเออออกับเธอ ทั้งที่ไม่ใช่อย่างนั้น&
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ภายในห้องพักระดับวีไอพีสนนราคาอยู่ที่คืนละหนึ่งแสนบาทบนชั้นสูงสุดที่ชั้น 22 ถูกเปิดออกเพื่อต้อนรับบอสรูปหล่อของเจอร์รี่ ซึ่งเจอร์รี่ได้ขึ้นมาต้อนรับที่บนห้อง พร้อมกับให้กุญแจห้องเอาไว้กับเจ้านายเรียบร้อย กระเป๋าถูกนำมาเก็บในตู้เสื้อผ้า แต่เจ้าของห้องกลับเดินไปยังระเบียง ซึ่งมีกระจกใสบานสไลด์ขนาดใหญ่ เขาเปิดผ้าม่านออก แล้วแสร้งมองวิวเมืองกรุงเทพ ฯ อย่างไร้จุดหมาย“เจ้านายครับ ผมนัดคุณกันตพงษ์และเจ้าของโรงแรมมาดินเนอร์กับเราคืนนี้นะครับ” เจอร์รี่เอ่ยพลางสังเกตอาการของเจ้านายหนุ่มจากทางด้านหลัง“คุณกันตพงษ์กับเจ้าของโรงแรมอย่างนั้นเหรอ” นิโคไลถามกลับ ทว่าไม่ได้หันหน้ามาแต่อย่างใด“ครับผม อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เจอร์รี่ตอบและถามด้วยความเป็นห่วง“ไม่ แล้วเจ้าของโรงแรมเป็นใคร” นิโคไลถามด้วยความอยากรู้“จริงสิเจ้านายยังไม่ทราบ เดี๋ยวคงจะได้เจอเธอในตอนเย็นนี้ล่ะครับ เธอชื่อ... คุณไอลดาเป็น...”ก
ทำไมเขาต้องเกิดมาเป็นผู้ให้ด้วยวะ เขาคิดแต่ยังคงมีความสุขดี แม้จะเป็นเพียงฉากหน้าที่ฉาบเอาไว้ให้คนภายนอกเห็น และมองว่าเขากับไอลดาเป็นคู่หมั้นที่เหมาะสมสำหรับการแต่งงานมากที่สุดก็ตาม แต่เบื้องหลังนี่สิที่ภายในครอบครัวเท่านั้นที่รู้สามปีมาแล้วที่กันตพงษ์กับไอลดาอยู่ในฐานะคู่หมั้น ภายใต้สัญญาที่ว่ากันด้วยเรื่องธุรกิจ เธอกลับมาเมืองไทยได้ถูกเวลาเป็นอย่างยิ่ง เมื่อทางครอบครัวประสบปัญหาเรื่องการบริหารโรงแรม จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน จึงต้องขอความช่วยเหลือให้ฝ่ายของกันตพงษ์ซึ่งเป็นเครือญาติเข้ามาช่วยอีกแรง โดยการให้กันตพงษ์เข้ามาถือหุ้นในโรงแรมเกินกว่าครึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งเม็ดเงินมหาศาลที่โอบอุ้มต่อลมหายใจของโรงแรมต่อไปแต่กันตพงษ์ไม่อยากขึ้นชื่อว่าฮุบโรงแรมที่สร้างจากครอบครัวไอลดามาเป็นของตัวเอง และไม่ได้ต้องการให้ใช้หนี้คืนแต่อย่างใด เขาจึงยื่นข้อเสนอเนียนๆ ให้ไอลดาแต่งงานด้วย หรือเรียกว่าเอาตัวมาแลกกับเงินก็ยังได้ และเพื่อเขาจะได้เข้ามาช่วยบริหารงานแบบไม่ต้องรู้สึกผิดนักครั้งแรกไอลดาไม่ยอมเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรักและเคารพกัน
เวลาต่อมา ห้าโมงเย็นได้เวลาที่ไอลดาต้องกลับบ้าน โดยมีกันตพงษ์มารับ เรียกได้ว่าทำหน้าที่คู่หมั้นได้อย่างสมบูรณ์เลยทีเดียว ปิ๊น! ปิ๊น! ปิ๊น! คนขับรถบีบแตรเมื่อมาถึงหน้าประตูทางเข้า ประตูบานคู่จึงถูกเปิดออกอัตโนมัติขณะที่รถแล่นเข้าบ้านอยู่นั้น เด็กน้อยวัยสองขวบรูปร่างหน้าตาราวกับตุ๊กตาฝรั่งวิ่งออกมายืนอยู่ตรงบันได โดยมีหญิงวัยล่วงเลยกว่าหกสิบปีเดินตามออกมา พร้อมกับจับมือของเด็กน้อยเอาไว้ ท่าทางของเด็กน้อยดีอกดีใจแต่พูดออกมาไม่เป็นความ ได้แต่กระโดดโลดเต้นตามประสา ก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงคำเดียว“มะ มะ” คำว่าแม่ถูกเปล่งออกมาจากปากเด็กน้อยแบบไม่ชัดเจนนัก แต่ก็รู้ได้ว่ากำลังเรียกผู้ที่กำลังมาเยือน เมื่อรถจอดสนิทประตูเปิดออก ไอลดาก็รีบลงจากรถทันที เด็กน้อยแสนน่ารักก็วิ่งเข้าไปกระโดดกอด“มะ มะ จ๋าๆๆ” ภาษาดอกไม้ของเด็กๆ ที่ไอลดาฟังแทบจะไม่รู้เรื่องแต่รู้ว่าเด็กน้อยเรียกแม่“คิดถึงจังเลย หนูดื้อไหมคะ หืม ทำให้คุณยายเหนื่อยหรือเปล่า” ไอลดาเอ่ยกับเด็กน้อยราวกับฟังรู้เรื่อง แต่เด็กน้อยก็ย
Comments