ความรักที่เริ่มต้นมาจากความไม่ชัดเจนและปิดบังไม่เปิดเผยกันมาโดยตลอดแทบจะไม่มีใครรับรู้ได้ถึงความสัมพันธ์ของสองชายหญิงที่มีใจชอบพอกันมาตั้งแต่ต้นเลยสักนิด มีเพียงแค่คนสนิทข้างกายที่พอรู้ถึงความสนิทสนมกันบ้างเพียงเท่านั้น
ทั้งสองใช้ชีวิตร่วมกันด้วยการปิดบังกันไปอย่างอึดอัดใจ ภายนอกห้องนอนทั้งสองต้องทำเป็นไม่รู้จักกันเสียและต้องหมางเมินทำร้ายจิตใจกันไป แต่พอกลับมาที่ห้องก็กลับใช้ชีวิตแบบแฟนที่มีสถานะแบบนี้มานานร่วมเก้าเดือนแล้ว
ที่ความสัมพันธ์เปิดเผยออกไปไม่ได้ก็เป็นเพราะเธอคือน้องสาวของศัตรูที่ต้องห้ามมีความรักหรือรู้จักกันศัตรูพี่ชายตัวเองนั่นเอง ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกันแบบนี้ไปอย่างอึดอัดใจและฝืนใจกันไปอย่างจำนน
ความคิดถึงและความโหยหาของกันและกันหลังจากกลับมาถึงห้องนอนทั้งสองก็ต้องกลับมากอดกันไปด้วยความคิดถึง ร่วมกินข้าวมื้อเย็นด้วยกันและพากันนอนหลับกันไปสลับกันบ้างห้องใครคนใดคนหนึ่ง
วันนี้ก็เช่นกันหลังจากกลับมาถึงที่คอนโดหญิงสาวที่กลับมาถึงก่อนก็เอาแต่เฝ้ารอประตูบานใหญ่ที่จะเปิดเข้ามาภายในห้องเหมือนกับทุกๆ ครั้งอย่างใจจดใจจ่อ แต่ทว่าเฝ้ารอเวลานานนับหลายนาทีก็ไม่มีวี่เเววจนเธอแทบถอดใจอยู่แล้วรอมร่อ ถอนหายใจทิ้งไปนับหลายแสนครั้งแต่ก็ไม่มีอีกคนเปิดประตูเข้ามาเลยด้วยซํ้า
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นมาทำเอาเธอต้องยอมหลุดออกจากห้วงแห่งความคิดนั้นไปและเดินไปเปิดประตูนั้นด้วยความหมดเรี่ยวแรงและหมองเศร้า แต่ทว่าพอเปิดประตูออกไปดูก็พบเข้ากับแฟนของเธอที่ยืนยิ้มถือของอยู่แบบนั้น
ใบหน้าสวยยิ้มร่าออกมาด้วยความดีใจก่อนที่จะพุ่งเข้าไปกอดแฟนหนุ่มของเธอทันทีหลังจากเขาได้เดินเข้ามาในห้องด้วยความคิดถึงแฟนหนุ่มในตลอดทั้งวันมานี้และเฝ้ารอภาวนาให้เขามาหาตนให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
"หนูคิดถึงพี่จังเลยค่ะ"
"พี่ก็คิดถึงหนูครับ"คนตัวสูงหลังจากที่เดินเข้ามาในห้องนอนของฉันแล้วนั้นเขาก็รีบเดินเข้ามาโผล่กอดฉันทันทีอย่างแน่นด้วยความคิดถึงตลอดทั้งวันมานี้ที่พวกเราแทบจะไม่ได้เจอหรือพูดคุยกันเลยด้วยซํ้า ทำได้แค่เพียงพิมพ์แชทหากันไปเพียงเท่านั้น พอเจอหน้ากันก็ทำได้แค่เพียงมองข้ามผ่านไปราวกับว่าไม่มีตัวตนในที่ตรงนั้นเลยด้วยซํ้า ทั้งๆ ที่ภายในใจอยากจะเดินเข้าไปพูดคุยหรือทว่าอยากเดินเข้าไปโอบกอดแทบตาย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
"หนูอึดอัดไหมคะ ที่เราต้องมาแอบคบกันแบบนี้"
"แล้วพี่ล่ะคะ อึดอัดไหม"เสียงถอนหายใจที่เผยดังออกมารดหัวของฉันอย่างรับรู้ได้เลย ฉันค่อยๆ พยายามผละกอดนั้นออกและเหงยหน้าขึ้นไปจ้องมองคนตัวสูงที่ตอนนี้มีใบหน้าที่ไม่สู้ดีมากนักสักเท่าไหร่ในตอนนี้ เขาก้มหน้าลงมาจ้องมองมาทางฉันด้วยแววตาที่ดูมีอะไรบางอย่างอยู่ก่อนที่รอยยิ้มของฉันเองจะเผยยิ้มออกมาให้เห็นและยกมือขึ้นไปจับที่แก้มของเขาไปอย่างว่าเล่น
"ทำไมวันนี้พี่ดูเครียดๆ จังเลยล่ะคะ"
"พี่อึดอัดไปหมดเลย พี่อยากทำให้ความสัมพันธ์ของเรามันชัดเจนมากกว่านี้พี่ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้แล้ว"
"....."เมื่อพี่เขาบอกออกไปแบบนั้นจากรอยยิ้มที่แสนหวานกลับเริ่มค่อยๆ จางลงไปเพราะมันไม่ใช่แค่เขาที่อึดอัด แต่ทว่าฉันเองก็อึดอัดไม่ต่างจากเขาที่ต้องมาหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ทำอะไรก็ไม่ได้เลยด้วยซํ้า
"งั้นให้หนูไปคุยกับพี่กัสเองไหมคะ"
"ถ้าหนูไปคุยกับไอ้กัสมีหวังเราคงต้องเลิกกันแน่ๆ ค่ะ เดี๋ยวเรื่องนี้พี่แก้ปัญหาเองหนูไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ พี่สัญญาว่าพี่จะทำให้ความสัมพันธ์ของเรามันชัดเจนขึ้นเองค่ะ"ฉันพยักหน้าเป็นการตอบกลับและพากันเดินกันไปกินข้าวพูดคุยกันไปก่อนที่จะต้องมาเคลียร์งานกันในเย็นนี้
โดยพี่เขาไม่ได้มีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะที่เล็ดลอดดังออกมาเลยสักนิดเดียวเหมือนกับทุกครั้ง ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้พี่เขาถึงได้คิดที่อยากจะเปิดเผยสถานะของเราขนาดนี้เพราะโดยที่ผ่านมาเขาแทบจะไม่ได้อะไรมากขนาดนั้นเลย
"ทำไมวันนี้พี่เซเธนดูแปลกๆ ไปล่ะคะ"
"พี่แค่อึดอัดค่ะ แล้วพี่ก็อยากชัดเจนกับหนูให้ได้มากกว่านี้"
"....."สายตาขมเข้มที่มองมาทางฉันก็แทบจะทำอะไรไม่ถูกเลยด้วยซํ้าในตอนนี้ สถานการณ์ที่ดูจริงจังเอามากๆ ที่เกิดขึ้นเหมือนกับค่อยๆ ต้อนฉันให้จนมุมไปทีละนิดๆ
"หนูบอกแล้วไงคะว่าหนูจะไปคุยกับพี่กัสเอง"
"พี่บอกแล้วไงคะว่าถ้าเราไปคุยกับมันมีหวังเราได้เลิกกันแน่ค่ะ"เราสองต่างพากันถอนหายใจกันไปยกใหญ่โดยที่ความลำบากใจในการตัดสินใจนี้ทั้งสองฝ่ายก็ต้องคิดและกล้าได้กล้าเสียกันทั้งคู่
ถ้าเกิดพลาดในการเลือกครั้งนี้ก็มีหวังที่อาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยจากการพลัดพรากจากกลุ่มของพี่ชายของเธอและกลุ่มเพื่อนของเขานั่นเอง ที่ต้องจับทั้งสองแยกออกจากกันแน่นอนตามที่พวกเขาเคยได้ทำกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
เธอเองก็พอจะรู้อะไรมาบ้างแล้วกับเรื่องนี้ที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองจากความสัมพันธ์ของพี่ชายของเธอและเพื่อนของเขาเพราะผู้หญิงที่รักของทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
พอร่วมกันกินข้าวกันเสร็จเธอเองก็เดินไปล้างจานเก็บโต๊ะไป ส่วนเขาก็เดินไปนั่งทำโมเดลบ้านจำลองของเขาต่ออยู่ที่เดิมในห้องนอนของเธอเอง พอล้างจานอะไรเสร็จคนตัวเล็กก็เดินเข้าไปนั่งอยู่ที่บนโซฟาข้างๆ แฟนหนุ่มของเธอเองและโอบกอดเขาจากด้านหลังเหมือนทุกครั้ง
"คืนนี้พี่นอนห้องหนูได้ไหมคะ"
"หนูค้านได้ด้วยหรอคะ"
"ก็พี่อยากนอนกอดแฟนหนิคะ"
"งั้นเดี๋ยวหนูไปอาบน้ำเก็บห้องก่อนนะคะ"เมื่อบอกออกไปแบบนั้นฉันก็เดินเข้าไปอาบน้ำและออกมาเก็บพวกตุ๊กตาเข้าตู้ไปเพราะในช่วงก่อนหน้าเขาต้องไปค่ายค้างคืนและฉันก็ไปนอนที่ห้องของเขาเลยทำให้ห้องมีแต่ตุ๊กตาและหมอนเต็มไปหมด
เราสองคนตกลงที่จะสลับห้องกันนอนห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปตามเวลาว่างของพวกเราที่ตกลงกันไว้ แต่ส่วนมากฉันจะได้ไปนอนห้องพี่เขาซะมากกว่าเพราะงานของเขาค่อนข้างเยอะเลยทำให้ฉันต้องไปนอนอยู่ห้องเขาเป็นประจำ
เว้นแต่วันไหนที่พี่ชายของฉันจะมานอนที่ห้องของฉันบ้างเลยทำให้เราสองคนต้องแยกกันอยู่ทำได้แค่เพียงพิมพ์แชทหากันเพียงเท่านั้นเอง และแอบไปโทรหากันที่นอกระเบียงในขณะที่พี่ชายเข้าไปอาบน้ำเพียงเท่านั้น
"ไอ้กัสจะมาอีกเมื่อไหร่คะ"
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ช่วงนี้พี่กัสดูยุ่งเรื่องงานมากเลยค่ะคงจะอีกนาน"
"งั้นเราก็ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปอีกนานสินะคะ"เมื่อเขาพูดแบบนั้นก็เดินเข้ามาสวมกอดฉันจากทางด้านหลังและก้มตัวลงมาหอมแก้มฉันไปทีหนึ่ง
"คืนนี้พี่ขอได้ไหมคะ"
"พี่เซเธนทำงานเสร็จแล้วหรอคะ"
"ค่อยทำค่ะ"
"พี่ไปทำงานขอบพี่ให้เสร็จเถอะค่ะ"
"หนูอ่ะ หนูไม่สงสารพี่หรอคะ"ฉันส่ายหน้าเป็นการตอบกลับและเดินตรงไปที่เตียงนอนและล้มตัวลงนอนทันที ส่วนคนพี่ที่เห็นแบบนั้นก็คิดแกล้งจึงรีบเดินเข้ามาล้มตัวลงนอนที่เตียงเช่นกันพร้อมกันขึ้นคล่อมร่างกายของร่างบางทันทีอย่างเร็วรี่
"พะ พี่ทำอะไรคะ"
"อยากเอาเมียไงคะ"แก้มนุ่มค่อยๆ เปลี่ยนสีขึ้นทีละนิดจนแทบจะแดงระเรื่อยอยู่แล้วรอมร่อ ส่วนคนพี่ก็ยังคงเอาแต่แกล้งยัยน้องอยู่แบบนั้นไป
"พะ พี่อย่านะงานพี่ยังไม่เสร็จเลยนะคะ"
"แต่พี่อยากเสร็จในตัวหนูแล้วนะ"
"พี่เซเธน!"
"ฮ่าๆๆ พี่ไม่แกล้งแล้ว งั้นเดี๋ยวพี่รีบไปทำงานแล้วพี่จะรีบมาเสร็จในตัวหนูนะคะ"
จุ๊บ
"พี่เซเธน!!"
เช้าวันต่อมาหลังจากเมื่อคืนที่เราสองต่างพากันพูดคุยเคลียร์ใจกันไปจนเกือบเช้าเลยด้วยซํ้า และเช้าวันนี้ฉันก็ดันมีเรียนเช้าอีกต่างหากกว่าจะได้เดินทางออกมาจากห้องก็ใช้เวลานานมากอยู่พอสมควรเพราะคนตัวสูงที่เอาแต่รั้งฉันไว้ไม่ยอมปล่อยให้ออกมาจากห้องสักที"ทำไมมาสายจังนะแก ฉันรอจนรากจะงอกอยู่ละ""โทษทีแก""เดี๋ยวเรียนคาบนี้เสร็จไปหาอะไรกินกัน อยากกินอะไรหวานๆอ่ะเติมความหวานหน่อย""อื้ม เอาสิ"พอบอกออกไปแบบนั้นพวกเราก็ก้มหน้านั่งเล่นโทรศัพท์กันไปเพื่อรอเวลาที่จะเข้าไปเรียนในคาบที่จะถึงในเร็วๆนี้ ความสงบเงียบที่ไม่จบไม่หายเมื่อจู่ๆก็ได้มีนํ้าจากไหนไม่รู้สาดเข้ามาใส่ฉันเต็มๆจนเปียกไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้าและสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เจอตอนนั้นก็คือสิ่งเดียวกันเมื่อคนที่ได้กระทำกับฉันแบบนั้นคือผู้หญิงคนเดิมที่แอบชอบพี่เซเธนอยู่นั่นเอง เธอยืนกอดอกมองหน้าฉันด้วยความไม่พอใจก่อนที่ทางฉันเองจะ
"วีจะไม่หมั้นค่ะ วีคิดมาดีแล้วและตอนนี้วีก็ยังลืมคนเก่าไม่ได้ค่ะ วีว่าถ้าวีหมั้นก็อาจจะทำให้พวกเราสองตระกูลเกิดปัญหากันได้ในอนาคตแน่นอนค่ะ"".....//....."ความกล้าบ้าบิ่นค่อยๆ หายไปเมื่อความเงียบมาปกคลุมแบบนั้นก่อนที่ฉันเองจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นไปมองด้านหน้าที่ตอนนี้เป็นพ่อกับแม่ของพี่เซเธนที่เปิดประตูเข้ามารวมถึงพ่อกับแม่ฉันอีกด้วยที่ตอนนี้อีกคนกำลังยืนอ้าปากค้างกันอยู่อย่างตกใจ"คือ.....""ขอโทษนะครับที่มาช้า ผม.......น้องวี"นํ้าเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยดังออกมาจากด้านหลังก่อนที่เขาเองจะรีบวิ่งเข้ามาสวมกอดทันทีพร้อมกับนํ้าตาของเขาที่ไหลรินออกมาแบบนี้ทุกคนในที่นั่นต่างพากันเงียบนิ่งยืนมองสองชายหญิงที่ต่างพากันโอบกอดกันไปพร้อมกับร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงและโหยหากันทั้งคู่แบบนี้ ทุกคนรับรู้ความรู้สึกที่ผ่านมาของทั้งสองว่ามันเกิดอะไรขึ้นและทั้งสองรู้สึกยังไงเลยไม่ได้พูดหรือทำอะไร
พอถึงวันที่ต้องไปดูตัวคู่หมั้นแล้วจริงๆ นั้นฉันก็แทบจะไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซํ้าและยังคงมีอาการซึมๆ เศร้าๆ อยู่ตรงนั้นไปอย่างหมดเรี่ยวแรงในขณะที่คุณแม่กำลังแต่งหน้าให้กับฉัน"ยิ้มหน่อยสิวี""วีไม่พร้อมเลยค่ะ"ใบหน้าซึมๆ ที่เหม่อลอยแบบนี้แต่ก็ปฏิเสธและเลื่อนออกไปไม่ได้เลยด้วยซํ้าเพราะฉันขอเลื่อนไปตั้งหลายรอบแล้วและทางนั้นก็เช่นกัน น่าจะเป็นความรู้สึกเดียวกันในตอนนี้ที่รู้สึกเหมือนกันกับฉันแน่นอนที่ต้องฝืนใจหมั้นกับคนที่ไม่ได้รักแบบนี้"แม่คะ วีไม่อยากหมั้นแล้ว""แต่วีเลือกและตัดสินใจไปแล้วนะลูก""วี....""ลองไปดูตัวก่อนดีไหมวี ถ้าไม่ถูกใจแม่ยอมที่จะไม่ให้ลูกหมั้น แต่วีเชื่อแม่เถอะนะว่าคนนี้ลูกอาจจะเปลี่ยนใจแน่นอน"พอแม่บอกออกไปแบบก็ไม่ได้ช่วยทำให้ฉันคลายใจลงได้เลยด้วยซํ้าและยังคงนั่งรอให้แม่แต่งหน้าทำผมให้จนเสร็จ
หลังจากวันนั้นฉันก็แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรเลยด้วยซํ้าเพราะฉันเอาแต่ซึมๆ เศร้าๆ เหม่อลอยอยู่เสมอ พ่อกับแม่และพี่ชายของฉันต่างก็พาฉันออกมาเที่ยวนอกบ้านอยู่ตลอด แต่ฉันก็เหม่อลอยและไม่มีสมาธิอยู่ดีกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแบบนั้น"อ้าววีมากินข้าวก่อนสิลูก""วีไม่หิวค่ะคุณแม่""อีกแล้วนะคนสวยหนูรู้ไหมว่าหนูโทรมไปมากเลยนะลูก""นั่นสิวีแม่ทำของโปรดเราด้วยนะ เดี๋ยวกินข้าวเสร็จพี่ไปส่ง"ฉันต้องยอมจำใจที่จะนั่งกินข้าวอีกครั้งอย่างฝืนๆ ที่จะกินไปเพราะตอนนี้จะให้กินอะไรก็กินไม่ลงจริงๆฉันไปมหาลัยเหมือนปกติและพยายามหลีกเลี่ยงในการเจอพี่เซเธนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาที่ดูซึมและโทรมลงเอามากๆ เลยด้วยซํ้า ใบหน้าหล่อเหลาก็เริ่มมีหนวดเคราขึ้นไม่ได้โกนออกเลย ทรงผมที่รกรุงรังไม่ได้ตัดหรือเซทให้ดีขึ้นเหมือนแต่ก่อนจนบางทีฉันก็อยากจะถอดใจและเดินเข้าไ
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาและพบเข้ากับความว่างเปล่าก็ทำเอาผมถึงกลับใจคอไม่ดีเอามากๆ และพอมองไปที่นาฬิกาตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบเย็นแล้วด้วย ผมรีบลุกขึ้นเดินออกไปตามหายัยตัวเล็กทั่วทุกมุมห้องเพราะคิดว่าเธอคงยังไม่ไปไหนในตอนนี้"วีนัสหนูอยู่ไหนคะ วีนัส"เมื่อไม่มีเสียงตอบกลับนั้นผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องของเธอทันทีอย่างไม่รอช้าพร้อมกับบัตรเปิดประตูเข้าห้องของเธอด้วยเช่นกันและพอเปิดเข้าไปดูก็พบกับความว่างเปล่าของห้องพร้อมกับข้าวของทุกอย่างด้วยเช่นกัน"หนูหายไปไหนวีนัส อย่าพึ่งทิ้งพี่ไปตอนนี้ได้ไหมพี่ยังไม่พร้อม"ผมรีบวิ่งกลับไปที่ห้องอีกครั้งเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาเธอ แต่ทว่ากลับไม่มีการตอบรับเลยสักครั้งและแอปพลิเคชันต่างๆ เธอก็เหมือนจะบล็อกผมไปแล้วเช่นกันทุกช่องทางทำเอาผมหมดปัญญาแล้วจริงๆ ก่อนที่สายตาจะหันไปมองเห็นโน๊ตที่แปะไว้ที่โคมไฟข้างเตียงผมค่อยๆ หยิบมันมาอ่านด้วยความกล้าๆ กลัวๆ และแอบหวังว่าคงเป็นโน๊ตบอกไว้ล่วงหน้าและคิดว่าเธอจะกลับมาหาผมอีกครั้ง แต่ไม่
"อ้าวน้อง บังเอิญจังเลยนะครับ"เสียงคุ้นเคยที่ได้ยินทำเอาฉันตื่นได้จริงๆ และพยายามเหงยหน้าขึ้นไปมองใครอีกคนที่อยู่ด้านข้างและพบเข้ากับพี่ชายคนนั้นที่ฉันเดินชนเมื่อเข้านั่นเอง"พี่ก็อยู่คอนโดนนี้หรอคะ""ใช่ครับ บังเอิญจังเลยนะคะ""นั่นสิคะ เมื่อเช้าหนูขอบคุณพี่มากๆ เลยนะคะที่ช่วยหนู""ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ เออ....ถ้าไม่เป็นการรบกวนพี่ขอไอจีเราหน่อยได้ไหมครับ"ตอนแรกฉันก็ลังเลใจเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจให้ไอจีเขาไปเพราะยังไงก็ไม่ได้เดือดร้อนอยู่แล้วกับการให้ช่องทางการติดต่อแบบนี้ตึง"หนูขอตัวก่อนนะคะ"ฉันเอ่ยลาเขาไปและเดินออกไปจากลิฟต์อย่างไร้เรี่ยวแรงและเดินเข้าไปในห้องก่อนที่จะพบเข้ากับพี่ชายของตัวเองที่ตอนนี้กำลังยืนทำอาหารอยู่ที่ครัวในชุดนักศึกษา