Share

บทที่ 3/1

Author: JustLazyInk
last update Last Updated: 2025-09-22 16:43:32

ตอนเช้าแยมลงมาทานข้าวกับคุณแม่ก่อนออกไป ทว่าวันนี้เธอไม่เห็นผู้ชายคนนั้นโผล่หน้าออกมา ปกติทุกเช้าเขามักจะลงมาทานข้าวเงียบๆแล้วออกไป

14:55

เสียงอาจารย์สอนดังสลับกับเสียงปากกาเขียนลงบนกระดาษ แยมก้มหน้าจดเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงการสั่นของโทรศัพท์ใต้โต๊ะ เธอหยิบขึ้นมาดูอย่างแอบๆ

แม่ : แม่จะไม่อยู่บ้านสองสามวันนะ อยู่กับพี่ไปก่อน

คิ้วของแยมขมวดทันที นิ้วพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

แยม : ไปไหน กลับมาเมื่อไหร่

แต่ข้อความถูกทิ้งไว้เพียงแค่นั้น ไม่มีคำตอบกลับมา

ตกเย็น หลังเลิกเรียน ขณะกำลังเก็บกระเป๋า เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมสายเรียกเข้าไม่คุ้นนัก แยมกดรับเพราะคิดว่าอาจเป็นแม่ ทว่ากลับได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูของใครอีกคน

“ลงมาข้างล่าง ฉันมารับ”

เธอขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม มารับทำไม แต่ยังคงเดินลงไปด้วยความสงสัย และเมื่อออกมาหน้าโรงเรียนก็เห็นรถสีดำคันหรูจอดรอ ศรัณย์ยืนพิงประตูรถ ราวกับไม่รีบร้อน เขามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ แล้วพูดอย่างหนักแน่น

“แม่ฝากเธอไว้กับฉัน เพราะฉะนั้น…เชื่อฟังให้ดี”น้ำเสียงนั้นไม่ได้ดังมาก แต่แฝงแรงกดดันพอให้แยมรู้สึกเหมือนถูกจับกุมตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวขึ้นรถ

18:37

ศรัณย์ขับรถเลี้ยวเข้ามาในภัตตาคารหรูแห่งหนึ่ง เขาลงจากรถไป แต่แยมไม่ได้ลงไป เพราะมันไม่ใช่ธุระของเธอ

ชายหนุ่มเคาะกระจกรถแล้วสั่งให้เธอลงมา แยมจึงต้องลงไปด้วย เธอสังเกตว่าบริเวณสันกรามของเขามีรอยแดงจางๆอยู่ คงไม่ใช่รอยตบของเธอหรอกน่ะ

เขาเดินเข้าไปด้านใน พนักงานต้อนรับเข้ามาทักทายแล้วนำเขาไปยังโต๊ะอาหาร

แยมตามเขาไปอย่างงงๆ พนักงานนำเมนูของร้านมาวางไว้ให้พวกเขา เหมือนว่าจะเป็นอาหารฝรั่งเศษ หญิงสาวที่เปิดดูถึงกับตาร้อน ราคาแต่ละจานเธอสามารถนำเงินนั้นไปกินมื้ออื่นได้อีกหลายวัน

คาราแพงขนาดนี้ ต่อให้เธอกินลงไปก็ไม่มีความสุข แต่อาจจะน้ำตาไหลเพราะเงินหมดกระเป๋า

ศรัณย์นั่งตรงข้ามเธอ เขาไม่ได้ถามว่าอยากกินอะไร เพียงเอ่ยปากสั่งพนักงาน แล้วเอ่ยสั่งเมนูให้เธอราวกับตัดสินใจแทนทั้งหมด

แยมแทบไม่ได้แตะเมนูในมือ แต่ก็จำต้องนั่งฟังเขาสั่งจานแพงราวกับเป็นเรื่องปกติ

ศรัณย์นั่งตรงข้ามด้วยท่วงท่าเรียบง่ายแต่ดูสง่า เธอจึงจัดแจงตัวเองให้นั่งตรงๆเหมือนเขาบ้าง

เสียงกริ่งเบา ๆ ดังขึ้นพร้อมกับพนักงานในชุดสูทดำก้าวเข้ามา เขาเข็นรถเสิร์ฟเงินมันวาวเข้ามาใกล้โต๊ะ ก่อนจะวางจานแรกลงตรงหน้า

หอยนางรมฝรั่งเศสเรียงบนถาดเงินเย็นเฉียบ มีเกล็ดน้ำแข็งปกคลุมรอบ ๆ เลมอนคาเวียร์เม็ดเล็กใสวาวตัดกับเปลือกหอยสีขาวนวล

แยมมองจานอาหารนิ่ง ราวกับไม่แน่ใจว่าควรเริ่มจากตรงไหน ขณะที่ศรัณย์เพียงเอื้อมไปบีบเลมอนลงแล้วตักเข้าปากอย่างชำนาญ

“คงเคยชินกับการกินข้าวแกงริมถนนมากสินะ ถึงได้ทำหน้าซื่อบื้อเวลาเจออาหารหรูหรา”

จานถัดมา เป็นตับห่านชิ้นหนาสีทองนวล ราดซอสพอร์ตไวน์สีแดงเข้ม กลิ่นหอมละมุนลอยอวล พนักงานวางคู่กับขนมปังบรีโอชที่เพิ่งอบเสร็จจนยังอุ่นอยู่

ศรัณย์เหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนจะตัดชิ้นตับห่านให้วางลงบนจานของเธอโดยไม่ถาม

จากนั้นเป็นซุปสีส้มทองในถ้วยกระเบื้องขาว ควันร้อนลอยขึ้นพร้อมกลิ่นทะเลที่ผสมกับความนุ่มลึกของครีมสด ด้านบนมีชิ้นเนื้อล็อบสเตอร์แดงสดวางอย่างประณีต

ยังมีเนื้อสเต็กลายหินอ่อนสวยจนแทบละลายตา ย่างให้ด้านนอกกรอบนิด ๆ ด้านในยังฉ่ำด้วยสีชมพูอ่อน ราดด้วยซอสทรัฟเฟิลดำ กลิ่นฟุ้งจนแยมเผลอกลืนน้ำลาย

ศรัณย์ทานไปอย่างใจเย็น ใช้ส้อมและมีดอย่างมีจังหวะ ขณะที่แยมแม้จะไม่คุ้นกับอาหารหรู แต่ก็พยายามวางมือให้ถูกวิธี

“แค่ซ้อมกับมีดยังจับไม่เป็น ฉันแทบอยากสั่งให้พนักงานเอาชามสุนัขมาเสิร์ฟให้เธอ คงเหมาะกว่าอาหารฝรั่งเศสหลายเท่า"

เธอไม่อยากให้เขามีข้ออ้างดูถูก แม้รู้ว่าความต่างระหว่างเขากับเธอนั้น เห็นชัดยิ่งกว่าเนื้อวากิวบนจานเสียอีก ประโยคแต่ละประโยคราวกับสาดน้ำโคลนใส่หน้าเธอก็ว่าได้

เป็นคำพูดที่เจ็บปวดมากตั้งแต่เคยได้ยินมา เธอไม่เคยถูกด้อยค่าขนาดนี้มาก่อน

สาวน้อยทานไปเงียบ ๆ จนจบมื้อ ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบธนบัตรออกมา วางลงบนโต๊ะอย่างไม่ลังเล แม้รู้ว่ามันไม่มากพอจ่าย แต่ก็พอให้เขาเห็นว่าเธอไม่คิดจะเกาะใครกิน

ศรัณย์เลิกคิ้วเล็กน้อย เหยียดยิ้มเย็นก่อนจะเอ่ยอย่างไม่ไว้หน้า

“เก็บเศษเงินของเธอไปซะ” น้ำเสียงนั้นทั้งดูแคลนและเฉียบคม ราวกับเงินที่เธอวางไว้ไม่มีค่านอกจากจะทำให้เขารู้สึกว่าถูกดูหมิ่นเสียเอง

แยมเม้มปากแน่น สาเหตุที่หยิบเงินออกมาไม่ใช่เพราะอยากโชว์ฐานะ แต่เพราะไม่อยากให้เขามีโอกาสดูถูก ทว่ากลับกลายเป็นว่า เธอก็ยังถูกดูถูกอยู่ดี

“เก็บเศษเงินไปซื้อกระโปรงตัวใหม่ ไว้นุ่งเถอะ”

เขามักจะทำให้เธอเกลียดอยู่เสมอ เพราะแบบนี้เธอถึงไม่อยากจะสนิทด้วย

เมื่อกลับถึงบ้าน แยมลงจากรถตรงไปขึ้นห้องทันที โดยไม่ปริปากคุยกับเขาสักครึ่งคำ แม้แต่คำว่าขอบคุณเธอก็ไม่อยากจะเอ่ย

08 : 12

เช้าถัดมาคนตัวเล็กเตรียมตัวไปมหาลัย ทว่ากลับเห็นเขานั่งทานอาหารอยู่ในห้องโถงตั้งแต่เช้า ในมือถือนิตยสารกำลังเปิดไปทีละหน้าอย่างใจเย็น

แยมเดินผ่านไปราวกับไม่เห็นคนนั่งอยู่

“ไม่กินข้าวหรือไง”ศรัณย์เอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเดินผ่านไปราวกับว่าเขาเป็นอากาศ

“ไม่ล่ะค่ะ”เธอปฏิเสธสั้นๆ

“เดี๋ยวก็หาว่าฉันดูแลไม่ดีอีก”

“ถ้าจะให้ดีกว่านี้ ต่างคนต่างอยู่น่าจะดีกว่าค่ะ”หญิงสาวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจิกกัด

ศรัณย์วางนิตยสารลงก่อนจะลุกตามสาวน้อยออกไป ร่างอรชรสูงไม่มาก ประมาณร้อยหกสิบห้า สวมกระโปรงสีดำรัดไปกับเอว โชว์ต้นขาเรียวยาว

เขายื่นมือออกไปดึงคอเสื้อเธอเบาๆ จนหญิงสาวสะดุ้งถอยหนีไปไกล

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักข้ามเส้น   บทที่ 3/2

    “จะทำอะไร”ดวงหน้าเล็กตระหนกไปด้วยความกลัวจนชักสีหน้าบึ้งตึงใส่คนตรงหน้าอย่างไม่พอใจ “ฉันจะไปส่ง” “ขอบคุณในความหวังดีค่ะ แต่ฉันไปเองได้”เธอยังคงตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “แม่เธอไม่ได้บอกเหรอว่าต้องเชื่อฟังฉัน”เขาพูดฟังดูเหมือนเป็นคำถาม แต่มันกลับคล้ายคำเตือนมากกว่า “…” “รีบไปขึ้นรถ ฉันไม่ชอบพูดเป็นครั้งที่สอง” แยมแบะปากใส่เขา ก่อนจะหมุนตัวไปขึ้นรถอย่างไม่พอใจ เสียงช้อนกระทบจานดังอยู่ในโรงอาหารมหาวิทยาลัย พีชนั่งกินสปาเก็ตตี้ไปพลาง เหลือบมองเพื่อนสาวตรงข้ามอย่างแยมที่กำลังตักข้าวเข้าปากช้า ๆ เลโอนั่งข้างพีช เอียงตัวมาทางเพื่อนสนิทอย่างกระตือรือร้น “วันนี้ไปผับกันป่ะ?” พีชเอ่ยขึ้นก่อน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “มีวงดนตรีมาเล่นสดด้วยนะ สนุกชัวร์” เลโอรีบเสริม “ใช่ ๆ พวกเรากะว่ากินข้าวเย็นแถว ๆ นั้นแล้วไปเที่ยวต่อเลย แกจะไปด้วยไหม” แยมชะงักช้อนในมือ ดวงตาเป็นประกายทันที ความตื่นเต้นแล่นวาบขึ้นมา เธออยากไปมาก อยากปลดปล่อยจากบรรยากาศเคร่งเครียดของการเรียนและกฎเกณฑ์ที่เธอเจอทุกวัน แต่ภาพของศรัณย์ที่บอกไว้ว่าเย็นนี้จะมารับกลับบ้านผุดขึ้นมาในหัว เธอเม้มปากนิดหนึ่ง ก

  • รักข้ามเส้น   บทที่ 3/1

    ตอนเช้าแยมลงมาทานข้าวกับคุณแม่ก่อนออกไป ทว่าวันนี้เธอไม่เห็นผู้ชายคนนั้นโผล่หน้าออกมา ปกติทุกเช้าเขามักจะลงมาทานข้าวเงียบๆแล้วออกไป 14:55 เสียงอาจารย์สอนดังสลับกับเสียงปากกาเขียนลงบนกระดาษ แยมก้มหน้าจดเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงการสั่นของโทรศัพท์ใต้โต๊ะ เธอหยิบขึ้นมาดูอย่างแอบๆ แม่ : แม่จะไม่อยู่บ้านสองสามวันนะ อยู่กับพี่ไปก่อน คิ้วของแยมขมวดทันที นิ้วพิมพ์ตอบกลับอย่างรวดเร็ว แยม : ไปไหน กลับมาเมื่อไหร่ แต่ข้อความถูกทิ้งไว้เพียงแค่นั้น ไม่มีคำตอบกลับมา ตกเย็น หลังเลิกเรียน ขณะกำลังเก็บกระเป๋า เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมสายเรียกเข้าไม่คุ้นนัก แยมกดรับเพราะคิดว่าอาจเป็นแม่ ทว่ากลับได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูของใครอีกคน “ลงมาข้างล่าง ฉันมารับ” เธอขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม มารับทำไม แต่ยังคงเดินลงไปด้วยความสงสัย และเมื่อออกมาหน้าโรงเรียนก็เห็นรถสีดำคันหรูจอดรอ ศรัณย์ยืนพิงประตูรถ ราวกับไม่รีบร้อน เขามองเธอด้วยสายตานิ่งๆ แล้วพูดอย่างหนักแน่น “แม่ฝากเธอไว้กับฉัน เพราะฉะนั้น…เชื่อฟังให้ดี”น้ำเสียงนั้นไม่ได้ดังมาก แต่แฝงแรงกดดันพอให้แยมรู้สึกเหมือนถูกจับกุมตั้งแต่ยังไม่ทันก้าว

  • รักข้ามเส้น   บทที่ 2

    วันนี้แยมจงใจสาย จะได้ไม่ต้องติดรถของเขาไป เพราะกลัวว่าคุณพ่อจะให้เธอติดรถเขาอีก เธออยากจะสนิทกับเขาอยู่หรอก แต่ดูอีกฝ่ายเหมือนเห็นเธอเป็นมดปลวก แถมยังชอบมองด้วยห่างตา แยมสะพายกระเป๋าผ้าเดินลงมา ตอนเช้าเธอไม่ได้ลงมาทานข้าว แม้จะมีแม่บ้านขึ้นมาเคาะประตูเรียก แต่เธอกลับเงียบไม่ตอบอะไรราวกับคนหลับลึก แม่เห็นเธอลงมาจากห้องจึงถามว่าจะทานข้าวไหม เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ค่อยไปหากินที่มหาลัยแล้วกัน คนตัวเล็กเดินทอดน่องออกมา ผมยาวสีดำปล่อยลงสยายอยู่กลางหลัง เสื้อนักศึกษาสีขาวรัดไปกับรูป สวมกระโปรงสีดำสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ตัดเย็บด้วยผ้าที่ทิ้งตัวพอดี ทำให้ชายกระโปรงพลิ้วเบาเวลาเดิน เน้นสัดส่วนช่วงเอวให้คอดชัด กระโปรงบานออกเล็กน้อยตรงปลาย ขับให้เรียวขาดูเด่นขึ้น โดยเฉพาะต้นขาขาวเนียนที่โผล่พ้นชายกระโปรงออกมาอย่างชัดเจน “ใส่สั้นขนาดนี้ ไปเรียนหรือไปหาผัวกันแน่” น้ำเสียงเย็นเยียบดังมาจากโรงรถ ร่างสูงชุดสูทสีดำยืนพิงอยู่กับกระโปรงรถ สองมือกอดอกพลางมองพิจารณาสาวน้อยตรงหน้า แยมชะงักฝีเท้าลง เขายังไม่ไปทำงานอีกเหรอ เธออุตส่าห์รอให้เขาออกไปก่อน ทำไมถึงยังยืนอยู่ที่นี่ได้ หญิงสาวทำเป็

  • รักข้ามเส้น   บทที่ 1/2

    พวกเขาทั้งสองอยู่ในความเงียบ สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนถนน ส่วนเธอก็เอาแต่มองบรรยากาศนอกกระจกรถที่เคลื่อนผ่านไปพร้อมกับความเร็วรถ เธอตื่นตระหนก จึงกอดประเป๋าผ้าไว้แน่น ทว่ารถกำลังวิ่งผ่านมหาลัยเธอไป เขาลืมไปแล้วเหรอว่าต้องแวะส่งเธอ “พี่ขับผ่านไปแล้วค่ะ”แยมร้องบอกด้วยความรู้สึกเกรงใจ เพราะมันเลยออกมาแปดร้อยเมตร เขาเหยียบเบรคกะทันหัน จนหน้าผากมนกระทบเก้าเก้าอี้เบาะหน้าจนเกิดเสียง เธอดึงตัวกลับมาด้วยความอาย ยกมือปิดรอยแดงตรงหน้าผาก “ลงไป” แยมงุนงง จะให้เธอลงตรงนี้เลยเหรอ อย่างน้อยก็ควรจะกลับรถไปส่ง ดวงตาคมกริบปรายตามองเธอผ่านกระจก “ตอนเย็นจะมารับ อย่าลืมรอด้วยล่ะ”เขาพูดอย่างไม่ใส่นัก คนตัวเล็กได้แต่ปิดปากเงียบ แล้วลงยอมลงจากรถแต่โดยดี ทันทีที่ลง รถก็แล่นออกไปทันที ทำให้เธอต้องเดินกลับไปอีกแปดร้อยเมตร แยมเดินเข้ามาในอาคารเรียนด้วยอาการเหนื่อยหอบ ถึงจะไม่ไกลมากแต่มันก็เหนื่อยเอาเรื่อง “ทำไมทำหน้าแบบนั้น”เลโอเห็นเธอเดินคอตกเข้ามาจึงถามด้วยความสงสัย “เหนื่อย”แยมบ่นพึมพำก่อนจะนั่งลง “ทำไมเหรอ”พีชเห็นเลโอพูดคุยอยู่กับแยมจึงหันมาสนใจบทสนทนาของพวกเขา “เดินมาน่ะส

  • รักข้ามเส้น   บทที่1/1

    สายฝนเม็ดเล็กโปรยลงมาจากฟ้า ร่างสูงตระหง่านถือร่มคันสีดำไว้ในมือ ช่อดอกทิวลิปสีม่วงขนาดไม่ใหญ่มากวางไว้หน้าหลุมศพ นัยน์ตาคู่คมแดงก่ำ ทว่ากลับเก็บกลั้นความรู้สึกนั้นไว้ในใจ ป้ายหลุมศพตรงหน้าเป็นแม่ของเขา เธอชอบดอกทิวลิปเป็นพิเศษ แผ่นหลังกว้างเย็นยะเยือกขณะมองหลุมศพ เขาแสดงความรู้ได้เพียงเท่านี้ เขาคิดเพียงแค่ว่าดอกไม้ช่อนี้ควรจะมอบให้แม่เร็วกว่านี้ เขาควรจะกลับมาก่อนที่ทั้งคู่จะหย่ากัน เรื่องราวทั้งหลั่งไหล่เข้ามาในความคิดของเขา ได้แต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสอง เมื่อเขากลับมาแม่ก็จากไปแล้ว แถมพ่อยังแต่งงานใหม่อีก เรื่องราวตาลปัตรจนทำสมองของเขาแทบจะระเบิดออกมา ระหว่างที่ศรัณย์ไปฝึกงานที่อเมริกา ไม่มีใครปริปากบอกเขาสักคำเรื่องครอบครัว การกระทำเหล่านี้ทำเขาคับแค้นใจ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะปลุกแม่ขึ้นมาตอบคำถามที่ค้างคาทั้งหมด น้ำฝนสาดลงบนแผ่นหินที่สลักชื่อของป้ายหลุมศพ เสียงน้ำสาดลงบนร่มอีกคัน จนทำให้ศรัณย์ต้องหันกลับไปมอง ชายวัยกลางคนเดินเข้ามากับช่อดอกไม้สีม่วงเช่นกัน รองเท้าหนังเปื้อนไปด้วยโคล้นจากฝน ใบหน้าของทั้งสองมีส่วนคล้ายกันอยู่บางสวน ศรัณย์ไม่ได้ถอยออกจากหน้า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status