3.หิวน้ำ หรือ หิวเรา (1)

สองหนุ่มสาวนั่งกอดอกเอนกายพิงพนักเก้าอี้อยู่คนละฝั่งของโต๊ะทานอาหาร มองกันและกันอย่างหยั่งเชิง หลังจากที่ชนนซื้อข้าวต้มกลับมา บราลีก็ล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าในชุดเรียบร้อย มานั่งทานอาหารของตัวเอง ส่วนชายหนุ่มเลี่ยงไปคุยโทรศัพท์แล้วเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่เธอมีเรื่องต้องตกลงกับเขา

“สิบห้านาที มีอะไรพูดมาให้ครบเลยคุณดารา”

“นายจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน”

“ยังไม่รู้ แต่สะดวกดีก็คงอยู่ไปเรื่อยๆ”

“ไม่ได้”

หญิงสาวเสียงแข็ง

“นี่คอนโดพี่วิ พี่สาวแท้ๆ ของนายนนคนนี้นะเธอ เรื่องอะไรมาห้ามน้องชายที่คลานตามกันมาไม่ให้อยู่คอนโดพี่สาว”

บราลีเม้มริมฝีปาก ขุ่นใจคนกวนโมโห

“ฉันก็อยู่กับพี่วิมาห้าปีแล้ว แล้วพี่วิก็รักฉันเหมือนน้องสาวแท้ๆ”

“จะบอกว่าเธอก็เหมือนน้องสาวเราเหรอ”

อีกฝ่ายทำสีหน้ารับไม่ได้พลางยักไหล่ ทว่าหญิงสาวสวนขึ้น

“บ้า ใครอยากเป็นน้องสาวนาย”

“ก็ดีนะ คิดเหมือนกันเลย”

ชนนตอบกลับสั้นๆ ทว่าแววตาคมเข้มนั้นพราวระยับไม่น่าไว้ใจในความรู้สึกของคนเห็น

“นายก็รู้ว่าฉันเป็นใคร นายอยู่ที่นี่นานถ้ามีคนรู้เข้า ได้มีข่าวเสียหายออกไปแน่”

“ก็แค่บอกไปตรงๆ ว่าเราเป็นน้องพี่วิ ใครมันจะจับผิดก็ช่างมันสิ”

“นายก็พูดง่ายนี่ คนเสียหายแล้วก็ต้องแก้ข่าวคือฉัน ไม่ใช่นาย”

ชายหนุ่มนิ่งไป ก่อนจะถามราวหาเรื่อง

“เรื่องที่จะคุย คือคิดจะเฉดหัวเราออกไปจากที่นี่เร็วๆ แค่นั้น?”

บราลีหยุดคิดอย่างจริงจัง เธอไม่มีสิทธิ์ไล่ชนนไปจากที่นี่เพราะวิมาดาให้เขาซึ่งเป็นน้องชายมาอยู่ และผู้จัดการส่วนตัวก็เหมือนเป็นคนในครอบครัวของเธอ รักเอ็นดูเธอไม่ต่างจากน้องของอีกฝ่าย เธอไม่ควรทำให้วิมาดาลำบากใจ ยิ่งตอนนี้กำลังท้องกำลังไส้

“ไม่ถึงขั้นนั้น แต่ถ้านายจะอยู่ที่นี่ จะเข้าออกหน้าห้องยังไงก็ช่วยระวังตัวด้วย”

เธอบอกเสียงเรียบ ไม่อยากให้ชายหนุ่มเข้าใจว่าเธอยอมอ่อนข้อให้เขา

“คนที่นี่คงไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน คอยจับตาว่าใครเข้าออกห้องไหนหรอกมั้ง”

“ไม่รู้ล่ะ ฉันไม่อยากแก้ข่าวให้ปวดหัว”

หญิงสาวย้ำ อย่างไม่ฟังเสียงค้าน

“ที่สำคัญนายห้ามใช้ห้องน้ำข้างในเด็ดขาด ฉันไม่อยากบังเอิญเข้าไปเห็นอะไรให้ต้องเสียลูกตาอีก”

ห้องน้ำในคอนโดมีสองห้อง ซึ่งหนึ่งห้องใหญ่สามารถเข้าได้จากห้องนอนทั้งสองฝั่ง ปกติบราลีอยู่กับวิมาดาที่เป็นผู้หญิงทั้งคู่จึงไม่มีปัญหาอะไร และสามีของอีกฝ่ายไม่เคยมาพักที่นี่เพราะไม่อยากให้เป็นปัญหามาถึงเธอ

“หึ กลัวจะหวั่นไหวหรือไง”

มุมปากได้รูปกระตุกยิ้ม ดวงตาคมเข้มที่มองเธอวาววับเห็นชัดว่ากลั้นขำ

“นายนี่”

บราลีกัดฟันเข่นเขี้ยว ทว่าเท้าเล็กลอบทำร้ายอีกฝ่ายใต้โต๊ะด้วยการเตะหน้าแข้ง ทำเอาร่างสูงกำยำสะดุ้งนิดๆ

“เล่นทีเผลอแบบนี้ เราเล่นคืนบ้าง อย่าร้องไห้ขี้มูกโป่งก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมแววตาหมายมาดแปลกๆ ทว่าบราลีเชิดหน้าใส่

“เอาเถอะ ต่างคนต่างใช้คนละห้องก็ได้ สบายใจดี ตอนนั้นเราลืมคิดไปว่าประตูเปิดเข้ามาจากอีกฝั่งได้ จริงๆ เราเองก็ไม่อยากสุ่มเสี่ยงเหมือนกัน เผื่อเผลอๆ เธอเข้ามาเห็นเราแล้วหน้ามืดกระโจนเข้าใส่ขึ้นมา เดี๋ยวจะเป็นเรื่องเอา”

“คิดไปได้ ฉันไม่มีทางหน้ามืดกับนายหรอกย่ะ”

“หึๆ”

ชายหนุ่มเพียงหัวเราะในลำคอ ทว่าแววตาดูไม่น่าไว้ใจสำหรับบราลี นึกไม่อยากนั่งจ้องหน้ากับอีกฝ่ายหญิงสาวจึงตัดบท

“ไม่มีอะไรแล้ว นายจะไปไหนก็เชิญ”

“เรากลับดึก คุยงานกับเพื่อนแล้วคงไปต่อกันหน่อย เธอจัดการเรื่องข้าวเองได้นะ”

“ฉันแค่เจ็บแขนนิดหน่อย ไม่ได้เป็นง่อย”

เธอกัดฟันพูดพลางถลึงตาใส่คนถาม อีกฝ่ายก็ยักไหล่ เมื่อเห็นว่าเธอไม่มีอะไรจะคุยแล้ว ชนนจึงออกไป บราลีล้างจานเสร็จทานยาแล้วกลับเข้าไปนอนในห้องของตน ไม่นานก็หลับ

‘พี่เปิ้ลแจ้งมาแล้วค่ะ ว่าไม่เลื่อนคิว แต่จะลงเบรกดาวน์ฉากของพี่โบไม่เยอะ แล้วก็ไม่หนักค่ะ’

แพรวาโทรมาบอกเธอในช่วงบ่ายแก่ของวัน

บราลีเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการชักนำจากวิมาดา ซึ่งเป็นรุ่นพี่จากโรงเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัยเดียวกัน ในตอนแรกหญิงสาวปฏิเสธเพราะเพิ่งเริ่มทำงานในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่งในตำแหน่งครีเอทีฟ คิดว่าอยากทำงานที่มั่นคงมากกว่า

รุ่นพี่สาวไม่ได้ตื้อเธอ หากก็ทักทายมาเป็นระยะ จนเมื่อเจ้าตัวแยกตัวออกมาจากการเป็นผู้ช่วยนักปั้นมือทองชื่อดัง และมาคุยกับเธออย่างจริงจังว่าอยากให้ลองเข้าประกวดในรายการเซอร์ไวเวิลเฟ้นหานางแบบหน้าใหม่ เพราะบราลีค่อนข้างสูง แม้ความสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองเซ็นต์ของเธอ อาจดูไม่สูงนักสำหรับนางแบบ แต่อีกฝ่ายมั่นใจว่าบุคลิกและแววตามั่นใจเป็นตัวของตัวเองของเธอ บวกกับใบหน้าสวยคมแบบสาวไทยแท้ เฉดผิวสีน้ำผึ้งเหลืองนวลจะสามารถต่อยอดในสายบันเทิงได้

ด้วยความสนิทสนมกันมานานและรู้ว่าวิมาดาอยากปั้นใครสักคน ซึ่งรุ่นพี่สาวมั่นใจในตัวเธอ บราลีจึงคิดว่าลองดูก็ไม่เสียหาย แม้ไม่คิดว่าตนจะมีความสามารถทางด้านวงการบันเทิงก็ตาม

บราลีตกรอบออกจากรายการนั้นค่อนข้างเร็ว แต่ก็พอมีกระแสพูดถึงบ้าง เพราะรายการจัดจ้านทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งแม้จะเป็นคนไม่ค่อยพูดมาก แต่บราลีพูดตรงแรงโดนใจคนดู จึงมีคนติดตามให้กำลังใจ

‘เห็นไหม หน้าตาสวยๆ อย่างโบ ต้องมีคนเชียร์แน่ คนเริ่มรู้จักโบแล้ว ต่อไปพี่จะพาโบไปแคสงาน พี่มีคนรู้จักเยอะเหมือนกัน พี่เท็ดเองก็เคยบอกไว้ ว่ามีอะไรก็บอกได้’

วิมาดาแยกตัวออกมา แต่ไม่ได้ผิดใจกับหัวหน้าเดิมของตน เพียงแค่อยู่ในวงการมาพักหนึ่งก็ควรเติบโต และเชื่อว่าบราลีจะเป็นดารานักแสดงได้ หลังจากนั้นก็เริ่มมีงานถ่ายแบบกับโฆษณาเข้ามาเรื่อยๆ กระทั่งได้เล่นละครในที่สุด

เริ่มจากตัวประกอบมาเป็นบทรอง ได้เซ็นสัญญากับช่องใหญ่และได้รับบทนางเอก ชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ตอนนี้นับได้ว่าเป็นนักแสดงที่มีงานต่อเนื่อง แม้จะไม่ใช่เบอร์ต้นๆ ก็ตาม

แต่เพราะวิมาดาอยากให้บราลีโดดเด่นกว่าเดิม เมื่อรู้ว่ามีละครที่นักแสดงชื่อดังอันดับหนึ่งของประเทศจะรับบทนางเอกนำของเรื่อง โดยผู้จัดละครกำลังเฟ้นหานางร้ายที่มีลักษณะเป็นผู้หญิงแสนดีทว่าร้ายลึก ผู้จัดการสาวเห็นว่าเป็นโอกาสดีจึงพาบราลีไปแคสติ้ง เพราะอย่างไรละครเรื่องนี้ก็ต้องได้รับความสนใจอย่างแน่นอน แล้วผู้จัดก็เลือกบราลี

ด้วยเนื้อหาของเรื่องเข้มข้น ฟาดฟันกันสุดฤทธิ์ ร้ายมาร้ายตอบ ทำให้คนติดตามดูมากขึ้นจนกลายเป็นละครดังยอดนิยมแห่งปีเลยทีเดียว ทั้งยังส่งให้บราลีแจ้งเกิดในฐานะนางร้ายคนใหม่เต็มตัว

กระแสมาแรงชนิดที่มีสินค้าหลายแบรนด์ติดต่อเข้ามาไม่หยุด นับว่าคุ้มค่ากับการเปลี่ยนมารับบทบาทนี้

=====

พระนางของเรา กัดกันวันละนิด จิตแจ่มใสเนอะ ^^

ฝากกดติดตาม กดหัวใจ และคอมเมนต์พูดคุยกันได้นะคะ^^