“What? อะไรกันวะ มึงพูดแบบนี้ ธาม... มึงนะมันเห็นแก่ตัว” นัยน์ตาของธนดลเจ็บปวดมาก ๆ ที่เขาทำทุกอย่าง เฝ้าคอย รออย่างมีความหวัง เพราะคำว่ารัก มันจุกแน่นในอก
“ฮึ! ได้... ได้สิ... ปล่อยเหรอวะ! ได้เลย! ปล่อยของกู คือ กูจะไม่ปล่อยมึงให้ลอยนวลอีก วันนี้... และกูจะคิดบัญชีที่มึงให้กูรอ ธามมึงมานี่!”
ธนดลลุกจากเก้าอี้ แล้วตรงดิ่งเข้าไปล็อกตัวของธามเอาไว้ พร้อมกับรวบยกตัวขึ้นลอย พาเดินไปยังโซฟาที่อยู่ในห้องนั้น
“โอ้ย! เจ็บนะ ดล... นายต้องปล่อยฉัน ปล่อย”
ใจร่วงหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว หัวใจสั่นระรัว แรงของธนดลมีมากกว่า อีกอย่างเร็วแรงของธามนั้นหมดไปกับการทำงานแล้ว ธนดลเหวี่ยงร่างที่เบา ๆ ของธามลงไปบนโซฟาตัวอย่างที่อยู่กลางห้องนั้น
ก่อนจะเข้ามาจู่โจมโถมทับ สองมือแกร่งจับใบหน้าของธามเอาไว้ ยึดให้อยู่กับที่ ธนดลพยายามจะจูบ โดยการบดขยี้กลีบปากลงไป ทว่าธามดิ้นขลุกขลักและไม่ยอม
แรงที่มีทั้งหมดของธามสู้และขัดขืนการบังคับข่มเหงของธนดลที่จะให้ธามยอมเขา แต่ธามดิ้นรนสุดแรงเกิด แม้จะตัวเล็กกว่ามาก สองมือยกยันใบหน้าของธนดลให้ออกห่าง พอกลีบปากเป็นอิสระก็พูดออกไป
“อื้อ… ปล่อยนะ! ดล! นายอย่าฝืนใจฉัน”
พลั่ก! ตุ้บ…
ผัวะ! ผัวะ!
มือหนาใหญ่ของใครบางคนกระชากร่างของธนดลออกไป แล้วระดมกำปั้นใส่ยกใหญ่
“เฮ้ย! ไอ้เชี่ยเอ้ย... มึงเป็นใครวะ? แล้วมึงเข้ามาได้ยังไงวะ?” ธนดลส่งเสียงโวยวาย ยกมือขึ้นปัดป้อง เพราะไม่รู้ว่าใครกำลังซัดหมัดใส่เขาแบบระยับ แถมยังตอนนี้ธนดลยังถูกจับ และรั้งขึ้น จับแขนได้ก็เหวี่ยงตัวจนเซถลาไป หัวแทบทิ่มอย่างไม่ทันตั้งตัว
แล้วไม่พอไอ้คนนั้นก็ยังคงเหวี่ยงหมัดใส่ลงหลายตุบหลายตับ ทำเหมือนธนดลเป็นกระสอบทรายก็ไม่ปาน
จนคนที่นอนอยู่ที่โซฟา ต้องลุกขึ้นมานั่งดู ดวงตาของธามเบิกกว้าง ยกมือขึ้นมาขยี้ตา เพราะคนตรงหน้าที่กำลังสั่งสอนธนดลดูคุ้นเคย และคุ้นหน้าคุ้นตา แต่ยังเห็นไม่ชัดเจนเลย
“โอ้ย! ไอ้เชี่ย มึงต่อยกูทำไม นี่มันบ้านกู ห้องกู มึงเป็นใคร? มึงมาเล่นงานกูทำไม” ธนดลโมโห ได้แต่ตะโกนลั่น ดวงตาเปิดมอง แต่ก็ยังไม่รู้จักอยู่ดี
ฝ่ายผู้มาใหม่เห็นว่าใบหน้าของธนดลแตกยับ เขาจึงหยุด และจ้องมองหน้า แต่มือทั้งสองข้างยังกระชากจับแน่นอยู่ที่คอเสื้อ และมองอีกฝ่ายตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน สีหน้าทั้งเย็นชา และดุดันเอาเรื่อง ก่อนจะผินหน้า หันเหลือบมองไปยัง... ธาม
“นาย... อาร์ต…” ธามตกใจที่เห็นดวงหน้าของคนที่มาเยือน และช่วยจัดการธนดลให้ตัวเอง ก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด
“อะไร? นี่มึงรู้จักกันด้วยหรือธาม!”
“…” ธามไม่ตอบ
“แต่ไอ้นี่ มันก็น่าจะเข้ามาง่าย ๆ นะ มันยังไงกันเนี่ย” ธนดลงงงวย เพราะไม่เคยเห็นหน้าคนที่ทำร้ายตัวเอง แล้วยังดวงตาของธามในเวลาที่ที่สั่นไหวระริกจนสังเกตเห็น
“ว่าไงวะ?” ธนดลยังตะโกนออกมาอย่างไม่ใยดี
“ก็กูมีรหัสห้องนี้ ที่เจ้าของร่วมไม่เคยเปลี่ยนรหัสผ่านประตูอย่างไงล่ะ”
“หา! มึงพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร? แล้วมึงเป็นอะไรกับธามของกู”
“ของกูหรือ? แต่เมื่อกี้กูได้ยิน ธามบอกว่าให้มึงปล่อย ธามไม่ได้ยอมมึง”
“ไอ้ขี้เสือก”
“อื้อ... รู้ก็ดีแล้วนี่ กูก็ขี้เสือกจริง ๆ เสียด้วย แต่ขอโทษนะ ห้องนี้เป็นชื่อของกูครึ่งหนึ่ง และก็ชื่อของธามครึ่งหนึ่ง การที่จะให้ใครมาอยู่ที่นี่ก็ต้องได้รับอนุญาตจากกูด้วย”
“มึง มึง...” ดูเหมือนธนดลจะโกรธจนหัวจะระเบิด
“ขอโทษนะ” เขาดึงคอเสื้อของธนดล พร้อมกับฉุดให้ลุกขึ้นยืน
“ที่นี่ ไม่ใช่ที่ของนาย กูกลับมาทวงที่ของฉันแล้ว ออกไปดี ๆ หรือว่าจะให้ลูกน้องของกูเอาตัวมึงออกไป”
“ธาม... พูดอะไรสักอย่างสิ”
“ฮ่า...” เสียงหัวเราะแหลมจนคนฟังเสียดแทงในรูหู
“ถ้าไม่อยากเดือดร้อนนะครับ คุณธนดล ผมคือประธานคนใหม่ของเฉินกวงกรุ๊ป ได้ข่าวว่า พ่อนายเพิ่งจะเสร็จสัญญาไปนี่ ถ้าไม่อยากล้มละลาย หรือว่าให้พ่อของนายเจ๊งล่ะก็ กลับออกไป”
“อะไรนะ?” ธนดลถึงกับมีใบหน้าซีดเผือด
“ได้ยินแล้วนี่ หรือว่านายต้องแคะขี้หูหน่อย”
คราวนี้เป็นธนดลเสียเองที่กลืนน้ำลายลงไปในคออย่างลำบาก
“ฝากความคิดถึงถึงพ่อของนายด้วยนะ แล้ว... เฮ้ย! ใครที่อยู่ข้างนอกนะ พวกนายเข้ามาสิ เข้ามาเอาตัวไอ้หมอนี่ออกไปให้พ้นหน้าฉันที!”
“ครับบอส” ชายฉกรรจ์ชุดสีดำ กรูกันเข้ามาถึงสามคน
“เฮ้ย! อะไรวะ? พวกมึงทำแบบนี้ไม่ได้นะ ปล่อยกูสิวะ ปล่อยกู กูบอกให้ปล่อยไง!”
“แมทธิว”
“ครับบอส”
“คืนเงินให้มันด้วยสองล้าน” แล้วนิ่งไปสักพัก
“อ้อ... ให้ดอกเบี้ยไปด้วย โทรศัพท์ไปบอกคุณธนาพ่อของนายธนดลด้วยสิว่า... คิดดอกเท่าไร มันจะได้ตาแจ้ง”
“ครับบอส”
แล้วแมธทิวก็พาลูกน้องออกไป พร้อมกับตัวของธนดล
ธามยังคงนิ่วหน้าขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ก่อนจะยังตกใจตะลึงว่าคนที่อยู่ตรงหน้าของเขาในตอนนี้ คือ... ‘อาชวิน’
‘อาร์ต... นายมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร’ คำถามมีมากมายในหัวของธาม และไม่เข้าใจมากกว่าว่าทำไมอาชวินกลับมา
ตอนนี้สายตาของอาชวินที่มองธาม เต็มไปด้วยความเย็นชา และเปลี่ยนไป เขาดูดุดันกว่าที่เคยเห็น แต่ใบหน้านั้นยังคงหล่อเหลาคมคายเช่นเคย อาชวินปรายตามองอดีตคนรัก ที่ทำเขาเจ็บช้ำมาอย่างยาวนาน แทบจะเสียคนเลยตอนนั้น
เสียงของธนดลได้หายไป หลังจากที่คนของอาชวินได้ลากตัวธนดลออกไปแล้ว
ธามได้สติ เขาลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย รู้สึกหวั่นไหวกับสายตาที่เรียบนิ่ง
“อาร์ต… นายกลับมาทำไม และต้องการอะไร?”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อ ชื่อที่นี่เราซื้อด้วยกันสองคนนี่ นายอยู่ได้ ผมก็ต้องอยู่ได้” อาชวินเลือกใช่คำที่ห่างเหิน
ธามหลบสายตาของอาชวินในทันที
คืนที่เต็มไปด้วยดวงดาวและแสงไฟจากตึกระฟ้าของฮ่องกง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ สวยงามเกินกว่าจะบรรยาย ท่ามกลางความสูงของตึกที่ถูกประดับประดาไปด้วยไฟหลากสีมีร้านอาหารที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด ที่สร้างบรรยากาศโรแมนติกและหรูหราให้กับคู่รักที่ต้องการฉลองความรักอาชวินและธามนั่งอยู่ที่โต๊ะที่ประดับด้วยเทียนสีทอง พวกเขามองกันด้วยความรักและความอบอุ่นธามสวมชุดที่สูทเรียบง่ายสีขาว บนใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและรอยยิ้ม ขณะที่อาชวินในชุดทักซิโด้สีดำ ที่ดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มาก เมื่อแสงเทียนส่องถึงพวกเขา ทำให้เกิดเงาสลัวที่เติมเต็มบรรยากาศของความรัก“อาร์ต” ธามเรียกชื่อเขาเสียงเบาเขามองตาอาชวินด้วยความรักที่ลึกซึ้ง
ธามลุกขึ้นนั่งบเตียง จ้องมองหน้าอาชวินอย่างใจอ่อน ได้แต่คิดว่า เวลาเท่านั้นที่จะทำให้อาชวินใจดีกับตัวเองก็ได้จู่ ๆ อาชวินก็เอ่ยขึ้น “ไปจัดกระเป๋าเดินทาง”“ไปไหน”“ไปไหน... ก็ไปด้วยกันไง”“แต่ถ้านายไม่บอกฉันก่อนล่ะก็”“นี่! เมื่อกี้ยังบอกว่าไงนะ” เขาชี้หน้าธาม“ก็ได้ ก็ได้ ไปแล้ว” ธามรีบลุกไปที่ตู้เสื้อผ้า โดยที่มีร่างหนาของอาชวินตามมาติด ๆ เขารีบยกเอากระเป๋าเดินทางที่อยู่บนหลังตู่ลงมาวางไว้บนพื้น และหันมามองธามด้วยสายตานิ่ง ๆ อีกครั้ง“จัดกระเป๋าของนาย สำหรับหนึ่งอาทิตย์นะ”
“ไม่… ไม่นะ… อาร์ตนายจะไปไหน อย่าจากฉันไป… กลับมาเถอะ กลับมา… ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ… ฉันผิดไปแล้ว ฉัน… ฉันขอโทษจริง ๆ ฉันรักนาย… อาร์ต… ถ้าขาดนายครั้งนี้ฉันจะฆ่าตัวตาย ฉันจะไม่มีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่โหดร้ายนี้อีกแล้ว ไม่… ไม่… ไม่…”เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นมาบนใบหน้าของธาม ร่างที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง“ธาม ธาม ธาม ในฝันร้ายเหรอ ตื่นได้แล้ว ธาม…” อาชวินเขย่าร่างกายของธามอย่างแรง เพื่อเลือกสติของธามให้กลับมาธามสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้าย เหงื่อไหลซึมทั่วหน้าผาก หัวใจเต้นแรงราวกับเพิ่งวิ่งหนีจากสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต แต่สิ่งที่น่ากลัวไม่ใช่ปีศาจหรือเงามืด
“แฮ่ก... แฮ่ก…” เสียงลมหายใจแรงออกมาจากร่างของธาม กลีบปากงับเม้มเข้าหากัน พร้อมกับหลับตาพริ้ม รอรับความบันเทิงอันใหญ่โตของอาชวินดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลุบมองล่วงหน้าน้อย ๆ ที่หลับตาปี๋ ความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดยังปะปนอยู่ในอารมณ์ของอาชวิน แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็คือความสุข ความคิดถึง ที่อยากจะมอบให้กับคนตรงหน้า“ฉันขอร้องนะ อาร์ต... นายอย่าเกลียดฉัน” ปากเล็กยังพร่ำพูดออกมาเหมือนเพ้อเจ้อ ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะขบงับเข้าหากัน และทำใบหน้าเหยเก“พร้อมนะ” อาชวินถาม ก่อนจะกดหัวมนหยักเข้าไปในช่องทางรูจีบด้านหลังของธาม“อาร์ต... อาร์ต... อาร์ต...” ธามเอาแต่เรียกชื่อของเขาสองมือจิกเล็บเข้าไปในเนื้อหนังของตัวเองที่ตรงใต้เข่า ร่างสู
“เอาเถอะนะ ตอนนี้เราอยู่ในสนามรบแล้ว กำลังจะขึ้นประลองยุทธกันแล้ว ฉันว่านายกินเถอะ นายลืมไปแล้วเหรอว่า วันนี้เป็นวันเกิดของฉันน่ะ”‘วันเกิดของอาร์ต บ้าจริง… ฉันลืมไปได้ยังไงเนี่ย ก็เพราะนายนั่นแหละ’ ธามรู้สึกเสียใจที่ลืมวันเกิดของอาชวินไปได้ทั้ง ๆ ที่ เขามักจะไปทำบุญทุกปีคนเดียว เพื่ออวยพรวันเกิดให้กับอาชวิน ธามจึงกวักมือเรียกพนักงาน“มีอะไรคะ”“วันนี้วันเกิดแฟนของผม”“ได้เลยค่ะ มีส่วนลด 10% ทุกเมนูเลยนะคะ”คำว่าแฟนของผม ทำให้หัวใจของอาชวินเต้นแรงผิดจังหวะแล้วธามก็ดึงพนักงานสาวเข้ามากระซิบกระซาบบอกอะไรบางสิ่งบางอย่าง
ในเวลาต่อมา “กว่าจะเสด็จออกมาได้นะ ชักช้าจริง” อาชวินเดินเข้าไปกระชากแขนของธาม ร่างเล็ก ๆ ปะทะที่แผงอกของอาชวิน“นี่นายทำเกินไปแล้วนะ มันเจ็บนะ ปล่อย!”“คนอย่างนายรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอ” แววตาเยาะเย้ยถากถาง“ทำไมนายจะต้องพูดจาแบบนี้ด้วย มันทำร้ายจิตใจกันนะ รู้ไหม?”“รู้จักคำว่าทำร้ายจิตใจด้วยเหรอ นึกว่า… ไม่สำนึกสำเหนียกด้วยซ้ำ”“...” ธามมองอาชวินอย่างท้อแท้ใจ“ก็ได้ ต่อไปฉันจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว เชิญนายตามสบายเถอะ นายอยากว่า อยากด่า อยากจะทำอะไรกับฉันก็เชิญ ก็ได้ทั้งนั้นแหละ”