บ้านพลอย
วรรณิหลาที่พึ่งจะอาบน้ำเสร็จ เดินมานั่งที่เตียง มือเล็กจับเอากระเป๋าสะพายของเธอมาล้วงมือถือออกมา เพราะเพิ่งมานึกได้ว่าคุณหมอไนยะจะโทรหาหลังจากกลับถึงบ้าน
“ อ้า พี่หมอโทรมาตั้งสิบสายเลย โทรกลับดีมั้ยเนี้ย “ แต่ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ ไนยะก็โทรเข้ามาหาเธออีกพอดี ณิหลาก็อมยิ้มแล้วกดรับสายจากเขา
[“ ฮัลโหลณิหลา นึกว่าเทพี่ไปแล้ว ยังไม่ทันได้เริ่มจีบเลยนะ “] ตอนเธอกดรับเสียงทุ้มของเขาก็พูดออกมาอย่างออดอ้อนงอแง เล่นเอาคนฟังยิ้มไม่หุบ
“ ขอโทษ พอดีณิหลาช่วยพลอยกับลุงเก็บของ เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์นะคะ “
[“ เก็บของไปไหนครับ “] ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง
“ ก็ย่าของพลอยไม่สบายนะคะ ก็เลยต้องกลับไปดูใจ ยังไม่รู้เลยว่าจะกลับมาวันไหน “
[“ อ้าว แบบนี้ก็แสดงว่าน้องอยู่คนเดียวหรือครับ”]
“ อืม ค่ะ “
[“ หน้าเป็นห่วงจัง ให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนมั้ย “] เขาหยอกเธอออกมาอย่างกวนๆ ณิหลาก็อมยิ้มพูดกวนเขากลับ
“ อย่าเลยค่ะ ถ้าพี่มา ณิหลากลัวว่าตัวเองอาจจะไม่ปลอดภัยกว่าเดิมก็ได้ “
[“ โห่ เห็นพี่เป็นคนยังไงแล้วครับเนี้ย แล้วนี่ น้องจะเข้านอนหรือยัง “]
“ ก็ง่วงนอนแล้วเหมือนกันค่ะ “
[“ เดี๋ยว ก่อนจะนอนปิดประตูใส่ล็อคหมดแล้วใช่มั้ย หืม “] เขารีบถามเธอเสียงดุ
“ ถ้าจะห่วงกันขนาดนี้มาปิดให้ณิหลาเลยไหมคะ”
[“ ได้เหรอ ถ้าอย่างนั้นพี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ “]
“ ล้อเล่นค่ะ พี่หมอนี่ห้าวจัง “ เธอพูดแล้วก็หัวเราะเขา
[ “ ถ้าอย่างนั้นก็นอนได้แล้วครับ มีอะไรโทรหาพี่ได้ 24 ชั่วโมงเลยนะ ฝันดีน่ะตัวแสบ “]
“ อืม ฝันดีค่ะ พี่หมอ “ พอปลายสายวางไป เธอก็หันหน้าไปหมอบลงใส่หมอน แล้วกรี๊ดออกมาด้วยความเขิน ให้ตายเขาหยอดเธอไม่พักเลย
“ พ่อๆ “
“ มึงมีอะไรไอ้สรรหา “ สรรหาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาหาคนเป็นพ่อในบ้าน
“ วันนี้ฉันได้ยินว่า ไอ้สนุ๊กกับอีพลอยไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด “ วิสิตจึงรีบหันไปจ้องหน้าลูกชายทันที
“ จริงหรือ ? แบบนี้ก็แสดงว่าทางสะดวกน่ะสิ แล้วอีณิหลาไม่ได้ไปกลับพวกมันด้วยใช่มั้ย “
“ใช่จ๊ะ มันเฝ้าบ้านให้สองคนนั้น “ สองพ่อลูกยิ้มร้ายออกมา “ วันไหนดีจ๊ะพ่อ ขอไอ้สรรหาคนนี้แจมด้วยน่ะ เพราะมันสวยมาก ฉันสักจะอดใจไม่ไหวแล้ว “
“ เอ้อ รอดูไอ้ข้างบ้านสองหลังนั้นก่อน ถ้ามันไม่อยู่วันไหน เราสองคนก็ไปจัดการมันเลย หือ “
2 วันต่อมา
22:56น.
“ อ้าว ฝนตกเหรอ มันใช่ฤดูฝนหรือไง “ วรรณิหลาที่นอนวาดรูปตรงกลางบ้านได้ยินเสียงเม็ดฝนตกกระทบใส่กระเบื้องหลังคาบ้าน เธอก็เริ่มใจไม่ดี
“ มาตกอะไรตอนอยู่คนเดียวว่ะ หวังว่าจะไม่มีพายุด้วยนะ “ ณิหลาเริ่มหายใจถี่ขึ้นเมื่อนึกถึง เพราะเธอกลัววันที่ฝนตกฟ้าร้องเป็นที่สุด
“ ลางสังหรณ์ไม่ดีเลย “ ณิหลาวางมือจากรูปที่วาด แล้วลุกเดินไปหากระดาษที่ลุงสนุ๊กเคยให้เธอไว้
“ อยู่ไหนวะ เราเอาไปไว้ไหนแล้วเนี้ย “ แต่เมื่อหาไปหามาก็ไม่เจอ ไม่รู้ว่าเธอแอบหลงไปเก็บไว้ไหน
แก๊ก!
“ เสียงอะไร “ เสียงดังก๊อกแก๊กที่ประตูหลังบ้าน ทำให้ณิหลาต้องรีบจับเอามีดปลอกผลไม้บนโต๊ะ แล้วเดินเข้าไปดู
“ อีณิหลา! “
“ ไอ้สรรหา!!นี่มึงเข้ามาได้ยังไง! “ ณิหลาตาเหลือกโผนด้วยความตกใจ ที่อยู่ๆ ศัตรูก็เข้ามาอยู่ในบ้าน เธอทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากจ่อมีดไปที่หน้าของมันอย่างสั่นกลัว
“ มึงคิดว่าบานประตูแค่นี้จะทำอะไรพวกกูได้งั้นเหรอ “
“ พวก! ? “
“ กะเอ้อ! “ ไอ้วิสิตโผล่เข้ามาด้านหลังของวรรณิหลาแล้วพยายามแย่งมีดในมือเธอ พร้อมกับกอดรัดหญิงสาวเอาไว้จากด้านหลัง ณิหลารีบควบคุมสติแล้วกระทืบตีนใส่เท้าของมัน จากนั้นก็ศอกสับใส่หน้าไอ้วิสิต หญิงสาวเผลอสะบัดมีดในมือของไอ้วิสิตด้วย จนมีดไปบาดเข้าหน้าของมันเอง
“ โอ้ย อีเหี้ย! “ เมื่อหลุดออกจากสองพ่อลูกได้ ณิหลาก็พยายามจะวิ่งหนี แต่ข้างนอกพายุกำลังจะมา แล้วถ้าจะให้เธอที่กำลังตัวสั่นไปปลดล็อคกลอนประตูตอนนี้ก็คงจะไม่ทัน ณิหลาจึงรีบวิ่งเข้าห้องนอนล็อคประตูพร้อมหาโต๊ะเก้าอี้มาดันประตูเอาไว้
“ มึงเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้อีณิหลา! “
เสียงเคาะประตูดังสนั่นหวั่นไหว จนณิหลาที่ตอนแรกมีสติดีเริ่มหวาดกลัวขึ้นมา เพราะเนื่องจากอากาศที่ฝนตกฟ้ากำลังร้องเสียงดัง บวกกับน้ำเสียงของคนชั่วคนเดียวกันกับวันนั้น ทำเอาวรรณิหลาเริ่มจิตตก
‘อีวิสา! มาเปิดประตูให้กู! “ เมื่อ 5 ปีก่อนมันเคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น
‘ ไม่ต้องกลัวนะณิหลาพี่อยู่นี่แล้ว ‘หญิงสาวในชุดนักเรียนถักเปียสองข้างยาวจนถึงกลางหลัง ยืนกอดณิหลาอยู่ในห้องเพื่อปลอบใจน้องสาวที่กำลังตัวสั่นด้วยความกลัว เพราะเกือบจะโดนคนเลวข่มเหงรังแก
“ เปิดประตูให้กูอีณิหลา!! “ ซึ่งในวันนี้เหตุการณ์ในอดีตมันเหมือนหวนกลับมาซ้ำรอย ณิหลาที่ตอนนี้หวาดกลัวจนไม่สามารถแยกความคิดใต้สำนึกกับเหตุการณ์จริงออกได้ ตัวเธอสั่น กลัวมากรีบเอามือสองข้างยกขึ้นจับที่หัว ปากอิ่มก็สั่นกระทบกันไปมา
ปั่ง!!
“ อ๊าย!!! “ ภาพที่ประตูโดนถีบเปิดออกทำให้หญิงสาวกรีดร้องลั่นบ้าน เพราะภาพหลังจากนี้ที่เคยเกิดเหตุการณ์อันแสนโหดร้ายมันได้วิ่งเข้ามาในหัวอีกครั้ง….
สองร่างยืนเบียดกันอยู่ที่ประตูกระจกทางออกไปยังระเบียงห้องหอ คุณหมอสวมกอดภรรยาของเขาแนบแน่นแล้วจรดจมูกหอมลงบนแก้มนิ่มหอมแล้ว ก็หอมอีก เหมือนกับว่ามันไม่อาจเพียงพอต่อความต้องการในตัวเขา“ พี่หมอ ณิหลาจั๊กจี้น่า “ หญิงสาวเบี่ยงตัวหนีพร้อมเดินออกมาจากอ้อมแขนของเขา ไนยะเห็นเช่นนั้นก็เผยยิ้มรีบปิดผ้าม่านเอาไว้แล้วจ้องมาที่ร่างบาง“ พี่หมอ วันนี้งดไม่ได้หรือคะ “ “ บ้า วันนี้วันเข้าหอนะ ขนาดวันธรรมดาพี่ยังทำทุกคืน วันเข้าหอแบบนี้พี่จะพลาดได้ยังไง “ เขาเดินมายืนต่อหน้าของหญิงสาว ณิหลาก้มหน้าหงุดคิดหาทางรอด “ งั้นณิหลาไปอาบน้ำก่อนนะคะ “ หญิงสาวว่าจบก็รีบจับผ้าเช็ดตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ “ เฮ้ยเดี๋ยว! น้องคิดว่าจะหนีพี่พ้นเหรอ “ เขาก็รีบวิ่งตามเธอเข้าไป ผ่านไปหลายชั่วโมงสองร่างของคู่รักก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียง “ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าวันที่ณิหลาถูกวางยาแล้วมาเจอกับพี่..จะทำให้เรามีวันนี้ “ หญิงสาวที่นึกคิดถึงความหลังเรื่องราวเลวร้ายและคนชั่วร้ายที่เคยเข้ามาในชีวิตเธอ บัดนี้มันได้หายไปหมดสิ้น ทุกคนที่เคยทำร้ายเธอต่างได้รับโทษกรรม บ้างก็ติดคุกบ้างก็หายสาบสูญ เหลือไว้ก็แค่คนที่ดีและรักเธอจริงๆ หน
หลายวันต่อมาคุณหมอณัฐชัยเพิ่งกลับมาจากทำงาน ลงจากรถเขาก็รีบออกตามหาเมียไปทั่วบ้าน“ ณิหลาครับพี่กลับมาแล้ว ไปไหนเนี่ย ? “ เมื่อหาจนทั่วแล้วไม่เจอเธอ เขาจึงจะเดินไปหาที่บ้านแม่ แต่ทว่าเมื่อเขาเดินออกมายังหน้าบ้าน ก็เห็นว่าที่ภรรยาเดินกลับมาจากจุดหมายที่เขากำลังจะไปพอดี “ ทำไมมาสภาพนี้? “ ไนยะเดินเข้าไปประคองเธอที่กำลังเดินเซ ใบหน้าแดงแจ๋เพราะฤทธิ์เมา หญิงสาวซบลงตรงหน้าอกของคนตรงหน้า ไนยะก็รีบกอดเธอเอาไว้ “ แม่ชวนไปเลือกบัดเชิญงานแต่งมานะคะ แล้วคุณแม่ก็เอายาดองสูตรเด็ดมาแบ่งณิหลาจิบๆ “ มือน้อยยกขึ้นจับจีบตรงหน้าแฟนเพื่อจะบอกเขาไปว่าจิบแค่นี้ “ นี่แม่ชวนน้องเมาเหรอ “ “ ใช่ แต่แค่นิดหน่อยเอง จิบๆ “ “ ไม่จิบ ไม่หน่อยแล้วมั้งแบบนี้นะ “ เขาอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิง แล้วพามาส่งที่โซฟาในบ้าน เมื่อวางเธอนั่งลงปุ๊บมือเล็กก็ทาบลงตรงหว่างขาของเขาทันที “ หยุดๆ ณิหลา !” เขารีบปรามเธอที่กำลังบีบตรงนั้นของเขาเล่น จนเขาเกิดมีอารมณ์“ ทำไม? มันแข็งแล้วนี่ค่ะ “ ไนยะรีบดึงแขนของเธอออกจากเป้าเขา“ อย่าดื้อได้มั้ยตัวแสบ “ แต่คนเมาหาได้ฟังเขาไม่ มือเล็กดึงเขามานั่งข้างเธอจากนั้นจึงซุกหน้าลงหว่างขาของเขา
“ พี่หมอตื่นได้แล้ว มันจะแปดโมงแล้วนะคะ “ ณิหลาที่ตื่นมาได้สักพักแล้ว รีบปลุกคนที่ยังคงหลับคาเต้าของเธอให้มีสติ“ พี่ไน!!! “ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ขยับเธอจึงตะคอกใส่เขาเสียงดัง จนชายหนุ่มสะดุ้งลืมตา“ หา ห๊ะ!! “ ไนยะโงหัวขึ้นมาจ้องหน้าเมีย “ อีกสิบนาทีจะแปดโมง วันนี้ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลเหรอ “ มือใหญ่ยกขึ้นลูบผมตัวเองที่ยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ดวงตาที่กึ่งหลับกึ่งตื่นโตขึ้น“ ไปสิ พี่มีนัดผ่าตัดตอนเก้าโมงด้วย “ เขาคลานลงจากเตียงแล้วยืนบิดขี้เกียจ วรรณิหลาจ้องเขาด้วยใบหน้าร้อนผ่าว เหตุเพราะเขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แล้วเจ้านั้นมันก็แกว่งไปแกว่งมาเวลาที่เขาขยับ“ พี่อาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวจะไปไม่ทัน “ คนโดนมองไม่รู้ตัวเลย เขารีบจับเอาผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ทำให้หญิงสาวได้สติ รีบส่ายหน้า“ พี่ให้ณิหลาเตรียมอะไรไว้ให้กินมั้ยคะ “ “ ไม่เป็นไร น้องนอนต่อเถอะ “ ณิหลานั่งอมยิ้มมองไปที่ประตู ซึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะเมื่อคืนแม้จะเคลิ้มหลับกันไปแล้ว แต่ตอนเขาหายเหนื่อยได้สติตื่นขึ้นมา เขาก็สะกิดเธอทั้งคืน คิดได้แบบนั้นเธอก็เปิดผ้าห่มก้มมองหว่างขาตัวเอง ที่ตอนนี้เหมือนมันจะปวดแสบปวดร้อนไปหมด เขากะจะให้เธ
บ้านคุณหมอ“ ณิหลาครับ “ คุณหมอณัฐชัยที่เพิ่งจะอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จ เดินเข้ามาหาแฟนสาวที่กำลังยืนเหม่ออยู่ตรงระเบียงห้องนอน เมื่อร่างของเขาเดินมาถึงตัวเธอก็เข้าแนบชิดด้วยการสวมกอดใบหน้าคมซุกใส่ซอกคอขาวเพื่อสูดดมคนรัก“ เหม่ออะไรอยู่ครับที่รักของหมอไน “ เขาจรดจมูกหอมไปที่แก้มของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้ากินได้เขาคงจะกลืนเธอลงท้องไปแล้ว “ พี่หมอ กลืนณิหลาลงท้องไปเลยไหมคะ “ “ ถ้าทำได้พี่ก็คงทำไปนานแล้วละ แต่น้องยังไม่ให้คำตอบพี่เลยนะ ว่ายืนคิดอะไรอยู่ “ มือใหญ่สองข้างจับที่ราวระเบียงแล้วให้คนตัวน้อยอยู่ตรงกลางระหว่างแขนของเขา“ ณิหลาก็แค่กำลังคิด เรารู้จักกันมาได้แค่ 3-4 เดือนแต่จะแต่งงานกันแล้ว ณิหลาเลยอยากรู้ว่าอะไรทำให้พี่หมอคิดว่า ณิหลาคือคนที่ใช่ของพี่ คนที่พี่อยากแต่งงานด้วย “ ร่างเล็กหันมาแล้วเงยหน้าจ้องคนที่เธอถาม “ ก็คงจะเป็นคำตอบเดียวกัน ถ้าพี่ถามน้องกลับว่าทำไมน้องถึงได้ตกลงจะแต่งกับพี่ “ คนฟังเผยยิ้ม “ ก็เพราะความรู้สึกยังไงละค่ะ เพราะณิหลารู้สึกอยากแต่งแล้วก็ใช้ชีวิตร่วมกับพี่ “ คนพี่ก้มลงมาจ้องตากลม“ ใช่ พี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกับน้องนั่นแหละ ถึงได้ขอน้องแต่งงาน เพราะพี่เอ
“ เอ้า ยืนยิ้มกันอยู่นั้นแหละ “ หนึ่งเดียวที่เห็นเพื่อนมัวแต่ยืนเขินจ้องหน้าณิหลา จึงยื่นมือมาดันหลังให้เพื่อนขยับเข้าไปใกล้มากขึ้น ไนยะอมยิ้มเขินให้คนตรงหน้าเล็กน้อย “ ณิหลา รู้มั้ยครับ ว่าวันนั้นพี่รอดมาได้ยังไง “ เสียงทุ้มแผ่วถาม คนฟังก็ส่ายหน้า “ เพราะเสียงของน้อง ณิหลา เสียงของน้องเป็นแสงนำทางให้พี่กลับมา แล้วนี่ ดอกไม้สำหรับผู้หญิงของหมอไนครับ “ เขายื่นช่อดอกไม้ในมือส่งให้เธอ น้องก็เผยยิ้มให้แล้วรับมา “ ทำไมถึงเป็นดอกเดซี่ด้วยล่ะคะ “ “ น้องไม่รู้ความหมายของมันเหรอ “ “ ถ้าอยากให้รู้ก็บอกมาสิคะ “ “ ดอกเดซี่ หมายถึงเราจะอยู่ให้กำลังใจ และอยู่เคียงข้างกันตลอดไป แทนความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้อง แต่งงานกับพี่นะครับ “ เขาจับแหวนเพรชขึ้นมาโชว์ต่อหน้าเธอ หญิงสาวรีบยกมือปิดปากด้วยความซาบซึ้งตาของเธอแดงก่ำแต่บ่งบอกว่าเต็มไปด้วยความสุข หน้ามนรีบหันไปมองสนุ๊กกับพลอยซึ่งเป็นดั่งครอบครัวของเธอที่ยังเหลืออยู่ ทั้งสองคนรีบพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม “ ตกลง ณิหลาแต่งค่ะ “ เสียงหวานสั่นหันมายิ้มให้คนตรงหน้า ไนยะเห็นแบบนั้นก็รีบสวมแหวน พร้อมกับรีบสวมกอดเธอท่ามกลางเสียงตบมือยินดีของทุกคน“ เสี่ยคะ
สองอาทิตย์ต่อมา บ้านของหมอไนยะวรรณิหลาในชุดเดรสลูกไม้สีขาวยืนซึม เก็บหนังสือเรียน หนังสือการ์ตูนในตู้หนังสือของหมอไนยะออกมาใส่กล่อง “ ณิหลา เสร็จหมดหรือยัง “ ครีมหอมเดินเข้ามาหาณิหลาในบ้าน คนโดนเรียกรีบหันไปจ้องคนมาใหม่ “ อ้าว มากันแล้วเหรอ “ “ อืม ตอนนี้แม่ณัฐกับพี่เจนรออยู่ที่รถ เสร็จหมดแล้วหรือยัง มีแค่สองกล่องนี้เหรอ “ ครีมหอมจ้องมองที่กล่องบนโต๊ะ แล้วรีบช่วยณิหลาอุ้มเอากล่องออกมา“ แล้วพลอยกับลุงสนุ๊กของเราไปหรือยัง “ ณัฐลีถามเมื่อทั้งหมดขึ้นรถกันมาแล้ว “ เห็นว่าออกมาแล้ว ป่านนี้ก็คงจะถึงแล้วละค่ะ “ ณิหลาหันไปตอบคุณหญิง จากนั้นในรถก็เงียบไป เพราะคนพูดเก่งอย่างพลอยเจนต้องตั้งใจขับรถ ครีมหอมก็นั่งอยู่ด้านหน้า ทำให้ด้านหลังที่มีเพียงสาวอายุเยอะ กับวรรณิหลาที่ยังซึมๆ จึงไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกันมากนัก เมื่อรถขับใกล้ถึงโรงพยาบาล ณิหลาก็เกิดความสงสัย “ เราแค่มาแจกของให้เด็ก ทำไมต้องแต่งตัวชุดสวย หรูหราอย่างกับจะไปงานแต่งด้วยล่ะคะ “ หญิงสาวพูดพร้อมกับรอยยิ้มขบขันไม่เข้าใจ ครีมหอมกับพลอยเจนที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็หันไปจ้องหน้ากันแล้วแอบอมยิ้ม“ เดี๋ยวพอเราไปถึงก็รู้เองแหละณิหลา “ ณ