“พี่อาชิชอบต่อเลโก้เหรอคะ เต็มไปหมดเลย” ชะเอมมองด้วยความตื่นตาตื่นใจ เมื่อเห็นตัวต่อเลโก้ที่ต่อสำเร็จจนเป็นรูปร่างวางเรียงในตู้กระจกหลายสิบตัวตลอดแนวผนังห้องด้านหนึ่ง แล้วยังมีข้างนอกอีกหลายตัว แล้วก็มีที่ยังต่อค้างอยู่
“อืม”
“จริง ๆ ต่อเลโก้ได้น่าจะเป็นคนใจเย็นนะ แต่ทำไมพี่อาชิถึงใจร้อนจัง ว้าย !!”
ตุ้บ !
“พะ... พี่อาชิจะทำอะไร” ชะเอมเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ มือเล็กผลักอกของเขาไว้เมื่อถูกอาชิเกี่ยวรั้งด้วยลำแขนแกร่งเพียงข้างเดียว แล้วเหวี่ยงเธอลงบนที่นอน
“ก็เธอบอกว่าฉันใจร้อน ฉันก็จะใจร้อนให้เธอดูไง”
“ระ... เรารีบออกไปกันเถอะนะ ภูกับเดลรออยู่”
“พวกมันรอได้” ใบหน้าคมค่อย ๆ โน้มลงไปหาใบหน้าหวานที่เบือนหลบไปด้านข้างจนปลายจมูกโด่งสัมผัสแก้มนวล
“ตะ... ตะ... แต่เอมว่า...”
“หึ ไปกันเถอะ” ร่างสูงหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะจับดึงแขนเรียวเล็กให้ร่างบางลุกขึ้นจากที่นอนหนานุ่มแล้วเดินไปหยิบหนังสือที่โต๊ะเขียนหนังสือ
“ชอบแกล้ง” ใบหน้าหวานแดงซ่าน หัวใจเต้นโครมคราม
“หรืออยากให้ฉันทำจริง”
“มะ... ไม่อยาก”
“ไม่อยากก็ลงไปกันได้ละ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ”
“ไปสิคะ เอมช่วยถือนะ” ชะเอมเอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่มือหนาก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องนอน
“หึ”
“กูนึกว่าจะได้ติวหนังสือกับไอ้ภู 2 คนละ” เดลเอ่ยว่าทั้ง ๆ ที่สายตายังไม่ละจากหน้าจอสมาร์ตโฟน
“กูเห็นมึงเล่นแต่เกม ยังไม่เห็นมึงอ่านสักตัว” ภูว่า
“ก็กูรอชะเอม กูอ่านเท่าไรก็ไม่เข้าหัว สู้ให้ชะเอมอธิบายให้ฟังยังเข้าใจง่ายกว่าเยอะ ชะเอมมา เดลพร้อมแล้ว” พูดจบเดลก็เก็บสมาร์ตโฟนเครื่องหรูใส่กระเป๋ากางเกง แล้วทำท่าตั้งใจรอฟังชะเอมอย่างใจจดใจจ่อ
“งั้นเรามาเริ่มที่วิชาฟิสิกส์กันก่อนนะ เพราะเดล ภู พี่อาชิจะสอบเข้าวิศวะฯ”
“จัดหนักตั้งแต่วิชาแรกเลยเหรอ”
“แล้วเดลอยากติววิชาไหนก่อน”
“พละได้ไหม โอ๊ย ! เชี่ยภู กูเจ็บ ป่านนี้ความรู้กูวิ่งทะลุสมองออกไปแล้วมั้ง”
“มึงจะให้ชะเอมติวพละหาพ่อมึงเหรอ”
“พ่อกูอยู่บ้าน มึงอยากจะไปหาเมื่อไรก็ได้ โอ๊ย ! ไอ้อาชิ” อาชิตบหัวเดลดังป้าบอีกที เพราะเริ่มจะรำคาญในความลีลาชักช้าของเขา
“ลีลาอยู่ได้ วันนี้จะได้เริ่มติวไหม”
“เออ ๆ ฟิสิกส์ก็ฟิสิกส์ ชะเอมจัดมาหนัก ๆ เน้น ๆ เดลพร้อม”
“งั้นเริ่มเลยนะ เอมสรุปมาให้แล้ว อะ คนละชุด เปิดหน้าแรกเลยนะ เอมจะอธิบายตั้งแต่หน้านี้”
“เอมทำสรุปมาดูเข้าใจง่ายกว่าที่ครูสอนอีกนะ ทำซะสวยเลย” ภูเอ่ยชมสรุปฟิสิกส์ที่ชะเอมทำมาซึ่งแสดงถึงความตั้งใจของเธอได้เป็นอย่างดี
ชะเอมก็นั่งติวหนังสือให้กับภู เดล และอาชิ ผ่านไป 2 ชั่วโมง น้องสาวฝาแฝด เอวา เอริน และน้องชายอย่างอธิก็กลับมาถึงบ้าน
“พี่อาชิขา” เสียงหวาน ๆ ของสองสาวฝาแฝดดังขึ้นทันทีที่ก้าวเท้าลงจากรถแล้ววิ่งตรงไปยังศาลาริมน้ำโดยมีอธิวิ่งตามไปติด ๆ
เอรินชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเจอหน้าภูที่กำลังมองเธอนิ่งจนต้องเบือนหน้าหลบสายตาของเขา
“ติวหนังสือกันอยู่เหรอคะ พี่ชะเอมก็มาด้วย” เอวาเอ่ยถามเสียงหวาน ส่งสายตาเป็นประกายเมื่อเห็นใบหน้าหวาน ๆ ของชะเอม
“พี่เดลก็มานะครับน้องเอวา”
“เห็นแล้วค่ะ” เอวาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะสายตาจับจ้องแต่ชะเอม
“ไม่เจอพี่ชะเอมตั้งนาน พี่ชะเอมสวยขึ้นเยอะเลยนะครับ แล้วอธิก็คิดถึงพี่ชะเอมมาก ๆ เลยครับ” อธิโน้มตัวเท้าคางบนโต๊ะส่งสายตากะลิ้มกะเหลี่ยให้ชะเอม
“เอวาก็คิดถึงพี่ชะเอมคนสวยมาก ๆ เหมือนกันค่ะ” เอวาก็เท้าคางบนโต๊ะส่งสายตาหวานหยดให้ชะเอม จนเธอรู้สึกประหม่าทำตัวไม่ถูก ได้แต่มองหน้าอาชิตาปริบ ๆ
“พี่เอวาชอบพูดตามอธิ”
“พี่เอวาคิดไว้ก่อนแล้ว แค่ยังไม่ได้พูดแค่นั้นเอง”
“อย่ามาตู่ พูดตามอธิก็บอกมาเหอะ”
“เอวากับอธิทะเลาะกันเรื่องจีบผู้หญิงอีกแล้ว” เอรินพูดอย่างเอือม ๆ เพราะเอวากับอธิจะทะเลาะกันเรื่องจีบผู้หญิงคนเดียวกันเป็นประจำ
“เอ่อ...” ชะเอมอึ้งไปเมื่อพึ่งรู้ตัวว่าถูกเด็กจีบ
“ชะเอมเป็นแฟนพี่อาชิ จบไหมครับ จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน” อาชิบอกเสียงเรียบ
“จริงเหรอ !” เอวา เอริน อธิ พูดพร้อมกันด้วยความแปลกใจที่จู่ ๆ พี่ชายก็บอกว่ามีแฟนแล้ว แล้วยังเป็นแฟนกับพี่ชะเอมอีก
“เรื่องนี้ต้องถึงพ่อแทนกับแม่พาย” เอรินพูดก่อนจะวิ่งเข้าบ้าน
“เอรินฟ้องอีกแล้ว” เอวาเอ่ยว่าพร้อมทั้งวิ่งตามเอรินไปติด ๆ
“เอรินไม่ได้ฟ้อง เอรินแค่จะเล่าให้พ่อแทนกับแม่พายฟัง”
“นั่นแหละเขาเรียกว่าฟ้อง” สองสาวก็วิ่งกันไปเถียงกันไปตลอดทาง
“อธิอกหักอีกแล้ว ถ้าพี่ชะเอมเลิกกับพี่อาชิเมื่อไรมาหาอธินะครับ อธิจะเป็นคนดูแลพี่ชะเอมเอง แต่วันนี้อธิคงต้องไปรักษาแผลใจก่อน พูดแล้วเศร้า หัวใจของอธิกำลังร้องไห้” อธิแสร้งตีหน้าเศร้า เดินคอตกเข้าบ้านไป
“น้องมึงแต่ละคนนี่สุดยอดเลยว่ะ” เดลพูดอย่างอึ้ง ๆ
“แสบ ๆ กันทั้งนั้น” ภูส่ายหัวเบา ๆ
“นี่ก็นั่งนิ่งอึ้งไปเลย เจอเด็กจีบ”
“เอมตั้งตัวไม่ทัน... พี่อาชิ” ชะเอมพูดขึ้นก่อนจะถูกอาชิรั้งไปจูบที่ขมับอย่างแผ่วเบา จนเธอก้มหน้างุดด้วยความเขินที่เขาจูบเธอต่อหน้าเดลกับภู
“เฮ้ย ๆ เกรงใจกู 2 คนบ้าง” เดลว่า
“เรื่องของกู” อาชิตอบหน้าตาเฉยก่อนจะรั้งชะเอมมาจูบที่ขมับอีกที
“ชะเอมจะมุดลงใต้โต๊ะอยู่แล้ว” ภูเสริม
“อื้ออออ... เสียว... เอมเสียว... อ๊า... พี่อาชิเบา ๆ ซี้ดดด” ร่างบางครางดังขึ้นเมื่อโดนคนตัวโตลงลิ้นเลียแล้วดูดหนักขึ้น กลีบอวบอูม 2 ข้างโดนแบะออกด้วยสองมือที่แยกมันออกจากกันเพื่อให้ตนเองแยงลิ้นเข้าไปในโพรงหวานได้ถนัดลิ้นร้อนห่อตัวแล้วแยงเข้าไปในโพรงเนื้อหวานด้านในแล้วคลายลิ้นออกในรูเนื้อหวานพร้อมอ้าปากกว้างงาบงับเอากลีบอูมเข้าไปในปาก แต่เขาก็ยังเอาเข้าปากไม่หมดด้วยความอวบใหญ่ของพูเนื้อ“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... เสียว... ซี้ดดดดด... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางร้องครางเสียงดังเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ปานจะขาดใจ ร่างแกร่งกระชับสะโพกมนเข้าหาใบหน้าตนเองให้ใกล้ขึ้น ล็อกไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ร่างบางดิ้นหนี“อ๊า... ซี้ดดดดด... พี่อาชิ... อ๊า... อ๊ายยยยยย” ร่างบางเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมปล่อยน้ำหวานมากมายออกมา โพรงเนื้อหวานข้างในกระตุกตอดลิ้นร้อนถี่ ๆ ร่างแกร่งลงลิ้นเลียกลีบอวบไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำหวานของร่างบางที่หลั่งออกมาอย่างมากเข้าปากกินให้หมดไม่เหลือสักหยด ไม่ปล่อยให้หยดลงโซฟาด้วย“ตาพี่บ้างนะ” ร่างแกร่งบอก มือหนากอบกุมแก่นกายใหญ่ของตนเอง รูดขึ้นรูดลง 2-3 ทีแล้วนำม
“อ๊า... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางอดรนทนไม่ไหวร้องครางออกมาเมื่อร่างสูงใช้ฝ่ามือหนากดร่างของเธอให้นอนแนบที่โซฟาตัวยาว แล้วคร่อมทับ แหวกแยกขาเรียวสวยแยกออกจากกัน ถลกกระโปรงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ มือหนาสอดเข้าไปลูบไล้ที่ดอกไม้งามที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วลูกไม้สีดำปกคลุมเอาไว้นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องรักแล้วชักเข้าออกรัว ๆ ตามแรงอารมณ์จนร่างบางรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายจนแทบขาดใจ เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมา“หึ ๆ เสร็จแล้ว ใครกันแน่ที่หื่น” ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าหวานที่นอนหายใจหอบล่องลอยเมื่อถึงฝั่งฝัน“พี่อาชินั่นแหละ ลุกออกไปเลย” เสียงหวานเอ่ยเถียงพลางมองค้อนเขา“ได้ไง เอมเสร็จแต่พี่ยังไม่เสร็จเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ” มือหนาคว้ามือบางไปจับที่เป้ากางเกงของเขา“พี่อาชิ !” มือบางพยายามชักมือออกเมื่อสัมผัสโดนความใหญ่โตที่แข็งขืนซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของเขา“อะไร ยังไม่ชินกับของผัวอีกเหรอ หืม ?” ใบหน้าคมโน้มหน้าลง ปลายจมูกโด่งและปากลงไปที่ลำคอขาวผ่องที่หอมหวานน่าจูบน่าไซ้น่าดูดเป็นที่สุด“ใครจะไปชินกับความหื่นของพี่อาชิกันเล่า”“ก็เอมไง เอมคนเดียวเท่านั้น” พูดจบริมฝีปากหนาประท
“มีอะไรกัน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น“ก็เด็กพวกนี้น่ะสิ มารังแกลูกของเรา” แม่ของเด็กผู้ชาย 2 คนบอก“จริงเหรอครับธาม ธันน์” พ่อของเด็กผู้ชาย 2 คนนั้นหันไปถามลูกชายตนเอง“ผมกับธันน์ผลักน้องของเธอลงมาก่อนครับ เธอเลยต่อยหน้าผมกับธันน์ แล้วเธอก็ถีบผมลงมาจากสไลเดอร์” ธามบอกแล้วชี้ไปที่บัว คนที่ถีบตนเองตกลงมา“ใช่ครับ ผมผลักน้องคนนี้ก่อน แล้วเธอก็เข้ามาผลักผมตกลงมา” ธันน์บอกแล้วชี้ฟ้าใส คนที่ผลักตนเองตกลงมา“ว่าไงคุณ ไหนบอกว่าลูกเขารังแกลูกเรา”“ก็ใครเห็นแบบที่ฉันเห็นก็ต้องคิดแบบฉันทั้งนั้น”“ทางที่ดีคุณควรถามลูกของคุณก่อนที่จะมาโวยวายเป็นผีบ้าแบบนี้” แบมว่า“นี่...”“คุณหยุด... ผมต้องขอโทษแทนลูกชายทั้ง 2 คนกับภรรยาของผมด้วยนะครับ หรือว่าพวกคุณจะให้ผมลงโทษลูกของผมที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็บอกผมมาได้เลยครับ” ผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กผู้ชาย 2 คนเอ่ยห้ามภรรยาตนเอง แล้วเอ่ยปากขอโทษพลางก้มหัวให้“คงไม่ต้องถึงขั้นลงโทษอะไรกันหรอกค่ะ” ชะเอมบอก“ขอบคุณครับ ผมจะกลับไปอบรมลูกชายทั้ง 2 คนของผมให้ดี ธาม ธันน์”“ขอโทษครับ” เด็กผู้ชายสองคนเอ่ยปากขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวให้“ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอ
ตอนนี้โรงงานผลิตยาของครอบครัวแบมเติบโตและยิ่งใหญ่มากขึ้น มีออร์เดอร์จากนานาประเทศ มียอดส่งออกยาหลายร้อยล้านบาทต่อปี เพราะคุณอัณณพยื่นมือเข้าไปช่วยเรื่องการตลาด และด้วยฝีมือการบริหารงานของพี่ชายทั้ง 3 คนของแบมที่ทุ่มเททำอย่างเต็มที่คุณอัณณพเห็นว่าสายฟ้ากับแบมเป็นหมอทั้งคู่ จึงให้สายฟ้าเปิดโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ในเมื่อรักในวิชาชีพนี้แล้วคนเป็นพ่อก็พร้อมสนับสนุนและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจไปในตัว“จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยพร้อมหรอก แต่เลือกที่จะเดินทางนี้แล้วมันก็ต้องไปให้สุด เหมือนมึงไงที่กลายเป็นผู้บริหารแทนไท คอร์ปอเรชันที่ประสบความสำเร็จ ทำให้แทนไท คอร์ปอเรชันยิ่งใหญ่กว่าเดิม”“ฝีมือกูคนเดียวเสียเมื่อไหร่ น้องกูด้วย”“รวมถึงน้องเขยด้วยสินะ” สายฟ้ายกยิ้มเมื่อพูดถึงน้องเขยของอาชิ“ก็ต้องรวมสิวะ” อาชิหัวเราะร่า“คุยอะไรกันอยู่คะ” ชะเอมกับแบมเดินกลับมาหาสามี“คุยเรื่องโรงพยาบาลของไอ้สายฟ้า” อาชิรั้งตัวของภรรยาคนสวยมานั่งที่ตักแกร่ง“จริงสิ เดือนหน้าโรงพยาบาลก็จะเสร็จแล้วนี่นา ผอ.รามสูร รับสมัครหมอเพิ่มอีกสักคนไหมคะ”“จะยินดีมากถ้าแพทย์หญิงพรรณวรทไปเป็นหมอที่โรงพยาบาล แต่ท่าทางจะยากเพราะมีผัวขี้
“พี่บัวขา น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ พี่ฟ้าใสมาหาแล้ว” เสียงใส ๆ ของเรนิตาดังลั่นบ้านของแทนไท “ฟ้าใสวิ่งช้า ๆ สิคะ” แบมเอ่ยปรามลูกสาว“ถ้าช้าก็ไม่เรียกวิ่งสิคะคุณแม่” เท้าเล็ก ๆ หยุดวิ่ง หันมาบอกคนเป็นแม่หน้าทะเล้น“ฟ้าใสย้อนคุณแม่เหรอคะ” แบมตะโกนว่า แต่เรนิตาก็วิ่งเข้าบ้านไป ไม่ได้สนใจเสียงของคนเป็นแม่“เค้าว่าลูกพูดถูกนะ” สายฟ้าพูด“บี๋คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม” แบมหันหน้ามาว่าคนเป็นสามี“บี๋อยากเป็นม่ายเหรอ” สายฟ้าถามหน้าทะเล้น“อืม เค้าจะได้หาพ่อใหม่ให้ฟ้าใส” แบมพยักหน้าตอบ“อย่าหวังเลย บอกเลยมีตาย ชู้ตายคาตีน เมียตายคาเตียง” สายฟ้าว่าพลางรั้งใบหน้าหวานเข้ามาจูบที่ขมับหนัก ๆ“แต่...” ยังไม่ทันที่แบมจะได้โต้เถียง น้ำเสียงสั่นเครือของลูกสาวก็ดังขึ้น“คุณพ่อขา คุณแม่ขา”“อ้าว ฟ้าใสเป็นอะไรคะ”“ไม่มีใครอยู่เลยค่ะ... ฮึก... ฮึก... พี่บัวไม่อยู่ น้องปุณณ์ไม่อยู่ น้องปัณณ์ไม่อยู่ คุณลุงอาชิกับน้าชะเอมก็ไม่อยู่ คุณปู่แทนคุณย่าพายด้วย”“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง คุณพ่อโทร.ถามลุงอาชิให้นะครับ” สายฟ้าช้อนตัวลูกสาวขึ้นอุ้มแล้วปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม“พี่แกริค สวัสดีค่ะ วันนี้ทุกคนไปไหนกันเหร
“พี่บัวของปุง” ปุณณภพวิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจ เมื่อพี่สาวกลับมาถึงบ้านในเวลาค่ำ“พี่บัวของปังด้วย” ปัณณธรก็วิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจเช่นกัน“น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ของพี่บัว” เอมมาลินกอดแล้วก็หอมแก้มน้องชายฝาแฝดทั้ง 2 คน“จำไมพี่บัวไม่หอมปังก่อง”“ก็ปังเกิดทีหยัง พี่บัวก็ต้องหอมปังทีหยังฉิ” ปุณณภพพูด“ปุงเกิดก่องแป๊บเดียว”“ก็เกิดก่องอยู่ดีป้ะล่ะ”“แต่ปังอยากให้พี่บัวหอมปังก่อง”“ไม่เถียงกันสิคะ เอาแบบนี้ดีกว่า วันนี้พี่บัวหอมน้องปุณณ์ก่อน แต่วันพรุ่งนี้พี่บัวจะหอมน้องปัณณ์ก่อน สลับกันไปคนละวันดีไหม”“ดีฮับ” ปุณณภพ ปัณณธร ตอบพร้อมกัน“กอดแต่พี่บัว ไม่เห็นกอดคุณพ่อบ้างเลย”“กอดฮับ” ลูกชายฝาแฝดตอบและพุ่งตัวเข้าใส่คนเป็นพ่อพร้อมกัน“อุ้ย ! พี่บัวครับ คุณพ่อว่าพายุกำลังจะมา” อาชิกอดลูกชายฝาแฝดก่อนจะเหลือบมองเท้าของผู้หญิงที่เขาจำได้ดี ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนได้สบตากับดวงตาคู่งามที่ตอนนี้กำลังเขม่นมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยว“พายุอะไรเหรอคะคุณพ่อ อุ้ย ! จริงด้วยค่ะคุณพ่อ พี่บัวว่าไม่น่าจะใช่พายุธรรมดา แต่เป็นทอร์นาโดเลยค่ะ” เอมมาลินเอ่ยถามคนเป็น