“ติวหนังสือกันเสร็จแล้วเหรอเด็ก ๆ อยู่กินข้าวเย็นด้วยกันก่อนนะ แม่พายให้แม่บ้านทำเผื่อไว้แล้ว ชะเอม อยู่กินข้าวด้วยกันนะลูก” พรพระพายเอ่ยบอกเมื่ออาชิและเพื่อน ๆ เดินกลับมาจากศาลาริมน้ำ
“เออ... ค่ะ แต่เอมขอโทร.บอกคุณยายก่อนนะคะ”
“ได้สิคะ เดลกับภูด้วยนะ อยู่กินข้าวกันก่อน”
“ครับ” เดลกับภูตอบพร้อมกัน
“ระหว่างรอแม่บ้านจัดโต๊ะ เข้าไปนั่งคุยกันที่ห้องนั่งเล่นดีกว่านะ ไปเด็ก ๆ” พูดจบพรพระพายก็เดินนำทุกคนเข้าไปในบ้าน
“เป็นอะไร” อาชิเอ่ยถามเมื่อเห็นชะเอมนิ่งเงียบ
“ปะ... เปล่า เอมโทร.บอกคุณยายก่อนนะ”
“อืม” อาชิตอบและยืนรอชะเอมที่เดินเลี่ยงออกไปโทร.บอกคุณยาย
“กูว่าแม่พายต้องอยากคุยเรื่องที่มึงเป็นแฟนกับชะเอมแน่ ๆ” เดลเข้ามากอดคออาชิทันทีที่ชะเอมเดินออกไปโทรศัพท์หาคุณยาย
“ก็ปกติเปล่าวะ ที่พ่อแม่อยากจะทำความรู้จักแฟนของลูก” ภูบอก
“ก็จริงของมึง กูคงคิดมากไปเอง”
“คิดมากอะไรของมึง แต่กูว่ามึงเอาสมองน้อย ๆ ของมึงไปคิดดีกว่าว่าจะสอบติดวิศวะฯ ไหม” ภูว่า
“กูก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นเปล่าวะ สอบก็ติดท็อป 10 ตลอด แล้วยิ่งมีชะเอม นักเรียนที่มีผลการเรียนดีที่สุดของโรงเรียนมาติวให้ ยังไงกูก็สอบติดชัวร์ ๆ” เดลพูดด้วยความมั่นอกมั่นใจ
“กูจะคอยดู”
“โทร.หาคุณยายเรียบร้อยแล้วนะ งั้นเราเข้าไปข้างในกันเถอะ” อาชิพูดขึ้นเมื่อชะเอมเดินกลับมา เขาเข้าไปจับมือเธอแล้วประสานมือเข้าหากันแน่น ซึ่งเธอก็เงยหน้ามองเขาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะจูงมือเธอเดินเข้าไปในบ้าน
“เข้ามานั่งกันก่อนสิ” แทนไทที่นั่งเคียงคู่อยู่กับพรพระพายเอ่ยบอกอาชิกับเพื่อน ๆ ที่พากันเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ” ภู เดล ชะเอมยกมือไหว้แทนไทกันอย่างพร้อมเพรียง
“น้อง ๆ ไปบอกพ่อแทนว่าอาชิมีแฟน” แทนไทเข้าเรื่องอย่างตรงประเด็น
“ครับ ชะเอมเป็นแฟนอาชิ”
“คบกันมานานหรือยัง”
“ถ้าเป็นแฟนก็แค่อาทิตย์เดียว แต่ถ้านับตั้งแต่ที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันก็ 10 ปีได้แล้วครับ”
“10 ปีเลยเหรอ ?”
“ชะเอมก็คือเด็กที่อาชิเคยช่วยไว้ตอนโดนรุ่นพี่กลั่นแกล้งไงคะ พี่แทนลืมไปแล้วเหรอ”
“พี่จำได้แล้ว ขอบคุณนะครับที่ช่วยเตือนความจำให้พี่” แทนไทจุ๊บไปที่ริมฝีปากบางของพรพระพายต่อหน้าเพื่อน ๆ ของอาชิที่นั่งยิ้มให้กับการแสดงความรักของคนทั้งคู่ แต่สำหรับอาชิมันคือเรื่องปกติที่เขาคุ้นชินในทุก ๆ วัน
“คุณพายคะ จัดอาหารขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้วค่ะ” แม่บ้านเดินเข้ามาบอก
“ไปตามเอวา เอริน แล้วก็อธิลงมากินข้าวด้วยนะ” พรพระพายบอกแม่บ้าน
“ค่ะคุณพาย”
“งั้นเราไปกินข้าวกันค่ะ เดี๋ยวจะมืดค่ำไปมากกว่านี้ นั่งกินกันไปคุยกันไปจะได้ไม่เสียเวลา” พูดจบแทนไทก็กอดประคองเอวคอดของพรพระพายเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร
“เอวามาแล้วค่ะ”
“เอรินก็มาแล้วค่ะ”
“อธิสุดหล่อก็มาแล้วครับ”
เสียงใส ๆ ของสามพี่น้องที่กำลังวิ่งลงบันไดมายังโต๊ะอาหาร
“เฮ้ย ๆ ๆ”
“เอริน หยุดวิ่งทำไม ดีนะเอวาเบรกทัน” เอวาเอ่ยว่าเมื่อจู่ ๆ เอรินก็หยุดวิ่งกะทันหัน ทำให้เธอที่วิ่งตามหลังมาเกือบจะชน
“ใช่ อธิก็เกือบชนเลย”
“เพราะเห็นพี่ภูนี่เอง” เอวาพูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อน ๆ ของอาชินั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร
“เอวาพูดมาก” เอรินว่า
“แล้วมันจริงไหมล่ะ”
“แต่อธิว่าจริงนะ”
“มานั่งประจำที่กันได้แล้วค่ะ ทุกคนรออยู่” พรพระพายเอ่ยเรียกลูก ๆ ทั้ง 3 คนที่ยืนคุยกันอยู่หน้าห้องอาหาร ไม่ยอมเดินเข้ามากันสักที
“วันนี้อธิต้องกินข้าวได้เยอะเป็นพิเศษแน่ ๆ เลย เพราะมีพี่ชะเอมคนสวยมากินข้าวด้วย” อธิส่งสายตาโปรยเสน่ห์ให้ชะเอมทันทีที่เข้ามานั่งร่วมโต๊ะ
“อธิไปรักษาแผลใจมาแล้วเหรอ” เดลเอ่ยถามพร้อมทั้งยิ้มขำให้กับความกะล่อนของอธิ
“อธิพยายามทำใจอยู่ครับ พี่เดลอย่าเพิ่งขยี้ แผลมันยังสดอยู่”
“อธิ ให้มันน้อย ๆ หน่อย พี่ชะเอมเป็นแฟนพี่อาชินะ” เอวาว่า
“ว่าแต่อธิ พี่เอวาก็อกหักเหมือนกันแหละ”
“ทำไมวันนี้เอรินนั่งเงียบจังเลยคะ” พรพระพายเอ่ยถามพลางปรายตามองภูกับเอรินสลับกันไปมา
“เอรินขี้เกียจแย่งเอวากับอธิพูดค่ะ”
“เอริน ! / พี่เอริน !” เอวากับอธิแว้ดขึ้นมาทันทีที่ถูกพาดพิง
“กินข้าวกันดีกว่าครับ” แทนไทพูดตัดบท เพราะถ้ารอสามพี่น้องเถียงกันจนจบวันนี้คงไม่ได้กิน
“อื้ออออ... เสียว... เอมเสียว... อ๊า... พี่อาชิเบา ๆ ซี้ดดด” ร่างบางครางดังขึ้นเมื่อโดนคนตัวโตลงลิ้นเลียแล้วดูดหนักขึ้น กลีบอวบอูม 2 ข้างโดนแบะออกด้วยสองมือที่แยกมันออกจากกันเพื่อให้ตนเองแยงลิ้นเข้าไปในโพรงหวานได้ถนัดลิ้นร้อนห่อตัวแล้วแยงเข้าไปในโพรงเนื้อหวานด้านในแล้วคลายลิ้นออกในรูเนื้อหวานพร้อมอ้าปากกว้างงาบงับเอากลีบอูมเข้าไปในปาก แต่เขาก็ยังเอาเข้าปากไม่หมดด้วยความอวบใหญ่ของพูเนื้อ“อ๊า... ไม่ไหวแล้ว... เสียว... ซี้ดดดดด... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางร้องครางเสียงดังเพื่อระบายความเสียวซ่านที่เขามอบให้ปานจะขาดใจ ร่างแกร่งกระชับสะโพกมนเข้าหาใบหน้าตนเองให้ใกล้ขึ้น ล็อกไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ร่างบางดิ้นหนี“อ๊า... ซี้ดดดดด... พี่อาชิ... อ๊า... อ๊ายยยยยย” ร่างบางเกร็งกระตุกอย่างรุนแรงพร้อมปล่อยน้ำหวานมากมายออกมา โพรงเนื้อหวานข้างในกระตุกตอดลิ้นร้อนถี่ ๆ ร่างแกร่งลงลิ้นเลียกลีบอวบไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวน้ำหวานของร่างบางที่หลั่งออกมาอย่างมากเข้าปากกินให้หมดไม่เหลือสักหยด ไม่ปล่อยให้หยดลงโซฟาด้วย“ตาพี่บ้างนะ” ร่างแกร่งบอก มือหนากอบกุมแก่นกายใหญ่ของตนเอง รูดขึ้นรูดลง 2-3 ทีแล้วนำม
“อ๊า... พี่อาชิขา... เอมเสียว” ร่างบางอดรนทนไม่ไหวร้องครางออกมาเมื่อร่างสูงใช้ฝ่ามือหนากดร่างของเธอให้นอนแนบที่โซฟาตัวยาว แล้วคร่อมทับ แหวกแยกขาเรียวสวยแยกออกจากกัน ถลกกระโปรงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ มือหนาสอดเข้าไปลูบไล้ที่ดอกไม้งามที่มีเพียงแพนตี้ตัวจิ๋วลูกไม้สีดำปกคลุมเอาไว้นิ้วแกร่งสอดเข้าไปในร่องรักแล้วชักเข้าออกรัว ๆ ตามแรงอารมณ์จนร่างบางรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งกายจนแทบขาดใจ เกร็งกระตุกปลดปล่อยน้ำหวานสีใสออกมา“หึ ๆ เสร็จแล้ว ใครกันแน่ที่หื่น” ใบหน้าคมจ้องมองใบหน้าหวานที่นอนหายใจหอบล่องลอยเมื่อถึงฝั่งฝัน“พี่อาชินั่นแหละ ลุกออกไปเลย” เสียงหวานเอ่ยเถียงพลางมองค้อนเขา“ได้ไง เอมเสร็จแต่พี่ยังไม่เสร็จเลยนะ ไม่เชื่อก็ลองจับดูสิ” มือหนาคว้ามือบางไปจับที่เป้ากางเกงของเขา“พี่อาชิ !” มือบางพยายามชักมือออกเมื่อสัมผัสโดนความใหญ่โตที่แข็งขืนซุกซ่อนอยู่ภายในกางเกงของเขา“อะไร ยังไม่ชินกับของผัวอีกเหรอ หืม ?” ใบหน้าคมโน้มหน้าลง ปลายจมูกโด่งและปากลงไปที่ลำคอขาวผ่องที่หอมหวานน่าจูบน่าไซ้น่าดูดเป็นที่สุด“ใครจะไปชินกับความหื่นของพี่อาชิกันเล่า”“ก็เอมไง เอมคนเดียวเท่านั้น” พูดจบริมฝีปากหนาประท
“มีอะไรกัน” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น“ก็เด็กพวกนี้น่ะสิ มารังแกลูกของเรา” แม่ของเด็กผู้ชาย 2 คนบอก“จริงเหรอครับธาม ธันน์” พ่อของเด็กผู้ชาย 2 คนนั้นหันไปถามลูกชายตนเอง“ผมกับธันน์ผลักน้องของเธอลงมาก่อนครับ เธอเลยต่อยหน้าผมกับธันน์ แล้วเธอก็ถีบผมลงมาจากสไลเดอร์” ธามบอกแล้วชี้ไปที่บัว คนที่ถีบตนเองตกลงมา“ใช่ครับ ผมผลักน้องคนนี้ก่อน แล้วเธอก็เข้ามาผลักผมตกลงมา” ธันน์บอกแล้วชี้ฟ้าใส คนที่ผลักตนเองตกลงมา“ว่าไงคุณ ไหนบอกว่าลูกเขารังแกลูกเรา”“ก็ใครเห็นแบบที่ฉันเห็นก็ต้องคิดแบบฉันทั้งนั้น”“ทางที่ดีคุณควรถามลูกของคุณก่อนที่จะมาโวยวายเป็นผีบ้าแบบนี้” แบมว่า“นี่...”“คุณหยุด... ผมต้องขอโทษแทนลูกชายทั้ง 2 คนกับภรรยาของผมด้วยนะครับ หรือว่าพวกคุณจะให้ผมลงโทษลูกของผมที่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษยังไงก็บอกผมมาได้เลยครับ” ผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กผู้ชาย 2 คนเอ่ยห้ามภรรยาตนเอง แล้วเอ่ยปากขอโทษพลางก้มหัวให้“คงไม่ต้องถึงขั้นลงโทษอะไรกันหรอกค่ะ” ชะเอมบอก“ขอบคุณครับ ผมจะกลับไปอบรมลูกชายทั้ง 2 คนของผมให้ดี ธาม ธันน์”“ขอโทษครับ” เด็กผู้ชายสองคนเอ่ยปากขอโทษพร้อมทั้งก้มหัวให้“ผมต้องขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้นอ
ตอนนี้โรงงานผลิตยาของครอบครัวแบมเติบโตและยิ่งใหญ่มากขึ้น มีออร์เดอร์จากนานาประเทศ มียอดส่งออกยาหลายร้อยล้านบาทต่อปี เพราะคุณอัณณพยื่นมือเข้าไปช่วยเรื่องการตลาด และด้วยฝีมือการบริหารงานของพี่ชายทั้ง 3 คนของแบมที่ทุ่มเททำอย่างเต็มที่คุณอัณณพเห็นว่าสายฟ้ากับแบมเป็นหมอทั้งคู่ จึงให้สายฟ้าเปิดโรงพยาบาลเป็นของตนเอง ในเมื่อรักในวิชาชีพนี้แล้วคนเป็นพ่อก็พร้อมสนับสนุนและถือเป็นการต่อยอดธุรกิจไปในตัว“จริง ๆ ก็ยังไม่ค่อยพร้อมหรอก แต่เลือกที่จะเดินทางนี้แล้วมันก็ต้องไปให้สุด เหมือนมึงไงที่กลายเป็นผู้บริหารแทนไท คอร์ปอเรชันที่ประสบความสำเร็จ ทำให้แทนไท คอร์ปอเรชันยิ่งใหญ่กว่าเดิม”“ฝีมือกูคนเดียวเสียเมื่อไหร่ น้องกูด้วย”“รวมถึงน้องเขยด้วยสินะ” สายฟ้ายกยิ้มเมื่อพูดถึงน้องเขยของอาชิ“ก็ต้องรวมสิวะ” อาชิหัวเราะร่า“คุยอะไรกันอยู่คะ” ชะเอมกับแบมเดินกลับมาหาสามี“คุยเรื่องโรงพยาบาลของไอ้สายฟ้า” อาชิรั้งตัวของภรรยาคนสวยมานั่งที่ตักแกร่ง“จริงสิ เดือนหน้าโรงพยาบาลก็จะเสร็จแล้วนี่นา ผอ.รามสูร รับสมัครหมอเพิ่มอีกสักคนไหมคะ”“จะยินดีมากถ้าแพทย์หญิงพรรณวรทไปเป็นหมอที่โรงพยาบาล แต่ท่าทางจะยากเพราะมีผัวขี้
“พี่บัวขา น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ พี่ฟ้าใสมาหาแล้ว” เสียงใส ๆ ของเรนิตาดังลั่นบ้านของแทนไท “ฟ้าใสวิ่งช้า ๆ สิคะ” แบมเอ่ยปรามลูกสาว“ถ้าช้าก็ไม่เรียกวิ่งสิคะคุณแม่” เท้าเล็ก ๆ หยุดวิ่ง หันมาบอกคนเป็นแม่หน้าทะเล้น“ฟ้าใสย้อนคุณแม่เหรอคะ” แบมตะโกนว่า แต่เรนิตาก็วิ่งเข้าบ้านไป ไม่ได้สนใจเสียงของคนเป็นแม่“เค้าว่าลูกพูดถูกนะ” สายฟ้าพูด“บี๋คงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม” แบมหันหน้ามาว่าคนเป็นสามี“บี๋อยากเป็นม่ายเหรอ” สายฟ้าถามหน้าทะเล้น“อืม เค้าจะได้หาพ่อใหม่ให้ฟ้าใส” แบมพยักหน้าตอบ“อย่าหวังเลย บอกเลยมีตาย ชู้ตายคาตีน เมียตายคาเตียง” สายฟ้าว่าพลางรั้งใบหน้าหวานเข้ามาจูบที่ขมับหนัก ๆ“แต่...” ยังไม่ทันที่แบมจะได้โต้เถียง น้ำเสียงสั่นเครือของลูกสาวก็ดังขึ้น“คุณพ่อขา คุณแม่ขา”“อ้าว ฟ้าใสเป็นอะไรคะ”“ไม่มีใครอยู่เลยค่ะ... ฮึก... ฮึก... พี่บัวไม่อยู่ น้องปุณณ์ไม่อยู่ น้องปัณณ์ไม่อยู่ คุณลุงอาชิกับน้าชะเอมก็ไม่อยู่ คุณปู่แทนคุณย่าพายด้วย”“โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง คุณพ่อโทร.ถามลุงอาชิให้นะครับ” สายฟ้าช้อนตัวลูกสาวขึ้นอุ้มแล้วปาดเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม“พี่แกริค สวัสดีค่ะ วันนี้ทุกคนไปไหนกันเหร
“พี่บัวของปุง” ปุณณภพวิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจ เมื่อพี่สาวกลับมาถึงบ้านในเวลาค่ำ“พี่บัวของปังด้วย” ปัณณธรก็วิ่งเข้ามากอดพี่สาวด้วยความดีใจเช่นกัน“น้องปุณณ์ น้องปัณณ์ของพี่บัว” เอมมาลินกอดแล้วก็หอมแก้มน้องชายฝาแฝดทั้ง 2 คน“จำไมพี่บัวไม่หอมปังก่อง”“ก็ปังเกิดทีหยัง พี่บัวก็ต้องหอมปังทีหยังฉิ” ปุณณภพพูด“ปุงเกิดก่องแป๊บเดียว”“ก็เกิดก่องอยู่ดีป้ะล่ะ”“แต่ปังอยากให้พี่บัวหอมปังก่อง”“ไม่เถียงกันสิคะ เอาแบบนี้ดีกว่า วันนี้พี่บัวหอมน้องปุณณ์ก่อน แต่วันพรุ่งนี้พี่บัวจะหอมน้องปัณณ์ก่อน สลับกันไปคนละวันดีไหม”“ดีฮับ” ปุณณภพ ปัณณธร ตอบพร้อมกัน“กอดแต่พี่บัว ไม่เห็นกอดคุณพ่อบ้างเลย”“กอดฮับ” ลูกชายฝาแฝดตอบและพุ่งตัวเข้าใส่คนเป็นพ่อพร้อมกัน“อุ้ย ! พี่บัวครับ คุณพ่อว่าพายุกำลังจะมา” อาชิกอดลูกชายฝาแฝดก่อนจะเหลือบมองเท้าของผู้หญิงที่เขาจำได้ดี ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ จนได้สบตากับดวงตาคู่งามที่ตอนนี้กำลังเขม่นมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบที่แฝงไปด้วยความกราดเกรี้ยว“พายุอะไรเหรอคะคุณพ่อ อุ้ย ! จริงด้วยค่ะคุณพ่อ พี่บัวว่าไม่น่าจะใช่พายุธรรมดา แต่เป็นทอร์นาโดเลยค่ะ” เอมมาลินเอ่ยถามคนเป็น