3
อริวัยเยาว์
นางพิมพ์พรกลับบ้านมาในตอนเย็น และซื้อกับข้าวเข้ามาฝากลูกชายทั้งสองคนด้วย หญิงสูงวัยเพิ่งรู้ว่าคริษฐ์หยุดงานในวันนี้ ส่วนเตชัสลูกชายคนเล็กก็เพิ่งได้ฤกษ์กลับมานอนบ้านวันนี้เช่นกัน หลังจากไปซุกตัวอยู่กับสาวสวยคนไหนสักคนเมื่อหลายวันที่ผ่านมา
“คริษฐ์อยู่บ้านเมื่อเช้าถ้างั้นก็ต้องเห็นน้องแล้วใช่ไหม” คนเป็นแม่ทำสีหน้าตื่นเต้นแทนลูกชาย
“น้อง ? ใครครับแม่” เตชัสตักข้าวเข้าปากระหว่างถามมารดาไปด้วย
“รุ้งพรายไงเตจำน้องได้ไหม ลูกสาวอำไพบ้านข้าง ๆ นี่ไง หนูรุ้งกลับมาอยู่กับแม่แล้วนะ แม่ก็เพิ่งรู้จากอำไพว่าพ่อของหนูรุ้งเสียแล้ว หนูรุ้งก็ยกบ้านและที่ดินให้เมียใหม่ของพ่อไป ตัวหนูรุ้งก็ตั้งใจกลับมาอยู่กับแม่ที่นี่” ได้ยินคำบอกเล่าจากมารดา หนุ่มหล่ออย่างเตชัสก็นึกสนุกขึ้นมาในทันที รีบหันไปมองหน้าพี่ชายตัวเอง
“งานเข้าพี่คริษฐ์แน่ ๆ ยัยตัวแสบกลับมาแบบนี้ บ้านอันแสนสงบของเราได้พังพินาศแน่นอน”
“ตาเตไปว่าน้องแบบนั้นได้ยังไง หนูรุ้งเขาโตแล้วนะเตไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะมาวิ่งตามตื๊อพี่ชายเราเหมือนเมื่อก่อน”
“แม่ครับ ยัยรุ้งนั่นปีศาจชัด ๆ ต่อหน้าแม่ก็สุภาพเรียบร้อย น่ารักน่าเอ็นดู ถ้าได้เห็นธาตุแท้แม่จะสยองผมนี่เจอมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน จริงไหมพี่คริษฐ์” เตชัสหันไปยักคิ้วให้พี่ชาย
“ไม่รู้สิ ต้องดูไปนาน ๆ” คริษฐ์ยอมรับว่ายังดูหญิงสาวไม่ออกในเวลานี้ ห่างกันไปตั้งเจ็ดปีอะไร ๆ มันก็เปลี่ยนไปตามเวลา
“แหมพี่คริษฐ์พูดเหมือนไม่รู้จักยัยนั่น ระวังเหอะอย่าให้เข้าห้องนอนพี่คริษฐ์ได้ก็พอ ไม่งั้นปวดหัวแน่”
“ตาเต นี่เห็นน้องเป็นคนยังไงนะลูกไม่เอาแล้วกินข้าว ๆ” นางพิมพ์พรอดดุลูกชายไม่ได้ รีบตัดบทให้ทั้งคู่สนใจกับอาหารตรงหน้าแทนการนินทาลูกสาวเพื่อนบ้าน
“แม่นะแม่ไม่เคยทันเหลี่ยมยัยรุ้งนั่นสักที” เตชัสหันไปบ่นเบา ๆ กับพี่ชาย คนเป็นแม่เลยค้อนแล้วค้อนอีก
“แม่รู้แม่เห็นหมดแหละเต หนูรุ้งออกจะน่ารักไม่ได้ร้ายอย่างที่เราเข้าใจสักหน่อย”
“นั่นปะไร แม่ไม่ทันเกมยัยรุ้งจริง ๆ”
“พอแล้วเต เลิกพูดถึงคนอื่นสักทีกินเข้าไปข้าวน่ะ” คริษฐ์ปรามน้องชายช่วยมารดาบ้าง เขาเข้าใจความรู้สึกของน้องชายได้เป็นอย่างดี แต่ก็เห็นใจมารดาที่ถูกมารยาของรุ้งพรายลวงตาไว้
หลังกินข้าวมื้อค่ำกันเสร็จแล้วเตชัสก็เป่ายิ้งฉุบแพ้พี่ชาย หน้าที่ล้างจานจึงต้องตกเป็นของคนแพ้ เพราะคริษฐ์ไม่ยอมให้มารดาต้องมาล้างจานให้เขากับน้องชาย ระหว่างนี้เขาจึงมีเวลาว่างได้คุยกับท่าน
“คริษฐ์แม่ขอได้ไหมลูก”
“อะไรครับแม่จู่ ๆ ก็มาบอกว่าขอได้ไหม” คริษฐ์หันไปมองมารดาแล้วขมวดคิ้วอย่างสงสัย
“ก็เรื่องหนูรุ้งไง”
“ทำไมครับแม่” ไม่ทันไรรุ้งพรายก็นำความกลัดกลุ้มมาให้มารดาของเขาแล้วเหรอ
“มันผ่านมาหลายปีแล้วนะลูก อะไรที่น้องทำไม่ดีก็ลืม ๆ ไปบ้างเถอะ แม่ว่าตอนนี้หนูรุ้งคงจะโตพอรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรได้แล้ว”
“แล้วแม่จะขออะไรผมครับ”
“ก็ขอให้คริษฐ์เอ็นดูน้องเหมือนตอนเด็ก ๆ จะได้ไหม ไม่ต้องไปตั้งแง่รังเกียจรังงอนน้องแบบเมื่อก่อนได้ไหมลูกสงสารน้องเพิ่งเสียพ่อมา”
“ไม่รู้สิครับแม่ ถ้ารุ้งยังเป็นเหมือนเดิมผมก็ไม่รู้จะเอ็นดูได้ไหม” คริษฐ์เองก็แบ่งรับแบ่งสู้ไว้ก่อน
“เปิดตาเปิดใจมองน้องใหม่นะลูก”
“ผมจะพยายามครับแม่” เขายิ้มให้มารดาแต่ไม่รับปากท่านในทันทีว่าจะเอ็นดูน้องน้อยคนเดิมได้ไหม ความโกรธเกลียดยังคงฝังลึกลงในใจ อดีตนั้นรุ้งพรายทำตัวน่าเอือมระอาจนเขาหน่ายใจที่จะต้องคอยปราม
เตชัสหนุ่มวัยยี่สิบแปดปี หลังเรียนจบก็เข้าทำงานกับพี่ชายในบริษัทซึ่งทำธุรกิจจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับการออกกำลังกาย เตชัสได้เป็นนายแบบของบริษัทเพราะรูปลักษณ์ค่อนข้างเหมาะกับผลิตภัณฑ์ ชายหนุ่มจึงเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าพี่ชาย ซึ่งมักจะซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังการทำงานเสียส่วนใหญ่ ในอดีตนั้นเตชัสมักจะอิจฉาพี่ชายเรื่องรุ้งพราย เพราะเขาชอบความน่ารักของหญิงสาว ทว่าถูกเจ้าตัวเมินเฉยใส่บ่อยครั้ง จากความชอบได้แปรเปลี่ยนเป็นไม่ชอบเข้ามาแทนที่ ขัดขวาง ก้างขวางคอ หรืออะไรที่ทำให้รุ้งพรายเจ็บใจเขาก็จะสนใจทำเป็นพิเศษ เพราะทำแล้วรู้สึกสนุกและสะใจนั่นเอง
เรื่องราวของรุ้งพรายได้ห่างหายไปจากชีวิตถึงเจ็ดปีเต็ม กลับมาคราวนี้เตชัสก็นึกสนุกอยากจะแกล้งยัยเด็กแก่แดดนั่นให้รู้สำนึก จะว่าไปตัวเขาก็ดึงดูดสตรีเพศอยู่ไม่น้อย จะหว่านเสน่ห์แล้วเขี่ยทิ้งแบบไม่ไยดีบ้างคงจะสนุกอยู่ไม่น้อย
‘เมื่อก่อนมองพี่เป็นมดเป็นปลวกดีนัก อยากรู้ตอนนี้จะทำหน้ายังไงเวลาเห็นพี่’
คนมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเองคิดอย่างผยอง เริ่มต้นวางแผนร้าย ๆ ด้วยการเข้าไปกดกริ่งประตูบ้านของนางอำไพวันรุ่งขึ้น
“สวัสดีครับน้าอำไพ”
“เตมีอะไรกับน้าหรือเปล่าลูกมาแต่เช้าเชียว” นางอำไพแปลกใจเป็นอย่างมาก ปกติแล้วเตชัสแทบไม่เคยกดกริ่งหน้าบ้านของตน นับจากลูกสาวคนสวยได้ย้ายไปอยู่กับบิดา
“ได้ข่าวว่ารุ้งกลับมาอยู่ที่นี่แล้ว เลยกะจะมาเยี่ยมครับน้าอำไพ อีกอย่างแม่วานให้เอาเงินค่าทำความสะอาดมาให้ด้วย” จริงแล้วมารดาของเตชัสไม่ได้วาน แต่เป็นเขาเองที่เข้าไปเสนอหน้าว่าจะเอาเงินมาให้
“ขอบใจจ้ะ เข้ามาก่อนสิ รุ้งยังไม่ตื่นนอนเลยเต เมื่อวานทำความสะอาดคนเดียวคงเพลียหนักนี่น้าว่าจะแบ่งเงินค่าจ้างให้รุ้งด้วยนะ”
“ดีครับ” เตชัสมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่เห็นหน้าของรุ้งพราย แต่ก็อดแปลก ๆ ไม่ได้กับการที่หญิงสาวทำงานบ้านเป็น รุ้งพรายในความทรงจำของเตชัสคือยัยเด็กจอมเซี้ยว เอาแต่ใจตัวเอง งานบ้านไม่แตะ ความเป็นกุลสตรีคือศูนย์ ชักอยากเห็นตอนจับไม้กวาดกวาดบ้านเสียแล้วสิ
“เข้าบ้านก่อนไหมเต น้าทำขนมให้ลูกค้าพอดี รองท้องก่อนไหมลูก”
“เอ่อ ไม่ดีกว่าครับน้าอำไพ ผมมีธุระไปทำข้างนอกพอดีเอาไว้วันหลังผมมาขอขนมน้าอำไพกินนะครับ”
“เอาสิ มาได้ทุกเมื่อเหมือนตอนเด็ก ๆ ก็ได้น้ายินดีต้อนรับจ้ะ”
“ขอบคุณครับ ผมกลับก่อนนะครับ” เตชัสยกมือขึ้นไหว้แล้วเดินกลับไปทางประตูหน้าบ้านเหมือนเดิม
นางอำไพยิ้มอ่อน ๆ บนใบหน้า นานมากแล้วที่สองบ้านไม่ได้ไปมาหาสู่กันเช่นในอดีต อาจเป็นเพราะฐานะที่แตกต่างกันมากขึ้นหรือว่าความสัมพันธ์ของลูก ๆ ไม่เหมือนเดิม ต่างคนต่างโตความสัมพันธ์ก็ยิ่งห่างกันไป วันนี้นางอำไพเริ่มมองเห็นสายใยของสองครอบครัวกำลังจะถักทอขึ้นมาใหม่ จากการกลับมาของลูกสาวของตนนั่นเอง
เตชัสเดินกลับเข้าบ้านด้วยสีหน้าผิดหวัง เพราะไม่ได้เห็นหน้า รุ้งพรายอย่างที่ตั้งใจ เขาเห็นพี่ชายกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ในห้องนั่งเล่นจึงเข้าไปชวนคุยด้วย
“พี่คริษฐ์แม่ไปไหนแล้วล่ะ ไม่เห็นรถตั้งแต่เช้า”
“วันหยุดแม่ก็ไปสมาคมกับเพื่อน ๆ ของแม่นั่นแหละ เห็นว่าวันนี้มีกิจกรรมไปทำบุญกับเด็กยากไร้” คริษฐ์ตอบน้องชายสายตาก็จ้องรายการสารคดีชื่อดังไปด้วย
“วันหยุดไม่มีอะไรทำน่าเบื่อ”
“วันนี้มาแปลก อยู่บ้านได้ด้วยปกติมีนัดกับสาว ๆ ไม่เว้นแต่ละวัน”
“สาว ๆ ช่วงนี้ไม่เร้าใจเลยพี่คริษฐ์”
“เบื่อแล้วว่างั้น”
“งั้นมั้งเจอแต่แบบเดิม ๆ มันก็เซ็งน้า วิ่งเข้าหาผมเหมือนพวกปลิงดูดเลือดก็ไม่ปาน”
ตอนที่ : 74 วันของเรา 5 (จบ)คริษฐ์ขานเหมือนไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้มือของเขากำลังล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าชีฟองสีครีมของภรรยา ค่อย ๆ ดึงชั้นในผ้าซาตินสีดำออกจากโคนขา อาการเบาหวิวแสนสะท้านส่งผลให้รุ้งพรายหนีบท่อนขาเข้าหากันแน่ แต่อีกคนใช่ว่าจะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายดาย คริษฐ์ใช้สองมือจับที่ต้นขาแล้วดันแยกให้ออกจากกัน “อ๊ะ !” เหมือนถูกจับเปิดอ้าทั้งที่มีกระโปรงคลุมอยู่ ทว่าผ้าบางเบานั่นก็ร่นขึ้นอยู่เหนือสะโพก ยิ่งเขาดันต้นขาให้สูงขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งเปิดอ้าและเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา รุ้งพรายไม่เคยมั่นใจตั้งแต่หลังคลอดลูก ทุกครั้งที่ถูกร่วมรักเธอก็มักจะกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่คริษฐ์ !” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาตามแรงขยับจากปลายนิ้วของเขา “ยังไม่ชินอีกเหรอรุ้งทำไมต้องอายพี่ขนาดนี้ด้วยหืม” “รุ้งยังอ้วนอยู่เลยนะคะพี่คริษฐ์” “อ้วน ! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกันรุ้ง พี่ว่านี่มันหุ่นนางฟ้าชัด ๆ ดูสิอวบอิ่มจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด” ไม่เพียงแค่พูดคริษฐ์ยังจับหมุบหมับอีกด้วย “พี่คริษฐ์พูดจริงเหรอคะ” “จะโกหกทำไม แบบนี้เซ็กซี่มากรู้ไหม ไ
ตอนที่ : 73 วันของเรา 4 “ก็มีบ้างค่ะ แย้มยังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นโลกใบนี้อีกตั้งหลายอย่าง จู่ ๆ จะให้มาเป็นแม่คนมันก็แปลก ๆ สักหน่อยค่ะ” “นี่จะบอกว่าฉันตัดอนาคตเธอเหรอแย้ม” เตชัสตัดพ้อภรรยา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเตก็รู้ว่าก่อนหน้าแย้มก็ เอ่อ” แย้มรีบปฏิเสธแต่ก็ตะกุกตะกักในตอนท้ายประโยค “เอ่อ อะไร” คนได้ใจเขี่ยแก้มแย้มเล่น “ก็รู้ว่าแย้มมีใจให้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมคะ ในตอนนั้นถึงได้กล้าเอ่อ ปล้ำ” ถามเขาแล้วก็หลบสายตาที่จ้องหยาดเยิ้มกลับมาไปอีกทาง “ใช่ ฉันรู้ฉันถึงกล้าทำยังไงล่ะ”เตชัสยิ้มบาง ๆ เพราะเขาหงุดหงิดกับเรื่องของพี่ชายที่ไปหมั้นกับรุ้งพราย เตชัสรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้ว่าพวกเขาได้หมั้นกันความรู้สึกของเขาก็เหมือนเด็กขี้อิจฉา ที่ไม่เคยได้ของเล่นชิ้นถูกใจสักที เตชัสไม่เคยบอกใครเรื่องที่เขาอยากให้รุ้งพรายมาสนใจบ้าง มันเป็นความริษยาวัยเด็กที่พอโตขึ้นมาก็อยากจะได้ความรู้สึกพิเศษแบบนั้น แต่รุ้งพรายก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่ามาโดยตลอด ในวันนั้นเขาเลยอยากปลดปล่อยความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป และแย้มก็คือคนที่อยู่ตรงนั้นพอ
ตอนที่ : 72 วันของเรา 3 “น่ารักที่สุดเลย รอบนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ พี่รับรอง” เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงสะอาด รุ้งพรายพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มสากด้านขวาเบา ๆ “รุ้งรักพี่คริษฐ์ค่ะ ไปไหนไปกัน” ได้ไฟเขียวแบบนี้สามีของเธอก็เดินหน้าต่อในอ่างอาบน้ำ กว่าเขาจะถึงฝั่งฝันแสนเร่าร้อนรุ้งพรายก็แทบสลบคาอกของสามี รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงนอน สภาพของเธอคงไม่ไหวแล้วจริง ๆ สามีจึงจัดการสวมชุดนอนให้ พอได้ซุกอกอุ่น ๆ ของเขา รุ้งพรายก็ไม่อยากเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกเลย ในความกึ่งหลับกึ่งตื่นเธอกลับได้ยินเสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบแผ่วเบาตรงใบหู “สุดท้ายพี่ก็หนีรุ้งไม่พ้น” ในความมึนงงเธอขมวดคิ้วขึ้นตามความรู้สึกสงสัย“และพี่ก็รักรุ้งจนได้” คราวนี้คนใกล้จะหลับสนิทถึงกับเผยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ได้รางวัลพิเศษเป็นการหอมแก้มซ้ายขวาจากสามี ค่ำคืนนี้เธอจะได้นอนหลับอย่างมีความสุข ในอ้อมอกของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“รุ้งก็รักพี่คริษฐ์ค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่หลับตาคริษฐ์เขี่ยแก้มของภรรยาเบา ๆ รอยยิ้มของเขาแต่งแต้มเต็มใบหน้า แม้ตอนหลับจิตใต้สำ
ตอนที่ : 71 วันของเรา 2 “พี่คริษฐ์ !” คราวนี้หญิงสาวผวาเข้ากอดคอเข้าแน่น หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาน่าคนดีของพี่ ไม่งอแงสิ” “รุ้งไม่ได้งอแงนะ แต่ว่า แต่...” “พี่ขอนะ” “คะ” รุ้งพรายยังงงแต่เขาเลื่อนชั้นในออกจากสะโพกของเธอ ใช้ปลายเท้าเขี่ยทิ้งลงข้างเตียง ความเย็นโล่งหวิวสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของเขา “รุ้ง” คริษฐ์เรียกคนที่แทบจะตัวแข็งไปอีกรอบ “คะ” หนนี้รุ้งพรายไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที “อย่ากลัวพี่สิ ไหนว่ารักพี่ไง” “ก็รักค่ะ” ‘แต่ก็กลัว’ “รักแล้วทำไมถึงทำท่าไม่มั่นใจพี่แบบนี้ล่ะ” คริษฐ์เห็นหน้าเจ้าสาวของตัวเองแล้วพลอยหัวใจอิ่มเอมไปด้วย ทั้งสวยทั้งนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ยัยเด็กจอมตื๊อในอดีตคนนั้นทำเขาใจสะท้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือท่าทีเอียงอายแกมไร้เดียงสายิ่งทำให้เขาสุขใจขึ้นไปอีก ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างดูดดื่มและเรียกร้อง ฝ่ามือก็ขยำทรวงอวบอัดทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม กายท่อนล่างก็เสียดสีให้เกิดหยาดน้ำหวานหล่อเลี้ยง และเมื่อทุกอย่างพรั่งพร้อมแล้วคริษฐ์ก
ตอนที่ : 70 วันของเรา26วันของเรา คืนเข้าหอของคริษฐ์กับรุ้งพราย หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้พรและส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาของคู่บ่าวสาวคริษฐ์มองดูเตียงนอนสีชมพูระบายลูกไม้สวยงาม เขาสั่งงดโรยดอกกุหลาบบนเตียงเพราะไม่อยากเสียเวลาปัดออก เจ้าสาวคนงามก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง วันนี้รุ้งพรายสวยจนเขาตะลึง ชุดเจ้าสาวด้านหน้าดูเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินแขนกุด ทว่าเปิดเปลือยด้านหลังไปถึงเอว มีโบผูกอันใหญ่ด้านหลังกระโปรงที่ทิ้งชายลงลากพื้นแลดูเรียบหรู “เหนื่อยไหมรุ้ง” เจ้าบ่าวเดินมานั่งลงด้านข้างกับเจ้าสาว “เหนื่อยค่ะ ปวดขาไปหมดแล้ว” รุ้งพรายถลกกระโปรงขึ้นเพื่อดูเท้าของตัวเอง คริษฐ์ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นห้อง “พี่คริษฐ์ทำอะไรคะ” เจ้าสาวร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าบ่าวยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา “พี่จะดูว่าเท้าเป็นแผลไหม ใส่รองเท้าใหม่อาจไม่ชิน” เอ่ยแล้วก็หันเท้าของเจ้าสาวเพื่อดูบริเวณส้น พบว่ามีรอยถลอกจนแดงไปทั้งสองข้าง “นี่แค่ญาติพี่น้องแล้วก็จัดในสวนบ้านพี่เองนะ ถ้าเป็นในโรงแรมอาจจะหนักกว่านี้” คริษฐ์บอกแล้วก็อดสงสารเจ้าสาวไม่ได
ตอนที่ : 69 ทางออกของทุกคน 3 “ก็ให้แย้มมานั่งเป็นเพื่อนจะไปอาบน้ำทำไมกันคะ” แย้มก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาบ้าง “ไม่ต้องมาย้อนฉันเลย ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ค่ะ” “ถ้าไม่ไปฉันจะเป็นคนพาไปเองนะ อ้อ แล้วฉันก็จะอาบเป็นเพื่อนเธอด้วย” อีกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ดีแน่หากปล่อยให้เขาเข้าห้องอาบน้ำด้วย “ไม่ต้องค่ะ แย้มอาบคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยมีเสียงหัวเราะของเตชัสไล่หลังไปติด ๆ กลับออกมาอีกครั้งเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แย้มสวมเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับกางเกงขาสั้นเอวยืดแบบที่เตชัสชอบให้สวมใส่ เตชัสเห็นแล้วก็อมยิ้มพร้อมกับชี้ลงที่หน้าตักของตัวเอง “มานั่งนี่เลย” แย้มทำหน้างอใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนตักของเขาอย่างว่าง่าย “หอม ๆ แบบนี้ค่อยน่ากอดหน่อย” คนพูดซุกหน้าลงตรงซอกคอของแย้มสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด “แย้มไม่ได้ใช้น้ำหอมแบบสาว ๆ คนอื่นของคุณเต ไม่ได้น่ากอดขนาดนั้นหรอกค่ะ” “อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมต้องพูดถึงคนอื่นนะแย้ม เสียอารมณ์หมด” เตชัสตำหนิหญิงสาวเล็กน้อย นั่นทำให้แย้