Masukมีอา..หญิงสาวลูกครึ่งวัยยี่สิบนั่งมองดูเว็บไซต์ชื่อดังอย่างเว็บสวีทฮาร์ทชูการ์แดดดี้มานานเกือบสามชั่วโมงแล้ว มันเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับงานประเภทชูการ์เบบี้หรือเรียกง่ายๆ ว่า เด็กป๋านั่นเอง งานสบายๆ แต่ได้เงินดีมากและเป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิงในวัยนักศึกษาแบบเธอ วัยที่จำเป็นต้องกู้เงินเรียนและมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากและก็มีนักศึกษาสาวหลายคนที่หาทางออกด้วยการทำงาชูการ์เบบี้
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมองชื่อรูปโปรไฟล์ของสาวชูการ์เบบี้หลายคนที่โชว์หราในเว็บไซต์ชื่อดังที่มีสมาชิกทั้งชูการ์แดดดี้และชูการ์เบบี้ทั้งหมดรวมกันมากกว่าล้านคน สัดส่วนชูการ์เบบี้มีมากกว่าชูการ์แดดดี้หลายเท่าตัว สาวๆ ส่วนมากที่ทำอาชีพนี้จะมีอายุพอๆ กับเธอ คืออายุสิบแปดถึงยี่สิบหกโดยประมาณ
ม่านมุกเพื่อนของเธอเพิ่งจะแนะนำให้รู้จักอาชีพนี้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนเมื่อมีอาจำเป็นต้องหาเงินเร่งด่วนมาจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้พ่อของเพื่อนที่เธอขับมันไปชนเข้ากับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับสวนทางมา โชคดีที่ผู้ชายที่ถูกมีอาขับรถเฉี่ยวชนไม่บาดเจ็บสาหัสหรือพิการไม่งั้นเธอคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต ค่าซ่อมรถยนต์รวมกับรถมอเตอร์ไซค์รวมกับเงินค่ารักษาพยาบาลให้คนเจ็บก็เกือบแสนห้า
เงินจากค่าทำงานพิเศษและเงินเก็บทั้งหมดที่เธอมีมันไม่พอจะจ่ายค่าซ่อมรถเลยด้วยซ้ำ
มีอาไม่มีพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ไหน นอกจากเพื่อนในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วเธอก็อยู่ตัวคนเดียวมาตลอด โชคดีที่มีเศรษฐีใจบุญอุปการะส่งเสียเลี้ยงดูค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมถึงค่าเรียนหนังสือให้ตั้งแต่เธอยังเด็ก
เด็กบางคนพอเรียนจบมัธยมก็ออกมาหางานทำไม่ได้เรียนหนังสือต่อ จะมีบางส่วนที่เลือกเรียนต่อในระดับมหาลัยแต่ก็ต้องมีผลการเรียนดีผู้อุปการะคุณถึงจะให้ทุนการศึกษาต่อจนกว่าจะเรียนจบ มีอาไม่ใช่คนหัวดีหรือเก่งอะไรแต่เป็นคนที่มีความพยายามสูง ขยันและพยายามตั้งใจเรียน ผลการเรียนของเธอถึงอยู่ในระดับดีมาตลอด ถ้าผลการเรียนตกหรือมีความประพฤติแย่ผู้อุปการะของเธออาจจะไม่ส่งเสียเงินค่าใช้จ่ายรวมถึงเงินทุนการศึกษาให้
พออายุสิบเก้ามีอาก็ตัดสินใจออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พอเข้ามหาลัยได้มีอาก็เลือกเช่าหอพักถูกๆ แถวมหาลัยและเริ่มทำงานพิเศษเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว แต่เงินที่ได้ก็พอใช้แค่เดือนชนเดือนเท่านั้นเพราะเธอต้องเรียนหนังสือไปด้วยและทำงานพิเศษได้แค่ช่วงหลังเลิกเรียน จะได้ทำเต็มวันก็ช่วงเสาร์อาทิตย์เท่านั้น ส่วนเงินค่าเทอมของมหาลัยมีอาก็ยังคงรับความเมตตาจากเศรษฐีใจบุญที่ให้การอุปการะอยู่เหมือนเดิมและท่านจะให้ทุนการศึกษาต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเธอจะเรียนจบมหาวิทยาลัยแต่ผลการเรียนของเธอต้องอยู่ในเกณฑ์ดีรวมถึงความประพฤติด้วย
ในใจลึกๆ มีอาก็นึกขอบคุณพระเจ้าอยู่ไม่น้อยที่ประทานหน้าตาและรูปร่างแบบนี้มาให้ นอกจากสองสิ่งนี้แล้วในชีวิตเธอแทบไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง ไม่รู้วันเดือนปีเกิดตัวเอง ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าพ่อแม่ของตัวเองเป็นใคร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตัวเองเป็นลูกผสมเชื้อชาติไหน พอจำความได้เธอก็มาอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้ว
ส่วนชื่อมีอาที่เป็นชื่อเล่น ป้าแพรวคนที่ทำงานในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นคนตั้งให้ ช่วงนั้นมีหนังเรื่องหนึ่งดังมาก นางเอกของเรื่องชื่อมีอาและป้าแพรวก็ชอบเธอมากประจวบเหมาะกับที่ฉันเป็นเด็กลูกครึ่งพอดีป้าแพรวเลยตั้งชื่อนี้ให้ ..และฉันก็ชอบชื่อนี้มาก
“หน้าตาแกสวยออกมีอา..อย่างแกเป็นดารานางแบบได้สบายๆ เลย ทำไมไม่หางานที่มันได้เงินมากกว่างานพิเศษตามร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารที่ทั้งเหนื่อยและได้เงินน้อยแบบนี้อะ มาทำงานแบบฉันไหม งานสบายๆ แต่เงินดีมากนะ” ม่านมุกเพื่อนที่มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันบอก
มีอาชอบงานพวกนั้นเพราะมันได้เงินมากกว่างานพิเศษที่เธอทำอยู่มาก...
แต่ที่เธอทำงานพวกนั้นไม่ได้เพราะเธอเป็นคนที่ไม่มีพรสวรรค์ทางด้านการแสดงเอาเสียเลย เคยไปแคสงานแสดงแต่ไม่ผ่านเพราะเธอแสดงได้ห่วยแตกมาก แข็งเป็นหินคือคำที่ผู้กำกับบอกเธอ ส่วนงานนางแบบเธอก็รับเป็นงานเสริมเท่านั้นและพักหลังๆ งานที่เข้ามาส่วนใหญ่ก็มีแต่งานที่ต้องใส่เสื้อผ้าที่โชว์เนื้อหนังมังสาเยอะๆ หรือไม่ก็งานถ่ายแบบชุดว่ายน้ำวาบหวิว
เหตุผลที่ได้ถ่ายแบบงานเซ็กซี่แบบนี้เป็นส่วนใหญ่เพราะหน้าตาที่ดูเปรี้ยวและเซ็กซี่ของมีอาและมันก็ตอบโจทย์สินค้าแนวนี้ของลูกค้า ส่วนงานแนวหวานๆ ใสๆ เธอแทบไม่เคยได้แตะเลยด้วยซ้ำ
แต่ขอโทษเถอะ...ถึงหน้าตาจะเปรี้ยวเซ็กซี่ไม่สวยหวานแบบพิมพ์นิยมแต่เธอก็ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ ไม่ใช่ว่าเธอหัวโบราณอยากจะรักษาพรหมจรรย์ไปจนถึงแต่งงานหรอก แต่เพราะต้องตั้งใจเรียนไม่ให้เกรดตกและรักษาความประพฤติให้มันดูดีต่างหาก ถึงจะเคยมีแฟนมาก่อนก็ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจไปตามอารมณ์เลยสักครั้ง อย่างมากก็แค่กอดจูบลูบคลำแต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยมากกว่านั้น พอผู้ชายมันไม่ได้แอ้มง่ายๆ ลายก็เริ่มออกสุดท้ายก็คบซ้อนจนมีอาจับได้ไล่ทันและก็เลิกรากันไปแบบไม่ค่อยดีเท่าไหร่
มาพูดถึงงานที่ม่านมุกแนะนำให้เธอดีกว่า..
ม่านมุกบอกว่าเธอแค่ทำงานเป็นเพื่อนคลายเหงาให้หนุ่มใหญ่พวกนั้น ก็แค่ไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แต่พักหลังๆ หนุ่มใหญ่ที่เป็นชูการ์แดดดี้หนึ่งในสามคนนั้นยื่นข้อเสนอเป็นเงินจำนวนมากเพื่อแลกกับการร่วมหลับนอนกับม่านมุกและเธอก็ตอบตกลง นอกจากเงินแล้วชูการ์แดดดี้คนนั้นก็เป็นสเปกที่หล่อนชอบ
ม่านมุกเป็นพวกติดหรูอยู่สบาย เธอมีชูการ์แดดดี้ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเช่าคอนโดแพงๆ ให้อยู่และซื้อของแบรนด์เนมหรูให้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับจนถึงเครื่องสำอางราคาแพง โดยงานที่ม่านมุกทำมาตั้งแต่อายุสิบแปดก็คืองานที่มีอากำลังนั่งเพ่งมองมันอย่างใช้ความคิด
ไม่แปลกหรอกที่เด็กกำพร้าอย่างพวกเราจะอยากได้อยากมีในสิ่งที่ตัวเองไม่มีหรือไม่เคยได้รับเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ ที่มีพ่อแม่รักคอยประคบประหงมหามาประเคนให้
ความทะเยอทะยานอยากได้อยากมีทำให้เพื่อนๆ เธอหลายคนเลือกที่จะทำงานประเภทนี้และก็มีสาวมากมายหลายคนที่ต้องการเงินมาใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นเหมือนกับที่มีอากำลังตัดสินใจทำ
เธอเลือกรูปถ่ายที่ดูดีที่สุดหลากหลายรูปพร้อมลงประวัติคร่าวๆ และการตั้งกฎเหล็กข้อสำคัญที่สุดที่เธอไม่สามารถทำได้คือการร่วมหลับนอนกับลูกค้าที่เป็นชูการ์แดดดี้ เมื่อตรวจทานทุกอย่างดีแล้วถึงโพสต์ข้อมูลทั้งหมดขึ้นในระบบ เพียงสิบห้านาทีแรกก็มีเหล่าชูการ์แดดดี้เข้ามาทักทายมีอาเป็นจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวจนเธอคาดไม่ถึงว่าจะมีคนสนใจเธอมากมายขนาดนี้
มีอานั่งตอบข้อความที่เหล่าชูการ์แดดดี้พวกนั้นส่งมาสักพักใหญ่ มีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ เธอหาคนที่มีโปรไฟล์น่าสนใจเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ที่ดูมีเงินมากพอจะซัพพอร์ตเธอได้ มีอาอยากได้แค่ค่าซ่อมรถกับค่ารักษาพยาบาลคนเจ็บเท่านั้น ถ้าได้จำนวนเงินครบแล้วเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำงานชูการ์เบบี้อีก
ตอนแรกที่มีอาทำอาชีพนี้เพราะความจำเป็น...แต่ตอนนี้เธอทำเพราะมันได้เงินเยอะกว่างานพิเศษที่เธอเคยทำและมันได้เงินง่ายมาก แค่ไปเที่ยวกับลูกค้า กินข้าวดูหนัง นั่งคุยกันและอาจจะมีกอดจูบลูบคลำบ้างตามสถานการณ์แต่ก็อยู่ในระดับที่เธอรับได้ แค่เอาอกเอาใจหนุ่มชูการ์แดดดี้ของเธอมากหน่อย..แค่นั้นพวกเขาก็ให้ทุกอย่างโดยที่เธอไม่ได้ขอร้อง เงินทองรวมถึงเสื้อผ้ากระเป๋าของใช้ราคาแพงๆ
แต่มีกฎเหล็กเพียงข้อเดียวเท่านั้นที่มีอาไม่สามารถทำได้คือการร่วมหลับนอนกับลูกค้า แม้ชูการ์แดดดี้จะเสนอเงินจำนวนมากมายให้เธอก็ตาม
..เผลอแป๊บเดียวมีอาก็ทำงานอาชีพชูการ์เบบี้มาเกือบสามเดือนแล้ว.. มีหลายครั้งที่เธออยากเลิกทำแต่พอเห็นเงินในบัญชีที่มากขึ้นเรื่อยๆ มันก็ทำให้ความคิดพวกนั้นหายไป
กอบัวเรียนอยู่คนละคณะกับมีอาและม่านมุก เวลาเจอกันที่มหาลัยก็แค่ทักทายพูดคุยกันตามธรรมดา แต่ส่วนมากถ้าไม่เจอกันแบบจังๆ กอบัวแทบไม่เดินเฉียดพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เหมือนกลัวว่าใครๆ จะรู้ว่าหล่อนเคยอยู่ที่มูลนิธิมาก่อน การที่กอบัวเดินเข้ามาหาเธอนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับมีอาไม่น้อย“มีอะไรหรือเปล่าบัว” มีอาพูดทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของกอบัว“วันเสาร์นี้พวกเธอว่างไหม” กอบัวหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังมีอา“ไม่แน่ใจ..น่าจะว่าง มีอะไรเหรอ” มีอาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก“อยากชวนไปงานปาร์ตี้”“งานปาร์ตี้อะไร” มีอามองใบหน้ายิ้มๆ ของกอบัวอย่างนึกสงสัย“งานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ที่คณะของฉันเอง ฉันอยากชวนพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน”“วันนี้ฝนท่าจะตกหนัก ร้อยวันพันปีเธอแทบไม่อยากคุยหรือเสวนากับพวกฉันเลยด้วยซ้ำ คิดยังไงถึงมาชวนให้พวกฉันไปเที่ยวด้วย..” ม่านมุกพูดประชดออกมา เธอไม่ค่อยชอบกอบัวอยู่ก่อนแล้ว“มุก” มีอาพูดปรามเพื่อนสนิทพลางส่ายหน้าให้ม่านมุกหยุดพูด กอบัวที่ฟังอยู่ยิ้มเจื่อนหน้าถอดสีลงไปทันที“ก็พูดเรื่องจริงนิ” ม่านมุกไม่สนใจว่ากอบัวจะรู้สึกยังไงกับคำพูดของเธอ เพราะเธออยาก
“จำใส่สมองไว้ด้วยสิ ฉันไม่ชอบพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ”“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยขณะกลั้นใจตอบ ยังไม่ทันจะพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“มานี่” ราเชนทร์ขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ก่อนจับบานหน้าต่างให้ปิดสนิทเหมือนเดิม“พรุ่งนี้มีเรียนเช้าค่ะ แล้วตรงสะโพกมันก็เจ็บมากไว้ต่อวันอื่นได้ไหมคะ” มีอาโกหก...ที่จริงแล้วเธอมีเรียนแค่ช่วงบ่าย แต่เรื่องเจ็บตรงบั้นท้ายนั้นเธอพูดจริง เธออยากได้ยาแก้ปวดและอยากนอนพักผ่อน“ตั้งหลายรอบแล้วคุณ..เอ่อ..ยังไม่พอใจอีกหรือคะ”“พอหรือไม่พอมันอยู่ที่ฉัน”“…”“ฉันจะอาบน้ำด้วย”“อาบสองคนมันไม่ค่อยสะดวกมั้งคะ คุณราเชนทร์อาบก่อนก็ได้” มีอาบ่ายเบี่ยง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แค่อาบน้ำหรอก เขาต้องการมากกว่านั้นราเชนทร์ไม่ได้ตอบแต่ใช้สายตากดดัน ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหามีอาที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือข้างหนึ่งกระชากชุดเดรสรสีแดงที่เธอถือไว้ออกก่อนจะใช้มือข้างเดิมบีบขยำลงบนบั้นท้ายที่บวมแดงของเธอ ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือหนาบีบแรงขึ้นๆ ร่างสูงดึงรั้งหญิงสาวที่เดินตามเข้าไปในห้องน้ำมันก็เป็นอย่า
เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัยยังไม่ทันจะเอ่ยปากทักคนใต้ร่างก็กระแทกสวนขึ้นมาจนเธอนิ่วหน้าเพราะรู้สึกจุกเจ็บมากกว่าเดิม เขามันโรคจิตและดูจะพอใจที่ทำให้เธอเจ็บ“อ๊ะ มันเจ็บ คุณ..บอกว่าจะให้..มีอาทำไง อยู่นิ่งๆ สิคะ” เธอไม่อยากเจ็บตัวอยากจะรู้สึกดีมากกว่า ให้เธอทำเองคงดีกว่าปล่อยให้เขากระแทกใส่แรงๆ แบบนี้“ใส่ถุงยางก่อนดีไหมคะ อ๊ะ”“ไม่ ทำหน้าที่ของเธอต่อสิ ขย่มลงมาแรงๆ ถ้าทำไม่ถูกใจ..ฉันจะเป็นฝ่ายทำเอง”“ถ้าฉันทำ เธอจะเจ็บมากกว่านี้”มีอากัดริมฝีปากล่างเบาๆ ขณะที่มือบางจับหน้าท้องแบนราบไว้แน่น ขยับสะโพกกลมกลึงบดคลึงบนแก่นกายแข็งใหญ่ช้าๆ พอเธอทำเองมันก็เสียวมากจริงๆ ของเขาทั้งใหญ่ทั้งยาวมันคงเข้าไปลึกจนถึงปากมดลูกเลยทีเดียว“อ๊า สะเสียวจัง” เธอหลุดปากออกมาอย่างลืมตัวเมื่อออกแรงกระแทกบนแก่นกายแรงขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนราเชนทร์จะพอใจขึ้นแต่มีอาก็ยังทำไม่ถูกใจเขานัก ฝ่ามือหนาฟ
ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกริ่มรู้สึกเหมือนสาวสวยตรงหน้ากำลังเล่นตัวมากกว่าจะอยากให้เขาปล่อยมือเธอจริงๆ ไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จักนักธุรกิจนามสกุลดังอย่างเขา“มานั่งข้างๆ ฉันนี่ เธอ!ลุกออกไป ฉันจะให้ผู้หญิงคนนี้นั่งตรงนี้แทน” ชายหนุ่มออกปากไล่สาวสวยที่นั่งข้างๆ หล่อนตวัดสายตาขึ้นมองมีอาอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขยับตัวลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมไปนั่งที่โซฟายาวด้านหลังแทนยิ่งขัดขืนผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ ท่อนแขนตวัดโอบรัดรอบเอวบางอย่างถือวิสาสะก่อนจะดันร่างบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยย!!”มีอาดิ้นขลุกขลัก มือทั้งสองพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอวออก ทุกคนยังคงพูดคุยหัวเราะและดื่มเหล้ากันต่อโดยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน พวกเขาทำเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเรื่องปกติเธอหันไปมองราเชนทร์ พยายามจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เขากำลังมองเธออยู่เช่นกัน แต่มองด้วยสีหน้าและแววตาเรียบเฉยเย็นชา คาดเดาไม่ออกว่าเขาจะช่วยเธอไหมในขณะที่ผู้ชายคนนี้กำลังกร
“แกรู้จักกับคุณราเชนทร์ด้วยเหรอ” ม่านมุกเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างที่พวกเธอทั้งคู่ยืนรอรถแท็กซี่อยู่บริเวณด้านหน้าของมูลนิธิมีอารู้ว่าเพื่อนอยากรู้เรื่องนี้มากแต่ไม่กล้าถามอะไรออกมาเพราะในมูลนิธิมีคนอยู่เยอะและเธอแทบไม่เปิดโอกาสให้ม่านมุกได้ถามเลย เธออยากโกหกแต่คนอย่างม่านมุกคงไม่เชื่อและไม่เลิกสงสัยแน่ๆ ถ้าคำตอบมันไม่มีเหตุผลพอและคงตามถามเซ้าซี้ไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่หล่อนพอใจ“อืม เคยเจอที่เอ็มมาริออนเมื่ออาทิตย์ก่อน”“ตอนที่แกไปกับอีธานเหรอ เฮ้ย! ทำไมแกไม่เห็นแกเล่าให้ฉันฟังอะ เล่ามาให้หมดเลยนะไปรู้จักคุณราเชนทร์ได้ยังไง”“อือ ก็คุยกันนิดหน่อย” ขนาดเธอเตรียมคำตอบไว้แล้วพอถูกจี้ถามจริงๆ ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน สายตาม่านมุกดูคาดคั้นจนมีอาต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด“แค่นั้นจริงเหรอ ไม่เชื่ออะ! ดูแกสนิทสนมกับเขาออก เห็นคุยกันตลอดแถมเดินตัวติดกันไม่ห่าง แถมฉันยังได้ยินเขาเรียกชื่อเล่นแกบ่อยๆ
ช่วงสายของวันเสาร์ทุกคนที่มูลนิธิดูยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานต้อนรับบุคคลสำคัญที่กำลังจะเดินทางมาถึง มีอา ม่านมุกและเพื่อนคนอื่นๆ ที่ว่างในวันนี้กำลังช่วยกันสำรวจดูแลความเรียบร้อยอีกรอบเพื่อไม่ให้งานขาดตกบกพร่อง รวมถึงการช่วยดูแลเด็กเล็กๆ ให้นั่งอยู่กับโต๊ะของตัวเองให้เรียบร้อย ถึงการจัดเตรียมสถานที่จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมงานให้อยู่แล้วแต่ถ้าวันไหนตรงกับวันว่างไม่มีเรียนหรือไม่ได้ติดธุระอย่างอื่นมีอาและม่านมุกมักจะมาช่วยงานต่างๆ ของมูลนิธิเสมอเธอรู้แค่ว่าเจ้าของมูลนิธิจะเดินทางมาแจกของขวัญและขนมให้กับเด็กๆ แต่ไม่มีกำหนดการแน่นอน เดือนครั้งหรือไม่ก็สองสามเดือนครั้ง พอเด็กทุกคนรู้ก็มักจะตื่นเต้นดีใจและตั้งหน้าตั้งตานับวันรอเพราะจะได้ทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ หนังสือนิทาน ของเล่นรวมถึงขนมอร่อยๆ แต่ภาพผู้ชายร่างสูงที่เดินลงมาจากรถและมีลูกน้องที่มีอาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเดินตามหลังมาด้วยทำให้เธอทั้งตกใจและประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่มาเองเพราะส่วนมากคนที่มาจะเป็นคุณมิคาเอลกับภรรยาของท่านเธอไม่คิดว่าคนร้ายกาจ







