Chapter 2
'คืนแรกต่างถิ่น'
.
.
"ที่นี่ร่มรื่นดีนะคะ"
มัทนาหันไปชวนกันต์คุยเพราะเขาเอาแต่เงียบ ตลอดทางที่เดินมาส่งเธอเนี่ยไม่พูดไม่จาเลย บรรยากาศรอบตัวก็เงียบวังเวงเหมือนหลุดเข้ามาในป่าจริง ๆ แต่เป็นป่าร้างที่ไม่มีสิงสาราสัตว์ มันก็น่าแปลกนะทำไมไม่มีเสียงนกเสียงแมลงเลย ทั้งที่ต้นไม้ใบหญ้าเยอะขนาดนี้
"มันเป็นป่าเขานิ่" เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
"แต่ไม่ค่อยมีเสียงนกเสียงกาเลยนะคะ"
คำพูดของมัทนามันทำให้กันต์ต้องหันมองเธอเล่นเอาหญิงสาวรู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมากับสายตาเย็นชาของเขาที่แสนน่ากลัว แค่เธอพูดเรื่องแค่นี้ทำไมจะต้องทำหน้าตาไม่พอใจด้วย
"ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ?"
"นี่มันเย็นแล้วจะมีเสียงนกเสียงกาได้ยังไง มันกลับเข้ารังหมดแล้ว"
คำพูดของเขาทำเอาเธอมึนงงเพราะปกติช่วงเย็นนกเข้ารังเนี่ยจะส่งเสียงเจื้อยแจ้วจะตายไป เธอไม่เคยเจอนกกลับรังแล้วเงียบสักนิด มันแปลกจัง แต่ก็ไม่กล้าจะพูดอะไรออกไปเพราะท่าทางของกันต์ดูไม่ชอบใจที่เธอชวนคุย
เขาพาเธอเดินมาส่งที่บ้านพักหลังเรือนใหญ่ หญิงสาวจึงหันไปส่งยิ้มหวานให้ "ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์เดินมาส่ง"
"กลางค่ำกลางคืนถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกไปไหนละ"
"ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ" เมื่อมัทนาตบปากรับคำเขาก็หันตัวเดินออกไปในทันทีจนหญิงสาวค่อนข้างมึนงงกับท่าทีของเขา แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมากเลือกจะหันตัวเดินเข้ามาในบ้านหลังเล็ก
ด้านในถูกแบ่งเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนเอาไว้ คงคล้าย ๆ ห้องเช่านั่นแหละมั้ง หญิงสาวเดินเข้ามาภายในห้องนอนก็เห็นว่ากระเป๋าเสื้อผ้าถูกนำมาวางไว้ให้เรียบร้อยจึงหยิบเอามาเปิดเพื่อจัดเก็บเสื้อผ้า ใจก็นึกถึงบ้าน นึกถึงพ่อแม่ขึ้นมาว่าป่านนี้จะทำอะไรกันอยู่ เป็นยังไงบ้าง
ที่เธอต้องมาทำงานไกลถึงต่างจังหวัดแบบนี้ก็เพราะเงินถึงแม้ว่าจะมาทำงานเป็นแม่บ้านแต่ค่าจ้างค่าแรงมันกลับสูงกว่าในเมืองเสียอีกและคนที่แนะนำเธอก็เป็นเพื่อนของแม่ที่สนิทรู้จักกับแม่มาตั้งแต่เด็กก็เลยตัดสินใจมาทำงานที่นี่เพื่อเก็บเงินให้ได้สักก้อน อีกอย่างมีที่พักมีข้าวให้กินฟรีอยู่ฟรี ชนบทแบบนี้ด้วยคงไม่ต้องใช้เงินมากมันเหมาะกับการมาทำงานเก็บเงินที่สุดแล้ว
หลังจากเก็บเสื้อผ้าข้าวของเข้าที่เรียบร้อยแล้ว มัทนาก็หันตัวเดินไปอาบน้ำอาบท่าจนเสร็จ ร่างเล็กที่สวมใส่ผ้าซิ่นสีพื้นเนื้อตัวเปียกชุ่มเดินมายังหน้าต่างเพื่อมองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนของที่นี่ มันจริงอย่างที่คุณเสกว่านั่นแหละ พอตกกลางคืนมันก็เงียบสงัดไม่มีแม้แต่เสียงจิ้งหรีดรำไร ทั้ง ๆ ที่มันยังไม่ดึกแต่กลับมืดมาก ๆ ยิ่งมองเข้าไปในป่าที่อยู่ในบริเวณบ้านยิ่งน่ากลัวเพราะไม่มีไฟสักดวงเดียวแล้วเหมือนที่นี่จะเน้นจุดตะเกียงมากกว่าเปิดไฟฟ้าเสียอีก
ความมืดคืบคลานเข้ามาภายในบ้านป่าที่กลางวันก็น่ากลัวยิ่งตกกลางคืนยิ่งน่ากลัวกว่าเป็นไหน ๆ ชาวบ้านต่างปิดบ้านช่องเงียบเชียบ มีเพียงแสงไฟสลัวจากตะเกียงสาดส่องออกมาแผ่วเบาเท่านั้น ยามลมพัดทำให้กิ่งไม้ใบหญ้าสั่นไหวไปตามแรงจนเกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดหวีดร้องไปมาเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังแผดเสียงในความมืด
เสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาภายในบ้านพักของมัทนา มือใหญ่เอื้อมไปเปิดประตูไม้ออกก็พบว่ามันล็อกอยู่ ดวงตาคู่คมสีดำทมิฬจ้องมองไปยังประตูทันใดนั้นกลอนประตูก็คลายออกอย่างต้องมนต์ ประตูบานใหญ่เปิดออกช้า ๆ จนเสียงดังอ๊อดแอ๊ดทำเอามัทนาที่กำลังหลับไหลลึกด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางขยับตัวเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตื่นแต่อย่างใด
ร่างสูงใหญ่เดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ เธอ ใบหน้าคมโน้มลงไปหาร่างเล็กแล้วใช้จมูกดอมดมไปทั่วผิวกายขาวเนียนเพื่อสูดกลิ่นสาวอันหอมหวานที่แผ่ซ่านออกมาจากเรือนกายอรชร ลิ้นใหญ่ยาวแลบเลียริมฝีปากเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังกระหายในรสชาติเหยื่อจนไม่อาจจะต้านทานความอยากในกายอันร้อนผ่าวได้ ลิ้นสากลากเลียลงบนเนื้ออ่อนจนเปียกชุ่มทำเอาเจ้าของร่างสะดุ้งเฮือก
"อ๊ะ!" มัทนาลืมตาตื่นด้วยความตกใจเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรเย็น ๆ เปียก ๆ ที่สัมผัสลงบนเนื้อของเธอ แต่เบื้องหน้ามันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลยนอกจากแสงไฟสลัว ๆ จากตะเกียงน้ำมันที่กำลังจะหมดเชื้อไฟแต่เมื่อก้มลงมองที่แขนของตนก็ต้องตกใจที่มีอะไรบางอย่างชื้นเหนียวเปื้อนอยู่ เมื่อเอานิ้วแตะดูมันกลับเหมือนน้ำลายไม่มีผิดจนร่างเล็กต้องรีบลุกจากเตียงตรงไปยังห้องน้ำเพื่อล้างออก
หลังจากล้างคราบสกปรกออกหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามาในห้อง แต่กลับรู้สึกแปลกและเสียวสันหลังเหมือนมีใครกำลังจับจ้องเธออยู่ในเงามืด หน้าต่างที่เปิดอยู่ทำให้ลมเย็นจากด้านนอกพัดเข้ามาสัมผัสกายให้เย็นยะเยือกจนต้องรีบซุกตัวกลับเข้าไปในผ้าห่ม
บุ๊ก บุ๊ก บรู้ววววว~
เสียงหมาเห่าหอนลอยปนมาตามลมที่พัดผ่านท่ามกลางความมืดแสนวังเวง จนมัทนาแทบนอนไม่หลับแต่เธอก็ต้องข่มตาลงเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานถึงแม้ค่ำคืนนี้มันจะน่ากลัวเพียงใด แต่มันคงไม่มีอะไร คงเป็นธรรมดาของบ้านป่าบ้านดงแบบนี้แหละมั้ง
.
.
เช้าวันต่อมา
มัทนาเดินมายังเรือนใหญ่ด้วยสีหน้าอ่อนเพลียเพราะเมื่อคืนไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ เธอค่อย ๆ เดินเข้ามาในตัวบ้านอย่างระมัดระวังและตั้งสติยามต้องเห็นรูปปั้นยักษ์สีดำทมิฬตาแดงก่ำในห้อง ก็ไม่เข้าใจทำไมจะต้องเอารูปปั้นน่ากลัวแบบนี้มาไว้ในบ้านด้วย
"กลัวเหรอ?"
"ว้ายยยย!" เธอร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเข้มพูดขึ้นข้างหูจากทางด้านหลังจนต้องรีบหันไปมองก็พบว่าเป็นกันต์ นี่เขามาตอนไหนเนี่ย ไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าเลย ทำไมดูเป็นคนแปลก ๆ
"มาแบบนี้ฉันก็ตกใจสิคะ" มัทนาก้มหน้าลงเพราะอีกฝ่ายเป็นเจ้านายเลยไม่กล้ามองหน้าเพราะตอนนี้เธอเป็นแค่คนใช้
"ขวัญอ่อนจังนะ" เขายกยิ้มบาง
"ฉันขอตัวไปทำงานดีกว่าค่ะ" เธอรีบก้มหัวก่อนจะหันตัวเดินออกมาจากเขาเพราะไม่อยากอยู่กันสองต่อสองให้จิตใจสาวมันว้าวุ่น
แต่ถึงแบบนั้นกันต์ก็ยังคงเดินตามมัทนามาอยู่ดีจนเธอรู้สึกเกร็งเพราะฝีเท้าของเขามันหนักเหลือเกินกระแทกลงบนพื้นไม้ทีบ้านแทบไหว ทำไมถึงได้เท้าหนักขนาดนี้นะ อย่างกับพวกยักษ์มาร ร่างเล็กเร่งฝีเท้ามากขึ้นแต่ก็สะบัดเขาทิ้งไม่ได้เหมือนต่อให้เธอพยายามเดินไวแค่ไหนเขาก็เดินตามทันอยู่ดี
"จะตาม…" แต่พอจะหันกลับไปถามเขามัทนาก็ต้องพบแต่ความว่างเปล่าเมื่อกันต์ที่เดินตามเธอมาอยู่ดี ๆ ก็หายตัวไป ทั้ง ๆ ที่ฝีเท้าของเขาเมื่อกี้ยังดังอยู่ข้างหลังของเธออยู่เลย
"อะไรของเขานะ"
เธอได้แต่บ่นพึมพำออกมาด้วยความสงสัยเคล้ามึนงงที่อยู่ดี ๆ เขาก็หายตัวไปเฉยเลย ดูเป็นคนแปลก นึกจะมาก็มาเงียบ ๆ จะไปยังไปแบบเงียบ ๆ ทั้งที่เท้าของเขาหนักจะตายทำไมตอนไปตอนมาถึงเบาเหมือนลอยได้ขนาดนั้น
แต่จริง ๆ ที่นี่มันก็แปลกตั้งแต่บ้านยันคนนั่นแหละ
Chapter 3'เป็นเมียฉันเถอะ'..มัทนาเดินถือตะกร้าเสื้อผ้าออกมายังด้านหลังบ้าน เธอเดินไปตามทางที่ทิพย์บอกเพื่อไปยังบ่อน้ำที่อยู่ในบริเวณเขตบ้านของพรรณภูมิเพื่อซักผ้า เมื่อเดินมาสักพักก็มาถึงที่ริมบ่อมีท่าน้ำและกะละมังคว่ำไว้อยู่แล้ว หญิงสาวหยิบเอาเก้าอี้ไม้มานั่งแล้วตักน้ำใส่กะละมังเพื่อลงมือซักผ้าจะได้ไปทำงานอื่นต่อโดยไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอมีกันต์กำลังแอบมองอยู่ เขาตามเธอไปทุกที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็คอยเฝ้ามองเงียบ ๆ ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังผิวกายขาวเนียน เนื้ออ่อน ๆ ของมัทนาก็ทำเอาความกระหายในตัวของเขาพลุ่งพล่านจนแววตาสีดำทมิฬแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของตนด้วยความอยากลิ้มลองในรสชาติของสาวพรหมจรรย์"อย่าไปยุ่งกับเธอ" เสียงของเสกดังขึ้นที่ด้านหลังจนกันต์ต้องหันกลับไปมองพ่อ"ทำไม?" เขาถามคนเป็นพ่อกลับด้วยน้ำเสียงหวน ๆ"เพราะฉันเบื่อหน่ายที่จะต้องคอยหาคนมาทำงานใหม่แล้วไง คนเข้ามาตลอดแต่ไม่เคยมีออกไปจนชาวบ้านเขาสงสัยไปทั่วแล้ว""แต่ผมอยากได้เธอ" เขาบอกความต้องการกับพ่อไปตรง ๆ"แกจะอยากได้ทุกคนไม่ได้หรอกนะ""แต่คนนี้มันพิเศษกว่าคนอื่น""แกหมายความว่ายังไง?""ผมอยากได
Chapter 4'ยักษ์แห่งเขากุมภกรรณ'.."ทำไมถึงทำแบบนี้ มันจะหักห้ามใจไม่ไหวเลยหรือไง""คุณเสกใจเย็น ๆ ค่ะ" ทิพย์รีบห้ามเสกที่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อของกันต์"จะให้ใจเย็นได้ยังไงดูมันทำสิ!" เสกง้างหมัดจะต่อยลูกชายแต่ทิพย์ก็รีบดึงแขนเอาไว้"อย่าค่ะคุณเสก ทิพย์ขอ""ก็แค่แม่เลี้ยงไม่ต้องมาปกป้องหรอก""โอ๊ย!" กันต์ผลักตัวทิพย์ออกไปจนเธอถึงกับล้มก้นจ้ำเบ้า"จะมากไปแล้วนะเจ้ากันต์ถึงจะเป็นแม่เลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแกมา" ย่าแรมรีบเข้ามาห้ามหลาน"ยกยอกันเข้าไปก็แค่คนใช้ตกถังข้าวสาร" แต่กันต์ก็ยังคงหันไปดูถูกทิพย์ที่เคยเป็นเพียงสาวรับใช้ในบ้านต่อ"แต่แกอย่าลืมสิว่าแกเองก็กำลังจะจับคนใช้ทำเมียเหมือนกัน" เสกหันไปมองมัทนาที่หมดสติอยู่บนเตียง"แต่ผมคงจะไม่ยกย่องเชิดชูพวกสกุนต่ำขึ้นมาเป็นเมียแต่งหรอก อย่างดีก็แค่ของไว้คอยหยิบจับเล่นก็เท่านั้น" ว่าจบกันต์ก็หันตัวเดินออกจากห้องไป"ไอ้กันต์!""พอเถอะค่ะคุณเสกอย่าให้มันบานปลายไปมากกว่านี้เลย" ทิพย์รีบห้ามเสกที่กำลังฉุนลูกชายจนเลือดขึ้นหน้า"ใช่ ปล่อยเจ้ากันต์มันเถอะ พวกคนหนุ่มมันก็แบบเนี่ยควบคุมตัวเองยังไม่ได้" ย่าแรมพูดก่อนจะหันตัวเดินไปหามัทนา มือเหี่ยวลูบไล้
Chapter 5'นกน้อยในดงอสูร'.."เราต้องทำแบบนี้จริง ๆ เหรอคะ? " ทิพย์ถามเสกที่กำลังผสมว่านมหาเสน่ห์และมวลสารอาถรรพ์เข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นยาเสน่ห์ปลุกกำหนัดในตัวของผู้ที่กินเข้าไป"ถ้าไม่ทำแบบนี้จะให้กันต์มันทำเองเหรอไง คงได้พลั้งฆ่าเธอตายพอดี" เสกตอบขณะบดมวลสารทุกอย่างเข้าด้วยกันจะได้นำไปทำพิธีต่อ"ความจริงมัทนาเองก็เข้าตำราทุกอย่างนะ" ย่าแรมพูดแทรกขึ้น"ตำราอะไรคะ?" ทิพย์หันไปถามด้วยความสงสัย"ผู้หญิงแบบมัทนาเหมาะจะให้กำเนิดสายเลือดเผ่าพันธุ์ของเราไง เธอผิวพรรณดี ร่างกายแข็งแรง บริสุทธิ์ผุดผ่อง อยู่ในจารีตประเพณีไม่ผิดศีลธรรม มันตรงตามตำราทุกอย่าง ในเมื่อเธอจะต้องร่วมเตียงกับเจ้ากันต์แล้วก็ใช้โอกาสนี้ให้เธอตั้งท้องลูกของเจ้ากันต์ด้วยเลย"คำพูดของย่าแรมมันทำให้สองผัวเมียหันมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างขอความคิดเห็นจากกันโดยไม่พูดอะไร ใช้เพียงสายตาเท่านั้น แต่เสกเองก็เห็นด้วยกับแม่แหละเพราะเขามีลูกคนเดียวการมีหลานไวมันย่อมดีกว่าอย่างน้อยเผ่าพันธุ์ของเขาที่เหลือน้อยนิดก็ยังมีทายาท"เอาตามที่แม่ว่าก็ได้ มัทนาเองก็ไม่แย่ถึงจะเป็นสาวใช้แต่ก็เป็นคนดีมีศีลธรรม คงเป็นแม่ที่ดีได้ แล้วเธอว่าไง?"
Chapter 6'ป่าเถื่อน'.."อ๊า~"เสียงครางหวานดังออกมายามมือใหญ่ลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างเล็ก มัทนาถูกผลักลงไปยังเตียงโดยมีกันต์ยืนจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าทำเอาหญิงสาวหน้าแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกอายที่ถูกจับจ้องกันขนาดนี้กางเกงสะดอถูกถอดออกจากเอวของเขาเหลือเพียงกางเกงชั้นในที่คับตุงขึ้นเป็นรูปลำยาว ร่างสูงยกปลายเท้าเล็กขึ้นมาก่อนจะประทับจูบลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนมัทนาตกใจที่เขาทำแบบนี้"หอมจังเลยร่างกายของเธอ"จมูกโด่งคมไล่ดมและพรมจูบตั้งแต่ปลายเท้าบางขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาถึงกลางกายสาวที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส ลิ้นสากตวัดเลียลงบนกลีบดอกไม้อวบอูมอีกครั้ง ลากไล้สัมผัสของเขาไปทั่วทุกช่อทุกกลีบจนร่างเล็กบิดเร้าด้วยความเสียวซ่าน สองมือกำผ้าปูแน่น ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันเพื่อไม่ให้หลุดเสียงครางกระเส่าออกไปลิ้นสากดุนเข้าไปในโพรงสวาทเพื่อกวาดต้อนน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาจนหมดจด ทำเอามัทนาหลุดเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างเสียวซ่าน เสียงหวานมันปลุกเร้าอารมณ์ของกันต์จนพลุ่งพล่าน เขาลากมือไปตามเนื้ออ่อนบีบเคล้นมันจนขึ้นรอยแดงด้วยความมันเขี้ยว เหงื่อเม็ดเล็กไหลชโลมร่างกายของทั้งสองคนภายใต้ความร้อน
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อย
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้า
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'..สองสัปดาห์ต่อมาภายในบ้านสุพรรณภูมิมีผู้คนเข้าออกมากมาย ใต้ถุนบ้านมีเหล่าคนเฒ่าคนแก่ช่วยกันทำกับข้าวอยู่ บริเวณบ้านก็ถูกตกแต่งไปด้วยผ้าสีต่าง ๆ มากมาย พวงมาลัยมะลิถูกตกแต่งตามประตูหน้าต่างจนกลิ่มหอมโชยเป็นสัญญาณของงานมงคลที่กำลังถูกจัดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ ทิพย์ในชุดผ้าไหมสวยงามเดินเข้ามาภายในห้องหนึ่งที่ด้านในมีมัทนากำลังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อผ้าไหมสีครีมปักลวดลายสีทองเด่นสง่ามีสไบผืนเล็กที่ถูกถักทอเป็นลวดลายนกยูงเข้ากับผ้าซิ่นผ้าไหมลายเดียวกันพาดเฉียงไหล่เอาไว้อย่างสวยงาม ผมถูกม้วนเป็นมวยขึ้นไปประดับด้วยดอกไม้และปิ่นปักผมลายนกยูงสีทอง ใบหน้าสวยหวานแต่งเติมไปด้วยเครื่องประทินโฉมจนสวยเด่นกว่าใครทุกคนในงาน“งดงามแท้ ๆ” ทิพย์เดินเข้ามาหามัทนาสายตาก็จับจ้องหญิงสาวผ่านกระจกเงาตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม“หนูไม่แน่ใจเลยค่ะ” เธอสบตากับทิพย์อย่างลังเลใจ“ทำไมล่ะ มีอะไรให้ต้องทุกข์ใจอีก?”“คุณก็รู้ว่าคุณกันต์ไม่อยากแต่งงานกับหนู บังคับเขาแบบนี้มันจะไม่ยิ่งแย่เหรอคะ?”“ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง บางทีคนนิสัยแบบกันต์ก็ควรถูกขัดใจบ้าง”คำพูดของทิพย์มันยิ่งทำให้มั
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'.."ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ"คำพูดของเขามันทำให้มัทนาหันมองด้วยสีหน้าไม่พอใจที่แม้แต่ในตอนนี้ที่กำลังทำพิธีกันเขาก็ยังพยายามจะพูดจาทำร้ายจิตใจของเธออีก "ถ้าปากของคุณมันพูดเรื่องดี ๆ ไม่เป็นก็เงียบไปก็ได้นะคะ มันคงไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนบ้าใบ้ขนาดนั้นหรอก"เมื่อได้ฟังแบบนั้นกันต์ก็รู้สึกไม่พอใจจนชักสีหน้าแต่เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็ทำให้เขาต้องข่มงับอารมณ์เอาไว้ ใจไม่ได้อยากจะแต่งงานกับมัทนาสักนิดแต่พ่อบังคับถ้าไม่ทำตามก็เตรียมเก็บข้าวของออกไปอยู่นอกบ้านและคนแบบพ่อไม่เคยพูดเล่นหรอก พร้อมจะไล่ตะเพิดเขาออกนอกบ้านเสมอพิธีทุกอย่างดำเนินมาจนเสร็จสิ้น แขกเหรื่อทยอยกันกลับบ้านไปจนแทบหมดเหลือแค่ไม่กี่คนที่อยู่ช่วยล้างถ้วยจานและเก็บของภายในงาน มัทนาเดินมาหาพ่อแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นแล้วก้มกราบทั้งสองคน"แม่ดีใจนะที่เห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝามีคนดูแลเสียที" มิ่งขวัญเอื้อมมือมาลูบหัวของลูกสาว"ออกเรือนไปแล้วก็ทำหน้าที่เมียให้ดีนะอย่าให้มันขาดตกบกพร่องตรงไหน" ชาตรีพ่อของมัทนาพูดกับลูกสาว"ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเป็นเมียที่ดีของ
Chapter 12'วันแรกในฐานะสะใภ้'..@หมู่บ้านตีนเขากุมภกรรณรถออฟโรดถูกขับเข้ามาภายในหมู่บ้านจนฝุ่นจากดินแดงฟุ้งกระจายไปทั่วทิศทาง ก่อนจะมีกลุ่มคนก้าวลงมาจากรถด้วยท่าทางขะมักเขม้นและการแต่งตัวแบบคนเมือง ที่ท้ายรถยังมีสัมภาระมากมายรวมถึงปืนผาหน้าไม้อีกด้วย"พวกเอ็งเป็นใครเนี่ย มีธุระอะไร?" ไกรศักดิ์เดินเข้ามาทักทายผู้มาเยือน"สวัสดีครับ ลุงคงเป็นหัวหน้าหมู่บ้าน ผมและคณะเป็นพรานป่า ได้ข่าวว่าป่าที่นี่สิงสาราสัตว์มันเยอะเลยจะมาล่าสักหน่อย" เมฆ หัวหน้าคณะยกมือไหว้ไกรศักดิ์พร้อมบอกกล่าวจุดประสงค์แบบไม่มีปิดบัง"เออ ๆ แต่พวกเอ็งก็น่าจะรู้นิ่ว่าป่าที่นี่มันแรง""ผมทราบแล้วครับ แต่ไม่ต้องห่วงพวกผมก็มีของดีเหมือนกัน""งั้นทางฉันก็ไม่ขัดหรอก มันไม่ใช่ป่าของฉันห้ามไม่ได้""งั้นพวกผมขอกางเต็นท์นอนค้างในหมู่บ้านสักคืนนะครับ พอจะมีที่ให้ไหม?""งั้นก็ทางนู้นแล้วกัน มันมีบ่อน้ำอยู่ พวกเอ็งจะได้อาบน้ำอาบท่ากันได้" ไกรศักดิ์ชี้นิ้วไปที่ข้างหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่โล่ง ๆ มีบ่อน้ำใหญ่"งั้นขอบคุณนะครับ เร็วเว้ยพวกเราขนของไปที่ริมบ่อน้ำจะได้กางเต็นท์นอนกันก่อนจะมืดค่ำ" เมฆหันไปสั่งลูกน้องก่อนจะเดินออกไปเพื่อ
Chapter 11'กระซ่านสวาท'..รถขับพาสองสามีภรรยากลับมาบ้าน ทันทีที่ถึงบ้านมัทนาก็รีบก้าวลงจากรถเดินหนีกันต์ในทันทีเพราะไม่อยากปะทะคารมกับเขาในตอนนี้เพิ่งจะใส่บาตรมาแต่ชายหนุ่มเหมือนจะไม่สนใจเขารีบก้าวเท้าไปหาหญิงสาวแล้วกระชากแขนของเธอให้หยุด"อะไรคะ?" เธอหันมามองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ"ทำไมไปไหนไม่คิดจะบอกฉันบ้าง?""ก็คุณหลับอยู่ถ้าฉันปลุกคุณเดี๋ยวคุณก็โมโหใส่ฉันอีก""แต่หายไปแบบนี้ฉันยิ่งหงุดหงิด""ทำไมคะ? หรือคิดว่าฉันจะหนีคุณไป?""ใช่ ฉันกลัวเธอจะหนีฉันไป แต่ไม่ใช่เพราะรักเธอหรอกนะ แต่เพราะยังใช้งานเธอไม่คุ้มกับค่าสินสอดที่เสียไปต่างหาก""งั้นก็เอาสิคะ ตรงนี้เลยดีไหม?" มัทนาวางตะกร้าลงก่อนจะหันกลับมามองหน้ากันต์แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองจนเห็นถึงหน้าอกนั่นทำให้ชายหนุ่มตกใจเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะกล้าทำอะไรแบบนี้"นี่ทำบ้าอะไร หน้าไม่มียางอายบ้างเหรอไง?" เขารีบดึงเสื้อของเธอเอาไว้เพราะกลัวว่าใครจะเห็น"ฉันมันหมดยางอายตั้งแต่เสียตัวให้คุณแล้ว" เธอปัดมือของเขาออกและทำท่าจะถอดเสื้อออกจริง ๆ"หยุดนะมัทนา!" กันต์แผดเสียงเข้มใส่เธอก่อนจะลากตัวหญิงสาวกลับเข้าห้องเขาเหวี่ยงเธอไปที่พื้
Chapter 10'สาวเมืองกรุงกับสาวบ้านนอก'..มัทนาเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่จับจ้องมาที่เธอ ก็เข้าใจแหละว่าเธอเป็นคนต่างบ้าน เคยเป็นสาวใช้ที่ดันตกถังข้าวสารมันก็ไม่แคล้วชาวบ้านนินทาหรอก หญิงสาวพยายามไม่สนใจเลือกจะเดินตรงไปยังร้านค้าเพื่อเตรียมใส่บาตรพระตามคำแนะนำของคนขับรถที่อุตส่าห์ขับพาเธอมาที่นี่ "ป้าคะ ขอซื้อน้ำขวดกับนมถั่วเหลืองหนึ่งกล่องค่ะ" มัทนาพูดกับเจ้าของร้านขายของชำ "นี่จ้ะ 15 บาท" ป้ายื่นของให้มัทนา"ขอบคุณนะคะ" มัทนายื่นเงินให้ป้าและได้เงินถอนกลับมา "หนูนี่ลูกสะใภ้คุณเสกเขาใช่ไหม?""ใช่ค่ะ""สวยแบบที่เขาพูดกันเลย" "คนสวยวาสนาดี ชาติที่แล้วคงทำบุญมาเยอะ" ป้าคนหนึ่งเดินเข้ามาหามัทนาพร้อมจับไปตามแขนของเธอด้วยจนหญิงสาวตกใจเล็กน้อยแต่ก็พยายามฝืนยิ้มออกไป "ขอบคุณนะคะ" เธอกล่าวกับป้าตรงหน้าเป็นจังหวะที่พระมาพอดีเธอเลยรีบเดินออกไปใส่บาตร"นิมนต์เจ้าค่ะ" มัทนายกมือขึ้นไหว้พระภิกษุก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งย่อที่พื้น เมื่อพระหยุดลงจึงหยิบข้าวปลาอาหารที่ใส่ถุงแกงร้อนมาอย่างเรียบร้อยใส่ลงไปในบาตรพระ ตามด้วยนมและน้ำ "อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน จัตตาโร ธ
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..มันเป็นความเจ็บปวดที่หอมหวานเวลาผ่านเลยไปนานแค่ไหนไม่รู้แต่บทรักยังคงดำเนินต่อไป ร่างเล็กถูกพามายังหน้าต่าง ใบหน้าของเธอหันออกด้านนอกที่เบื้องหน้าเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่เห็นเป็นเงาราง ๆ เหมือนสัตว์ร้าย แรงกระแทกยังคงส่งผ่านมาจากด้านหลังจนร่างกายโยกเย้า มือเล็กต้องเกาะขอบหน้าต่างแน่นเพราะกลัวว่าจะตกกันต์ดึงตัวมัทนาขึ้นมาก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งบีบลงบนคอของเธอ เพิ่มแรงมากขึ้นจนหญิงสาวเริ่มดิ้นพล่านเมื่อรู้สึกหายใจหายคอติดขัด ในขณะที่เอวของเขาก็ยังคงอัดกระแทกแก่นกายร้อนระอุใส่ช่องแคบสรวงสวรรค์ของเธอไม่เบาแรง ร่างกายรู้สึกเสียวซ่านและทรมานไปพร้อม ๆ กันเมื่อมือใหญ่เพิ่มแรงบีบที่คอมากขึ้น"อือออ!" เธอส่งเสียงร้องอื้ออึงออกมาเพราะปากยังคงมีผ้าผูกปิดเอาไว้จนพูดไม่เป็นภาษาไหนจะหลอดลมที่ถูกบีบรัดอีก ใบหน้าหวานเริ่มซีดลงเมื่อเลือดไปเลี้ยงใบหน้าไม่เพียงพอ ดวงตาพร่ามัวเหมือนคนที่กำลังจะหมดสติร่างกายอ่อนเพลียแรงจนแทบยืนไม่ไหวแต่ก่อนที่เธอจะขาดอากาศหายใจไปจริง ๆ เขาก็ปล่อยมือออกจากคอของเธอ ให้ร่างกายได้เป็นอิสระอีกครั้ง มัทนารีบสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ดวงตาเริ่มกลับมาชัดอ
Chapter 9'สวาทเขย่าหอ'..เสียงลมหายใจร้อนเป่ารดเรือนร่างเปลือยเปล่าของมัทนา ใบหน้าคมของกันต์ไล่พรมจูบดอมดมไปทั่วร่างกายของเธอที่ถูกมัดแขนไว้กับขื่อของบ้านจนยืนตรงมือก็ยืดขึ้นเหนือหัวจนสุดแขน มันค่อนข้างวิปลาสแต่ถ้าเขาชอบและต้องการเธอในฐานะเมียก็พร้อมจะสนองเทียนที่ถูกจุดให้ความสว่างไสวภายในห้องถูกยกขึ้นมา น้ำตาเทียนที่กำลังร้อนระอุเต็มเชิงเทียนถูกสาดใส่ร่างกายของมัทนาฝังความแสบร้อนลงบนเนื้ออ่อนของเธอจนหญิงสาวหลุดเสียงกรี๊ดออกมานั่นทำให้กันต์ต้องหยิบเอาผ้ามาปิดปากเอาไว้เธอจะได้ไม่ส่งเสียงออกมาให้ใครตกใจมัทนาที่ในตอนนี้ถูกจับมัดห้อยอยู่กับขื่อก็ไร้ซึ่งทางสู้ ต้องยอมให้เขาเอาผ้าปิดปากแต่โดยดี สมองก็จินตนาการว่าหลังจากนี้เขาจะสาดกามวิปลาสเข้าใส่เธอในรูปแบบไหนอีก แต่เขากลับหยดน้ำตาเทียนลงบนผิวของเธอแทนจนหญิงสาวบิดเร้าร่างกายด้วยความแสบร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกายร่างกายของมัทนาเต็มด้วยคราบแห้งกรังของน้ำตาเทียน ริมฝีปากหนาไล่พรมจูบไปทั่วเนื้ออ่อนฝากร่องรอยรักสีแดงจ้ำเอาไว้สลับกับขบกัดจนหญิงสาวชักสีหน้าเหยเก ดวงตาเจิ่งนองไปด้วยคราบน้ำตาจากความเจ็บปวด มันช่างเป็นคืนเข้าหอที่น่าจดจำเสี
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'.."ฉันก็แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอ"คำพูดของเขามันทำให้มัทนาหันมองด้วยสีหน้าไม่พอใจที่แม้แต่ในตอนนี้ที่กำลังทำพิธีกันเขาก็ยังพยายามจะพูดจาทำร้ายจิตใจของเธออีก "ถ้าปากของคุณมันพูดเรื่องดี ๆ ไม่เป็นก็เงียบไปก็ได้นะคะ มันคงไม่ได้ดูเหมือนเป็นคนบ้าใบ้ขนาดนั้นหรอก"เมื่อได้ฟังแบบนั้นกันต์ก็รู้สึกไม่พอใจจนชักสีหน้าแต่เมื่อหันไปมองผู้เป็นพ่อก็ทำให้เขาต้องข่มงับอารมณ์เอาไว้ ใจไม่ได้อยากจะแต่งงานกับมัทนาสักนิดแต่พ่อบังคับถ้าไม่ทำตามก็เตรียมเก็บข้าวของออกไปอยู่นอกบ้านและคนแบบพ่อไม่เคยพูดเล่นหรอก พร้อมจะไล่ตะเพิดเขาออกนอกบ้านเสมอพิธีทุกอย่างดำเนินมาจนเสร็จสิ้น แขกเหรื่อทยอยกันกลับบ้านไปจนแทบหมดเหลือแค่ไม่กี่คนที่อยู่ช่วยล้างถ้วยจานและเก็บของภายในงาน มัทนาเดินมาหาพ่อแม่ของเธอด้วยรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นแล้วก้มกราบทั้งสองคน"แม่ดีใจนะที่เห็นเราเป็นฝั่งเป็นฝามีคนดูแลเสียที" มิ่งขวัญเอื้อมมือมาลูบหัวของลูกสาว"ออกเรือนไปแล้วก็ทำหน้าที่เมียให้ดีนะอย่าให้มันขาดตกบกพร่องตรงไหน" ชาตรีพ่อของมัทนาพูดกับลูกสาว"ค่ะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะเป็นเมียที่ดีของ
Chapter 8'ร่วมหอลงโลง'..สองสัปดาห์ต่อมาภายในบ้านสุพรรณภูมิมีผู้คนเข้าออกมากมาย ใต้ถุนบ้านมีเหล่าคนเฒ่าคนแก่ช่วยกันทำกับข้าวอยู่ บริเวณบ้านก็ถูกตกแต่งไปด้วยผ้าสีต่าง ๆ มากมาย พวงมาลัยมะลิถูกตกแต่งตามประตูหน้าต่างจนกลิ่มหอมโชยเป็นสัญญาณของงานมงคลที่กำลังถูกจัดขึ้นภายในบ้านหลังนี้ ทิพย์ในชุดผ้าไหมสวยงามเดินเข้ามาภายในห้องหนึ่งที่ด้านในมีมัทนากำลังแต่งเนื้อแต่งตัวอยู่หญิงสาวอยู่ในชุดเสื้อผ้าไหมสีครีมปักลวดลายสีทองเด่นสง่ามีสไบผืนเล็กที่ถูกถักทอเป็นลวดลายนกยูงเข้ากับผ้าซิ่นผ้าไหมลายเดียวกันพาดเฉียงไหล่เอาไว้อย่างสวยงาม ผมถูกม้วนเป็นมวยขึ้นไปประดับด้วยดอกไม้และปิ่นปักผมลายนกยูงสีทอง ใบหน้าสวยหวานแต่งเติมไปด้วยเครื่องประทินโฉมจนสวยเด่นกว่าใครทุกคนในงาน“งดงามแท้ ๆ” ทิพย์เดินเข้ามาหามัทนาสายตาก็จับจ้องหญิงสาวผ่านกระจกเงาตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม“หนูไม่แน่ใจเลยค่ะ” เธอสบตากับทิพย์อย่างลังเลใจ“ทำไมล่ะ มีอะไรให้ต้องทุกข์ใจอีก?”“คุณก็รู้ว่าคุณกันต์ไม่อยากแต่งงานกับหนู บังคับเขาแบบนี้มันจะไม่ยิ่งแย่เหรอคะ?”“ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง บางทีคนนิสัยแบบกันต์ก็ควรถูกขัดใจบ้าง”คำพูดของทิพย์มันยิ่งทำให้มั
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'.."ใช่ แต่งงาน มันคือสิ่งที่ถูกที่ควร"เมื่อได้ฟังแบบนั้นมัทนาก็เกิดความลังเลใจขึ้นมา มันถูกต้องแล้วที่คนได้เสียเป็นผัวเป็นเมีย ผิดผีกันแล้วมันจะต้องแต่งงานกัน ขอขมาญาติผู้ใหญ่ ทำตามประเพณีให้มันถูกต้องเพื่อเกียรติของตัวเองด้วย แต่ที่เธอลังเลเพราะขนาดยังไม่แต่งงานเขายังเกือบจะฆ่าเธอถ้าไม่มีคนมาช่วยคงตายไปแล้วและถ้าแต่งงานไปเธอจะไม่ตายคาเรือนหอเลยเหรอไง"ไม่ต้องคิดมากนะ ทำใจให้สบาย ฉันกับคุณเสกจะจัดการเรื่องนี้ให้ ตอนนี้ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ อะไรที่มันเสียไปแล้วเราเรียกคืนไม่ได้เพราะฉะนั้นให้มันเป็นอดีตดีกว่า อย่าเก็บมาคิดให้เราทุกข์"มัทนาไม่ได้ตอบอะไรเธอเพียงพยักหน้ารับเท่านั้นก่อนจะลุกจากเตียงแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำได้เธอก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้งจนเนื้อตัวสั่นเทา ร่างเล็กทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมน้ำตาที่เจิ่งนองไปทั่วใบหน้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำรอยแดงจ้ำมันตอกย้ำสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ในตอนนี้สูญสิ้นแล้วซึ่งความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ตั้งใจรักษาเอาไว้ให้ผู้ชายที่จะร่วมหอลงโรงด้วย มันถูกกันต์ย่ำยีและกระชากเอาไปหมดแล้วเธอยังคงสับสน ยังคงไม่เข้า
Chapter 7'ไม่สมฐานะ'..เสียงนกน้อยเจื้อยแจ้วไปทั่วผืนป่า ลมเย็นพัดผ่านเข้ามาในห้องนอนจนหน้าต่างปลิวไสวมันทำให้มัทนาที่กำลังหลับค่อย ๆ เปิดเปลือกตาสวยขึ้น ดวงตาจับจ้องไปยังเบื้องหน้าด้วยความมึนเบลอ สายตายังคงพร่ามัว เธอขยับตัวเล็กน้อยกลับรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรพาดทับบนหน้าอก"ว้ายยยย!" แต่เมื่อหันไปมองหญิงสาวก็ต้องตกใจจนร้องกรี๊ดออกมาเมื่อพบว่ากันต์ในสภาพเปลือยเปล่ากำลังนอนกอดเธออยู่และไม่ใช่เขาที่เปลือย เธอเองก็เหมือนกันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย"ตื่นแล้วเหรอจ้ะเมีย" กันต์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นหน้าตาตื่นตกใจของมัทนา"กรี๊ดดดด!" แต่แทนที่มัทนาจะตอบเขากลับส่งเสียงกรี๊ดอัดหน้าชายหนุ่มแทน หญิงสาวรีบก้าวขาลงจากเตียงด้วยความตกใจมือก็หยิบเอาผ้าห่มมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้สมองพยายามคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพความทรงจำมากมายก็ไหลพรั่งพรูเข้ามา ภาพที่เธอกำลังเล่นบทรักบทสวาทอันเร่าร้อนกับเขา ทั้งบนเตียง บนพื้น เกาะผนัง เรียกว่าทำหมดทุกพื้นที่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้ให้ตายสิทำไมเธอร่านสวาทขนาดนั้น!แต่มันน่าตกใจกว่าตรงที่เธอไม่ขัดขืนเขาเลย สมยอมเขาทุกอย่าง มันน่าแปลกจังเพราะเธอไม่อย