แชร์

Chapter 10

ผู้เขียน: อัญญาณี
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-12-12 01:47:31

Chapter 10

พูดแค่นี้จันทร์สุดาเข้าใจแล้วว่า เขาต้องการส่งเธอถึงหน้าบ้าน เธอไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งเขากำลังเลี้ยวรถเข้าซอยย่อย

          “คุณเติร์ดจอดตรงต้นก้ามปูนะคะ”

          “นี่มันกี่ทุ่มแล้วแม่คุณ แถมไฟทางก็ห่างกันมองไม่ค่อยเห็น  ฉันจะเห็นต้นก้ามปูได้ยังไง” ดูเหมือนว่า จันทร์สุดาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูเตมินทร์เลย เวลานี้เธอเศร้าหนักมาก “แล้วไอ้ต้นก้ามปูที่ว่ามันอยู่ทางซ้ายหรือขวามือ”

          “ซ้ายมือค่ะ จอดตรงตีนสะพานก็ได้ค่ะ”

จันทร์สุดาบอกแบบนี้เขาน่าเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เตมินทร์ขับรถไปอีกยี่สิบเมตร รถยนต์หรูก็จอดนิ่ง

          “บ้านเธอหลังไหนล่ะ” เตมินทร์ถาม

          “ต้องเดินเข้าไปในซอยนี้ค่ะ รถเข้าไปไม่ได้ เข้าได้แค่จักรยานกับมอไซร์ค่ะ” เธอบอกขณะปลดเข็มขัดนิรภัย “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะที่มาส่งสุดา”

          “เดินเข้าไปลึกไหม”

          “ประมาณสามร้อยเมตรค่ะ”

          “เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”

          “ไม่เป็นไรค่ะ สุดาเดินเข้าบ้านเองได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณเติร์ดมากแล้วค่ะ” จันทร์สุดารีบพูด

          “เธอนี่ยังไงนะ ฉันบอกว่าจะเดินไปส่งก็ตามนั้นสิ พูดมากอยู่ได้” เธอโดนดุไปหนึ่งกรุบ “เอ้า...รีบลงจากรถสิ ฉันจะได้หมดหน้าที่สักที”

          เตมินทร์ทำเสียงหงุดหงิดใส่ จันทร์สุดารีบลงจากรถทันที ไม่อยากให้เขาไม่พอใจมากไปกว่านี้ เส้นทางไปบ้านจันทร์สุดา ตรงกลางเป็นคลองขนาดความกว้างห้าถึงหกเมตร เดินไปราวเจ็ดสิบเมตรถึงจะมีบ้านคน ที่ปลูกต่อๆ กันยาวเหยียด มีแสงไฟนำทางเป็นระยะ แต่สรุปได้ว่า ค่อนข้างมืด

          “เธอเดินมืดๆ แบบนี้ทุกวันเหรอ”

          “ถ้าวันไหนไม่มีงานพิเศษ ทางนี้ก็จะมีคนเดินไปเดินมาตลอดค่ะ ตอนนี้มืดแล้วคนเลยไม่มี” เตมินทร์กระตุกยิ้มกับคำว่า งานพิเศษ ของจันทร์สุดา เพราะรู้ดีว่าคืออะไร

          “สุดาแขกเยอะค่ะ หลายคนต่อคืนก็มีนะคะ เยอะกว่าพี่สาวตัวเองซะอีก” เป็นคำบอกเล่าจากฤดีที่ใส่ไคล้จันทร์สุดา “ที่ได้มาร้องเพลงที่นี่ คงเป็นเพราะคุณทิม หุ้นส่วนของคลับที่สุดาไปอ่อยน่ะค่ะ เพราะรู้ว่า นักร้องที่นี่เงินดี ทิปหนักด้วยเลยอยากเข้ามาทำงาน”

          ความที่ไม่ชอบหน้าจันทร์สุดาเป็นทุนเดิม และรู้เรื่องจันทร์สุดามาจากรัตนาพร มารดาวัชรีพรว่า ไม่อยากให้คบหากับลูกสาว เพราะจันทร์สุดาทำงานพิเศษในคลับ ซึ่งนางมองว่า งานพิเศษที่ว่านี้คืองานอย่างว่า เตมินทร์จึงเชื่อคำพูดฤดี

          “เธอรู้ใช่ไหมว่าแทคสน...” เตมินทร์หยุดคำพูดที่ตั้งใจ ตอนแรกก็คิดว่า หัวใจใครหัวใจมัน ห้ามกันไม่ได้ ทว่าเขารักเพื่อน อยากให้ศุภกฤษณ์ได้คนรักที่เพียบพร้อม ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผ่านมือชายมาไม่รู้เท่าไหร่ เตมินทร์คิดตัดไฟแต่ต้นลม พูดให้จันทร์สุดาเข้าใจว่า ไม่คู่ควรกับศุภกฤษณ์ ทว่าเสียงเขากลืนหาย เมื่อเห็นชายสามคนยืนพิงรั้งกั้นริมคลอง ดูท่าทางสามคนนั้นไม่น่าไว้ใจ เพราะทั้งสามเดินมาหาจันทร์สุดา เตมินทร์จึงนำตัวขวางร่างเล็ก

          “ลุงหมี” จันทร์สุดาขยับตัวมายืนข้างเตมินทร์ เรียกชื่อหนึ่งในสามคน “ลุงหมีมาทำไมคะ”

          “ก็มาหาไอ้เก่ง แต่ไม่เจอ ไม่มีคนอยู่บ้านด้วย เลยยืนรอมัน” ลุงหมีเป็นนายทุนใหญ่แถวนี้ ใครเดือดร้อนเรื่องเงินมักขอความช่วยเหลือกับลุงหมี ทว่าก็ต้องเสียค่าดอกเบี้ยมหาโหด

          “หนี้ที่เก่งติดลุง สุดาใช้คืนหมดแล้วนี่คะ หรือว่าเก่งไปยืมเงินลุงอีก”

          “มันไม่ได้ยืมเงินฉัน แต่มันโกงฉันต่างหากล่ะ มันสลับพระเครื่องที่โย่งเอามาปล่อยให้ฉัน มันเอาของแท้ไป เอาของเก๊มาให้ฉันแทน องค์นั้นราคาเกือบสามแสน ฉันมาทวงพระจากมัน ถ้าไม่มีมันต้องคืนเงินที่ฉันให้โย่งไปทั้งหมด วันนี้ฉันต้องได้ด้วย ไม่งั้นมันเละแน่”

          ลุงหมีแค้นใจมากที่เสียรู้ฉัตรชัย ทั้งที่เขานั่งจ้องพระเครื่ององค์นั้นแทบไม่คาดสายตา ยังพลาดท่าจนได้ งานนี้ไม่เกี่ยวกับโย่งด้วย ยังแปลกใจว่า ฉัตรชัยสลับพระช่วงใด มารู้ว่าพระเป็นของเก๋เมื่อพักใหญ่ที่ผ่านมา เมื่ออวดพระเครื่องชุดใหม่ที่เพิ่งเช่ามากับเพื่อน พอรู้ก็รีบมาที่นี่เพื่อจัดการฉัตรชัย

          “สามแสน” จันทร์สุดาทวนจำนวนเงินเสียงสูงด้วยความตกใจ หนี้เก่าใช้ไปไม่ถึงเดือน หนี้ก้อนใหม่มาอีกแล้ว และเป็นหนี้ที่มากกว่าทุกครั้งด้วย

          “ใช่สามแสน เอ็งต้องรับผิดชอบเหมือนเคย เอาเงินมาเลย” ลุงหมีแบมือ กระดิกนิ้ว คนทวงหนี้รู้ดีว่า หนี้สินที่ฉัตรชัยก่อทวงกับตัวต้นเหตุไม่ได้ เพราะคนตามเช็ดก้นฉัตรชัยคือ จันทร์สุดา “ถ้าเอ็งไม่มีเงินให้ เอ็งต้องไปกับฉัน”

          ประโยคท้ายลุงหมีน่าตกใจยิ่งกว่า จันทร์สุดารู้ว่า ลุงหมีนำตัวเธอไปเพื่อสิ่งใด

          “เงินเยอะขนาดนี้ หนูไม่มีให้ทันทีหรอก แต่จะผ่อนจ่ายให้เหมือนเดิม” จันทร์สุดาประนอมหนี้

          “ไม่ได้ ไอ้เก่งมันโกงเงินฉัน มันไม่ได้ยืม เพราะฉะนั้นต้องจ่ายคืนมาทันที ไม่งั้นฉันเอามันตาย เอ็งอยากเห็นมันตายหรือไง” นี่คือจุดอ่อนของจันทร์สุดา เธอต้องรับผิดชอบหนี้สินที่ไม่ได้ก่อครั้งแล้วครั้งเล่า ชนิดที่ว่าหนี้เก่าหมด หนี้ใหม่มา จึงคาราคาซังอยู่หลายเจ้า ไม่หมดสิ้นเสียที

“อย่างที่หนูบอกลุงไป เงินตั้งเยอะ หนูไม่มีให้หรอก คงผ่อนให้เหมือนเดิม” “ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็มานี่ ไปกับฉัน”

          ลุงหมีคิดว่าตัวเองแน่ที่สุดในย่านนี้ และไม่มีใครกล้าหือ เขาย่างสามขุมมาหาจันทร์สุดา มือใหญ่หมายคว้าข้อมือเล็ก ทว่าถูกมือเตมินทร์ปัดอย่างแรง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักร้าว   Chapter 15

    Chapter 15“พรุ่งนี้วันเกิดเติร์ด แกเตรียมของขวัญแล้วหรือยัง” ธัญญาเรศเปลี่ยนเรื่องใหม่ “หมวยไปซื้อแล้วค่ะ ไปซื้อเมื่อวานไงคะ ไปกับสุดา” ได้ยินชื่อเล่นนี้ ความไม่พอใจของธัญญาเรศพุ่งอีกครั้ง “เรื่องยัยสุดาก็อีกคน เมื่อไหร่แกจะเลิกคบกับมันนะ มันทั้งจนทั้งมีอาชีพอย่างว่า แกจะคบมันให้เสียเกียรติทำไม มีแต่เกาะแกกิน” “สุดาไม่เคยเกาะหมวยกิน เวลาไปกินอะไรก็หารกันตลอด ไม่เคยยืมเงินหมวยเลยสักครั้งทั้งที่ครอบครัวมีปัญหาเรื่องเงิน แล้วสุดาก็เป็นเพื่อนคนเดียวที่หมวยอยู่ด้วยแล้วสบายใจที่สุด” วัชรีพรรู้ดีว่า จันทร์สุดาเป็นอย่างไร “แล้วสุดาก็ไม่ได้เป็นผู้หญิงอย่างว่าด้วย แค่ทำงานในสถานที่ที่คนเข้าใจแบบนั้นแค่นั้นเองค่ะ” วัชรีพรพูดให้มารดากับยายหลายครั้ง แต่ไม่มีสักครั้งที่ทั้งสองเข้าใจ “แกเห็นมันดีกว่าฉันใช่ไหม ถึงไม่เลิกคบกับมัน” ธัญญาเรศเสียงเขียวใส่ “หมวยขอล่ะคะ หมวยถูกคุณแม่กับคุณยายบังคับให้ทำนู่นทำนี่มาตลอด ขอให้หมวยได้คบกับสุดาเป็นเพื่อน ตามใจหมวยเถอะค่ะ แค่เรื่องเดียวค่ะ”วัชรีพรเหนื่อยใจกับเรื่องนี้ไม่น้อย เธอต้องการให้มารดากับยาย ม

  • รักร้าว   Chapter 14

    Chapter 14 “ได้ครับ เอาตามที่สุดาว่าก็ได้” ศุภกฤษณ์ตอบรับ “แหม...พรุ่งนี้เที่ยงฉันชักอยากมาร่วมแจมด้วยจัง” อีกคนที่นั่งฟังพูดแทรกขึ้น “แต่น่าเสียดาย ฉันมีนัดกับคุณอมรแล้ว” “ก็ไม่ใช่เรื่องยากนี่หว่า เราก็นัดกันเย็นนี้ดีไหม ให้สุดาทำกับข้าวให้เรากินไง ชวนหมวยกับไอ้สองตัวมาด้วยก็ได้ เจอกันที่บ้านฉัน” ศุภกฤษณ์หาโอกาสใกล้ชิดจันทร์สุดา “ดีเหมือนกันนะ” เตมินทร์เห็นด้วย “เย็นนี้สุดาว่างไหม ไปเป็นแม่ครัวที่บ้านผมได้ไหมครับ” ศุภกฤษณ์กล่าวชวน “เย็นนี้สุดาไม่ว่างค่ะ ต้องไปทำงานพิเศษที่รับไว้ค่ะ” จันทร์สุดาตอบตามจริง เตมินทร์ไม่ได้พูดอะไร กระตุกยิ้มโดยที่ทั้งสองไม่ทันสังเกตเห็นส่วนศุภกฤษณ์ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะจันทร์สุดาบอกกับเขาว่า เธอมีงานพิเศษหลายอย่าง แต่งหน้าให้พี่สาวและพีอาร์หลายคนในคลับฟรอร่า วันเสาร์อาทิตย์ทำงานออกบูธสินค้าต่างๆ และเริ่มร้องเพลงในคลับต้นเดือนหน้าทุกวันพฤหัส เสาร์และอาทิตย์ “งั้นวันศุกร์นี้ คุณว่างไหม ผมจองตัวคุณไว้ก่อนเลย” “ว่างค่ะ” จันทร์สุดาตอบ “สรุปว่าวันศุกร์นะ ผมจะได้โทรชวนโฟมกั

  • รักร้าว   Chapter 13

    Chapter 13 “ท่านรองไม่ได้มาจีบสุดาหรอกค่ะ ท่านรองเป็นเพื่อนคุณเติร์ดค่ะ คุณเติร์ดเป็นว่าที่คู่หมั้นเพื่อนสุดาค่ะ เมื่อวานท่านรองเลยแวะชวนไปกินข้าวเที่ยงค่ะ”ตอนแรกจันทร์สุดาไม่รู้ว่า ศุภกฤษณ์กับเตมินทร์เป็นเพื่อนกัน มารู้ตอนกินอาหาร ศุภกฤษณ์บอกรื่องนี้ให้ตนรู้ เธอยังคิดว่า โลกมันกลม “จริงแน่นะ ไม่ได้มาจีบสุดาแน่เหรอ” วาสนาถามอีกคล้ายไม่เชื่อ “นั่นสิ ถ้าไม่จีบเธอ แล้วจะมาชวนกินข้าวเที่ยงทำไม” รุ้งแก้วถามเพิ่ม มีความสงสัยไม่น้อย “แน่ค่ะ ท่านรองจะมาสนใจสุดาทำไมคะ สุดาไม่มีอะไรคู่ควรกับท่านรองได้เลย มีสาวสวยระดับเดียวกับท่านรองให้เลือกเยอะแยะ มันไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ ค่ะ” จันทร์สุดาเจียมตัวเสมอ แม้ในความเป็นจริง ศุภกฤษณ์ให้ความสนใจตนอย่างเปิดเผย เธอตั้งใจว่า จะบอกเขาตามตรง ไม่ให้ความหวัง สถานนะที่เป็นได้คือ เจ้านายลูกน้อง เพื่อน พี่ชายกับน้องสาวเท่านั้น “สุดาทำงานก่อนนะคะ พี่นิดจะเอาสรุปบัญชีจัดซื้อวันนี้ สุดาต้องรีบทำค่ะ” เป็นการตัดการสนทนาไม่น่าเกลียด วาสนากับอีกสองสาวรีบถอนร่นกลับไปยังโต๊ะทำงานอีกตัว “พี่นิดเชื่อเหรอว่า ท่านรอ

  • รักร้าว   Chapter 12

    Chapter 12 “นายเป็นลูกผู้ชาย อายุก็เลยยี่สิบปีแล้ว ทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบในเรื่องที่ทำ ไม่ใช่โยนภาระให้คนอื่นแบบนี้ ฉันถือว่าคนประเภทนี้เป็นหมา ที่เจ้าของต้องตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวเวลาพาออกไปเดินเล่น นายอยากเป็นอะไรล่ะ คนหรือหมาขี้เรื้อน” ฉัตรชัยถึงกับหน้าชา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ถูกต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้า ปกติยามถูกสร้อยทิพย์หรือจันทร์สุดาตำหนิ ก็จะมีบิดามารดาให้ท้าย ทว่าวันนี้ทั้งสองไม่อยู่บ้าน ไปฝึกลับสติปัญญาที่บ้านเจ๊พร กว่าจะกลับก็คงสว่าง จึงไม่มีใครคอยกันให้ ฉัตรชัยโต้ตอบอะไรไม่ได้มาก ทำได้เพียงแค่เดินหนีเข้าไปในห้องนอนของตน “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะ ที่จ่ายเงินให้สุดา” เมื่อทุกคนออกไปจากบ้าน จันทร์สุดายกมือไหว้และกล่าวขอบคุณ“เรื่องแค่นี้เอง ฉันช่วยได้ฉันเลยช่วย” เตมินทร์ไม่เข้าใจตัวเองว่า เหตุใดต้องช่วยจันทร์สุดา เขาไม่ช่วยเธอก็ได้ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตนเลย “ฉันทำความเข้าใจกับเธอข้อนึงนะว่า ที่ฉันช่วยเธอเพราะเห็นแก่หมวยกับแทค เพราะถ้าสองคนนี้รู้ว่า ฉันอยู่ในเหตุการณ์แล้วไม่ช่วยเธอ ทั้งที่ช่วยได้ สองคนนั้นด่าฉันเปิง แล้วอีกข้อคือ ไม่ต้องบอกเรื่องนี้ให้หมวยกับแทครู้

  • รักร้าว   Chapter 11

    Chapter 11 “ไอ้หนุ่มคนนี้เป็นใคร หรือว่าเป็นลูกค้าเอ็ง สุดา” ลุงหมีเสียงดังใส่ ท่าทางโกรธจัด เตมินทร์ถึงกับกัดกรามแน่นเมื่อได้ยินว่า ตนเป็นลูกค้าจันทร์สุดา เป็นคำพูดเสียดแทงใจมาก “มึงไม่รู้เหรอว่ากูเป็นใคร ถึงกล้าทำอย่างนี้กับกู” ระหว่างสถานการณ์กำลังตึงเครียด ตัวต้นเรื่องเดินอารมณ์ดีกลับบ้าน แต่เมื่อเห็นลุงหมีกับลูกน้องก็ตั้งท่าวิ่งหนี “ลุงหมี นั่นไอ้เก่งนี่ครับ” ลูกน้องนามว่าเขียวเอ่ยขึ้น ก้าวเท้าวิ่งตามฉัตรชัยที่สับเท้าหนี โดยมีจันทร์ลูกน้องอีกคนวิ่งตามไป จันทร์สุดาเห็นดังนั้นจึงวิ่งตามไปช่วยน้องชาย แต่วิ่งไปไม่กี่ก้าว เขียวได้ลากร่างฉัตรชัยที่สะดุดล้มมาหาเจ้านาย “อย่าทำอะไรน้องฉันนะ ปล่อยนะ” เขียวไม่ปล่อยตามคำบอกจันทร์สุดา กลับลากฉัตรชัยมาหาเจ้านายที่ตบหน้าคนโกงไปหนึ่งครั้งเต็มๆ “ไอ้เก่ง มึงกล้ามากนะที่โกงกู...เพียะ”ลุงหมีตบหน้าฉัตรชัยอีกครั้ง “อย่านะลุงหมี อย่าทำเก่ง” จันทร์สุดารีบห้าม ตรงเข้าไปหาน้องชาย ทว่าถูกมือของเขียวผลักจนกระเด็นไปหลายก้าว “ถ้าเอ็งไม่อยากให้น้องตายล่ะก็ เอาเงินมาเลยสามแสน ถ้าไม่มี เอ็งก็

  • รักร้าว   Chapter 10

    Chapter 10พูดแค่นี้จันทร์สุดาเข้าใจแล้วว่า เขาต้องการส่งเธอถึงหน้าบ้าน เธอไม่พูดอะไรต่อ จนกระทั่งเขากำลังเลี้ยวรถเข้าซอยย่อย “คุณเติร์ดจอดตรงต้นก้ามปูนะคะ” “นี่มันกี่ทุ่มแล้วแม่คุณ แถมไฟทางก็ห่างกันมองไม่ค่อยเห็น ฉันจะเห็นต้นก้ามปูได้ยังไง” ดูเหมือนว่า จันทร์สุดาพูดอะไรก็ไม่เข้าหูเตมินทร์เลย เวลานี้เธอเศร้าหนักมาก “แล้วไอ้ต้นก้ามปูที่ว่ามันอยู่ทางซ้ายหรือขวามือ” “ซ้ายมือค่ะ จอดตรงตีนสะพานก็ได้ค่ะ”จันทร์สุดาบอกแบบนี้เขาน่าเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เตมินทร์ขับรถไปอีกยี่สิบเมตร รถยนต์หรูก็จอดนิ่ง “บ้านเธอหลังไหนล่ะ” เตมินทร์ถาม “ต้องเดินเข้าไปในซอยนี้ค่ะ รถเข้าไปไม่ได้ เข้าได้แค่จักรยานกับมอไซร์ค่ะ” เธอบอกขณะปลดเข็มขัดนิรภัย “ขอบคุณคุณเติร์ดมากค่ะที่มาส่งสุดา” “เดินเข้าไปลึกไหม” “ประมาณสามร้อยเมตรค่ะ” “เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะ สุดาเดินเข้าบ้านเองได้ค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจคุณเติร์ดมากแล้วค่ะ” จันทร์สุดารีบพูด “เธอนี่ยังไงนะ ฉันบอกว่าจะเดินไปส่งก็ตามนั้นสิ พูดมากอยู

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status