Share

บทที่ 5

Author: ขี้เกียจจะตั้งชื่อ
ซินจือเหยาได้รับกรรมในความผิดพลาดที่เกิดจากความหลงผิดชั่วขณะ หลายวันต่อมาจิตใจเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ราวกับถูกยึดร่างไปอย่างไรอย่างนั้น

ตอนนี้เธอยังไม่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอรู้ว่าเก็บเด็กคนนี้ไว้ไม่ได้แน่ เธอไม่กล้าบอกพ่อแม่ แต่ถ้าจะผ่าตัดจำเป็นต้องให้ญาติเซ็นชื่อ หลังจากผ่าตัดแล้วยังต้องพักฟื้นอีก ถ้าถูกคนของมหาวิทยาลัยรู้ การเรียนของเธอจะเสีย

เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกลัวและลนลานอย่างหนัก แม้แต่ซ่งอวี่เจียก็รู้สึกว่าเธอผิดปกติไป จึงถามด้วยความห่วงใย “เหยาเหยา เธอเกิดเรื่องอะไรเหรอ?”

หลายวันนี้เธอหน้าซีดเซียว จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ราวกับผีเร่ร่อนไร้ญาติขาดมิตร

ซินจือเหยาส่ายหน้าอย่างหมดแรง “ฉันไม่เป็นไร”

ไม่เป็นไรสิแปลก

“เธอมีเรื่องอะไรก็บอกฉันได้นะ? เราหาทางแก้ไขด้วยกัน” ซ่งอวี่เจียเห็นเธอแล้วรู้สึกสงสารอยู่บ้าง จึงเอ่ยปากอย่างลังเล “เพราะเรื่องของอวี๋เชว่ใช่ไหม?”

สำหรับซินจือเหยาในเวลานี้ เรื่องของอวี๋เชว่ไม่สลักสำคัญอะไรทั้งนั้น

แต่ซ่งอวี่เจียยังเป็นนักศึกษาเหมือนกัน ถ้าบอกเรื่องนี้กับเธอ มีแต่เพิ่มคนทำอะไรไม่ถูกอีกคนเท่านั้น

เธอฝืนยิ้มกับอีกฝ่าย “ฉันไม่มีอะไรจริง ๆ เธอไม่ต้องห่วงนะ”

ซ่งอวี่เจียเห็นเธอไม่พูดจึงไม่ฝืนอีก ลองเปลี่ยนเรื่องคุย “อีกเดี๋ยวคาบเรียนสุดท้ายจะเป็นวิชากายภาพของศาสตราจารย์โจว เรารีบไปแย่งที่นั่งดี ๆ กันเร็วหน่อยเถอะ”

ใครจะรู้ว่าพอซินจือเหยาได้ยินก็ทำหน้าอมทุกข์ “ฉันไม่ไปเรียนได้ไหม?”

“ไม่ได้ เธอก็รู้ว่าศาสตราจารย์โจวเข้มงวดมาก เช็กชื่อทุกครั้ง ถึงการกระทำนี้ของเขาจะไม่จำเป็น วิชาอื่นฉันไม่กล้าพูดหรอกนะ แต่วิชาของเขาไม่มีคนโดดเรียนชัวร์”

มีสิ ซินจือเหยาก็คือคนแรก

แต่เธอมีใจคิดจะทำกลับไม่มีความกล้าที่จะทำ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตลอดสองปีที่เรียนมหาวิทยาลัยเธอไม่เคยโดดเรียนมาก่อน ตอนนี้โจวจี้ยังรู้ชัดว่าเป็นเธออีก ถ้าให้ซ่งอวี่เจียเซ็นชื่อแทนจะไม่เท่ากับเอาตัวเองส่งเข้าปากเสือเองเหรอ

ยังไม่ถึงเวลาเรียน ซ่งอวี่เจียก็ลากซินจือเหยาไปห้องเรียนแล้ว ครั้งนี้ช่างรันทด กลับชิงได้ที่นั่งแถวหน้า

“เจียเจีย ไม่งั้นเราก็ไปนั่งข้างหลังเถอะ ข้างหลังยังมีที่นั่งอยู่” ซินจือเหยาใช้น้ำเสียงปรึกษาหารือ

หลับนอนแล้วท้อง ตอนนี้ซินจือเหยาไม่กล้าเจอโจวจี้มากกว่าเดิม

“ไม่ได้ ตรงนี้ดีขนาดไหน” ซ่งอวี่เจียนั่งลงเลย “ตรงนี้กำลังดี ได้ชื่นชมความหล่อเหลาของศาสตราจารย์โจวใกล้ ๆ ด้วย”

ซินจือเหยาอยากจะไปนั่งข้างหลังเอง แต่พอหันไปกลับเห็นว่าที่นั่งด้านหลังมีคนนั่งแล้ว จึงได้แต่ฝืนใจนั่งลง

ไม่นานออดเข้าเรียนก็ดังขึ้น ซินจือเหยาขดตัวอยู่ข้างหลังซ่งอวี่เจีย พยายามให้ไร้ตัวตน

โจวจี้สง่างามเหมือนอย่างเคย ท่อนขายาวของเขาก้าวเข้ามาในห้องเรียน ตัวสูงโปร่งตั้งตรงยืนอยู่บนเวที เสื้อแจ็กเกตสีกากีอยู่บนตัวราวกับไม้แขวนเสื้อที่เดินได้ ดวงตาสุกใส คิ้วดาบ องคาพยพคมลึก สีหน้าเป็นมิตรราบเรียบ

หลังจากเขาเข้ามา ห้องเรียนก็เงียบลง

น้ำเสียงกระจ่างใจนุ่มนวลไม่เร็วไม่ช้า กวาดสายตามองด้านล่างเวทีเล็กน้อย “เริ่มเรียน”

ครั้งนี้ซินจือเหยาไม่กล้าเหม่อแล้ว เธอจดประเด็นสำคัญที่โจวจี้สอนลงในสมุดทั้งหมด ฟังไป ๆ สายตาของเธอก็เคลื่อนไปตามตัวเขาอย่างไม่รู้ตัว

โจวจี้คือคนที่มีอรรถรสมากที่สุดที่เธอเคยพบ บนตัวเขามีบุคลิกอย่างหนึ่ง สุขุมและเก็บอารมณ์

มีภูมิเต็มเปี่ยมมีราศี

ที่ว่าก็คงเป็นคนอย่างเขานี่แหละ

รูปแบบการสอนของเขามีเทคนิคและพิถีพิถันมาก อธิบายเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ทำให้คนเข้าใจง่าย

ทุกคนถูกเขานำพาง่ายมาก จับจดกับเนื้อหาที่เขาพูดอย่างไม่รู้ตัว

ซินจือเหยาตั้งใจฟังมาก มุ่งสมาธิทั้งหมดกับตัวโจวจี้

แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็เหล่มองมา สายตาของทั้งสองจึงสบกันอย่างไม่ทันระวังอีกครั้ง

ซินจือเหยาได้สติโดยสมบูรณ์ รีบหลุบตาลงอย่างตื่นตระหนก

ทันใดนั้นเธอคิดว่าถ้าโจวจี้รู้ว่าเธอตั้งครรภ์จะรู้สึกอย่างไร?

เขาคือพ่อทางสรีรวิทยาของเด็ก สมควรบอกเรื่องนี้กับเขาไหม?

ซินจือเหยากัดริมฝีปากครุ่นคิด

เธอไม่อยากมีความเกี่ยวข้องกับเขาจริง ๆ

ในที่สุดก็รอถึงเสียงออดเลิกเรียนดัง โจวจี้ปิดพาวเวอร์พอยต์แล้วพูดขึ้นว่า “เลิกเรียน ถ้าพวกเธอไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามฉันตอนนี้ได้”

“อาจารย์คะ ฉัน...”

“ฉันก็มีคำถามค่ะ”

ชั่วขณะ นักศึกษาหลายคนเข้าห้อมล้อมโจวจี้ เขาตอบคำถามไปก็ใช้หางตาเหลือบมองเงาหลังคนแถวแรกที่สะพายกระเป๋าหายไปในพริบตา ราวกับมีภัยอันตรายใหญ่หลวงอยู่ข้างหลัง

หลายวันนี้ทั้งสองคนเจอกันในมหาวิทยาลัยสองครั้ง ทุกครั้งพอเธอเห็นเขาจากที่ไกล ๆ ก็ราวกับนกที่ตื่นธนู เปลี่ยนเส้นทางหลบทันทีอย่างชัดเจน

โจวจี้สืบประวัติการศึกษาของเธอมาแล้ว

อายุยี่สิบเอ็ดปี สองปีที่อยู่ในมหาวิทยาลัยไม่เคยขาดเรียน คะแนนติดสิบอันดับต้น ได้ทุกการศึกษาทุกปี

เป็นนักศึกษาดีเด่นในสายตาของอาจารย์

โจวจี้หลุบตาลงแล้วอธิบายเนื้อให้กับนักศึกษาต่อ

……

สุดสัปดาห์ซินจือเหยาไม่ค่อยได้กลับบ้านนัก อาจเพราะเรื่องที่เกิดในระยะนี้ทำให้เธอกระวนกระวายใจ จึงอยากได้รับการปลอบโยนจากครอบครัว ดังนั้นเย็นวันศุกร์เธอจึงกลับบ้าน

พอเปิดประตู กลิ่นผัดอาหารหอมฟุ้งแตะจมูก หลินไห่อิงผู้เป็นแม่ส่งเสียงมาจากห้องครัว “ฮ่าวฮ่าวกลับมาแล้วเหรอ? เดี๋ยวแม่ก็ทำกับข้าวเสร็จแล้ว ลูกรอเดี๋ยวนะ”

ซินจือเหยาวางกระเป๋าหนังสือลงแล้วเดินไปถึงหน้าห้องครัว ตามด้วยเรียกทีหนึ่ง “แม่คะ หนูเอง”

หลินไห่อิงได้ยินเสียงก็หันหน้ามา พอเห็นซินจือเหยามือที่ถือตะหลิวก็ชะงัก “แกกลับมาได้ยังไง?”

“พรุ่งนี้วันหยุดค่ะ” ซินจือเหยาตอบ

หลินไห่อิงขมวดคิ้ว “แกดูแกสิ กลับมาก็ไม่บอกก่อน ไม่ได้หุงข้าวไว้ให้แกเลย”

“เมื่อวานหนูบอกแม่แล้วนะคะ”

“งั้นเหรอ?” หลินไห่อิงน้ำเสียงไม่ยี่หระ “งั้นฉันก็ลืมไป ใครจะไปจำเรื่องพวกนี้ทั้งวันล่ะ ปกติแกก็ไม่อยู่”

ซินจือเหยาเงียบ

ถ้าเป็นพ่อแม่ของซ่งอวี่เจีย ทุกอาทิตย์ยังไม่ทันถึงวันหยุดก็จะโทรศัพท์ถามลูกสาวว่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านไหม แต่บ้านของพวกเธอ ลูกสาวราวกับมีแต่ชื่อ

“ยืนอยู่ทำไม ยังไม่รีบยกกับข้าวออกไปอีก แล้วโทรหาพ่อแก ให้เขาซื้อข้าวจากข้างนอกมาด้วย”

“ค่ะ ๆ” ซินจือเหยารีบล้างมือยกกับข้าว จากนั้นก็โทรศัพท์หาซินอู่

ในตอนที่ทำกับข้าวเสร็จ ซินอู่หิวกล่องข้าวเข้าบ้านมา ถอดรองเท้าพลางบ่น “จะกลับบ้านก็ไม่บอกก่อน ตอนนี้ข้าวข้างนอกแพงขึ้นทุกวัน ห่อกลับยังคิดเงิน สิบห้าบาทพอซื้อข้าวทั้งบ้านหนึ่งมื้อได้แล้ว”

“ตอนนี้ข้าวของแพงขึ้นทุกที อะไร ๆ ก็ขึ้น แต่เงินเดือนคุณกลับไม่ขึ้น ในบ้านแทบจะไม่มีข้าวสารกรอกหม้ออยู่แล้ว” หลินไห่อิงคว้าแย่งกล่องข้าวมาจากมือของเขา “จะเอากล่องข้าวมาทำไม ถุงก็สะอาด ใส่ถุงมาก็สิ้นเรื่อง”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 100

    โจวจี้กำลังจะหยิบปากกามาติ๊ก พอได้ยินก็นิ่งไป “เธอไม่กินเผ็ดไม่ใช่เหรอ?”ซินจือเหยาตอบเสียงเบา “เจียเจียกินค่ะ”โจวจี้พยักหน้าแล้วติ๊กที่เนื้อต้มซ่งอวี่เจียมองพวกเขาจากอีกฝั่งทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก เป็นความใกล้ชิดที่ดูเป็นธรรมชาติ มือที่บาดเจ็บของโจวจี้วางพาดอยู่บนพนักเก้าอี้ของซินจือเหยาอย่างสบาย ๆ ส่วนอีกข้างถือปากกาติ๊ก ซินจือเหยาตัวเล็กกว่าโจวจี้มาก พอมองเผิน ๆ ก็เหมือนเธอถูกเขาโอบไว้ในอ้อมแขนส่วนตัวศาสตราจารย์โจวเป็นอย่างนี้นี่เองอยู่ที่มหาวิทยาลัย ถึงทุกคนจะรู้สึกว่าศาสตราจารย์โจวเป็นคนอ่อนโยนและมีมารยาท แต่ความจริงเวลาเรียนเขาจริงจังมาก มีความเป็นนักวิชาการเต็มตัวแล้วก็จริงจังกับการสอนมาก เลยทำให้ทุกคนแอบเกรง ๆ เขาอยู่เหมือนกันแต่ก็ยังไม่เป็นอุปสรรคให้นักศึกษาหลาย ๆ คนเพ้อฝันกับเขาใครบ้างไม่อยากดึงผู้ชายที่หล่อเหมือนเซียนลงมาจากแท่นแต่ตอนนี้ซินจือเหยากลับได้ไปง่าย ๆยัยบ้านี่ ได้ดีขนาดนี้!ซ่งอวี่เจียอิจฉาอยู่ในใจอย่างหนักหลังจากอาหารขึ้นโต๊ะ เนื่องจากปฏิกิริยาท้องระยะต้น ซินจือเหยาจึงกินได้น้อยมาก ส่วนซ่งอวี่เจียก็ไม่ได้ทำใหญ่โตเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว พยายามล

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 99

    ซินจือเหยา : พูดความจริงอะไรเนี่ย ⁄(⁄ ⁄•⁄ω⁄•⁄ ⁄)⁄ซ่งอวี่เจีย : เอาจริงนะ พอดูอย่างนี้แล้วเธอก็เหมาะสมกับศาสตราจารย์โจวดีเหมาะสมงั้นเหรอ?ซินจือเหยายากจะจินตนาการว่าคำนี้กลับใช้กับเธอและโจวจี้ซ่งอวี่เจีย : เธอถือถ้วยรางวัลยืนกับเขามันได้ความรู้สึกเหมือนสุดยอดกับสุดยอดมาเจอกันซินจือเหยามองภาพนั้นนิ่ง ๆ จากนั้นก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้สุดยอดกับสุดยอดมาเจอกัน?เธอชอบคำนี้จริง ๆซินจือเหยาพูดอย่างใจป้ำ : เย็นนี้ฉันเลี้ยงข้าวเธอนะซ่งอวี่เจีย : ว้าว ๆ ๆซ่งอวี่เจีย : ไม่บอกแต่แรกล่ะ ถ้ารู้ว่าเย็นนี้จะมีข้าวฟรี กลางวันก็กินน้อย ๆ แล้วซ่งอวี่เจีย : ไม่ได้ ก่อนกินข้าวฉันต้องทำท้องให้ว่าง แบบนี้ถึงจะกินได้เยอะซินจือเหยา : ...ขี้เกียจจะพูดกับเธอแล้วหลังจากแชตกับซ่งอวี่เจียเสร็จ ซินจือเหยาคิดแล้วจึงส่งรูปที่ซ่งอวี่เจียส่งมากับโจวจี้ตอนที่โจวจี้ได้รูปกำลังเตรียมตัวไปห้องเรียนเพื่อสอนคาบเรียนสุดท้ายของวันนี้หลังจากเปิดรูปดู เขาก็เห็นซินจือเหยาในแวบแรก เธอถือถ้วยรางวัลยืนอยู่ข้างตัวเอง ใบหน้าเหนียมอาย ในดวงตาคือรอยยิ้มที่ปกปิดไม่อยู่โจวจี้ยิ้มมุมปากน้อย ๆ แล้วตอบกลับ : สวยซิ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 98

    เธอคืนคำที่พวกเขาพูดเมื่อก่อนหน้านี้กลับไปอย่างง่าย ๆ พูดจบก็จากไปอย่างสบาย ๆเจี่ยงซินมองแผ่นหลังที่จากไปของเธอพักหนึ่งแล้วจึงคิดขึ้นมาได้ ดึงไหล่อวี๋เชว่ด้วยความโกรธ “ต้องโทษนายนั่นแหละ ข้อสุดท้ายง่ายขนาดนั้นยังตอบผิด นายดูสิ ตอนนี้เธอชิงที่หนึ่งไปแล้ว”อวี๋เชว่หัวเสียที่ตัวเองผิดพลาดจนเสียที่หนึ่งไปทุนเดิมอยู่แล้ว เจี่ยงซินไม่ปลอบใจเขาแล้วยังจะซ้ำเติมเขาอีกเขาพูดอย่างหงุดหงิด “อย่าพูดได้ไหม เธอได้เธอก็ไปเองสิ”เจี่ยงซินได้ยินก็โกรธจัด “อวี๋เชว่ นายหมายความว่ายังไง? แม้แต่นายก็ดูถูกฉันแล้วใช่ไหม?”ไม่รู้ตัวเองซะบ้างอวี๋เชว่คร้านจะพูดกับเธอจึงเดินไปเสียเจี่ยงซินยังไม่ยอมเลิก ฉุดแขนของเขา “ห้ามไปนะ นายต้องพูดกับฉันให้รู้เรื่องก่อน นายดูถูกฉันใช่ไหม? คิดว่าฉันเก่งสู้ซินจือเหยาไม่ได้ใช่ไหม?”พวกเขายังยืนอยู่หน้าหอประชุม คนที่เดินผ่านหลาย ๆ คนได้ยินเสียงจึงหันมามองพวกเขาอย่างอยากรู้อยากเห็นเมื่อก่อนเพราะเจี่ยงซินหน้าตาดี เขาอยู่กับเธอจึงรู้สึกภูมิใจ แต่ระยะนี้ยิ่งอยู่กับเธอก็ยิ่งรู้สึกขายหน้า โดยเฉพาะหลังจากทะเลาะกันต่อหน้าธารกำนัลสองสามครั้ง แม้แต่เพื่อนของเขาก็ยังเย้ยเขา บอ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 97

    “เชิญซินจือเหยาตอบค่ะ”ซินจือเหยา พูดเสียงแหบพร่า “บริเวณส่วนท้ายของร่องขมับส่วนบนในซีกซ้ายของสมองใหญ่”พิธีกรแย้มยิ้ม “ถูกต้องค่ะ ยินดีกับซินจือเหยาด้วยนะคะที่ได้ที่หนึ่ง”ทั้งห้องประชุมปรบมือลั่น ซินจือเหยาเกือบอดใจไม่ไหวลุกขึ้นมา เธอมองไปยังเงาร่างโจวจี้เขาปรบมืออยู่ข้างล่างเวที สายตาจดจ่ออยู่กับเธอ มุมปากงามได้รูปยิ้มจาง ๆจู่ ๆ ซินจือเหยาก็รู้สึกพึงพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเขาจะภูมิใจในตัวเธอไหม? ต่อให้แค่นิดเดียวก็ยังดีนี่หมายถึงเธอใกล้เขาไปอีกนิดอวี๋เชว่ที่อยู่ด้านข้างหมดแรงพิงเก้าอี้ เจี่ยงซินที่อยู่ด้านล่างเวทีแค่นเสียงอย่างไม่ยินยอม บ่นพึมพำ “เธอก็แค่โชคดีเท่านั้นแหละ”รางวัลของรางวัลที่หนึ่งคือถ้วยรางวัลกับกำไลออกกำลังกาย หลังจากรับของรางวัลแล้วก็ถึงช่วงเวลาถ่ายรูป ซินจือเหยากลับเห็นว่ามีผู้เข้าแข่งขันไปถ่ายรูปกับโจวจี้ทำไมถึงมีคนอย่างนี้นะซินจือเหยาขยับไปอย่างเชื่องช้าและแนบเนียนเพราะมีคนไปก่อน คนอื่น ๆ จึงกล้าไปสอบถามโจวจี้โจวจี้น้ำเสียงเป็นมิตร ดูจะเหนื่อยใจอยู่หน่อย ๆ “คนเยอะอย่างนี้ ไม่งั้นก็ถ่ายรูปหมู่เถอะ”ในเมื่อเขาเป็นคนเสนอ นักศึกษาคนอื่น ๆ จ

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 96

    “ตุบ”ซินจือเหยาใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์กดปุ่ม“ค่ะ ซินจือเหยาตอบคำถาม”“ลิมโฟไซต์”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”“คำถามข้อที่สาม อวัยวะใหญ่สุดในร่างกายมนุษย์”“ตุบ”“เชิญหวังเสี่ยวเล่อตอบคำถามค่ะ”“ผิวหนัง”“ถูกต้องค่ะ ได้หนึ่งคะแนน”……บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ พอคำถามยิ่งยาก คะแนนก็เริ่มห่างกันทีละน้อย บางคนความเร็วมือแย่ ถึงจะรู้คำตอบแต่จนใจที่แย่งสิทธิ์ในการตอบคำถามไม่ได้ จึงได้แต่มองคนอื่นคว้าคะแนนไปต่อหน้าต่อตาบนเวทีการแข่งขันดุเดือด ส่วนข้างล่างบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดโจวจี้สีหน้าสงบ มองซินจือเหยาอยู่ตลอดเธอในการแข่งขันต่างจากปกติ สายตาจ้องหน้าจอใหญ่ตาเขม็ง ขบฟันกรามแน่น ท่าทางจดจ่อมากกว่าเวลาไหน ๆไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือเป็นผู้หญิงก็ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ที่แปลกออกไปอีกอย่างหนึ่งยามตั้งใจ ดึงดูดคนเป็นพิเศษโจวจี้ถามตัวเองว่าเคยเห็นคนโดดเด่นมานักต่อนัก แต่ไม่ส่งผลต่อความชื่นชมคนที่พยายามของเขาเลย และเนื่องจากเธอคือภรรยาของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหนึ่งกระนั้น การได้เห็นคนคนหนึ่งเติบโตละยอดเยี่ยมมากขึ้นทุกที จะรู้ส

  • รักละมุนของศาสตราจารย์เย็นชากับภรรยาสาวน้อย   บทที่ 95

    ซินจือเหยาจ้องดูหน้าจอบนโทรศัพท์มือถือ ปลายนิ้วจิ้มบนหน้าจออย่างรวดเร็วสิบสองนาทีผ่านไปไวมาก หน้าข้อสอบหยุดส่งอัตโนมัติ“การสอบรอบแรกจบลงแล้ว ตอนนั้นจะนับคะแนน” พิธีกรเป็นคนจากสโมสรนักศึกษา กำลังพูดคุยกับกรรมการเบา ๆ อยู่บนเวทีซินจือเหยาผ่อนคลายมือที่แข็งเกร็ง มั่นใจคะแนนของตัวเองมากดังคาด พิธีกรประกาศผลการแข่งรอบแรก“จางหยวนหยวนคลินิกคอลห้องห้าปีสองหนึ่ง ซินจือเหยาคลินิกคอลห้องเจ็ดปีสองสอง อวี๋เชว่คลินิคอลห้องสามปีสองสอง จ้าวโส่วตงคลินิกคอลห้องเก้าปีสองสาม หลินซวี่ช่องปากห้องสองปีสองศูนย์ หวังเสี่ยวเล่อการพยาบาลปีสองศูนย์... ขอแสดงความยินดีกับนักศึกษาสิบท่านเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงตอบคำถามในลำดับต่อไป ขอเชิญนักศึกษาที่เรียกชื่อขึ้นนั่งบนเวทีด้วยค่ะ”หลังจากพิธีกรขานชื่อแต่ละคนก็มีเสียงประมือดังกึกก้องซินจือเหยาลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วขึ้นบนเวทีบนเวทีมีที่นั่งอยู่สิบที่ บนโต๊ะแต่ละตัวจะมีปุ่มสีแดงให้แย่งกันกดตอบคำถามไม่รู้ว่าจงใจหรือเปล่า อวี๋เชว่นั่งอยู่ข้างซินจือเหยา“สู้ ๆ นะ” อวี๋เชว่ราวกับพูดกับเธอซินจือเหยาไม่สนใจเขา กดปุ่มสีแดงทำความคุ้นเคยทันใดนั้นตรงที่นั่งคนดู

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status