“อ่ะ....ก็ได้แต่ผมไม่มีเงินสดนะแต่ผมจะเซ็นเช็คให้คุณแทน”เขาบอกฉันมาแต่นำ้เสียงของเขาไม่ได้แสดงออกว่ากลัวอะไรเลย
“ไม่!”ฉันบอกเขาไปทันควัน กว่าฉันจะเอาเช็คไปขึ้นเงินมีหวังโดนลูกน้องของท่านมิซานจับได้ซะก่อน “อะไรของคุณอีกเนี่ย?”เขาทำน้ำหงุดหงิดใส่ฉัน “ฉันกำลังจะหนีนะคุณ ไม่มีเวลาเอาเช็คของคุณไปขึ้นเงินหรอก!”ฉันโวยใส่เขา “เออจริงด้วย งั้นเอาไงดี?”เขาพูดและเงียบไปสักพักเหมือนเขากำลังจะใช้ความคิด ฉันก็ยืนนิ่งมือยังคงถือรองเท้าส้นตึกจ่อไปที่หน้าของเขาอย่างไม่ลดละ “เอางี้ ผมมีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่เยนแต่เงินสดจำนวนที่คุณพูดถึงอยู่ในรถผม เดี๋ยวผมจะเดินไปเอาให้คุณ”เขาบอกฉันหลังจากที่เขาเงียบไปสักพักหนึ่ง “ก็ได้ แต่ถ้านายคิดตุกติกล่ะก็...นายตาย!” “นี่ก็ขู่จังเว้ย!!”เขาโวยใส่หูฉัน หูฉันแทบแตกน่ะไอ้บ้า!!! “ฉันไม่ได้ขู่แต่ฉันทำจริงแน่!”ถ้ามันเป็นปืนจริงๆนะแต่นี่มันเป็นปืนปลอมไง ถ้าหมอนี่รู้ว่าฉันเอาส้นของรองเท้ามาแกล้งทำเป็นปืนเพื่อขู่เขาล่ะก็มีหวังเขาฆ่าฉันทิ้งแน่ “อ่ะๆถ้าคุณไม่เชื่อใจผมคุณก็เดินตามผมไปแค่นั้นเอง” “ก็ได้ งั้นนายก็เดินนำไป!” “เค”เขาตอบฉันสั้นๆและถอยหลังห่างจากฉันไป ฉันก็เดินตามเขาไปเอาส้นตึกจี้แผ่นหลังเขาและออกแรงดันให้เขาเดินนำทางไป “แล้วนี่ตกลงใครส่งคุณมา?”เขาเอ่ยถามฉันในขณะที่เรากำลังเดินไปตามพื้นหญ้า “ซาโนะ”ฉันเอ่ยบอกเขาไป ใช่ฉันต้องทำให้คนที่ชื่อซาโนะหายไปจากชีวิตฉันไม่งั้นมีหวังฉันได้แต่งงานกับมันแน่! “ซาโนะ?”เขาเอ่ยถามฉันกลับมาด้วยความแปลกใจ “ใช่”ฉันตอบเขาไปด้วยนำ้เสียงหนักแน่น “มิซาโนะ ซานโต้นะเหรอที่ส่งให้คุณมาฆ่าผม” “ใช่” “อืมมมม”เขาอืมยาวเหมือนเขาจะเชื่อฉันน่ะ “แล้วคุณไปรู้จักกับซาโนะได้ยังไง?” “ฉันก็ไม่ได้อยากจะรู้จักกับมันสักเท่าไหร่หรอก”ฉันบอกเขาไปอย่างไม่ใส่ใจอะไรมากและสอดส่องสายตามองไปข้างทาง เดินมาตั้งไกลยังไม่เห็นโรงจอดรถเลยนะ!! “อ้อเหรอ แล้วทำยังกับผมอยากรู้คุณอย่างงั้นแหละ” “นายว่าอะไรนะ!”ฉันเอ่ยถามเขาไปเพราะเมื่อกี้ฉันว่าอีตานี่มันพูดจาแปลกๆเหมือนตัวเองเป็นซาโนะอย่างงั้นแหละ แต่คงไม่น่าใช่หรอกมั่ง “เปล๊า”เขาตอบฉันกลับมาด้วยนำ้เสียงกวนโอ๊ย “นี่ นายโกหกฉันรึเปล่าอ่ะ ไม่เห็นมีรถยนต์สักคันเลย!”ฉันโวยใส่เขาไปและจ้องเขม่นไปที่แผ่นหลังกว้างของเขาที่ตอนนี้ฉันเริ่มจะมองเห็นเขาได้ชัดขึ้นเพราะที่แถวนี้มีไฟติดไว้พอให้ความสว่างได้ “ผมไม่ได้โกหกนะ แต่ผมจะพาคุณไปปู้ยี้ปู้ยำตั้งหากล่ะ^_^” “อะไรนะ!!”ฉันเผลอร้องออกมาเสียงดังด้วยความตกใจทำให้เขาหันมาหาฉันและใช้มือใหญ่ของเขาปิดปากฉันทันที ฉันเบิกตาโตขึ้นเมื่อสบเข้ากับดวงตาคู่สวยนัยน์ตาสีดำจมูกโด่งเรียวเป็นสันริมฝีปากหยักได้รูปสีชมพูระเรื่อใบหน้าที่ขาวใสไร้ที่ติ หล่อมาก! “คุณต้องการอะไรจากผมกันแน่?”เขาเอ่ยถามฉันมาริมฝีปากของเรามีเพียงแค่มือหนาของเขากั้นไว้ตรงกลางแค่นั้น ลมหายใจอุ่นๆหอมๆของเขาทำให้อัตราการเต้นของหัวใจฉันผิดจังหวะและรัวเร็วขึ้น คิ้วของเขาขมวดเกือบจะเป็นปมเมื่อเขามองหน้าฉัน เราสองคนจ้องหน้ากันเนิ่นนานเหมือนที่ตรงนี้มีแค่ฉันกับเขาอยู่ในห้วงภวังค์ของกันและกัน เขาสวมสูทสีดำไม่ได้ผูกเนคไททำให้เสื้อเชิ้ตด้านในถูกปลดกระดุมออกสองเม็ดทำให้ฉันมองเห็นรอยสักที่ต้นคอของเขาผิวๆของเขาถูกแต่งเติมไปด้วยรอยสักมากมายแม้กระทั่งที่มือเขายังมีเลย ถึงรอยสักเขาจะเยอะแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำให้ความหล่อของเขาลดน้อยลงเลยกลับทำให้เขาดูเท่แบดขึ้นไปอีก เห้ย!นี่ฉันเปลี่ยนสเปคผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่! “จ้องนานขนาดนี้ ไม่เคยเห็นคนหล่อสิท่า” “หลงตัวเองชะมัด”ฉันพึมพำพูด “พูดอะไรนะ?” “นายก็ปล่อยมือเค็มๆของนายออกไปจากปากฉันสิ”ฉันพูดอ้อมแอ้มๆแต่ก็พอจะทำให้คนฟังเรื่องรู้ว่าฉันพูดอะไรเพราะเขาไม่ได้ปิดปากฉันแน่นเท่าไหร่ “แล้วใช้ปากผมปิดปากคุณแทนอย่างงั้นเหรอ?”เขาจ้องมองตาฉันพลางทำแววตาเป็นประกายแวววับ อีตาบ้านี่!!! “ใช่!”ฉันก็บ้าจี้ประชดตอบเขาไป อยากจะตบปากตัวเองจริงๆ!“ไม่รู้สิคะคงไม่ใช่พวกคุณๆ”มาม่าซังออกความคิดเห็นเพราะว่าถ้าเป็นสองคนนั้นจะไมาเคาะประตูแอดดด“มีผู้ชายมาขอพบนายหญิงครับ…เขาบอกว่าเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาลัยซาโต้ม่ะครับ”ชายชุดดำที่เป็นคนของมิซาโนะเปิดประตูเข้ามารายงานฉัน ฉันก็พยักหน้านึกออกทันทีว่าใคร ก็หนึ่งในหมากของเกมส์นี้ไง^_^“ให้เขาเข้ามาได้^_^”ฉันเอ่ยอนุญาตไปคนของมิซาโนะก็โค้งตัวให้ฉันอย่างนอบน้อมและเดินออกจากห้องไป“จะดีเหรอคะ?”มาม่าซังเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงเป็นห่วงและเป็นกังวล“ไม่เป็นไรหรอกคะเขาคือคนที่จะทำให้ธุรกิจของคุณพ่อและพี่ซาโนะเจริญรุ่งเรืองนะคะ^_^”ฉันตอบมาม่าซังไปพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส จนมาม่าซังพยักหน้าให้ฉันเพราะเชื่อในคำโกหกของฉัน ธุรกิจจะเจริญรุ่งเรืองได้ยังไงล่ะในเมื่อพ่อกับซาโนะจะโค่นล้มตระกูลทาโมโต้น่ะแอดดดด“เชิญครับ”เสียงแข็งกระด้างแต่เป็นคำพูดเชื้อเชิญทำให้ร่างสูงโปร่งสง่าของอาจารย์ภามพร้อมกับช่อดอกลิลลี่สีขาวในมือเดินเข้ามาในห้องเขาเห็นฉันที่นั่งอยู่บนเตียงนอนคนไข้ก็ยิ้มให้ฉันรอยยิ้มของเขาช่างน่าหลงใหลเอ้ยๆไม่ได้ใครจะน่าหลงใหลนอกจากอีตาซาฉันไม่ได้!!ก็ทำไงได้ล่ะก็อาจารย์ภามเขาคือรักแรกพบอของฉันนี่น่า“ขอ
ต้นฝน ซาโยโกะจัง…… “เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง”ฉันพึมพำขึ้นและค่อยๆหันตัวกลับมาอีกทางหลังจากที่พ่อมิซานและซาโนะเดินไปยังห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้เป็นโซนของคนมาเฝ้าได้พักผ่อนกันแล้วสองคนนั้นนั่งจิบนำ้ชาและคุยกันเสียงเบาซึ่งฉันไม่ได้ยินแต่ฉันก็พอจะเดาเกมส์ได้แล้วว่าที่พ่อมิซานอยากให้ฉันช่วยซาโนะคือเรื่องอะไร พรึบ ฉันเอื้อมมือไปหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาและกดพิมพ์ข้อความหาอาจารย์ภามทันทีเพื่อทำตามแผนของตัวเอง ซาโยโกะจัง:ถึงบ้านรึยังคะอาจารย์? ฉันรอข้อความตอบกลับของอาจารย์ภามอยู่สักพักเขาก็ส่งข้อความกลับมา มามาโต้คุง:ถึงแล้วครับ…เพิ่งถึงเมื่อกี้เลย^_^ ซาโยโกะจัง:ที่พักของมหาลัยเหรอคะ? ฉันแกล้งถามคำถามที่ฉันเองก็พอจะเดาได้ว่าเขาอยู่ไหนและฉันต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้เพราะดูเหมือนอาจารย์ภามจะไม่รู้จักพ่อของฉันน่ะว่าท่านเคยรู้จักกับพ่อของเขาและรู้จักเขา มามาโต้คุง:ครับ…ยังไม่นอนอีกเหรอครับ? อาจารย์ภามตอบฉันกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้มีพิรุธสินะ เขาฉลาดมากจริงๆการที่จะคุยกับเขาเพื่อหลอกถามเขาคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันคงต้องหาวิธีอื่นสินะ ซาโยโกะจัง:ค่ะ….ยังไม่ค่อยง่วงเพร
มิซาโนะ ซานโต้….“ภามเป็นลูกชายของฮิเรนเหรอครับ?”ผมเอ่ยถามพ่อมิซานไปอย่างสงสัย งั้นแสดงว่าสิ่งที่ผมคาดเดาไว้ก็เป็นความจริงเพราะหลายครั้งที่ผมให้คนไปสืบประวัติภามมาแต่ก็ไม่ได้ข้อมูลจริงกลับมาเลยสักครั้งและชื่อภามนี่คือชื่อที่สี่ของเขาตามทะเบียนราษฎร์ของประเทศไทยไม่ปรากฏนามบิดาและมารดา“ใช่…พ่อเคยรู้จักกับฮิเรนมาก่อนเลยเคยเห็นภามและพอพ่อได้มาเจอตัวภามอีกครั้งตอนที่เขาขับรถผ่านเส้นทางนั้นและมาช่วยพ่อกับโยโกะจังพ่อก็จำได้ทันที”พ่อมิซานเอ่ยออกมาด้วยสีหน้ามั่นใจ เขาเอารูปที่อยู่ในสมาร์ทโฟนของเขาออกมาให้พบดู บุคคลในรูปคือภามจริงๆและบุคคลที่ทำให้ผมตกใจไปกว่านั้นคือผู้หญิงที่ยืนข้างๆภามเธอคือผู้หญิงที่แสนจะคุ้นตาผมและเคยอยู่ในความทรงจำและหัวใจของผมเธอคือมินตราอย่างงั้นเหรอพวกเขาเป็นอะไรกัน“และคนนี้เธอเป็นน้องสาวของภาม”พ่อมิซานตอบข้อข้องใจให้ผม ผมก็พยักหน้าและยิ้มให้ท่านเป็นการเข้าใจและผู้หญิงอีกคนที่ผมเพิ่งจะเคยเจอเธอแต่ผมก็จำเธอได้แม่นเพราะเธอคือคนที่ทำร้ายซาโยโกะจังของผม เธอไม่หวังดี“คนนี้เป็นเพื่อนของโยโกะเหรอเห็นเธอบอกพ่อแบบนี้?”ท่านมิซานเอ่ยถามผมพลางชี้นิ้วไปที่ผู้หญิงอีกคนในรูปที่ยืนอย
“เขาคือคนที่มาช่วยเราไงคะ”ฉันตอบพ่อไปเพราะปลายนิ้วของท่านชี้ไปที่รูปของอาจารย์ภาม พ่อก็มองหน้าฉัน“และลูกรู้จักกับบุคลอื่นที่อยู่ในรูปนี่อีกไหม?”ฉันก็มองไปที่หน้าจอโทรศัพท์และชี้นิ้วไปที่รูปของฮามิโกะที่ยืนอยู่ฝั่งซ้ายข้างๆผู้ชายที่นั่งคู่อยู่กับฮิเรน“คนนี้เพื่อนรักของหนูค่ะ…เธอชื่อฮามิโกะจัง..ไว้ว่างๆหนูจะพาเธอมาพบพ่อนะคะ^_^”ฉันเอ่ยบอกพ่อไปพลางยิ้มให้พ่อไปด้วย เพราะฮามิโกะคือเพื่อนคนแรกที่ฉันมาอยู่ที่ประเทศนี้และเธอก็เป็นคนแรกที่เข้ามาทำความรู้จักกับฉันและขอเป็นเพื่อนกับฉัน ฉันได้เธอคอยแนะนำอะไรหลายๆอย่างให้ เธอช่างดีกับฉันจริงๆ“และคนนี้คือคนที่อีตาซาโนะเคยชอบค่ะพ่อ!”ฉันชี้นิ้วลงไปบนหน้าของนางเอกเอวีอย่างแรงจนฉันได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากพ่อของฉันที่ยืนเหนือฉัน ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าท่านและหรี่ตามองท่านที่ท่านหัวเราะฉัน เขาก็หยุดหัวเราะเปลี่ยนมาอมยิ้มแทน“เธอคนนี้คืออดีตของเขาลูกแต่หนูคือปัจจุบันของซาโนะนะ”“ปัจจุบันที่ไม่สนใจปล่อยให้คนอื่นเขาคิดถึง!”ฉันแขนขึ้นมากอดอกพลางจ้องมองไปที่หน้าจอมืดสนิทของโทรศัพท์ฉันที่ทันไร้เสียงเรียกเข้าจากเขาหรือแม้แต่ข้อความสักตัวอักษรยังไม่มี“พี่เ
“ตอนนี้ท่านนายกและนายหญิงปลอดภัยดีกำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในเครือของซานโต้นายหญิงบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้างเพราะขาของเธอถูกแรงกระแทกอัดเข้ากับเบาะที่นั่งคนขับและคาดว่ากระดูกน่าจะร้าวนะครับนาย…ส่วนท่านนายกปลอดภัยดี” “แล้วนี้น่ะเหรอที่จะไม่ให้ฉันไป?”ผมโวยใส่ซาต้า มันก็ยิ้มกว้างขึ้นและไหวไหล่เล็กน้อย “ผมไม่ได้ห้ามไม่ให้นายไปที่โรงพยาบาลแต่ผมห้ามไม่ให้นายไปที่เกิดเหตุตั้งหากล่ะครับ^_^” “ผมได้ยินคนของท่านนายกพูดว่า….นายหญิงจะปลดนายออกจากคำแหน่งสามีด้วยนะครับ^_^” “ปลดได้ยังไงว่ะ!!”ผมโวยวายขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของไอ้ซาต้า มันก็ไม่ได้มีสีหน้าที่เคร่งเครียดเหมือนผมแต่มันกำลังทำหน้าสะใจอย่างมาก “เรื่องนี้นายริวอิจิจะต้องได้รับรู้^_^” “หยุดเลยไอ้ซาต้าห้ามติดต่อริวเด็ดขาดถ้างานยังไม่สำเร็จ!!”ผมยกมือชี้หน้าซาต้าพลางทำนำ้เสียงจริงจัง “ก็ได้ครับๆแต่ผมว่านายรีบไปทำคะแนนดีกว่านะครับ” “ทำไม?”ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้ซาต้าอย่างสงสัย เรื่องทำคะแนนอะไรของมัน ผมไม่มีคู่แข่งซะหน่อยหรือว่ามีว่ะ? “เพราะบุคคลที่มาช่วยนายหญิงและท่านนายกในขณะที่พวกเขากำลังเดินไปตามทางอย่างไร้จุดหมายอยู่นั้นคือคือ….” “ค
โกดังใหญ่ซานโต้….มิซาโนะ ซานโต้…“นาย”“อะไร?”ผมหันหน้ากลับไปมองไอ้ซาต้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเพราะผมไม่ได้เจอหน้าสุดที่รักของผมมาสองวันแล้วน่ะ“เราจะเฝ้าแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลยเหรอครับนาย?”ไอ้ซาต้ามาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆผม ผมก็มองหน้ามันอย่างเบื่อหน่าย ใบหน้าหล่อใสไร้ที่ติของมันจ้องผมกลับมาด้วยสายตากวนโอ้ย“อืม….มีอะไรไหม?”“ผมก็เหงาๆบ้างอ่ะ”มันบอกผมอย่างมีพิรุธ ไอ้คำว่าเหงาของมันผมรู้ดีว่าคืออะไร“ถ้านายเห็นว่าความเหงาของนายมีค่ามากกว่าชีวิตของฉันก็เชิญนายตามสบายเลย”ผมพูดพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญให้ซาต้าออกไปตามทางของตัวเอง มันก็ทำหน้าเบะปากและยกมือขึ้นเสยผมหน้าที่ทองอร่ามของมันอย่างที่คิดว่าเท่ห์สุดๆของมันนั้นแหละ“ผมไม่ทิ้งนายไปไหนหรอกครับ…..เพราะนายสำคัญกับผมมากกว่าความเหงาของผมฃ^_^”ซาต้าเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจังมันทำสายตาลึกซึ้งใส่ผมจนผมรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมา“ไม่ต้องมองผมแบบนั้นหรอกครับนาย…ผมไม่แย่งนายไปจากนายหญิงที่แสนสวยของผมหรอกครับ^_^”ซาต้าว่าพลางยิ้มกว้างขึ้น ผมจริงสิผมลืมไปเลย“โทรศัพท์ฉันล่ะ?”ผมเอ่ยถามซาต้าไปมันก็เลิกทำหน้าตาทะเล้นและหันมามองหน้าผมอย่างไวและมันก็ยิ้มแหยๆส่งมาให้ผม