Masuk“คนไทย?”
“ก็ใช่น่ะสิ เห็นเป็นคนญี่ปุ่นเหรอไง ถามแปลกๆ!”ฉันพูดใส่อารมณ์กับเขาและพูดเสียงเข้มให้ดูน่ากลัว “ใครจ้างเธอมาให้ฆ่าฉัน”เขาไม่ได้ขยับตัวแต่เอ่ยถามฉันกลับมาด้วยความสงสัย “เอ่อออ”ฉันอ้ำๆอึ้งๆไม่รู้จะบอกว่าใคร เพราะไม่มีใครจ้างฉันให้มาฆ่าหมอนี่นี่น่า “มันจ้างเธอมาเท่าไหร่?”เขาถามฉันกลับมาพร้อมกับทำท่าทางขยับ ฉันจึงรัดคอเขาให้แน่นขึ้น “โอ้ว ฉันจะหายใจไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย!”เขาโวยวายใส่ฉัน “อย่าแตะตัวฉัน!!”ฉันก็โวยใส่เขาทันทีที่มือหนาของเขากำลังจะจับโดนแขนของฉัน และฉันก็ตกใจเผลอปล่อยมือจากคอเขาเพราะฉันกลัวการแตะเนื้อต้องตัวเป็นที่สุด พรึบ “แฮ่กๆๆๆเกือบตายหายใจไม่ออก”เขาบ่นขึ้นและเขาก็จับชายคอเสื้อของเขาให้คลายคอลงฉันจึงรีบใช้มือปัดตามแขนของตัวเองและถูไปมาจนรู้สึกเจ็บแสบ “อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ!”เขาหันมามองการกระทำของฉัน แต่ฉันก็ยังไม่เลิกใช้มือถูไปกับต้นแขนของตัวเอง ท่าทางที่ฉันเป็นมันแสดงออกได้เลยว่าฉันรังเกียจเขามาก “ผมไม่ได้สกปรกซกมกโสโครกขนาดนั้น!”เขาเดินมาประชิดร่างฉันอย่างไว ฉันก็ถอยหลังหนีเขาอย่างไวเช่นกันตามสัญชาตญาณ พรึบ “โอ้ย!”ฉันร้องออกมาด้วยความตกใจและเจ็บปวดเมื่อแผ่นหลังของฉันไปชนเข้ากับต้นไหม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังฉัน พรึบ “คุณไม่ต้องมาเฉไฉบอกมาเดี๋ยวนี้ว่าใครส่งคุณมา?”ชายร่างสูงเดินเข้ามาแนบชิดตัวฉันและเขาก็ใช้ท่อนแขนแข็งแรงกั้นทางไม่ให้ฉันออก ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาแต่ฉันก็มองเขาไม่เห็นหรอกเพราะที่ตรงนี้มันมืดมาก “อื้อออ”ฉันหลับตาปี๋เบนหน้าหลบปลายจมูกโด่งของเขาที่อีกนิดเดียวก็จะมาชนเข้ากับโครงแก้มของฉันอยู่แล้ว “สวย ใหญ่” “อะไรใหญ่ยะ?”ฉันเบือนหน้ากลับไปหาเขาและเอ่ยถามเขาด้วยความไม่พอใจและในจังหวะนั้นแก้มของฉันก็ไปชนเข้ากับจมูกที่โด่งเป็นสันของเขาเข้าอย่างจัง “ฟอดดดดดด” “นี่!นายหอมแก้มฉันเหรอ!!”ฉันโวยใส่เขาเสียงดังและรีบยื่นมือขึ้นมากุมแก้มตัวเอง “คุณหันแก้มของคุณเข้ามาหาจมูกของผมเองนะ”เขาพูดด้วยนำ้เสียงเฉยชา อีตาบ้า!!!ช่างกล้าพูด ฉันก็เขินเป็นน่ะเว้ย! “แล้วนายสูดดมทำไมเล่า!!!”ฉันโวยกลับก็อีตาบ้านี่มันสูดดมกลิ่นแก้มของฉันน่ะสิ “มีโอกาสก็ต้องกอบโกย”เขาตอบมาหน้าตาย ทำให้ฉันเริ่มที่จะโมโหเขาแล้วนะ “ไอ้คนฉวยโอกาส!” “ใครฉวยโอกาส ผมน่ะเหรอ?”เขาทำนำ้เสียงยียวนกวนประสาทฉัน ถึงฉันจะมองไม่เห็นหน้าเขาแต่ฉันก็มั่นใจว่าหน้าตาของอีตานี่ต้องเห่ยมากแน่ๆ “ก็ใช่ไง!” “ผมไม่ได้ฉวยโอกาสเลยนะ ก็คุณทำงานพลาดฆ่าผมไม่ได้อีกไม่นานคุณก็จะต้องโดนนายจ้างของคุณสั่งเก็บ”เขาบอกฉันมาและเริ่มขยับใบหน้าเข้ามาหาฉันใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้นจนฉันได้ยินเสียงหัวใจของฉัน ไม่สิมันสองเสียงนะ ตึกตักตึกๆ ตึกตักตึกตักๆ ฉันหลับตาปี๋เมื่อฉันรับรู้ได้ว่ามีปลายจมูกนุ่มมาคลอเคลียอยู่ตรงบริเวณซอกคอของฉัน “ถ้าคุณไม่บอกผมว่าใครจ้างคุณมา....ผมปล้ำคุณตรงนี้แน่!”เขากดเสียงต่ำกระซิบที่ข้างหูฉัน ทำให้ฉันขนลุกซู่แต่แปลกแฮะ ทำไมฉันไม่รู้สึกขยะแขยงหมอนี่กันนะ? “จะบอกหรือไม่บอก”เขากดเสียงต่ำถามฉันอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาเม้นริมฝีปากขบติ่งหูฉันเบาๆเพื่อตอกย้ำให้ฉันพูด ฉันจะพูดได้ยังไงเล่า!!ก็ไม่มีใครจ้างฉันมาทั้งนั้นแหละโว้ยยยยย!มันจะคาดคั้นอะไรฉันนักหนาวะ! “อื้อออออออ”ฉันร้องออกมาพลางเม้มริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะไอ้เห่ยนี้มันค่อยๆลากปลายจมูกของมันออกมาจากซอกคอฉันขึ้ยมาเรื่อยๆจนจะถึงริมฝีปากของฉันอยู่แล้ว “ห๊อมหอม” “ไอ้โรคจิต!!” “ปากก็ด่าว่าผมไอ้โรคจิตทำท่าเหมือนรังเกียจขยะแขยงผมแต่มือกลับไม่ขัดขืน?”เขาเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย มันจะไปพูดไกลๆจากปากฉันไม่ได้รึไงนะ จะจูบกันอยู่แล้วเนี่ย!! จะขัดขืนได้ยังไงล่ะ ก็มือของฉันถือส้นตึกซ่อนไว้ด้านหลังอยู่อ่ะ “ฉันไม่อยากโดนตัวนายต่างหากล่ะ!!!” “ทำไมกลัวไฟช็อตรึไง?” “หรือว่า.....กลัวหักห้ามใจเวลาอยู่ใกล้ๆผมไม่ได้^_^” “ช่างมั่นหน้าเนอะ”ฉันเอ่ยบอกเขาไปด้วยความหมั่นไส้ อยากจะเห็นหน้าตาของเขาจริงๆว่ามันจะหล่อวัวตายควายล้มรึเปล่า!!!! “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย ตกลงใครส่งคุณมา?”เขากดเสียงต่ำถามฉันอีกครั้ง ใครจะส่งฉันมาเล่า ฉันนี่แหละส่งตัวเองมา “ถ้าฉันบอกคุณ คุณจะให้อะไรฉัน”ฉันเอ่ยต่อลองเขาไป ยังไงๆวันนี้ฉันก็ต้องไปจากที่นี้ให้ได้ “ผมจะไม่ฆ่าคุณ”เขาตอบฉันมา ฉันก็หันไปมองหน้าเขาถึงจะไม่เห็นก็เถอะ “ฉันขอเงินคุณสักห้าแสนแล้วฉันจะไปให้ไกลจากคุณและคุณก็จะไม่ได้เจอฉันอีกเลย”ฉันบอกเขาไป เขาก็เงียบไป อะไรของอีตานี่ “เหอะมันจะไม่มากไปเหรอ?” “และที่สำคัญคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะมาต่อลองอะไรกับผม” “มีสิ..ไม่งั้นฉันยิงนายแน่!”ฉันพูดขึ้นอย่างคนที่เหนือกว่าและเอาปลายส้นตึกจ่อไปที่หน้าท้องแข็งๆของอีตาบ้านี้เพื่อเป็นการขู่หลอกเขาว่าฉันฆ่าเขาแน่ถ้าเขาไม่ให้สิ่งที่ฉันต้องการ“ค่ะ^_^”ฉันกับพ่อก็ยิ้มให้กันและเราทั้งหมดก็ทานข้าวกันไปพลางคุยกันไปอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะรอยยิ้มของทุกคนคือสิ่งที่สวยงามและมีความสุขทำให้ฉันรักที่นี้และอยากอยู่ที่นี้ไม่อยากไปไหนอีกแล้ว “ผมกับซาโยโกะจังขอตัวก่อนนะครับ”พี่ซาโนะเอ่ยขึ้นพลางลุกขึ้นยืนพร้อมกับจับมือของฉันฉันจึงเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ ทุกคนยังทานข้าวไม่เสร็จเลยนะ“ไปไหนคะ?”ฉันเอ่ยถามเขาไปอย่างสงสัยพลางหัรกลับไปมองพ่อของฉัน ท่านก็ยิ้มอบอุ่นและพยักหน้าอนุญาตให้ฉันไปกับซาโนะ“ไปเถอะครับนะ”“ไปเถอะลูก”พ่อมิซานว่าพลางยิ้มแย้มให้ฉัน ฉันก็พยักหน้าและยอมลุกขึ้นยืนและหันไปก้มหัวให้ทุกคนเพื่อขออนุญาตและเดินตามหลังของมิซาโนะออกมาจากที่ทานอาหารตรงนั้น เขาพาฉันเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงริมหาดทรายและเขาก็หยุดลงพร้อมกับหันมามองหน้าฉันและเอื้อมมือมาจับมือฉันอีกข้างไปกุมไว้“พี่คิดว่าพี่เอาเปรียบโยโกะจังมามากแล้ว…คือพี่อยากจะ”พี่ซาโนะเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงกระตุกๆ ฉันก็มองหน้าเขาอย่างสงสัยจนคิ้วของตัวเองจะผูกกันเป็นปมแล้ว เขาเอาเปรียบอะไรฉัน“คือพี่อยากจะขอซาโยโกะจังแต่งงานให้ถูกต้องตามกฎหมายและจดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตาม
“ปลายฟ้ามึง!!”เสียงตวาดอย่างดุดันของคนที่คุ้นหูฉันดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตกใจรีบลืมตาตื่นและผุดลุกขึ้นนั่งอย่างอัตโนมัติและถอดแว่นกันแดดออกทันทีเมื่อเห็นพี่ริวอุ้มเรียวซังลูกชายของเขาและวิ่งมาอย่างไวด้วยสีหน้าบูดบึ้งโดยที่เรียวซังยิ้มร่าหัวเราะออกมาอย่างสนุกเขาแหละมีบอดี้การ์ดถือร่มคันใหญ่วิ่งตามหลังพี่ริวแทบไม่ทัน“ว๊ายริว!!”พี่ปลายฟ้ารีบหันกลับไปมองพี่ริวและเอ่ยออกมาอย่างตกใจที่เห็นพี่ริวยืนอยู่ด้านหลังเธอ“เออ!ก็ผัวมึงไง!!”พี่ริวตะโกนเสียงดังใส่พี่ปลายฟ้าจนร่างของพี่ปลายฟ้าสั่นสะท้านฉันไม่รู้ว่าเธอโกรธหรือเธอกลัวกันแน่ ฉันรีบลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปคุยกับพี่ริวไม่ให้เขาโกรธพี่ปลายฟ้าแต่แล้วร่างของฉันก็โดนใครสักคนโอบเอวบางและกระชากเข้าหาตัวเขาอย่างไวพรึบ โพล๊ะ“พะพี่ซาโนะ!”ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองคนนั้นแต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนนั้นคือสามีสุดหล่อของฉันเอง เขาค่อยๆถอดแว่นกันแดดสีดำออกฉันก็พบกับแววตาดุๆของเขา วันนี้พี่ซาโนะหล่อจัง เขาไม่ได้ใส่เสื้อโชว์ท่อนบนเปลือยเปล่าที่เต็ทไปด้วยรอยสักโชว์ซิกแพคแน่ๆของเขาและเขาก็สวมกางเกงสีแดงขาสั้นแค่หัวเข่า หน้าอกของฉันเบียดเสียดอยู่กับแผงอกสุดแกร่งของเขาและหน้าผ
เกาะส่วนตัวของซานโต้คฤหาสน์….13:00น.ต้นฝน ซาโยโกะจัง….“เป็นยังไงบ้างคะดีขึ้นรึยังซาโยโกะจัง?”เสียงหวานๆของพี่ปลายฟ้าทำให้ฉันที่ลืมตาตื่นต้องหันไปมองเธอและยิ้มให้เธอ พยาบาลประจำตัวคนสวยของฉัน^_^“ดีขึ้นมาแล้วค่ะที่นี้วิวสวยจังเลยนะคะ^_^”ฉันเอ่ยขึ้นพร้อมกับหันมองออกไปนอกหน้าต่างบานกระจกใสเพื่อมองนำ้ทะเลสีฟ้าครามสวยสดใสพื้นทรายขาวละเอียดมองแล้วโคตรจะมีความสุขเลย“ท่านนายกกำลังเดินทางมานะคะน่าจะมาถึงตอนเย็นพอดี^_^”พี่ปลายฟ้าว่าพลางตรวจร่างกายของฉันอีกรอบ ตัวของฉันไม่มีบาดแผลอะไรนอกจากแผลที่คิของฉันที่ถูกฮามิโกะใช้มีดบาดคอของฉันดีที่เข้าไม่ลึกมากไม่งั้นฉันคงตายไปแล้วล่ะ ส่วนร่างกายของฉันก็ได้รับผลข้างเคียงของยาที่ฮามิโกะฉีดให้ฉันแค่นั้น ฉันรู้สึกเหมือนขาและแขนไม่ค่อยมีแรงคุณหมอบอกว่าน่าจะเป็นผลกระทบของยาน่ะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพักผ่อนเยอะๆร่างกายก็จะคืนสู่สภาพเดิมเอง“อาจารย์ภามเสียแล้วเหรอคะ?”ฉันเอ่ยถามพี่ปลายฟ้าไปอย่างสงสัยเพราะเมื่อเช้าฉันได้ยินซาโนะคุยกับพี่ริวเรื่องการตายของอาจารย์ภามและพ่อของเขารวมไปถึงฮามิโกะที่โดนตำรวจจับกุมตัวได้ที่สนามบินพร้อมกับมินตราสองคนนั้นกำลังจะหนีออกจาก
“คุณพ่อเอาตัวคุณโยโกะไปไว้ที่ไหน!!”เสียงของภามทั้งเสียงดังและดุดันจนทำให้คนรอบข้างพากันตกใจกับอารมณ์ที่โกรธรุนแรงของภาม ฮิเรนเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามองหน้าภาม “ผู้หญิงของแกหายแล้วมันมาเกี่ยวอะไรกับฉัน?”ฮิเรนเอ่ยถามภามไปพลางไหวไหลเล็กน้อยนั้นยิ่งทำให้ภามมั่นใจ ว่าฮิเรนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน พรึบ “ผมยอมคุณพ่อมาหลายเรื่องแต่เรื่องนี้ผมจะไม่ยอม!!”ภามเดินไปตบมือทั้งสองข้างลงไปบนโต๊ะไม่ตรงหน้าของฮิเรนทำให้ฮิเรนไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ภามกล้าตวาดเสียงใส่เขา “แกต้องการอีนางนั้นมากกว่าตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ของแกงั้นเหรอ?”ฮิเรนลุกขึ้นและตบมือลงไปบนโต๊ะเสียงดังไม่แพ้ของภามและเอ่ยภามไป ทั้งคู่จ้องหน้ากันแววตาของภามสั่นไหวซึ่งผิดกับแววตาของฮิเรนที่มีทั้งความโลภและความโกรธมากมายอยู่ในนั้น “ใช่!”ภามตอบฮิเรนไปด้วยนำ้เสียงหนักแน่น “แกมันโง่!!”ฮิเรนว่าภามแววตาของเขาจ้องมองไปที่ภามอย่างผิดหวังและโกรธแค้น ทำไมเด็กคนนี้ถึงไม่ได้ความเลวจากเขาไปอย่างเยอะๆ “พ่อไม่เคยมีความรัก..พ่อไม่มีวันเข้าใจ”ภามเอ่ยบอกผู้เป็นพ่อที่เขาทั้งรักและเคารพอย่างแผ่วเบา เขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้วในวันนี้ “ใช่เพราะฉัน
บ้านพักของ ฮามิโกะจังภาคใต้ ของประเทศญี่ปุ่น…ต้นฝน ซาโยโกะจัง…“หึ!”เสียงแค่นหัวเราะอย่างสะใจของฮามิโกะดังขึ้นหลังจากที่เธอหันไปมองเวลาของนาฬิการะเบิดที่ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่สิบนาที เธอค่อยๆเดินเข้ามาหาร่างของฉันที่นอนมองเธอด้วยลมหายใจรวยรินเพราะตอนนี้ร่่งกายและระบบประสาทของฉันไม่ทำงานไม่สั่งการอะไรแล้ว“ฉันคงต้องไปแล้วนะ…เธอคงจะต้องอยู่คนเดียว^_^”“ฮ่ะๆๆๆๆ”ฮามิโกะหัวเราะเสียงดังสนั่นราวกับคนที่เสียสติ ฉันจึงค่อยๆหลับตาลงและฟังเสียงรองเท้าของเธอกระทบกับพื้นเสียงรองเท้าของเธอดังไกลออกไปและในโสตประสาทของฉันก็ได้ยินแค่เพียงเสียงเดินถอยหลังของนาฬิกาดิจิตอลนี้ ฉันคงจะตายจริงๆแล้วสินะ‘ลาก่อนค่ะทุกคน’พรึบ“นายหญิงครับ”“นายหญิงซาโยโกะ!”เสียงเรียกฉันพร้อมกับเเรงเขย่าร่างของฉันอย่างเบาๆจึงทำให้ฉันค่อยๆลืมตามองไปที่บุคคลที่ฉันไม่เคยเห็น เขาสวมชุดคล้ายพวกนินจาเสื้อคลุมแขนยาวกางเกงขายาวและผ้าโพกหัวนั้นสีดำสนิทฉันเห็นได้เพียงแค่แววตาของเขา“รีบไปจากที่นี้เถอะครับผมมาช่วย”เขาว่าพลางไม่รอคำอนุญาตจากฉัน เขารีบอุ้มฉันขึ้นในท่าเจ้าหญิง และรีบพาฉันเดินออกมาจากห้องนี้โดยที่การเคลื่อนไหวของเขาทำให้ฉัน
(เขตภาคใต้ครับอยู่แถบชานเมืองที่เราเจอรถคอนเทนเนอร์จอดอยู่ขับรถตรงไปเรื่อยๆอีกห้ากิโลเมตรจะเจอกับจุดที่จับสัญญาณโทรศัพท์ของนายหญิงได้ครับ)“ขอบใจมาก”“รอคำสั่งจากฉัน…ฉันจะไปที่นั้นก่อน”ผมเอ่ยบอกปลายสายอย่างรัวเร็วและกดวางสายซาต้าทันที และรีบเดินไปขึ้นรถของผมอย่างไว“เดี๋ยวฉันขับเองนายไปนั่งเถอะ”ผมเอ่ยสั่งคิงะพลางทำมือบอกเขาโดยที่ผมเปิดประตูรถสปอร์ตฝั่งคนขับแล้ว คิวะพยักหน้าเข้าใจและเดินไปขึ้นฝั่งคนนั่งเมื่อเขาขึ้นรถเสร็จผมก็ใส่เกียร์และเหยียบคันเร่งอย่างเร็วเพื่อไปที่นั้นอย่างไว ตลอดเส้นทางที่ผมขับไปมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนเหตุการณ์เดจาวูคือเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว“มีอะไรรึเปล่าครับนาย?”คิวะเอ่ยถามผมด้วยนำ้เสียงเป็นห่วง เขาคงจะแปลกใจที่ผมลดเหยียบคันเร่งลง ผมหันไปมองหน้าคิวะ“เส้นทางนี้เหมือนฉันเคยมา”ผมบอกคิวะไปและพยายามนึกคิดให้ออกว่าผมเคยมาได้ยังไง เพราะที่ภาคใต้นี่ไม่ใช่เขตของซานโต้และโกมะแต่เป็นของชิโร่ ทาโมโต้ใช่แล้ว ผมเคยมาที่นี้เมื่อปีที่แล้ว “ฮามิโกะเป็นลูกสาวของชิโร่!!”ผมเบิกตาโตขึ้นและพูดออกมาอย่างเพิ่งนึกออกใช่ ผมลืมเธอคนนี้ไปได้ยังไง “เช็กให้ฉันหน่อยว่าบ้านของฮามิโกะ
![เจ้าเวหา [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






