“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”
“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา
“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ
“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี
“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง
“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน
“เย้!”
“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่งของเขาไว้แน่น
“ฉันไม่มีทางปล่อยให้ลูกเมียตกลงไปหรอกน่า รักนะครับคุณหนูใบพลู” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อน ชายหนุ่มได้วางเธอลงไปยืนที่พื้น จากนั้นริมฝีปากร้อนฉ่าได้ทาบลงไปยังเรียวปากอิ่มน้ำ เขากดจูบเธออย่างดูดดื่มและตั้งอกตั้งใจ ราวกับว่าโหยหารสจูบที่แสนหวานมานานหลายปี
“ในที่สุด รักวุ่นๆ ของนายออสตินก็ลงตัวกับเขาสักที” เสียงทุ้มต่ำของเอเดนดังขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของทั้งสองครอบครัว
“ทุกคน!”
ใบพลูถึงกับตกใจเขินอาย แต่ทว่าหญิงสาวกลับซบใบหน้าเข้าหาอกแกร่งของชายตัวโต เมื่อเธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ท้ายที่สุดเธอก็ยินดีจะฝากชีวิตเอาไว้กับนายออสติน
เวลาผ่านไปสามปี ชีวิตคู่ของใบพลูกับออสตินสุดแสนจะสมบูรณ์แบบ เมื่อพวกเขาทั้งสองได้ลูกสาว แน่นอนว่าผู้เป็นบิดาทั้งรักทั้งหลงหนูน้อย เขากลับบ้านตรงเวลา ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง จากชายหนุ่มที่เคยเอาแต่ใจ ในเวลานี้เขากลับกลายเป็นคนละคนคอยเอาอกเอาใจภรรยากับลูกสาวไม่เว้นวัน
ส่วนเพื่อนๆ ของเขาครามกับเตวิชก็แต่งงานกับนัตตี้และวาวาไปแล้วเช่นกัน ส่วนคู่ของมินต์กับเดย์นั้น พวกเขาได้ย้ายไปตั้งรกรากที่ต่างประเทศเป็นการถาวร มิ้นต์ได้ลูกชายเดลต้าอายุไล่เลี่ยกับลูกสาวของออสติน
“คุณพ่อขา...” น้ำเสียงหวานของหนูน้อยดังขึ้น ขณะที่ออสตินกำลังตั้งอกตั้งใจ จิ้มนิ้วลงไปที่แป้นพิมพ์เป็นระวิง ภายในห้องทำงานของท่านประธานหนุ่ม
“อ้าว! ลูกสาวพ่อกลับมาแล้วเหรอครับ” ชายหนุ่มผละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ พลางหันไปทางต้นเสียง พร้อมกับอ้าแขนออกกว้างรับลูกสาวเข้ามานั่งที่ตักของเขา
“คิดถึงจัง จุ๊บ!” ออสตินหอมแก้มลูกสาวฟอดใหญ่ พลอยทำให้ใบพลูฉีกยิ้มกว้างกับท่าทีของสองพ่อลูก ที่ดูติดกันแจเลยทีเดียว
“คุณพ่อทำงานเสร็จหรือยังคะ” น้ำเสียงหวานของภรรยาดังขึ้น ซึ่งทำให้ออสติน รีบขยับตัวไปปิดคอมพิวเตอร์ทันที
“เสร็จแล้วครับ ว่าแต่คุณแม่เถอะ มีอะไรจะเซอร์ไพร์สผม บอกได้หรือยังครับ” สรรพนามของคนทั้งคู่ที่เรียกกันได้เปลี่ยนไป ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจสร้างครอบครัวด้วยกัน
“บอกตอนนี้ก็ไม่เซอร์ไพร์สสิค่ะ จริงไหมออลลี่” หญิงสาวพูดขึ้นพลางหันไปถามลูกสาวที่นั่งเล่นกระดุมเสื้อของผู้เป็นบิดา
“ใช่ค่ะคุณแม่”
“ลูกสาวพ่อ ทำไมวันนี้ เข้าข้างคุณแม่เป็นปี่เป็นขลุ่ยน๊า... ไปเถอะเรากลับบ้านกันดีกว่า” สามคนพ่อแม่ลูก เดินออกมาจากบริษัทท่ามกลางสายตาของเหล่าพนักงาน ที่อิจฉาตาร้อนพวกเขาสองคน ทั้งใบพลูและออสตินนั้นต่างก็สวยหล่อด้วยกันทั้งคู่ แถมลูกสาวยังน่ารัก เสียจนทำให้ออสตินต้องไว้หนวด
เมื่อรถยนต์คันหรู แล่นเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน ที่ออสตินได้ออกแบบให้เป็นเรือนหอของเขา จนใบพลูรู้สึกประทับใจ ในสิ่งที่ชายหนุ่มได้ทำเซอร์ไพร์สให้กับเธอในวันแต่งงาน จากนั้นคนทั้งคู่ก็ได้ย้ายมาอยู่ที่นี่เป็นการถาวร เพื่อสร้างครอบครัวในแบบที่พวกเขาต้องการ แน่นอนว่าออสตินกับใบพลูต่างก็มีความสุข ในแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อน จากที่เคยทะเลาะกัน อยากเขาชนะกัน ท้ายที่สุดแล้วกลับรักกันเสียจนไม่มีสิ่งใดมาบั่นทอนความสัมพันธ์ของเขาและเธอได้
“คุณพ่อ คุณลูกไปอาบน้ำอาบท่าให้ตัวหอม แล้วค่อยลงมารับประทานมื้อเย็นนะคะ เดี๋ยวแม่จะเตรียมไว้รอ”
“ให้ผมช่วยไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ใบพลูจัดการเอง”
“ขอบคุณนะครับ จุ๊บ!” ชายหนุ่มจุมพิตลงไปที่พวงแก้มของภรรยาฟอดใหญ่ ขณะที่ลำแขนเขายังคงกระแตงอุ้มลูกสาวตัวน้อยเอาไว้ด้วยความรักใคร่เอ็นดูสุดหัวใจ
“คุณพ่อขา...คุณแม่ขา จุ๊บออลลี่ด้วยสิค่ะ” สองสามีภรรยาส่งยิ้มให้กัน เมื่อเห็นท่าทีออดอ้อนของลูกสาว ก่อนที่พวกเขาจะบรรจงจุ๊บลงไปที่พวงแก้มใสของหนูน้อยคนละข้าง ท่ามกลางความรู้สึกที่แสนจะอบอุ่นในหัวใจ
หลังจากรับประทานมื้อเย็นออสตินได้พาลูกสาวเข้านอน เขาเล่านิทานเล่มโปรดให้ออลลี่ฟัง จนเธอนั้นหลับปุ๋ย ชายหนุ่มห่มผ้าให้กับลูกสาว ก่อนจะจุมพิตลงไปที่หน้าผากของหนูน้อยด้วยความทะนุถนอม
“ฝันดีนะครับลูกสาวพ่อ” ออสตินเดินออกมาจากห้องนอนของลูกสาว ก่อนจะค่อยๆ เปิดประตูเข้ามาภายในห้องของเขากับภรรยา
ซึ่งพบว่าใบพลูกำลังนั่งยิ้มแฉ่ง ส่งตาหวานมาให้เขา พร้อมกับยื่นก่องของขวัญผูกโบสีชมพูมาให้ ซึ่งชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วดกหน้าเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะวันนี้ก็ไม่ได้เป็นวันพิเศษอะไรทำไมคนตัวเล็กถึงมีของขวัญให้กับเขานะ“ผมลืมหรือเปล่า วันนี้เป็นวันพิเศษ เนื่องในโอกาสอะไร ขอโทษนะครับคุณแม่ถ้าผมเผลอเลอลืมวันสำคัญของเราไปบ้าง” ชายหนุ่มฉายแววตาออกมาด้วยท่าทีที่รู้สึกผิด เมื่อเขากำลังคิดว่าตัวเองแย่เกินไป ที่ลืมวันสำคัญของเขาและเธอได้ลงคอ“ไม่เกี่ยวกับวันพิเศษหรอกค่ะ มันคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่ใบพลูบอกกับคุณเอาไว้ในตอนเย็นยังไงละค่ะ” หญิงสาวยังคงฉีกยิ้มแป้นให้กับผู้เป็นสามี เมื่อเธอนั้นเชื่อว่าเขาต้องดีใจกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะเซอร์ไพร์สอย่างแน่นอนออสตินค่อยๆ แกะโบออกแล้วเปิดกล่อง ก่อนจะพบว่าของที่อยู่ในกล่องนั้น มันคือสิ่งที่มีค่ากับเขาแค่ไหน หัวใจของชายหนุ่มเต้นแรงขึ้น น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มปีติยินดีไหลออกมาจากดวงตาคม เขาไม่อายที่จะหลั่งน้ำตาออกมาแบบนี้ เมื่อพบว่าที่ตรวจครรภ์นั้นขึ้นสองขีด เขากำลังจะมีลูกคนที่สอง กับผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจ“ขอบคุณนะใบพลู ขอบคุณจริงๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่วัน
“มิ้นต์กับเดย์ต่างหาก”“จริงเหรอ...” ใบพลูเอ่ยถามชายหนุ่มออกมาราวกับว่าเธอไม่เชื่อใจเขา“ฉันจะโกหกเธอทำไม ที่สำคัญฉันกับมิ้นต์เราไม่เคยมีอะไรกัน” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปสบตาคนตัวเล็กอีกครั้ง เพื่อยืนยันในสิ่งที่เขาพูดกับเธอ“ฉันยังเชื่อใจนายได้อยู่ใช่ไหม” ออสตินส่งยิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาว แววตาอ้อนอ้อนของใบพลูกำลังจะทำให้คนตัวโตหัวใจละลาย ก่อนที่เขาจะหยิบรองเท้าคู่สวยออกมาจากถุงกระดาษ แน่นอนชายหนุ่มออกแบบมาให้เธอเป็นพิเศษ มันสวยสะดุดตา และเธอก็สวมมันได้พอดี“ฉันจะเป็นรองเท้าให้กับเธอ ฉันอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่ลูกของเรา เด็กคนนี้ เกิดจากความรักไม่ใช่ความใคร่ เกิดจากความตั้งใจที่ฉันอยากได้ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ฉันรักเธอได้ยินไหมว่าฉันรักเธอ เราแต่งงานกันนะใบพลู” ถ้อยคำที่ชายหนุ่มถักทอเรียงร้อยออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ กำลังส่งผลให้ใบพลูหวั่นไหวหัวใจเต้นแรง“ฉันเคยบอกเหรอว่าจะไม่แต่งงานกับนาย” ดวงหน้ารูปไข่ดูสวยได้รูปเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเธอมั่นใจว่าออสตินไม่มีทางทำให้เธอผิดหวังอย่างแน่นอน“เย้!”“เฮ้ยออสติน! ปล่อยฉันลงได้แล้ว ฉันกลัวตก” หญิงสาวถึงกับรีบเอาเรียวแขนคล้องลำคอแกร่ง
“ฮึก! ฮื้อ!” ใบพลูพยายามเก็บความรู้สึกน้อยใจเอาไว้สุดกำลัง แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ทนไม่ไหวปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย“หยุดร้องก่อน เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน หนีมาทำไม เธอไม่เชื่อใจฉันเลยรึไงใบพลู” ชายหนุ่มโน้มตัวลงเข้าหาหญิงสาว เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามาซบกับร่างกายกำยำ พลางเอามือปาดน้ำตาออกจากแก้มของใบพลูอย่างเบามือ“นายต้องการอะไรจากฉันอีก”“ฉันต้องการครอบครัว ต้องการเธอกับลูก”“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันท้อง” ใบพลูเริ่มเป็นกังวล สีหน้าของหญิงสาวดูเสร้าหม่นแทนที่จะดีใจ เมื่อเธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ออสตินจะบริหารเวลายังไง เขาจะรักลูกของเธอเท่าลูกของมิ้นต์ไหมนั่นคือคำถามที่ใบพลูเกลียดที่สุด เพราะเธอไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใคร ไม่อยากให้ลูกต้องกลายเป็นคนมีปมด้อย“ไหนดูซิ นอกจากขี้แยแล้ว ยังชอบมโนไปเองด้วยใช่ไหมเนี่ย หืม” ออสตินอ้อมไปนั่งคุกเข่าลงที่พื้นตรงหน้าหญิงสาว เขารั้งมือของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบดวงตากลมโต“นายจะทำอะไร ปล่อย! ฉันจะเข้าบ้าน นายกลับไปซะ ฉันไม่อยากเห็นหน้านาย” หญิงสาวพยายามดึงมือกลับ แต่ทว่าคงไม่เป็นผล เพราะออสตินตั้งใจใส่เกีย
“ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องปล่อยให้ออสตินเป็นคนสะสางเรื่องนี้เอง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะบานปลายมากไปกว่านี้”“ป่านนี้นายกล้า คงพาออสตินไปถึงบ้านร้างแล้วมั้ง ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ปล่อยให้ออสตินจัดการเองก็แล้วกัน”“ไม่ต้องเอาให้ถึงตาย ฉันยังไม่อยากได้ลูกเขยเป็นฆาตกร” “เชื่อเถอะน่า ออสตินคงมีวิธีที่ทำให้เดย์หายแค้น” เอเดนพูดพลางยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ขณะที่กวินเองก็อดที่จะดื่มไม่ได้เช่นกัน เมื่อเขานั้นเป็นกังวลใจ เพราะห่วงใยความรู้สึกของใบพลูณ บ้านร้างชานเมือง ซึ่งเป็นอาณาจักรของเอเดน ที่ส่วนบุคคลห่างไกลชุมชน จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่เอาไว้สำหรับเชือดศัตรู แน่นอนว่าพลอยชมพูไม่เคยรู้มาก่อน นอกจากออสติน กวินและลูกน้องคนสนิทเท่านั้น“มึงทำอะไรกับใบพลูบ้าง มึงทำอะไรเมียกู! กูถามมึงต้องตอบ มึงไม่มีสิทธิ์เงียบ” ออสตินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ดวงตาคมจับจ้องมองไปที่ใบหน้าของเดย์อย่างสมเพช เมื่อชายหนุ่มถูกมัดขึงตึงเอาไว้ราวกับนักโทษ“ถุย!”“เชี้ยเอ้ย!”ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ! ออสตินปล่อยหมัดไปที่ใบหน้าของเดย์รัวๆ จนทำให้มิ้นต์ ที่ถูกมัดไว้กับเก้าทนไม่ไหว เมื่อพ่อของลูกกำลังเจ็บปวดทรมานใจ แม้เธอจะรู
“เราจบกันแค่นี้ ถือเสียว่าที่ผ่านมา ฉันได้ชดใช้ให้กับนายจนสิ้นแล้ว”“ใบพลู! ฟังฉันอธิบายก่อนสิ!” หญิงสาวคว้ากระเป๋าถือได้ เธอรีบวิ่งออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นคือที่แห่งหนใด“เอะอะโวยวายทำไม มีอะไรเหรอออสติ” น้ำเสียงหวานดังขึ้น แต่ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกรังเกียจ แม้แต่เสียงที่หล่อนเปล่งออกมาเขายังไม่อยากได้ยินด้วยซ้ำ“โธ่เว้ย!” ออสตินรู้สึกโมโหตัวเอง เมื่อเขาตามใบพลูออกไปไม่ทัน เพราะมัวแต่หาชุดมาสวมใส่ ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนโทรไปก็ปิดเครื่อง มันเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของเขากันแน่ รักกันอยู่ดีๆ กลับมีเรื่องบ้าๆ คล้ายกัน ในเวลาไล่เลี่ยกัน แสดงว่าต้องมีความไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นนอนภาพบรรยากาศในยามเช้าวิวทิวทัศน์ตรงหน้าที่สวยงาม บ่งบอกให้รู้ว่าทัศนียภาพมีส่วนเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของมนุษย์ไม่น้อย เพราะป่าเขาลำเนาไพร ไม้ดอกไม้ประดับพวกนั้นทำให้ใบพลูดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าวันแรกๆ ที่เธอเดินทางมาถึงที่นี่ แม้ดวงตาที่เคยฉายแววเป็นประกายยังคงเศร้าหม่น แพทย์หญิงใบบัวก็ยังคงเชื่อว่าอีกไม่นานหลานสาวของเธอจะต้องดีขึ้น“ผลตรวจออกมาแล้วนะ” หญิงสาวรับฟังด้วยหัวใจที่เต้นแรง แต
ภายในห้องนอนของเดย์ บนเตียงขนาดคิงไซซ์ได้มีหญิงสาวร่างอรชรนอนหลับใหล เรือนกายของเธอมีเพียงชุดชั้นในตัวจิ๋วห่อหุ้มกายเอาไว้ หลังจากที่มิ้นต์ได้จัดการถอดชุดของเธอออกจนสิ้น สายตาคมจับจ้องไปที่ใบหน้ารูปไข่ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นอนลงไปข้างกายของเธอ ซึ่งเนื้อตัวของเดย์มีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวเอาไว้ ขณะที่มิ้นต์เป็นตากล้องคอยถ่ายภาพจัดฉากให้ดูสมจริง“นี่เดย์! ทำยังกับไม่เคย” มิ้นต์ถึงกับโวยวายออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มโอบใบพลูด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ “เคยน่ะเคย แต่ทุกมันยินยอมพร้อมใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้สักหน่อย”“มันก็เหมือนกันแหละน่า ตุ๊กตายางนายก็เคยเอามาแล้วไม่ใช่เหรอ”“หุบปาก!” “ก็เร็วหน่อยสิ เดี๋ยวออสตินก็กลับมาแล้ว เข้าในผ้าห่มทำเหมือนคนกำลังเล่นบทเลิฟซีนอะ” มิ้นต์ออกคำสั่งออกไป จนทำให้เดย์ชักสีหน้าใส่หล่อนอย่างไม่ค่อยพอใจ“เอาภาพนิ่งนะ”“รู้แล้วน่า ใครจะบ้าถ่ายวิดีโอ ยัยใบพลูนอนนิ่งเป็นขอนไม้อยู่แบบนั้น” มิ้นต์เริ่มขึ้นเสียงใส่ชายหนุ่ม ก่อนที่หล่อนจะพยายามหามุมกล้องให้ได้ภาพที่ดูเหมือนจริงที่สุด“พอแล้ว แค่นี้ก็ทำให้ออสตินไม่อยากแต่งงานกับใบพลูแล้วแหละ”“แ