....อพาร์ทเม้น S....
อาโปหอบสังขารโซซัดโซเซของตนเองขึ้นบันไดมายังห้องพัก ก็พี่ตฤณนะสิบอกจะพาไปทานข้าวแต่ไม่บอกว่าจะไปต่อ วันนี้เขายิ่งอารมณ์นอยด์ๆ อยู่ด้วยเลยกระดกเหล้าไปพอสมควร
"อ๊ะ! เห้ย!"
เสื้อของอาโปถูกจับคอเสื้อหิ้วลากโดยคนบางคน ส่งผลให้ร่างซึ่งบางกว่าของเขาซึ่งเพียงแค่ยืนยังโงนเงนปลิวตามแรงลากด้วยความง่ายดาย
"ไอ่เชี้ย! ใครวะ ไอ่ห่าที่ไหนวะ" อาโปดิ้นแหกปากโวยวายเสียงดัง
'เห้ย! เมาก็ไปนอนจะโวยวายหาพ่องมึงเหรอ!' เสียงผู้ที่พักอยู่ห้องในตึกตะโกนออกมาด้วยความรำคาญ
"เปิดห้อง!" เสียงเข้มสั่ง
"...." อาโปชะงักหยุดดิ้นด้วยคุ้นกับเสียงนั้นดี
"จะเปิดดีๆ หรือจะให้กูพังประตูห้องมึง" ไม่พูดเปล่า ขายาวของอีกฝ่ายยังตั้งท่ายกขึ้นพร้อมออกแรงเหวี่ยงไปยังประตูห้องของตนเอง
แกร๊ก แอ๊ดด~
อาโปไม่มีทางเลือกเขาควานกุญแจออกมาเปิดห้องอย่างรวดเร็ว ไม่อยากนั้นไอ้บ้าที่รอไม่เป็นคนนี้คงได้พังประตูห้องตามที่มันพูดจริงๆ คนรวยนี่แม่งมันดีจริงๆ จะพังหรือทำลายอะไรก็ไม่ต้องคิดมาก
"มึงมีอะไรกับกู" อาโปถามขึ้นเมื่อทั้งสองคนเข้ามายืนอยู่ในห้องของตนเองแล้ว
"กูโทรหามึงตั้งหลายสายตามึงมันบอดเหรอ! หรือว่าหูมึงหนวก! หรือว่ากำลังฟัดกับไอ้นั่นมึงถึงเมินเบอร์กู!" ฮิลล์ตะคอกถาม
"มึงหึง?"
"กูเนี่ยนะหึง อย่าสำคัญตัวผิด"
"ถ้าไม่หึงจะมาสนใจทำไม ในเมื่อเราสองคนผูกพันกันแค่ร่างกาย กูจะไปฟัดหรือไปนอนกับใครมันก็เรื่องของกู" ต้องเป็นเพราะฤทธิ์ของเหล้าแน่ๆ ที่ทำให้เขากล้าจะพูดแบบนี้ ปกติมีแต่มันต่างหากที่ชอบแบบนี้กับเขา
"ก็เข้าใจนะว่ามึงมันโง่ แต่ไม่คิดว่ามึงจะไม่มีสมองขนาดนี้" ไอ้นี่ชอบวอนหาเรื่องเจ็บตัวจริงๆ
"อื้ออออ" ฮิลล์กระชากใบหน้าของอาโปเข้ามาประกบกระแทกริมฝีปากลงไปจนได้ยินเสียงฟันกระทบกันดังกึก เขาจาบจ้วงและรุนแรงจนกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วทั้งโพลงปากของทั้งสองฝ่าย
"อ๊าาาาส์" ริมฝีปากบวมเจ่อส่งเสียงเมื่อใบหน้าคมซุกไซร้ลงบนซอกคอขาว ไอ้หมาบ้าฮิลล์รู้จุดอ่อนจุดตายของเขาที่สุด ริมฝีปากร้อนระดมจูบซอกไซร้ไปตามจุดชีพจร กรงนิ้วของอีกฝ่ายจิกลงบนเสื้อของเขาแน่น มุมปากยกแสยะยิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากร่างในอ้อมแขน เขายกใบหน้าขึ้นประจบจูบกับมันอีกครั้ง นิ้วที่จิกลงบนเสื้อเขาจนแทบขาดถูกปล่อยออกและยกขึ้นมาคล้องลำคอแกร่งของเขาก่อนมันจะส่งจุมพิตร้อนแรงสู้กลับ จากประสบการณ์ที่ผ่านมากับอีกฝ่ายเขารู้ดีว่าตอนนี้มันกำลังต้องการเขาถึงที่สุด
"บอกกูมาว่ามึงไปนอนกับไอ้นั่นมาหรือยัง" ฮิลล์ผละออกจากรสจูบร้อนแรงก้มกระซิบถาม
"อ๊ะ!" อาโปชะงักไป เขากำลังเครื่องติดตอนนี้เขาต้องการมัน มันจะมาอยากรู้อะไรตอนนี้ก่อน
"พูด!" ฮิลล์ปลดกระดุมเสื้อออก คลายเนกไทและถอดเสื้อทิ้งลงกับพื้นห้อง ท่าทางหมอนี่เซ็กซี่เป็นบ้า ผมยุ่งๆ ปากแดงบวมเจ่อมีเลือดซึม และตาฉ่ำๆ ที่ทอดมองปรากฏแววของความเสียดายอย่างเห็นได้ชัดมันทำให้เขาแทบคลั่ง ร่างกายส่วนล่างเริ่มปวดหนึบ
"ทำไมเหรอ มึงหึงเหรอ" อาโปกรีดนิ้วลงบนแผงอกเปลือยเปล่าของอีกฝ่าย
"บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าสำคัญตัวผิด มึงลืมแล้วเหรอว่าในระหว่างที่มึงอยู่กับกู มึงก็ต้องมีแค่กู กูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร!" ฮิลล์รวบมือที่กำลังวุ่นวายกับร่างกายของเขาก่อนกระชากร่างของมันเข้ามาชิดตัวเอง มืออีกข้างเอื้อมไปบีบคลึงตูดแน่นหนัดของมัน
"กูถามจริงเหอะ มึงจะอยากมีกูแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะ" นัยน์ตาอำพันคู่สวยช้อนมองด้วยแววตาสั่นระริก
"ก็จนกว่ากูจะเบื่อ" ฮิลล์ก้มลงจะมอบจุมพิตอีกครั้ง
"เฮอะ! เร็วๆ นี้มึงก็คงเบื่อกูแล้วสินะ แล้วก็จะหันไปคั่วคนใหม่" อาโปสะบัดหน้าหนีก่อนแค่นหัวเราะสมเพชตัวเอง นี่เขาเป็นอะไรไปทำไงถึงได้ทำตัวงี่เง่าแบบนี้
"มึงจะมางอนอะไรตอนนี้ อย่ามาทำตัวน่ารำคาญ!" ฮิลล์กระชากอีกฝ่ายประจบจูบอย่างหัวเสีย คนกำลังมีอารมณ์ไอ้หมอนี่จะมาทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญอะไรตอนนี้ รีบมาทำให้มันจบๆ เถอะก่อนที่ตนเองจะหมดอารมณ์
"แฮ่กๆ กูอยากรู้ถ้ากูอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ มึงจะให้สถานะกูมากกว่านี้ได้ไหม" อาโปหาจังหวะหายใจก่อนจะลองถามในสิ่งที่เขาเพียงแค่สมมติขึ้นมา วันนี้แค่เห็นมันไปกับคนอื่นใจเขารู้สึกโหวงๆ เจ็บแปลบๆ
"ไม่!" ตอบเสร็จใบหน้าคมก็ก้มลงประกบปากอีกครั้ง
พลั่ก! ผลั๊วะ!
อาโปสะบัดออกจากจุมพิตป่าเถื่อนและแสนเอาแต่ใจนั้น เขาผลักและเหวี่ยงหมัดซัดใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างแรง ใบหน้าคมของฮิลล์ถูกแรงหมัดปะทะจนหน้าหัน แว่นตาถูกแรงปะทะจนแตกและหล่นกระเด็นออกจากใบหน้าหล่อเหลา
"กูอยากเกลียดมึงมากเลยนะฮิลล์ มึงช่วยเห็นค่าความรู้สึกกูหน่อยได้ไหม" มันตอบโดยไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้สติตนเองหลุดจนต่อยมัน
"ถ้าอย่างนั้นก็เกลียดกูเลยสิ" ฮิลล์ยกมุมปากแค่นยิ้มเยาะ ชายหนุ่มยกมือขึ้นเช็ดมุมปากที่มีเลือดไหลซึม
"กูอยากทำมากเลยเว้ย แต่มึงรู้ไหม ยิ่งกูพยายามมากเท่าไหร่ มันก็มีแต่กูที่เจ็บเอง" อาโปที่หันหน้าไปอีกทางด้วยเพราะไม่อยากมองหน้ามัน หันกลับมาปะทะกับอีกฝ่าย
"เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วนี่ว่าแค่ทางกาย มึงจะมาอยากมีตัวตนอะไรตอนนี้วะ!" ฮิลล์หมดอารมณ์จะทำต่อเขาหันหลังไปคว้าเสื้อที่หล่นอยู่มาสวมร่างตนเองอย่างหัวเสีย
โครม!!
เสียงกระแทกของประตูดังขึ้นเมื่อร่างสูงนั้นได้หายออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของห้องทรุดกองกับพื้นห้องสะอื้นไห้ตัวโยน
จะเกลียดมันได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้กูรักมึงเต็มหัวใจ
ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมนอนเหม่ออยู่อย่างนั้น แต่แล้วเสียงข้อความแจ้งเตือนก็ดังขึ้นติ๊ง!ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูทันที และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ใครอื่นนอกจากริว: “ว่างไหม?”หัวใจผมกระตุกวูบแปลก ๆ ก่อนจะรีบพิมพ์ตอบกลับไปฝุ่น: “มีอะไร?”รออยู่ครู่หนึ่ง ข้อความถัดไปก็เด้งขึ้นมาริว: “มาหาหน่อย”ผมนิ่วหน้า อะไรของเขาวะ?ฝุ่น: “นายอยู่บ้าน?”ริว: “หน้าห้องนาย”หน้าห้อง?!ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงทันที กวาดตามองนาฬิกา…จะเที่ยงคืนแล้วหมอนี่มันคิดอะไรอยู่ถึงมาโผล่แถวนี้เวลานี้วะ?ผมหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนจะเดินออกไปตามที่เขาบอกผมเปิดประตูออกไปก็เจอเขายืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ ใบหน้านิ่งเฉยเหมือนทุกครั้ง แต่มีบางอย่างในแววตาที่ดูไม่เหมือนเดิม“มาทำไม?” ผมถามพลางกอดอก“คุยกันหน่อย”“เรื่องอะไร?”“เรื่องของเรา”คำว่า ‘เรา’ ทำให้ผมชะงักไปนิดหน่อย“ไม่มีอะไรให้คุย” ผมบอกเสียงเรียบ “ฉันพูดไปหมดแล้ว”ริวไม่ได้ตอบอะไรในทันที เขาแค่ยกบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้แล้วจุดไฟ สูดมันเข้าปอดก่อนจะพ่นควันออกมาช้า ๆ“…ฉันไม่ชอบความไม่แน่นอน” เขาพูดขึ้นในที่สุด“หืม?”“ฉันไม่ชอบอะไรที่คลุมเครือ” เขาเอียงหน้ามองผม “แล้วฉัน
ผมกอดอกมองสองพี่น้องเถียงกันอย่างไม่รู้จะทำยังไง เรื่องระหว่างผมกับริวมันซับซ้อนเกินกว่าจะอธิบายให้รุยเข้าใจได้"กูสองคนแค่จูบกันไอ้รุย ยังไม่ได้เอากัน"พวกยากูซ่านี่เชื่อถือไม่ได้จริงๆ ไม่ได้เอาพ่อง!"ถ้าจูบกันแล้วก็ต้องเป็นแฟนกันสิ จะมาแอบกินกันเฉยๆ เหมือนไอ้ฮิลล์ไม่ได้นะ" รุยเถียงต่อ"เราแค่จูบกันรุย นายอย่างี่เง่า" น้ำเสียงของไอ้ยากูซ่าขี้เก๊กเริ่มระอา"นายอย่ามาโมโหกลบเกลื่อน" รุยยังคงไม่ยอม"วุ้ยย! มึงจะอะไรนักหนากะอีแค่จูบ ใครๆ เขาก็จูบกันได้ตอนเมา" ผมพูดแทรกขึ้นมา ถ้าผมไม่มีปัญหาทุกอย่างก็น่าจะจบสินะ"พ่องมึงดิ จะมีกี่คนที่จูบพี่ของเพื่อนตอนเมา"มากกว่าจูบกูก็ทำกันมาล่ะ"เออ…มันก็แค่อุบัติเหตุ ใช่ไหม?" ประโยคหลังผมหันไปหาริว เพื่อขอกำลังสนับสนุน"อือ…" ริวพยักหน้า“กูไม่ใช่เด็กแล้วนะริว!"ปั่ก!"ฉันเป็นเพื่อนเล่นนายเหรอ..." ริวตบหัวรุย"อู้ยยส์...เจ็บนะ พะ..พี่" ไอ้รุยเริ่มกลัวเมื่อเห็นสายตาของพี่ชายตัวเองริวถอนหายใจก่อนล้วงกระเป๋าหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด เขาพ่นควันออกจากปากก่อนพูดประโยคที่สิ้นคิดที่สุดออกมา"คบก็คบสิ""ชะ...ช่ายย ห๊ะ!! เดี๋ยวๆ คบอะไร ใครคบกัน" ผมถามด้วยความตกใจ"
…ไซโคลน Talk…ผมยืนอยู่ริมหน้าต่างห้องพักในโรงแรม มองแสงไฟของโตเกียวที่ส่องสว่างอยู่เบื้องล่าง แต่ความคิดของผมกลับไม่ได้อยู่ที่ทิวทัศน์เหล่านั้นเลยโทรศัพท์ในมือสั่นอีกครั้ง แจ้งเตือนข้อความจากไต้ฝุ่น“มาถึงแล้ว”ผมกลืนน้ำลายลงคอช้า ๆ หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ นิ้วโป้งแตะไปบนหน้าจอโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบชักมือกลับราวกับของร้อนสารวัตร… มาถึงญี่ปุ่นแล้วจริง ๆผมถอนหายใจแรง กดโทรศัพท์ปิดเสียงก่อนจะโยนมันลงบนโต๊ะ ผมเงยหน้ามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ เห็นภาพสะท้อนของชายหนุ่มที่พยายามทำเป็นไม่สนใจอะไร แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความว้าวุ่นผมคิดว่า… ถ้าออกมาห่างไกลขนาดนี้แล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้นผมคิดว่า… ถ้าหายไปจากสายตาเขาแล้ว อีกฝ่ายก็คงไม่รู้สึกอะไรแต่เปล่าเลย…สารวัตรตามมาถึงที่นี่และที่สำคัญกว่านั้นคือ ผมไม่ได้แน่ใจว่าตัวเองอยากให้เขาหาเจอหรือไม่…สไนเปอร์ Talk…ผมยืนอยู่หน้าโรงแรมหรูใจกลางโตเกียว มองขึ้นไปยังชั้นบนสุดที่เป็นห้องพักของไซโคลนไต้ฝุ่นเป็นคนบอกผมว่าไซโคลนอยู่ที่นี่ และถึงแม้เขาจะไม่ได้บอกเลขห้องตรง ๆ แต่แค่มีข้อมูลนี้ก็มากพอแล้วผมกำโทรศัพท์แน่น สูดหายใจเข้าลึก ๆถ้าผมขึ้นไป
…สไนเปอร์ Talk…ผมมองจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า แต่มันกลับเบลอไปหมดคดียังคงเดินหน้า งานทุกอย่างยังคงต้องทำเหมือนเดิม แต่มีบางอย่างในใจที่คอยฉุดรั้งให้ผมไม่มีสมาธิไซโคลนไม่อยู่แล้วจริง ๆเขาหายไปจากชีวิตผมแบบสมบูรณ์แบบ… ไม่มีร่องรอย ไม่มีการติดต่อกลับ ไม่มีแม้แต่เงาของเขาให้เห็นผมถอนหายใจ กวาดสายตามองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างตัวจะโทรไปดีไหม?นิ้วผมเลื่อนไปที่ชื่อของเขา ก่อนจะชะงัก… และกดปิดหน้าจอไปถ้าเขาอยากให้ผมตามหา… เขาคงจะทิ้งอะไรไว้ให้ผมบ้างแต่เขาเลือกที่จะหายไปอย่างสมบูรณ์ แปลว่าเขาคงต้องการแบบนั้นจริง ๆ“เฮ้อ…” ผมเอนหลังพิงเก้าอี้อย่างเหนื่อยล้า ก่อนจะได้ยินเสียงเคาะประตูห้องทำงาน“เข้ามา”จ่าแชมป์โผล่หน้าเข้ามา “สารวัตร ผมมีข่าวบางอย่าง”ผมเลิกคิ้ว “ข่าวอะไร?”“คนของเราสืบมาให้แล้วครับ…” จ่าแชมป์ส่งแฟ้มเอกสารให้ผม “คุณไซโคลนอยู่ที่ญี่ปุ่นจริง ๆ และดูเหมือนเขาจะตั้งใจอยู่ที่นั่นอีกนาน”ผมนิ่งไป ก่อนจะเปิดแฟ้มออกดู รายละเอียดที่ระบุอยู่ตรงหน้ามันชัดเจนจนผมปฏิเสธไม่ได้และมีรูปที่ไซโคลนไปไหนมาไหนกับริวอย่างสนิทสนม…ใจผมคล้ายๆ มีอะไรหนักๆ กดทับไว้จนเจ็บผม… กำลังจะเสียเขาไปแล้วจริง ๆ
…ไซโคลน Talk…ผมไม่ได้หลบหน้าเล่น ๆ แต่ผมเอาจริงหลังจากวันนั้น ผมไม่ได้ติดต่อกลับไปหาสารวัตรอีกเลย ไม่มีการส่งกาแฟ ไม่มีการไปหา ไม่มีแม้แต่ข้อความทิ้งไว้เหมือนทุกทีผมเคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดื้อรั้นและไม่เคยยอมแพ้ แต่ครั้งนี้… บางทีผมอาจต้องเป็นฝ่ายปล่อยมือจริง ๆตอนแรกมันก็ยากอยู่หรอก กว่าจะห้ามตัวเองไม่ให้คิดถึง ไม่ให้เผลอกดโทรหาหรือส่งข้อความไป ผมต้องข่มใจตัวเองอยู่หลายครั้ง ต้องดื่มให้หนักขึ้น ต้องเอางานมากลบความคิด แต่สุดท้ายแล้ว… มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากนักทุกคืนก่อนนอน ผมยังคงเผลอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หวังว่าบางทีสารวัตรอาจจะเป็นฝ่ายส่งข้อความมาก่อน หรืออย่างน้อยอาจจะมีมิสคอลสักสายแต่ไม่มีเลย…เหมือนเขาหายไปจากชีวิตของผมโดยสมบูรณ์ผมเอนตัวพิงกระจกห้องพักโรงแรมในโตเกียว มองแสงไฟของเมืองที่ยังคงสว่างไสว ทว่าความเงียบในห้องมันกลับกดดันผมยิ่งกว่าความวุ่นวายข้างนอกผมคิดถึงสารวัตร…คิดถึงคนที่เอาแต่ทำหน้าเรียบเฉยเวลาถูกแหย่ คิดถึงคนที่บ่นว่าผมกวนประสาทแต่ก็ยังยอมให้มากวนอยู่ทุกวันผมไม่ได้อยากหนีมาไกลขนาดนี้หรอก แต่ผมรู้ว่า ถ้ายังอยู่ที่เดิม ผมคงไม่มีวันอดใจไม่ไหวแล้วกระโจนไปหาเขาอีกตาม
…สไนเปอร์ Talk…ไซโคลนไม่ได้พูดเล่น เขาเอาจริงหลังจากวันนั้น ผมก็ไม่ได้รับข้อความหรือสายโทรศัพท์จากไซโคลนอีกเลย ไม่มีการแวะมาหา ไม่มีใครส่งกาแฟมาให้ที่โรงพักตอนเช้า และแน่นอน… ไม่มีใครมารอผมเลิกงานอีกเลยผมคิดว่าตัวเองควรจะโล่งใจ เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการเหรอ? ผมอยากให้ไซโคลนออกไปจากชีวิต อยากให้ไซโคลนอยู่ห่างจากปัญหาทั้งหมด เขาอยากปกป้องไซโคลนจากความวุ่นวายนี้…แต่ทำไมมันถึงรู้สึกไม่ใช่แบบนั้นวะ?ในช่วงแรกผมพยายามไม่คิดอะไรมาก มันก็ดีแล้วที่เขาได้ไปใช้ชีวิตปกติของตัวเอง ไม่ต้องมาลำบากกับผมแต่พอผ่านไปเป็นอาทิตย์ ไซโคลนก็ยังไม่ติดต่อมา“หมอนั่นคงจะลืมฉันไปแล้วจริง ๆ” ผมพึมพำช่วงเวลาที่ไม่มีไซโคลนอยู่รอบตัว ทำให้รู้ว่า… ชีวิตของผมขาดอะไรบางอย่างไปจริง ๆไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าที่ปกติจะมีกาแฟจากร้านประจำส่งมาให้พร้อมโน้ตแซว ๆ จากไซโคลน หรือแม้แต่ช่วงเย็นที่ผมมักจะเจอเขามานั่งรออยู่ในห้อง พอไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว วันเวลาของผมกลับดูเงียบเหงาอย่างน่าประหลาดผมทำงานเหมือนเดิม ใช้ชีวิตแบบเดิม ออกไปสืบคดีเหมือนเดิม แต่กลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันผิดแปลกไปหมด“สารวัตร… คุณโอเคหรือเปล่า?”เส