ใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ดวงตาพลันเจิดจ้าเป็นประกายแวววับขึ้นมา ใจดวงน้อยพองโตอย่างมีความสุขขณะนึกวาดฝันถึงภาพเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ดวงตากลมโตเหลือบมามองหน้าปัดของนาฬิกาเพียงแวบหนึ่งก่อนจะรีบยัดโทรศัพท์รุ่นเดอะคืนให้กับแม่นม แล้วพุ่งตัววิ่งขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว
ไม่ได้ ๆ เหลืออีกไม่กี่ชั่วโมงเอง ต้องไปเตรียมตัวแล้ว!
“อ้าว คุณหนูเจ้าคะ จะไปไหนเจ้าคะ คุณท่านอยู่ที่ห้องหนังสือนะเจ้าคะ”
แสงดาวเลิ่กลั่กร้องเรียกเสียงหลง เมื่อหญิงสาวของเจ้านายวัยเยาว์วิ่งตึง ๆ ขึ้นไปด้านบนทันทีที่คุยธุระกับปลายสายจบ ทำให้เจ้าตัวชะงักอยู่กลางทางแล้วเอี้ยวตัวหันมาตะโกนตอบ
“ฟ้าใสมีธุระด่วนค่ะนม ฝากบอกคนนั้นให้ด้วยนะคะว่าถ้าว่าง ฟ้าใสจะไปคุยด้วย”
“แต่ว่าคุณท่านเรียกหาคุณหนูมาตั้งแต่สาย ๆ แล้วนะเจ้าคะ นมเกรงว่าจะมีเรื่องเร่งด่วนเจ้าค่ะ”
“ไม่มีอะไรด่วนหรอกค่ะ แค่มีเรื่องอยากจะเอ็ดฟ้าใสมากกว่า”
จบประโยคฟ้าใสก็วิ่งต่อขึ้นไปชั้นสอง โดยมีสายตาเป็นกังวลของแสงดาวคอยมองตาม จนกระทั่งหญิงสาวผลุบหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวที่อยู่ทางด้านปีกซ้ายของบ้าน
เธอนึกเป็นห่วงคุณหนูไม่น้อย แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะพูดหรือทำอะไรได้มากไปกว่าถ่ายทอดคำสั่งตามที่เจ้านายแจ้งไว้เท่านั้น
หญิงสาวพุ่งตัวเข้าไปในห้องแต่งตัวก่อนเป็นอันดับแรก เธอยืนกอดอกพลางกวาดตามองไปตามราวเสื้อผ้าที่ถูกจัดระเบียบไล่โทนสีไว้อย่างสวยงามอย่างครุ่นคิด
มือเล็กหยิบเสื้อผ้าเข้าเซตที่ดูเข้าท่าออกมาวางเรียงบนปลายเตียงสามสี่ชุด แล้วลองหยิบแต่ละชุดมาวางทาบบนตัว พยายามเลือกให้เหมาะสมกับโอกาสและสถานที่ที่สุด
“เดรสสายเดี่ยวสีแดงแรงฤทธิ์เหรอ ไม่ได้ ๆ ๆ แหวกลึกจนดูโป๊เกินไป”
ฟ้าใสขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้าไปมาให้กับภาพของตัวเองที่กำลังสะท้อนบนกระจกเงา ชุดนี้ถึงจะสวยแต่ก็เปิดเผยเนื้อหนังมังสามากไป เดี๋ยวจะถูกหาว่าอ่อยจนเกินงาม
เธอจึงวางตัวนั้นลงที่เดิมแล้วหยิบชุดที่อยู่ถัดไปขึ้นมาทาบบนตัวแล้วหมุนไปมาอยู่หน้ากระจกเงา เดรสแขนยาวสีขาวตกแต่งด้วยลายฉลุให้ดูสวยเก๋ แต่ดูเหมือนจะเหมาะกับการทำบุญมากกว่าการทำหลัวในคืนนี้
“ไม่ได้ ๆ อันนี้ก็ปิดไป อากาศเมืองไทยร้อนแบบนี้คงได้ตัวเปียกก่อนถึงห้องพี่นัทแน่ ๆ เห้อออ”
ผลัดกันหยิบตัวนู้นตัวนี้ขึ้นมาทาบเพื่อเลือกสรร จนสุดท้ายเธอก็มาลงเอยที่เสื้อแขนยาวผ้าชีฟองสีเขียวพาสเทล ดูเรียบร้อย
ทว่าแอบเซ็กซี่ด้วยความบางเบาที่มองทะลุจนเห็นเกาะอกด้านในวับ ๆ แวม ๆ พอให้ใจเต้นตึกตัก จับคู่กับกระโปรงบานยาวครึ่งเข่าในลายที่เข้าเซตกัน
ฟ้าใสฉีกยิ้มกว้าง พึงพอใจกับลุคใส ๆ แต่แอบเซ็กซี่ของตัวเองไม่น้อย ฮี่ฮี่ อ่อยยังไงให้ดูเหมือนไม่อ่อย!
@ หลายชั่วโมงถัดมา
“เกิดอะไรขึ้นเนี้ย”
ฟ้าใสบ่นอุบพลางยืดตัวขึ้นชะเง้อคอมองดูขบวนแถวด้านหน้าด้วยความสงสัย เส้นนี้เธอขับผ่านเป็นประจำเวลาที่ต้องการไปส่องพี่นัทที่โรงพยาบาล ซึ่งมันไม่เคยติดนานขนาดนี้นี่นา
บรี๊นนนนน บรี๊นนนนนน
เสียงแตรดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบริเวณ พร้อมกับรถยนต์ที่พร้อมใจกันเบี่ยงขวาทั้งหมด เผยให้เห็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ด้านหลังติดแหง่กกันจนปลายแถวอยู่ห่างออกไปไกลนับกิโล
“เฮ้ย!” ฟ้าใสอุทานเสียงหลง รีบเบี่ยงรถเข้าจอดที่เลนซ้ายสุดแล้วเปิดไฟฉุกเฉินทันทีที่รู้สาเหตุ ก่อนจะผลุนผลันวิ่งลงจากรถยนต์ไปยังอุบัติเหตุเบื้องหน้าตามสัญชาตญาณของความเป็นหมอ
“ขอทางหน่อยค่ะ ขอทางหน่อย ฉันเป็นหมอค่ะ! ขอบคุณค่ะ”
เสียงหวานตะโกนบอกไทยมุงพลางค่อย ๆ แทรกตัวเข้ามาด้านใน ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
คนเจ็บนอนแผ่อยู่บนพื้นถนน โดยเครื่องป้องกันนั้นหลุดกระเด็นไปไกลมากและแทบไม่เหลือสภาพเดิมแล้ว ถัดออกไปอีกประมาณไม่ถึง 5 เมตรมีรถจักรยานยนต์ซึ่งมีกระเป๋าคุมอุณหภูมิติดตั้งอยู่ด้านท้ายนอนตะแคงอยู่ในสภาพยับเยินกว่า 30%
เธอรีบกางมือกันเหล่าไทยมุงที่มัวแต่ยืนถ่ายคลิปลงโซเซียลให้ถอยออกห่าง เพื่อให้คนเจ็บจะได้มีอากาศหายใจได้สะดวกขึ้น
“มีใครโทรเรียกรถพยาบาลหรือยังคะ”
“ค่ะ ๆ ฉันโทรเรียกแล้วค่ะ”
1 ใน ไทยมุงรีบยกมือขึ้นโชว์ตัวทันที ฟ้าใสชูนิ้วโป้งกดไลค์ให้ผู้กล้าที่ยังมีสติหนึ่งที ก่อนจะถลาเข้าไปนั่งคุกเข่าใกล้ ๆ คนเจ็บ พลางกวาดสายตามองไปตามร่างของเขาเพื่อประเมินอาการบาดเจ็บผ่านทางสายตา
แขนด้านซ้ายมีลักษณะบิดเบี้ยวผิดรูปและมีอาการบวมขึ้นบริเวณใต้ข้อศอกลงไป คาดว่าน่าจะมีการแตกหัก
ศีรษะมีเลือดออกตรงบริเวณข้างขมับแต่ไม่มากนัก คนเจ็บมีอาการมึนงงเล็กน้อยแต่ยังพอมีสติรับรู้ต่อสิ่งเร้าอยู่บ้าง
“ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวผมด้วยนะ”“ไม่เป็นไรเลยครับ ผมมาก่อนเวลาเองครับ”“วันนี้มีธุระที่ไหนอีกหรือเปล่า อยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะพ่อนัท”“คงไม่สะดวกค่ะ!”ในที่สุดฟ้าใสก็ไม่อาจทนนั่งปั้นหน้าอยู่ในวงสนทนานี้ได้อีกต่อไป เธอพูดโพล่งขึ้นมากลางวงโดยสนใจว่าคนข้าง ๆ จะตกใจหรือไม่“อ่า งั้นเหรอ แล้วลูกล่ะหิวหรือยัง ให้แสงดาวตั้งโต๊ะเลยไหม”“คงไม่รบกวนหรอกค่ะ เชิญคุณท่านทานก่อนได้เลยค่ะ ฟ้าใสขอตัวนะคะ”สีหน้าของคู่สนทนาเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อถูกตัดบทอย่างไร้เยื่อใย แต่ฟ้าใสรู้ว่านั่นมันก็แค่การแสดงฉากฉากหนึ่งเท่านั้น เธอผุดลุกขึ้นยืนพลางหันไปฉุดมือของรุ่นพี่ให้ลุกขึ้นตามถ้อยคำสร้างภาพที่คนคนนั้นพูดพ่นออกมา มันทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนเสียจนแทบจะอาเจียนอยู่รอมร่อ หากทนฝืนอยู่นานกว่านี้อีกหน่อยเธอคงเก็บอาการไม่อยู่แน่ ๆ“ฟ้าใส!”“พี่นัทมีธุระจะคุยกับฟ้าใสใช่ไหมคะ เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะค่ะ!”แรงฉุดกระชากของหมอสาวแทบไม่สามารถดึงตัวให้เขาลุกขึ้นได้หรอกหากเขาไม่ยินยอม ทว่าแววตาที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองระคนเจ็บปวดคู่นั้น มันทำให้เขาขัดใจเธอไม่ลง“ผมขออนุญาตนะครับ”“อืมม ตามสบายนะ ถ้าต้องการอะไรก็เรียกเด
ก้อกก้อกก้อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ก่อนจะตามด้วยเสียงของแม่นม ผู้ที่เปรียบเสมือนแม่คนที่สองร้องเรียกเธออยู่หน้าประตู“คุณหนู! คุณหนูตื่นหรือยังเจ้าคะ!?”“ค่ะนม”ฟ้าใสซึ่งรู้สึกตัวตื่นมาได้สักพักแล้ว แต่ยังคงนอนเกลือกกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงนอนอย่างเกียจคร้าน หันไปขานรับก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตู“ มีอะไรหรือเปล่าคะ”“มีแขกมาขอพบคุณหนูเจ้าค่ะ”“หะ? แขก? ใครคะ?”“คุณณัฐพลเจ้าค่ะ”“อ๋อ~ ณัฐพล หะ! ณัฐพล เอ่อ ณัฐพลที่เป็นหมอ หล่อ ๆ สูง ๆ ขาว ๆ หน้าดุ ๆ แก้มนุ่ม ๆ ใช่ไหมคะนม!?”ฟ้าใสทำตาโต ถลาเข้าไปเกาะแขนหญิงสูงวัย แล้วพยายามอธิบายรูปพรรณสัณฐานของบุคคลที่คิดว่า ‘ใช่’ รัวเร็วด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเขย่าแขนเร่งเร้าเอาคำตอบอย่างร้อนรนเมื่ออีกฝ่ายมัวแต่อ้ำอึ้งอึกอัก“เอ่อ คงใช่ ... ใช่ กระมังคะ”แสงดาวอ้อมแอ้มตอบไม่เต็มเสียง เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะใช่คนเดียวกันกับที่เจ้านายพูดถึงหรือไม่ เพราะอีกฝ่ายก็แต่งกายด้วยชุดลำลองธรรมดาทั่วไปแต่เท่าที่ฟังจากคำบรรยายแล้วก็เข้าเค้าไปเสีย 8 ใน 10 ส่วนเรื่องแก้มนุ่มไหมนั้น.... เธอไม่น่าจะตอบได้“แล้วตอนนี้พี่นัทเขาอยู่ที่ไหนคะ??”“นั่งรออยู
@เช้าวันถัดมา ครืดครืด ครืดครืด ครืดครืดคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแน่นบ่งบอกถึงอารมณ์หงุดหงิดของผู้เป็นเจ้าของ หลังถูกรบกวนจากเสียงแจ้งเตือนที่ดังระรัวติด ๆ กันไม่หยุดหย่อนตลอดช่วงเช้าของวันหยุดจนจำต้องตื่นขึ้นมาก่อนเวลาที่ต้องการดวงตาคมกริบเหลือบไปมองนาฬิกาตั้งโต๊ะที่ปรากฏตัวเลข 07:50 บนหัวเตียงแล้วถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ยัยเด็กนี่มีธุรกิจพันล้านหรือยังไง ทำไมโทรศัพท์ถึงส่งเสียงดังตลอดเวลาแบบนี้นัทเอื้อมมือไปหยิบเจ้าโทรศัพท์มือถือเครื่องสีชมพูขึ้นมา หมายจะกดปิดเสียงเพื่อตัดความรำคาญ ทว่านิ้วมือกลับชะงักค้างอยู่เหนือปุ่มกด“หึ!”ความงัวเงียสลายหายไปทันทีเมื่อมองเห็นชื่อของเจ้าของข้อความที่ส่งมาก่อกวนนับสิบฉบับเต็ม ๆ ตาตั้งแต่เช้า ไม่ยักรู้ว่าก่อนว่าทั้งสองจะสนิทชิดเชื้อกันจนมีเรื่องให้ต้องสนทนากันมากมายขนาดนี้พี่เกมส์สุดหล่อ (เหรอ?) : ยัยเด็กเอ๋อ เป็นยังไงบ้าง ขาหายเจ็บหรือยัง‘พี่เกมส์สุดหล่อ (เหรอ?) : ถ้าเจ็บหนักก็แวะมาที่โรงพยาบาลได้นะพี่เกมส์สุดหล่อ (เหรอ?) : เดี๋ยวพี่ชายคนนี้จะเสียสละช่วยตรวจดูให้พี่เกมส์สุดหล่อ (เหรอ?) : แลกกับกาแฟสักแก้วสองแก้ว หรือถ้าอยากได้ข้อมูลอย่างอื่น พี
เสียงเสื้อผ้าเสียดสีกันดังขึ้นเมื่อคนข้าง ๆ ขยับตัวพลางยกแขนขึ้นกอดตัวเองแล้วหลับต่ออย่างสบายอกสบายใจ“ยัยเด็กกะโปโลเอ๊ย”นัทหันไปมองเด็กขี้เซาที่ขดม้วนหนีลมแอร์ราวกับเม่นตัวเล็กแล้วอมยิ้มน้อย ๆ อาศัยจังหวะที่รถยนต์จอดแน่นิ่งขณะรอสัญญาณไฟจราจร หันไปดึงเสื้อเชิ้ตสำรองที่มักแขวนเอาไว้ติดรถแล้วค่อย ๆ วางคลุมลงบนร่างของหมอสาวอย่างเบามือฟ้าใสขยับตัวเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงเงาวูบไหวที่ลอยไปมาอยู่เหนือร่าง ทว่าเปลือกตาของเธอกลับหนักอึ้งเกินกว่าจะลืมตาขึ้นมามองมันความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่าง มือเล็กจึงเอื้อมมาดึงรั้งแล้วกำเสื้อเชิ้ตไว้ในมือแน่น ปรากฏรอยยิ้มบาง ๆ ขึ้นบนใบหน้าราวกับกำลังฝันดี ก่อนที่เธอจะผ่อนลมหายใจแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง.ไม่นานรถยนต์ก็แล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง นัทปลดเข็มขัดนิรภัยให้ตัวเองก่อน จากนั้นจึงโน้มตัวเข้าไปใกล้ร่างเล็กเพื่อปลดล็อกให้เธอด้วยเช่นกัน“อื้ออ”เสียงหวานครางแผ่วเบาพลางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงดึงรั้งที่พาดทับบนลำตัว พลันดวงตาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจเมื่อสิ่งแรกที่ปะทะสายตา คือข้างแก้มขาว ๆ นวลเนียน
น้ำค้างหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี ขยับเข้าไปยืนใกล้ ๆ พี่ชายพลางใช้หัวไหล่กระแซะแขนอีกฝ่ายพร้อมส่งสายตาหยอกล้อ“ฮั่นแน่~ ไม่ต้องทำขรึมกลบเกลื่อนหรอกน่าาาา คนนี้จริงจังเหรอ ฮ่า ๆ ถึงขนาดพาขึ้นห้องเลยอะ”“ไม่ต้องมามอง ไม่ต้องมาทำหน้าล้อเลียน มันไม่มีอะไรทั้งนั้น แค่นัดมาเอาของ”“จะเอา แค่ของเหรอคะ โอ๊ย!”ฝ่ามือพิฆาตฟาดเข้าที่กลางกระหม่อมอันบอบบางของน้ำค้างทันควัน เธอแบะปากคล้ายจะร้องไห้ เพราะน้ำหนักมือที่พี่ชายฟาดมาแต่ละครั้งนั้น ไม่เคยมีคำว่าปราณี“ไอ้พี่บ้า! ฮืออ เจ็บนะ!”“เจ็บแล้วก็จำ! อยากมีน้องเป็นคน ไม่ใช่สัตว์เคี้ยวเอื้อง!“ถ้าจะพูดขนาดนี้ ด่าน้องมาตรง ๆ เลยก็ได้ค่ะ! ที่ถามนี่ก็เพราะเป็นห่วงหรอกนะ!”“ยุ่ง! เป็นเด็กเป็นเล็ก เอาเวลาไปตั้งใจเรียนไป!”“ใครเล็ก ไม่เล็กสักหน่อย ออกจะอวบอึ๋มบึ้มบั้ม! นี่ไง ๆ”น้ำค้างโอ้อวด ใช้สองมือดันหน้าอกหน้าใจที่มีขนาดเกินตัวให้นูนขึ้นมาเด่นชัดกว่าเดิม แล้วลอยหน้าลอยตาใส่พี่ชายอย่างท้าทาย“ถ้าเปลี่ยนเป็นสมอง พ่อกับแม่คงจะดีใจน่าดู”“น้ำค้างก็มีทุกอย่างแหละค่ะ”นัทถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเอือมระอา ปรายตามองสีหน้าภาคภูมิใจของน้องสาวแวบหนึ่งแล้วเลือก
“ทำอะไรกันน่ะ!”เสียงแหลม ๆ ของผู้มาใหม่ทำให้สองหมอที่กำลังไล่ปล้ำกันในศึกแย่งยิงโทรศัพท์ หยุดเคลื่อนไหวแล้วชะงักแข็งค้างในท่าเดิมด้วยกันทั้งคู่ทันทีฟ้าใสค่อย ๆ หันไปมองโฉมหน้าของผู้มาใหม่อย่างช้า ๆ ใบหน้าหวานเจื่อนลงถนัดตาเมื่อพบว่าเจ้าของประโยคเมื่อครู่เป็นเด็กสาววัยรุ่นในชุดนักศึกษารัดรูปพอดีตัว และมีใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราราวกับตุ๊กตาไม่มีผิดทั้งคำถาม ทั้งสีหน้า และการมีอภิสิทธิพิเศษถึงขนาดรู้รหัสผ่าน ทำเอาใจดวงน้อยวูบโหวงและตระหนักได้ว่า ... ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เรียกว่า ‘คนพิเศษ’ ที่แท้จริงนัทอาศัยจังหวะที่หมอสาวกำลังตกตะลึงกับการมาของบุคคลที่สามจนลืมเรื่องโทรศัพท์มือถือไปแล้ว รีบสาวเท้าเข้ามายืนขวางกั้นระหว่างสองสาวทันที“มาทำไมน้ำค้าง มีอะไร?”“พี่นัท! นั่นใครคะ!?”น้ำค้างไม่ตอบแต่ถามสวนกลับไปแทน สายตาเอาแต่จับจ้องใบหน้าสะสวยนั่นอย่างไม่วางตา แล้วเดินตรงรี่เข้าไปหาหญิงสาวแปลกหน้า แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้ในระยะ 2 เมตร พี่ชายก็แทบจะถลาเข้ามากินหัวเธอแล้ว“แฟนเหรอ!?”“ไม่ใช่! ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เข้าห้องไปได้แล้ว อย่าวุ่นวาย!”“ขอทักทายก่อนสิ น้องเป็นคนมีสัมมาคารวะน้าาาา”“เข้