LOGINเหมือนแพรกลับขึ้นมาที่ห้องพร้อมคอหมูย่างที่สั่งพิเศษมาให้นังบี้ด้วย เสียงโทรศัพท์ที่ดังอยู่ที่โซฟา เธอเดินไปหยิบมาแล้วกดรับสายเสร็จก็เอามาจ่อเข้าที่เจ้าบี้
"เอ้า พ่อแกโทรมาแล้ว กำลังกินคอหมูย่างอยู่" "อร่อยไหมล่ะ" เหมือนแพรไม่แน่ใจเขาถามเธอหรือถามแมว "พ่อแกถามอ่ะ อร่อยไหมเจ้าบี้" "ถามเธอนั่นแหละ" "อ๋อ อร่อยอยากกินตั้งนานแล้ว พอดีนายมอสมาเยี่ยมก็เลยบังคับให้ไปกินเป็นเพื่อน" เมื่อเจ้าบี้กินเสร็จแล้วก็ทิ้งตัวนอน เธอเลยหมุนโทรศัพท์กลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง "พรุ่งนี้จะไปกินอะไรอีกล่ะ" ไตรฉัตรถามประชดแต่คนทางนี้คงไม่ทันเข้าใจ "โอมากาเสะ" เขาตัดสายไปอีกครั้ง เหมือนแพรมองดูโทรศัพท์ที่สายหลุดไปเฉยๆ ด้วยความงุนงง เช้าอีกวันที่เหมือนแพรได้หลับสนิทจนถึงสายโดยไม่มีสายเรียกเข้ารบกวนเวลานอน "สงสัยพ่อแกจะยุ่ง" นั่นเป็นคำที่เธอบอกเล่าให้เจ้าบี้ฟังในวันนี้เพราะเขาไม่ได้โทรหามันเลยทั้งวัน จนถึงช่วงหัวค่ำที่มอสมารับเธอไปทานข้าว เขาจองร้านอาหารที่ว่าเอาไว้แล้ว เมื่อไปถึงเวลาก็ได้เข้าไปพอดี อาหารญี่ปุ่นเสิร์ฟเป็นคำที่มีเชฟยืนทำอยู่ตรงหน้า ก็ได้บรรยากาศญี่ปุ่นไปอีกแบบ สุดท้ายที่จะเลี้ยงก็ไม่ได้เลี้ยง แต่เธอแอบเห็นมอสจ่ายค่าอาหารคอร์สนี้ไปหลายบาทเชียว เธอเห็นแล้วก็อดเกรงใจไม่ได้ "พวกเพื่อนรวมกันอยู่ที่บาร์ไอ้ธรน่ะ ไปสนุกสักแป๊บไหม" มอสหมายถึงนิติธร ทำให้เหมือนแพรตอบตกลง ดูเหมือนวันนี้เพื่อนจะมากันหลายคน มีผู้หญิงในคณะเดียวกันมาด้วยอีกสองคน แต่เธอไม่ค่อยสนิทสักเท่าไหร่ แต่ก็พอคุยกันได้ ออกจะสนิทกับเพื่อนผู้ชายเสียมากกว่าด้วยซ้ำ เหมือนแพรถูกแอบถ่ายตอนที่หัวเราะกับมอสอย่างไม่รู้ตัว ด้วยฝีมืออ้น และรูปนั้นก็ถูกส่งไปที่ข้อความส่วนตัวของ B.Trai อ้นครับ : ส่งรูป อ้นครับ : สงสัยเขาจะกลับมาคบกันอีกแล้วว่ะ ข้อความยังไม่ถูกอ่าน อ้นก็เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วหันมาสนใจวงสนทนาต่อ ทันได้ยินเสียงเพื่อนในกลุ่มเอ่ยถาม เหมือนแพรกับมอส ว่าจะกลับมาคบกันอีกหรือ เหมือนแพรรีบส่ายหน้าปฏิเสธแต่นายมอสหันมายิ้มกับเธอ "ก็ดีนะ ว่าไงเบบี๋" "พอเลย" เธอหันไปตอบนายมอส แล้วก็เอานิ้วจิ้มหน้านายมอสที่ยื่นหน้ามาใกล้ๆ ให้ถอยห่าง ทำให้เพื่อนๆ หัวเราะกันสนุกสนาน อ้นนั่นดื่มอยู่ได้อีกเพียงครู่เดียวก็ออกมาจากกลุ่มและคงไม่ทันมีใครสังเกตเห็นแม้จะหายไปสักพักแล้วก็ตาม "เดี๋ยวเราไปเข้าห้องน้ำแป๊บนะ" เหมือนแพรเอ่ยบอกพวกสาวๆ กำลังจะลุกออกจากโต๊ะ "เดี๋ยวเราไปเป็นเพื่อนไหม" มอสรีบเอ่ยถาม "ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปเข้าบนออฟฟิศ" เหมือนแพรปฏิเสธแล้วก็ลุกออกมา เดินไปตามทางคุ้นเคย มือบางกำลังจะเอื้อมไปจับลูกบิดหน้าประตูใหญ่ แต่เหมือนเธอจะได้ยินเสียงผู้ชายในนั้น จึงถอยออกห่างออกมา แต่เมื่อได้ยินเสียงว่าเป็นอ้น แล้วกำลังเรียกชื่อ ไตรฉัตรอยู่ ทำให้เธอหยุดยืนอยู่แค่ตรงนั้น รอให้อ้นเข้าห้องน้ำเสร็จก่อนเธอจึงค่อยเข้าไป แล้วเหมือนนายนั่นกำลังโทรศัพท์อยู่ "แล้วมึงจะปล่อยไว้แบบนี้อ่ะนะ ไม่ทำอะไรสักอย่างวะ" เธอได้ยินเสียงนายอ้นออกจะหงุดหงิดไม่น้อย แต่ไม่เข้าใจเพราะไม่ได้ยินปลายสายที่ตอบกลับมา "ตอนนั้นมึงก็เสียบี๋ไปทีนึงแล้วนะ มึงจะยอมเสียอีกหรือ กว่ามึงจะกลับมาคุยกันได้เป็นสิบปีเลยนะมึง" ทีแรกเหมือนแพรก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่พอได้ยินชื่อตัวเองในบทสนทนา ทำให้เธอเผลอก้าวขาไปข้างหน้าอีกก้าวอย่างไม่รู้ตัว และก็ทำให้อยากรู้เรื่องที่อ้นพูดถึงเธออีกด้วย แล้วที่นายอ้นพูดมันหมายถึงอะไร "ถ้าไม่เพราะไอ้มอส ป่านนี้มึงกับบี๋แม่งไม่ลูกโตแล้วหรือวะ แล้วเสือกโง่ไปปฏิเสธเขาด้วยนะ สัส ทั้งที่ตัวเองก็รักเขาจะเป็นจะตาย เขาอุตส่าห์มาสารภาพรักมึงเองแท้ๆ" เมื่อเรื่องที่เธอได้ยินเป็นเรื่องที่มันตกตะกอนสำหรับเธอไปนานแล้ว แต่เมื่อถูกกวนให้ขุ่นขึ้น มันก็อดที่จะใจหวิวๆ ขึ้นมาไม่ได้ หมายความว่าอะไร มอสทำอะไร แล้วไตรก็ชอบเธอเหมือนกันใช่ไหม แล้วทำไม คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว อย่างไร้คำตอบ "ก็แล้วแต่มึง ถ้ามึงคิดว่าไม่ได้รักบี๋แล้ว กูก็จะไม่พูดเรื่องนี้.....บี๋" ทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบ อ้นก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แค่เพียงประตูที่เปิดออกก็เห็นคนที่เขากำลังพูดถึงยืนอยู่ตรงหน้าประตู ใบหน้าของเธอมีแต่คำถาม จนอ้นไม่รู้จะทำอย่างไรแทบจะไม่กล้าก้าวขาเดินออกจากตรงนี้เลย แล้วเหมือนปลายสายจะได้ยินเสียงเรียกชื่อ ของใครบางคน 'มีไรวะไอ้อ้น' ไตรฉัตรถามอ้นด้วยความสงสัย "บี๋..." อ้นพูดได้แค่นี้ มือก็ยังจับโทรศัพท์แนบหูค้างไว้อย่างนั้น "หมายความว่าไงอ้น ที่นายพูดเมื่อกี้" ไตรฉัตรได้ยินเสียงเหมือนแพรเข้ามาตามสายชัดเจน จนเขานึกสีหน้าของยายนั่นออกเลยว่าตอนนี้จะเป็นอย่างไร เหมือนแพรยืนขวางอ้นไว้อย่างนั้น ถามย้ำอีกครั้งแต่เพื่อนนายไตรก็ยังไม่ยอมเอ่ยพูดอะไรออกมาสักคำ 'ไอ้อ้น เอาโทรศัพท์ให้บี๋ เดี๋ยวกูบอกเอง' เสียงจากปลายสายทำให้อ้นได้สติ รีบส่งโทรศัพท์เครื่องละครึ่งแสนให้เหมือนแพรทันที "ไอ้ไตรจะคุยด้วย" เหมือนแพรรับมาแล้วไม่พูดอะไร ยังมองหน้าอ้นอยู่ คล้ายรอคำตอบ "ที่นายพูดเมื่อกี้ หมายความว่าอะไร เล่ามาให้หมดนะอ้น" "เธอคุยกับไอ้ไตรดีกว่า เราไม่รู้จะพูดยังไง" "ก็พูดเหมือนที่นายพูดเมื่อกี้" "เอ่อ.."เสียงถามของไตรฉัตรทำให้เธอนึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วตอนนี้เธอก็ยังนอนกอดอยู่กับเขาอีกต่างหาก เธอเริ่มดันตัวออกห่างแต่แขนแกร่งที่กอดเอวเธอไว้กลับกระชับแน่นขึ้น "ฉันต้องกลับแล้ว" เสียงกระด้างบอกความต้องการ จนคนที่ตื่นแล้วแต่ยังไม่ยอมลุกต้องลืมตาขึ้นมอง "อะไรตื่นเช้ามาก็เสียงแข็งใส่เชียว ทีเมื่อคืนเสียงอ่อนเสียงหวาน" เธอแหงนมองหน้าคนที่กอดอยู่ ส่งสายตาขุ่นให้ทันที ที่เขารื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน "ก็เราจะกลับแล้ว" "เดี๋ยวไปส่ง ต้องไปรับนังบี้ด้วย หรือจะเอาไว้เลี้ยงเอง" "ไม่เอา" เหมือนแพรรีบปฏิเสธทันที "ไตรฉัตร เราบอกว่าให้ปล่อย" เมื่อเขายังไม่ยอมคลายอ้อมแขน เธอก็ดิ้นขลุกขลักเขาก็ยิ่งออกแรงกอดเธอไว้แน่นเช่นกัน อกอิ่มเกยไปที่หน้าอกเขาถูกบดเบียดอยู่อย่างนั้น และครู่ต่อมาเธอก็สัมผัสเข้ากับน้องชายตัวใหญ่เขาอย่างจังอีกครั้ง เหมือนแพรดิ้นขลุกขลักได้อีกครู่เดียว เธอก็ต้องถูกเขาพันธนาการไปอีกครั้ง ถุงยางอนามัยอีกชิ้นที่วางอยู่ข้างเตียงถูกฉีกซองออกในตอนเช้า เมื่อเธอยิ่งขัดขืนไตรฉัตรก็ยิ่งเล้าโลมจนร่างอรชรนอนดิ้นพล่านอ่อนระทวย จากอากาศหนาวเมื่อครู่กลายเป็นไอร้อนจนสองร่างชุ่มไ
เหมือนแพรรีบตะแคงข้างหนีสายตาคมที่จ้องราวกับจับผิดเธอ แต่แขนแกร่งก็ยังไม่คลายอ้อมแขน เมื่อเธอพลิกตัวหนีเขาก็ตะแคงตัวซ้อนตามคนตัวเล็กมาติดๆ "เจ็บไหมเบบี๋" ไม่พูดเปล่า ไตรฉัตรยังไล้นิ้วไปที่เนินเนื้ออวบอูมด้านล่าง จนเหมือนแพรต้องหนีบขาแน่น แล้วปัดมือเขาออก แต่แขนที่มีมัดกล้ามแน่นๆ นั้นปัดอย่างไรก็ไม่พ้นทาง นิ้วร้ายเริ่มกรีดกรายตามรอยแยกอีกครั้ง "อื้อ..ไตรน่ะ ปล่อยบี๋ก่อน" "ก็ถามไม่ตอบ เมื่อกี้เจ็บไหม" ไตรฉัตรกระซิบอยู่ที่ริมใบหู ลมหายใจอุ่นๆ ทำเอาเหมือนแพรลืมคำถามที่เขาถาม "เจ็บซิ" เหมือนแพรเริ่มดิ้นขลุกขลักเพราะนิ้วยาวของเขาเริ่มซุกซนก่อกวนนอกจากแหวกกลีบกุหลาบให้แยกแล้วยังไล้นิ้วเขี่ยขยี้อยู่แถวช่องทางรัก จนเธอเผลอเกร็งท้องน้องคิดว่าเขาจะกดนิ้วลงไปเสียอีก แต่ก็เพียงวนเวียนอยู่แบบนั้น "อื้อ..ไตร..พะ..พอแล้ว" เสียงกระเส่าเอ่ยแทบไม่เป็นคำ มือเล็กดันแขนเขาให้ออกห่าง แต่แขนเขาแข็งแรงมากจนมันไม่ขยับไปทางไหน จนเธอเผลอจิกเล็บเขาที่แขนเขาไว้แน่น "เสียวไหม" "อ๊ะ .." เหมือนแพรแหงนหน้าขึ้น แล้วก็กัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น เพราะมันคอยจะส่งเสียงลามกออกมา "พอจริงหรือ" เสียงทุ
ฝ่ามือใหญ่ดึงชายผ้าขนหนูออกมาเพียงนิด ก็เผยให้เห็นร่างอรชรขาวผ่องอวดสายตา ไตรฉัตรแอบลอบกลืนน้ำลายจากที่เคยเห็นภายนอกเขาคิดว่าเธอก็คงธรรมดา หน้าอกอิ่มแม้ยามเธอใส่ชุดเซ็กซี่มันก็ไม่ได้ดูใหญ่โตขนาดนั้น แต่ที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมไว้ทั้งเต้าจนเต็มมือมันอวบอิ่มอยู่ไม่น้อย เขาก้มลงมาดูดยอดอกสีอ่อนชูชันอีกข้าง เหมือนแพรสะดุ้งตัวนิด แต่เมื่อปากเขาดูดเน้นเธอก็แอ่นอกขึ้นหา มือเรียวสอดเข้าไปที่เรือนผมดกดำของเขา ปลายนิ้วขยุ้มเบาๆ ยามเมื่อลิ้นร้ายกวัดเกี่ยวยอดไตแข็งชูชัน อีกข้างก็ถูกปลายนิ้วเรียวเขี่ยขยี้ เขาย้ายจากข้างนั้นก็ไปข้างนี้อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย "อะ..อื้อ.." เหมือนแพรเริ่มส่งเสียงในลำคออย่างไม่อาจกลั้น ยามเมื่อคนด้านบนเริ่มรุนแรงขึ้นมันไม่ได้เจ็บแต่กลับเสียวซ่านไปทั้งตัว เหมือนแพรสัมผัสได้ถึงแรงบีบตัวที่ช่องทางว่างเปล่าด้านล่างกลางกายสาว จนอยากให้เขาเข้ามาสัมผัส มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนจนมาถึงจุดที่เธอเพิ่งเผลอคิดเตลิดไปเมื่อครู่ นิ้วยาวกรีดตามรอยแยกที่ปิดสนิทปลายนิ้ววนเวียนอยู่ปากทางรักที่ฉ่ำแฉะ แค่เพียงนิ้วเขาจุ่มลึกลงไปเหมือนแพรก็ผวาตัวเข้าหารั้งแขนแกร่งเขาไว้เป
ใบหน้าหวานปรือตามองคนตัวโตอย่างรอคอยคำตอบ มือใหญ่ยังไม่ปล่อยจากท้ายทอยเธอ ใกล้กันเพียงนิด แต่เหมือนยิ่งรู้สึกไกลเขาขึ้นไปอีกเพียงเพราะคำพูดที่เธอเผลอเอ่ยปากออกมานั่นหรือเปล่า อีกใจก็หวาดหวั่นไม่น้อยกลัวเขาจะปฏิเสธ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะเรื่องที่เธอได้ยินมา มันถึงช่วยเพิ่มความกล้าให้เธอถึงขนาดนี้ "ถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้ว ความเป็นเพื่อนของเรามันอาจจะไม่เหมือนเดิมนะ" เสียงทุ้มเอ่ยเตือนคนตัวเล็ก "ความจริงสำหรับเรา มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ที่เธอปฏิเสธเราคราวนั้นแล้ว ไหนๆ เธอก็ปฏิเสธเราอีกครั้ง ผ่านคืนนี้ไปเราอาจจะเป็นแค่คนรู้จักกันเฉยๆ ก็ได้" "เธอแน่ใจนะ" "อื้ม" "ไปคอนโดเรานะ" ไตรฉัตรกระซิบบอก เหมือนแพรจึงได้แต่พยักหน้า ภายในรถยังคงไม่มีเสียงของคนทั้งสอง เหมือนแพรได้แต่หันหน้ามองไปข้างกระจก ไม่ได้สนใจคนขับรถที่คอยจะหันมามองเธออยู่บ่อยๆ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิท แต่กลับมองไม่เห็นดวงดาวสักดวง คงมีแต่แสงสายฟ้าที่แลบลงมาเป็นระยะๆ และเวลาต่อมาสายฝนก็โปรยปรายลงมาพอให้ชุ่มฉ่ำ จากสถานบันเทิงไตรฉัตรขับรถเพียงไม่นานก็มาถึง คอนโดหรูใจกลางเมืองราคาแต่ละห้องแทบจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้
อ้นขึ้นเสียงใส่แล้วก็จับแขนบี๋ให้เดินตามออกมา แต่ไอ้มอสก็รั้งแขนเธออีกข้างไว้ เหมือนแพรพยายามสะบัดให้หลุดแต่มันก็ไม่หลุด เมื่ออ้นหันไปจะผลักออก แต่กลับโดนไอ้มอสชกเข้าที่ปากอย่างจัง เมื่อมืออ้นหลุดจากเหมือนแพร เธอก็ถูกมอสดึงให้ไปยืนอยู่ข้างๆ "ปล่อยนะมอส" เหมือนแพรดึงมือออกจากการเกาะกุมอย่างยากลำบากกว่าจะหลุดออกมาได้ แต่พอหลุดออกมาได้เธอก็รีบวิ่งออกมา อ้นรีบคว้าแขนไอ้มอสไว้เพราะมันจะจับเหมือนแพรอีกครั้ง รั้งให้มันถอยหลังไปเกือบชนผนังห้องน้ำ เมื่อตั้งหลักได้ มอสก็ถลาเข้าใส่เหมือนแพรอีกครั้ง เธอรีบวิ่งมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ชนกับร่างใหญ่ของไตรฉัตร ที่วิ่งขึ้นบันไดมาอย่างรีบร้อน เขาคว้าเธอไว้ในอ้อมแขน ไอ้มอสที่กำลังจะถึงตัวเธอ จึงถูกเขาถีบจนหงายหลังไปนั่งกับพื้น "มึงเลิกยุ่งกับบี๋ได้แล้วไอ้มอส ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน" เสียงทุ้มต่ำเน้นคำพูดทีละคำ สายตาคมดุยิ่งดูเย็นชาจ้องหน้าไอ้มอสเขม็ง เหมือนแพรสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของไตรฉัตร เขาลูบผมเธอสองสามครั้ง ก่อนจะรั้งเอวให้เธอเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีอ้นเดินตามออกมาด้วย โดยไม่สนใจไอ้มอสที่ยังนั่งอยู่กับพื้นตรงนั้น มอสก้มมอง
"พูดมาอ้น ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น" เหมือนแพรยังไม่ยอมถอยห่างจากหน้าประตูยืนขวางอ้นไว้อย่างนั้น สายตาคาดคั้น จนในที่สุดอ้นก็ทนไม่ไหว เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เผื่อคนทั้งสองจะเข้าใจกันมากขึ้น กลับมารักกันอีกครั้งได้ "ก็ที่ไอ้ไตรมันปฏิเสธเธอ เพราะไอ้มอสไปบอกมันว่าไอ้พีมันชอบเธอ" เสียงถอนหายใจหนักๆ ของมอสก่อนจะเอ่ยปากเล่า แต่เมื่อเหมือนแพรได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก "เกี่ยวอะไรกับพี" "ไอ้ไตรกับไอ้พี มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เคยทะเลาะตีกันเกือบตายตอนม.ปลายเพราะชอบสาวคนเดียวกัน มันเลยสัญญากันไว้ว่าจะไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อนอีก" "แล้วเกี่ยวอะไรกับเรา พีไม่ได้ชอบเราสักหน่อย" "ก็ไอ้มอสมันไปบอกไอ้ไตรแบบนั้น บอกว่าไอ้พีมันรักเธอ กำลังจะขอเธอคบเป็นแฟน ไอ้ไตรมันเลยปฏิเสธ เพราะไม่อยากเสียเพื่อน แต่สุดท้ายเธอกลับไปคบกับไอ้มอส ทุกคนก็เลยงง ไล่ไปไล่มาจนสุดท้ายเราไปถามไอ้พี มันบอกไม่เห็นรู้เรื่อง ถึงได้เข้าใจว่าไอ้มอสมันโกหก เพราะมันก็ชอบเธออยู่" เหมือนแพรส่งโทรศัพท์คืนให้อ้น เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีหรือควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองตอนนี้อย่างไร มันชาวูบไปทั้งตั







