Se connecterเช้าวันหยุดพักผ่อนตามประสาคนทำงานฟรีแลนซ์ ทำบ้างไม่ทำบ้าง ทำให้เธอค่อนข้างที่จะมีเวลาเหลือ แต่ความสงบสุขของเธอก็ต้องถูกทำลายลงด้วยเสียงร้องของเจ้าบี้ ที่ตอนนี้มันกระโดดขึ้นมานอนอยู่บนเตียงนอนกับเธอด้วย
"ข้าวแกฉันก็เทไว้ให้แล้วไง โน่นๆ" คนบอกชี้มือให้นังเหมียวหน้าบูด แต่มันไม่สนใจตามมือมองหน้าเธอเขม็ง พร้อมกับเสียงร้อง "แก่แล้วเอาใจยากจริงวุ้ย เหมือนเจ้านายแกไม่มีผิด เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย" คนบ่นลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงเสร็จแล้วก็ไปหยิบไม้ตกแมวมาแกว่งไปแกว่งมา เหมือนจะถูกใจมันเมื่อนังบี้มันพาตัวอ้วนๆ ของมันกระโดดตามไม้อย่างสนุกสนานแต่หน้าตามันก็แบบนั้นอ่ะนะ เหมือนแพรมองหน้ามันแล้วก็ต้องถอนหายใจ พลางอมยิ้ม เมื่อเห็นจะถูกใจมันเหมือนแพรจึงเอนตัวลงนอนใช้แขนอีกข้างท้าวศีรษะเอาไว้หลับตาลงแต่มืออีกข้างก็ยังแกว่งเจ้าไม้ตกแมวไปมา โดยไม่ลืมตาดูว่านังบี้มันจะกระโดดไปทางไหน จนเธอเกือบจะเคลิ้มหลับอีกรอบ แต่เพราะเสียงเรียกเข้าจากไลน์ B.trai เหมือนแพรหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็ได้แต่บ่นอุบอิบอยู่คนเดียว แถมไอ้บ้านี่ยังโทรมาในโหมดวิดีโอคอล เธอกดรับทั้งที่ตายังสะลึมสะลือ นอนตะแคงอีกมือจับโทรศัพท์ อีกมือยังแกว่งไม้ให้แมว เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ได้ยินแต่เสียงไอ้บ้าไตรไอโขกเหมือนสำลักอะไรสักอย่างอยู่ปลายสาย "นี่เธอ แต่งตัวให้มันดีๆ ก่อนรับโทรศัพท์ไม่ได้หรือไง" เหมือนแพรเหมือนจะตื่นเต็มตาก็ตอนนี้ เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าไอ้ชุดนอนไม่ได้นอนของเธอ แถมยังโนบราอีก แล้วตอนที่กดรับสายก็ไม่ได้มองว่ากล้องมันหันไปทางไหน เธอว่าเธอหันหน้าจอไปหาไอ้บี้นั่นแล้วนะ "ไอ้บ้าไตร" เหมือนแพรโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วก็รีบคว้าชุดคลุมตัวยาวมาสวมทับไว้ จัดเผ้าจัดผมให้ดีก่อนอีกครั้ง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู "แล้วโทรมาทำไมแต่เช้า" "เช้าที่ไหน จะสิบโมงแล้ว นี่ฉันถึงเชียงรายแล้วด้วยซ้ำ เจ้าบี้เป็นไงบ้าง" คราวนี้เธอหันกล้องไปทางเจ้าตัวยุ่ง "มันสบายมาก ฉันเริ่มเข้าใจแม่นายแล้ว" เสียงปลายสายหัวเราะใส่ "แค่สามวันเองน่า เดี๋ยวซื้อขนมไปฝาก" คนจะได้ค่าจ้างเป็นขนมทำเสียงขึ้นจมูก "แล้วปกติมันอยู่บ้านยังไง นายไม่ต้องดูมันตลอดหรือไง" "ปกติฉันดูผ่านกล้องวงจรปิด หรือจะให้ไปติดไว้ที่บ้านเธอไหมล่ะ ฉันได้ไม่ต้องโทร เดี๋ยวเข้าไปดูเอง" "ไอ้บ้า แค่นี้นะ ฉันจะไปหาอะไรกินแล้ว หิว" พูดจบเหมือนแพรก็กดวางสายโดยไม่สนใจว่าไตรฉัตรจะโอเคหรือไม่ การอยู่กับเจ้าบี้วันแรกเหมือนจะผ่านไปด้วยดี มันก็เพียงอยู่ของมัน นอนในตะกร้าบ้าง เดินมาคลอเคลียกับเธอบ้าง บางครั้งก็หายไปทางไหนไม่รู้ อาหารเช้าและเที่ยงของเธอวันนี้จึงเป็นอาหารแช่แข็งจากคุณนายราตรีที่ทำมาใส่ตู้เย็นไว้ให้ แต่พอมื้อเย็นเธอก็เริ่มอยากจะไปหาอย่างอื่นกินข้าง จังหวะเดียวกับที่มอสโทรหาเธอ และบอกว่าจะมาเยี่ยม เหมือนแพรจึงชวนมอสออกไปกินข้าวข้างนอก มอสมาถึงที่คอนโดเธอเกือบจะทุ่มพอดี เหมือนแพรจัดการกับเจ้าบี้เสร็จก็ลงไปที่หน้าล็อบบี้ นายมอสไม่ทันได้เสนอร้านอาหารเหมือนแพรก็ลากแขนเขาให้เดินตามออกมา ร้านจิ้มจุ่มข้างทางถัดจากคอนโดเธอมาเพียงนิด เธอเล็งร้านนี้มาหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่มีโอกาส นายมอสได้แต่โครงศีรษะ "ก็ได้ แต่อย่าเผ็ดมากนะ อยู่ที่นั่นนานไปหน่อย กินเผ็ดไม่เก่งแล้ว" "ได้ๆ" คนรับปากเขียนรายการอาหารลงในกระดาษสมุดฉีดเล่มเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ ทุกอย่างมีวงเล็บตามหลังว่าไม่เผ็ด แต่เมื่ออาหารมาเสิร์ฟนายมอสกินได้ไม่กี่คำก็ต้องแลบลิ้นออกมาตากอากาศภายนอก เหมือนแพรขำเขาเบาๆ แล้วก็สั่งข้าวเหนียวเพิ่มให้อีกกระติ๊บน้อย "กินข้าวเหนียวเยอะๆ มันจะได้ไม่เผ็ด" "หนักกว่าเก่า พอมันเผ็ดไปโดนกับร้อนๆ โอ๊ยตาย" คนบ่นแต่ก็ยังจิ้มข้าวเหนียวกับน้ำตกหมูไม่หยุดมือ อาหารกำลังอร่อยถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเข้าจากไลน์ เธอกดรับสาย "กินข้าวอยู่ข้างนอก ไอ้บี้สบายดี" "กินอะไร" "ลาบ น้ำตก" ไตรฉัตรได้ยินเสียงใครบางคนสั่งเครื่องดื่ม กับน้ำแข็ง และเขาจำเสียงนั้นได้ดี สายตาดำขลับมองหน้าคนที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ แต่เหมือนเธอก็ไม่ได้จะสนใจมองที่หน้าจอสักเท่าไหร่ "กินให้อร่อยนะ" เหมือนแพรยังไม่ทันได้ตอบ เขาก็วางสายไปก่อนแล้ว เธอคว่ำโทรศัพท์ลงหันมาสนใจกับคอหมูย่างต่อ มอสรินน้ำอัดลมสีดำส่งให้เธอดูดไปอึกใหญ่พร้อมกับทำท่าชื่นใจ "ท่าจะอร่อย" "อยากกินมาตั้งนานแล้วไม่มีเพื่อนกิน" "ถ้าวันไหนบี๋อยากกินอีกก็โทรมาก็ได้ เดี๋ยวมากินเป็นเพื่อน แล้วเมื่อกี้ ไตร โทรมาหรือ" "อื้อ โทรมาถามเรื่องแมวอ่ะ" "ทำไมล่ะ" "เขาเอาแมวมาฝากเราเลี้ยงไว้สองสามวัน" "ลำบากใจหรือเปล่าที่ต้องทำงานกับนายนั่น" "ไม่หรอก ดีขึ้นแล้ว ไตรเขาเก่งมากเลยนะ ยิ่งพอได้ทำงานด้วย พลอยให้บี๋ได้ประสบการณ์ขึ้นเยอะเลย" "อื้อ ก็ดี" เหมือนแพรเรียกคนขายมาเก็บเงิน แต่นายมอสรีบจ่ายให้ "เดี๋ยวพรุ่งนี้บี๋เลี้ยงโอมากาเสะเราแทนแล้วกัน" "โห ค้ากำไรเกินควรนะเนี่ย" คนรู้ตัวว่าจะได้จ่ายของแพงรีบโวยวายจนนายมอสหลุดขำออกมาเสียงถามของไตรฉัตรทำให้เธอนึกขึ้นได้ถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วตอนนี้เธอก็ยังนอนกอดอยู่กับเขาอีกต่างหาก เธอเริ่มดันตัวออกห่างแต่แขนแกร่งที่กอดเอวเธอไว้กลับกระชับแน่นขึ้น "ฉันต้องกลับแล้ว" เสียงกระด้างบอกความต้องการ จนคนที่ตื่นแล้วแต่ยังไม่ยอมลุกต้องลืมตาขึ้นมอง "อะไรตื่นเช้ามาก็เสียงแข็งใส่เชียว ทีเมื่อคืนเสียงอ่อนเสียงหวาน" เธอแหงนมองหน้าคนที่กอดอยู่ ส่งสายตาขุ่นให้ทันที ที่เขารื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืน "ก็เราจะกลับแล้ว" "เดี๋ยวไปส่ง ต้องไปรับนังบี้ด้วย หรือจะเอาไว้เลี้ยงเอง" "ไม่เอา" เหมือนแพรรีบปฏิเสธทันที "ไตรฉัตร เราบอกว่าให้ปล่อย" เมื่อเขายังไม่ยอมคลายอ้อมแขน เธอก็ดิ้นขลุกขลักเขาก็ยิ่งออกแรงกอดเธอไว้แน่นเช่นกัน อกอิ่มเกยไปที่หน้าอกเขาถูกบดเบียดอยู่อย่างนั้น และครู่ต่อมาเธอก็สัมผัสเข้ากับน้องชายตัวใหญ่เขาอย่างจังอีกครั้ง เหมือนแพรดิ้นขลุกขลักได้อีกครู่เดียว เธอก็ต้องถูกเขาพันธนาการไปอีกครั้ง ถุงยางอนามัยอีกชิ้นที่วางอยู่ข้างเตียงถูกฉีกซองออกในตอนเช้า เมื่อเธอยิ่งขัดขืนไตรฉัตรก็ยิ่งเล้าโลมจนร่างอรชรนอนดิ้นพล่านอ่อนระทวย จากอากาศหนาวเมื่อครู่กลายเป็นไอร้อนจนสองร่างชุ่มไ
เหมือนแพรรีบตะแคงข้างหนีสายตาคมที่จ้องราวกับจับผิดเธอ แต่แขนแกร่งก็ยังไม่คลายอ้อมแขน เมื่อเธอพลิกตัวหนีเขาก็ตะแคงตัวซ้อนตามคนตัวเล็กมาติดๆ "เจ็บไหมเบบี๋" ไม่พูดเปล่า ไตรฉัตรยังไล้นิ้วไปที่เนินเนื้ออวบอูมด้านล่าง จนเหมือนแพรต้องหนีบขาแน่น แล้วปัดมือเขาออก แต่แขนที่มีมัดกล้ามแน่นๆ นั้นปัดอย่างไรก็ไม่พ้นทาง นิ้วร้ายเริ่มกรีดกรายตามรอยแยกอีกครั้ง "อื้อ..ไตรน่ะ ปล่อยบี๋ก่อน" "ก็ถามไม่ตอบ เมื่อกี้เจ็บไหม" ไตรฉัตรกระซิบอยู่ที่ริมใบหู ลมหายใจอุ่นๆ ทำเอาเหมือนแพรลืมคำถามที่เขาถาม "เจ็บซิ" เหมือนแพรเริ่มดิ้นขลุกขลักเพราะนิ้วยาวของเขาเริ่มซุกซนก่อกวนนอกจากแหวกกลีบกุหลาบให้แยกแล้วยังไล้นิ้วเขี่ยขยี้อยู่แถวช่องทางรัก จนเธอเผลอเกร็งท้องน้องคิดว่าเขาจะกดนิ้วลงไปเสียอีก แต่ก็เพียงวนเวียนอยู่แบบนั้น "อื้อ..ไตร..พะ..พอแล้ว" เสียงกระเส่าเอ่ยแทบไม่เป็นคำ มือเล็กดันแขนเขาให้ออกห่าง แต่แขนเขาแข็งแรงมากจนมันไม่ขยับไปทางไหน จนเธอเผลอจิกเล็บเขาที่แขนเขาไว้แน่น "เสียวไหม" "อ๊ะ .." เหมือนแพรแหงนหน้าขึ้น แล้วก็กัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น เพราะมันคอยจะส่งเสียงลามกออกมา "พอจริงหรือ" เสียงทุ
ฝ่ามือใหญ่ดึงชายผ้าขนหนูออกมาเพียงนิด ก็เผยให้เห็นร่างอรชรขาวผ่องอวดสายตา ไตรฉัตรแอบลอบกลืนน้ำลายจากที่เคยเห็นภายนอกเขาคิดว่าเธอก็คงธรรมดา หน้าอกอิ่มแม้ยามเธอใส่ชุดเซ็กซี่มันก็ไม่ได้ดูใหญ่โตขนาดนั้น แต่ที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ อีกทั้งฝ่ามือใหญ่ที่กอบกุมไว้ทั้งเต้าจนเต็มมือมันอวบอิ่มอยู่ไม่น้อย เขาก้มลงมาดูดยอดอกสีอ่อนชูชันอีกข้าง เหมือนแพรสะดุ้งตัวนิด แต่เมื่อปากเขาดูดเน้นเธอก็แอ่นอกขึ้นหา มือเรียวสอดเข้าไปที่เรือนผมดกดำของเขา ปลายนิ้วขยุ้มเบาๆ ยามเมื่อลิ้นร้ายกวัดเกี่ยวยอดไตแข็งชูชัน อีกข้างก็ถูกปลายนิ้วเรียวเขี่ยขยี้ เขาย้ายจากข้างนั้นก็ไปข้างนี้อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย "อะ..อื้อ.." เหมือนแพรเริ่มส่งเสียงในลำคออย่างไม่อาจกลั้น ยามเมื่อคนด้านบนเริ่มรุนแรงขึ้นมันไม่ได้เจ็บแต่กลับเสียวซ่านไปทั้งตัว เหมือนแพรสัมผัสได้ถึงแรงบีบตัวที่ช่องทางว่างเปล่าด้านล่างกลางกายสาว จนอยากให้เขาเข้ามาสัมผัส มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนจนมาถึงจุดที่เธอเพิ่งเผลอคิดเตลิดไปเมื่อครู่ นิ้วยาวกรีดตามรอยแยกที่ปิดสนิทปลายนิ้ววนเวียนอยู่ปากทางรักที่ฉ่ำแฉะ แค่เพียงนิ้วเขาจุ่มลึกลงไปเหมือนแพรก็ผวาตัวเข้าหารั้งแขนแกร่งเขาไว้เป
ใบหน้าหวานปรือตามองคนตัวโตอย่างรอคอยคำตอบ มือใหญ่ยังไม่ปล่อยจากท้ายทอยเธอ ใกล้กันเพียงนิด แต่เหมือนยิ่งรู้สึกไกลเขาขึ้นไปอีกเพียงเพราะคำพูดที่เธอเผลอเอ่ยปากออกมานั่นหรือเปล่า อีกใจก็หวาดหวั่นไม่น้อยกลัวเขาจะปฏิเสธ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเพราะเรื่องที่เธอได้ยินมา มันถึงช่วยเพิ่มความกล้าให้เธอถึงขนาดนี้ "ถ้าผ่านคืนนี้ไปแล้ว ความเป็นเพื่อนของเรามันอาจจะไม่เหมือนเดิมนะ" เสียงทุ้มเอ่ยเตือนคนตัวเล็ก "ความจริงสำหรับเรา มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่ที่เธอปฏิเสธเราคราวนั้นแล้ว ไหนๆ เธอก็ปฏิเสธเราอีกครั้ง ผ่านคืนนี้ไปเราอาจจะเป็นแค่คนรู้จักกันเฉยๆ ก็ได้" "เธอแน่ใจนะ" "อื้ม" "ไปคอนโดเรานะ" ไตรฉัตรกระซิบบอก เหมือนแพรจึงได้แต่พยักหน้า ภายในรถยังคงไม่มีเสียงของคนทั้งสอง เหมือนแพรได้แต่หันหน้ามองไปข้างกระจก ไม่ได้สนใจคนขับรถที่คอยจะหันมามองเธออยู่บ่อยๆ ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดสนิท แต่กลับมองไม่เห็นดวงดาวสักดวง คงมีแต่แสงสายฟ้าที่แลบลงมาเป็นระยะๆ และเวลาต่อมาสายฝนก็โปรยปรายลงมาพอให้ชุ่มฉ่ำ จากสถานบันเทิงไตรฉัตรขับรถเพียงไม่นานก็มาถึง คอนโดหรูใจกลางเมืองราคาแต่ละห้องแทบจะไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้
อ้นขึ้นเสียงใส่แล้วก็จับแขนบี๋ให้เดินตามออกมา แต่ไอ้มอสก็รั้งแขนเธออีกข้างไว้ เหมือนแพรพยายามสะบัดให้หลุดแต่มันก็ไม่หลุด เมื่ออ้นหันไปจะผลักออก แต่กลับโดนไอ้มอสชกเข้าที่ปากอย่างจัง เมื่อมืออ้นหลุดจากเหมือนแพร เธอก็ถูกมอสดึงให้ไปยืนอยู่ข้างๆ "ปล่อยนะมอส" เหมือนแพรดึงมือออกจากการเกาะกุมอย่างยากลำบากกว่าจะหลุดออกมาได้ แต่พอหลุดออกมาได้เธอก็รีบวิ่งออกมา อ้นรีบคว้าแขนไอ้มอสไว้เพราะมันจะจับเหมือนแพรอีกครั้ง รั้งให้มันถอยหลังไปเกือบชนผนังห้องน้ำ เมื่อตั้งหลักได้ มอสก็ถลาเข้าใส่เหมือนแพรอีกครั้ง เธอรีบวิ่งมาได้เพียงไม่กี่ก้าว ก็ชนกับร่างใหญ่ของไตรฉัตร ที่วิ่งขึ้นบันไดมาอย่างรีบร้อน เขาคว้าเธอไว้ในอ้อมแขน ไอ้มอสที่กำลังจะถึงตัวเธอ จึงถูกเขาถีบจนหงายหลังไปนั่งกับพื้น "มึงเลิกยุ่งกับบี๋ได้แล้วไอ้มอส ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่เตือน" เสียงทุ้มต่ำเน้นคำพูดทีละคำ สายตาคมดุยิ่งดูเย็นชาจ้องหน้าไอ้มอสเขม็ง เหมือนแพรสะอื้นตัวโยนอยู่ในอ้อมกอดของไตรฉัตร เขาลูบผมเธอสองสามครั้ง ก่อนจะรั้งเอวให้เธอเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีอ้นเดินตามออกมาด้วย โดยไม่สนใจไอ้มอสที่ยังนั่งอยู่กับพื้นตรงนั้น มอสก้มมอง
"พูดมาอ้น ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น" เหมือนแพรยังไม่ยอมถอยห่างจากหน้าประตูยืนขวางอ้นไว้อย่างนั้น สายตาคาดคั้น จนในที่สุดอ้นก็ทนไม่ไหว เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เผื่อคนทั้งสองจะเข้าใจกันมากขึ้น กลับมารักกันอีกครั้งได้ "ก็ที่ไอ้ไตรมันปฏิเสธเธอ เพราะไอ้มอสไปบอกมันว่าไอ้พีมันชอบเธอ" เสียงถอนหายใจหนักๆ ของมอสก่อนจะเอ่ยปากเล่า แต่เมื่อเหมือนแพรได้ฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นไปอีก "เกี่ยวอะไรกับพี" "ไอ้ไตรกับไอ้พี มันเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ เคยทะเลาะตีกันเกือบตายตอนม.ปลายเพราะชอบสาวคนเดียวกัน มันเลยสัญญากันไว้ว่าจะไม่ชอบผู้หญิงคนเดียวกับเพื่อนอีก" "แล้วเกี่ยวอะไรกับเรา พีไม่ได้ชอบเราสักหน่อย" "ก็ไอ้มอสมันไปบอกไอ้ไตรแบบนั้น บอกว่าไอ้พีมันรักเธอ กำลังจะขอเธอคบเป็นแฟน ไอ้ไตรมันเลยปฏิเสธ เพราะไม่อยากเสียเพื่อน แต่สุดท้ายเธอกลับไปคบกับไอ้มอส ทุกคนก็เลยงง ไล่ไปไล่มาจนสุดท้ายเราไปถามไอ้พี มันบอกไม่เห็นรู้เรื่อง ถึงได้เข้าใจว่าไอ้มอสมันโกหก เพราะมันก็ชอบเธออยู่" เหมือนแพรส่งโทรศัพท์คืนให้อ้น เธอไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีหรือควรจะจัดการกับความรู้สึกตัวเองตอนนี้อย่างไร มันชาวูบไปทั้งตั







