ฉันนึกสงสัยว่าเพราะเขาไม่เห็นฉันเป็นผู้หญิงใช่ไหม
ถึงได้นึกอยากจะใส่แต่กางเกงก็ใส่ เงินทองก็มีเยอะแยะ เสื้อที่มีใส่บ้างก็ได้เถอะ บางวันฉันเห็นคุณหมอใส่แค่กางเกงขาสั้นที่แทบจะเหมือนกางเกงในบรีฟสีดำออกกำลังกายสงสารน้ำบ้างเถอะหมอ น้ำลายเอย เลือดกำเดาของน้ำจะไหลย้อยออกมาอยู่แล้ว
บางทีฉันก็อดคิดไม่ได้นะ ว่าหมอกำลังอ่อยฉัน แต่บางครั้งกลับรู้สึกว่าหมอคงไม่ได้เห็นฉันเป็นผู้หญิง หรือว่าหมอจะไม่ได้ชอบผู้หญิง จริงสิ ตั้งแต่ที่รู้จักกัน ฉันยังไม่เคยเห็นเขาพาผู้หญิงมาค้างที่ห้องด้วยเลยสักครั้ง
หรือว่าเขาไปซื้อกินข้างนอก ไม่หรอกมั้ง เป็นหมอใช้ทุนงานยุ่งยิ่งกว่าอะไร เวลาจะนอนยังแทบไม่มี
วัน ๆ ได้นอนกี่ชั่วโมงกัน วันหยุดก็ใช่ว่าจะมีเยอะแยะ
เที่ยงคืน ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
ดูตามแผนที่แล้วไม่ไกลจากคอนโดของคุณหมอ ฉัน
ขับรถมาแค่สิบนาที ในตัวเมืองเชียงใหม่ก็แคบ ๆ ร้านแต่ละร้านก็ไม่ไกลกันมากนัก ขับรถแค่ไม่ถึงสิบนาทีก็มาร้านอาหารกึ่งผับดูจากสถานที่แล้ว ที่นี่คงไม่เหมาะกับนักศึกษาอย่าง
พวกฉัน แค่ทางเข้า แค่ที่จอดรถหรือแม้แต่ รปภ. ต่างดูดีมีระดับ เหมาะกับคนวัยทำงานมากกว่านักศึกษา แต่ถ้าเป็นนักศึกษาก็ต้องมีเงินหน่อยนั่นแหละ ซึ่งก็คงไม่ใช่ฉันSaiNam : มาถึงแล้วนะคะ
ฉันส่งข้อความบอกคนที่ให้มารับ เพียงไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับ ‘ผู้หญิง’ แล้วทั้งสองกอดกัน ก่อนที่
คุณหมอธาร์ของฉันจะเดินตรงมาที่รถ ใครกันผู้หญิงคนนั้น แค่มองไกล ๆ ก็รู้ว่าสวย คนไม่สวยหัวใจเจ็บจี๊ดอย่างบอกไม่ถูกย้ำกับตัวเองว่ามีสถานะแค่ ‘แม่บ้าน’ และ ‘คนขับรถ’ อย่าทำตัวล้ำเส้น
“รอนานไหม” คำทักทายเมื่อเขาขึ้นมานั่งข้างตำแหน่งคนขับ
“ไม่นานค่ะ หมอเมาหรือเปล่าคะ”
กลิ่นละมุดหึ่งขนาดนั้น ไม่เมาก็แปลกแล้ว คงเพราะฉันไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา เพราะตกใจที่เห็นเขากอดกับผู้หญิงคนนั้นหน้าร้าน จึงถามคำถามโง่ ๆ ออกไป
“ไม่เมา กลับกันเถอะ ง่วงนอนแล้ว ปวดหัวด้วย”
ว่าแล้วเขาก็หลับตลอดทาง ฉันได้ยินเสียงเขากรนเบา ๆ ด้วยนะ คิดแล้วยิ้มกับไฟจราจรตรงหน้า เวลานี้ไฟจราจรยังทำงานอีกเหรอ เลยเที่ยงคืนแล้วเนี่ยนะ
เพราะสัญญาณไฟจราจรบอกว่าอีกหนึ่งร้อยสิบวินาที ฉันวางใบหน้าของตัวเองบนพวงมาลัย เอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อมองคนที่หลับใหลไม่ได้สติ แสงสีแดงจากไฟจราจรและแสงไฟ
สีเหลืองนวลจากไฟข้างทางทำให้หมอหล่อบอกต่อด้วยยิ่งหล่อเกินกว่าจะอยากบอกใคร
ครั้งแรกที่ฉันได้มีโอกาสมองหน้าเขาเวลาหลับ เป็น
ครั้งแรกอีกเช่นกันที่ได้มองเขานานขนาดนี้ และเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอิจฉาผู้หญิงคนนั้น คนที่อยู่ในอ้อมกอดเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ฉันหันมามองเสี้ยวหน้าคนหลับ ไม่อยากปลุกเขาเลย แต่ก็นั่นแหละ หากไม่ปลุก ฉันก็คงไม่มีปัญญาพาเขาขึ้นห้องได้
ฉันดับเครื่องยนต์เดินอ้อมจากฝั่งของคนขับ เปิดประตูฝั่งผู้โดยสารข้างคนขับ ลมหายใจเขายังคงสม่ำเสมอบ่งบอกว่ายังหลับสนิท ฉันทรุดตัวลงนั่งข้างประตูมองใบหน้าเขามุมนี้ ได้แต่บอกกับตัวเองว่า ‘หล่อ’ แต่เขาเป็น ‘ผู้มีพระคุณ’
“หมอ หมอ ถึงแล้วค่ะ” ฉันเขย่าแขนคนหลับอยู่นานกว่าเขาจะตื่น แต่นั่นแหละนะ คนเมา แค่ยืนตรง ๆ ยังทำไม่ได้ ด้วยความสูงที่ต่างกัน กลายเป็นว่าตอนนี้เหมือนฉันกำลังแบกเขาขึ้นห้องอย่างนั้นแหละ ทุลักทุเลมาก
“หมอทำไมต้องดื่มขนาดนี้ด้วย” ฉันทั้งบ่นทั้งหอบ กว่าจะลากเขามาถึงเตียงได้
“อืม อาบน้ำ” ยังจะอาบน้ำอีก
“เดี๋ยวน้ำเช็ดตัวให้ หมออาบไม่ได้ เมาอยู่ เดี๋ยวล้มในห้องน้ำ” ฉันบอกกับคนเมาที่ปรือตาขึ้นมามองฉัน ทั้งยังบ่น
ปวดหัว สมน้ำหน้า ใครให้ดื่มขนาดนั้น
“หมอ!” ฉันอุทานอย่างตกใจเมื่อกลับมาจากเตรียมผ้าสำหรับเช็ดตัว ก็ผู้ชายตรงหน้านอนแก้ผ้า แต่ยังดีที่เหลือบ็อกเซอร์ไว้ตัวหนึ่ง ไม่อย่างนั้นคือชีเปลือยจริง ๆ
ฉันแค่ไปเตรียมกะละมังกับผ้าขนหนูจะมาเช็ดตัวคนเมาเท่านั้น แล้วนี่อะไรกัน ต้องถอดผ้าผ่อนออกหมดขนาดนั้น
ฉันถอนหายใจหลายต่อหลายครั้ง คิดเสียว่าตอนนี้ฉันกำลังฝึกงานในการเช็ดตัวคนไข้ก็แล้วกัน ฉันวางกะละมัง
ข้างเตียง นั่งบนเตียงข้าง ๆ เขา ผ้าขนหนูผืนน้อยถูกเช็ดอย่างเบามือเพราะกลัวเขาตื่นหล่อ หล่อ หล่อ ไม่ว่าจะเป็นโครงหน้า คิ้วได้รูปทั้งสองข้าง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักสวยสีระเรื่อถึงไม่แดงจัด แต่ก็ดูออกว่าเป็นคนสุขภาพดี
เขาโดนพ่อสวดยับและต้องอดทนไม่แรดอยู่หลายเดือนเพื่อรักษาภาพลักษณ์ “วันนี้ทำหน้าที่เมียหน่อยไหม ช่วงนี้ผมของขาด” คำพูดของเขาทำให้ธีริศิราถึงกับหน้าม้าน เขามันบ้า ผู้ชายบ้า หื่น ลามก ความดีทั้งหมดเขาคงยกให้พี่ชายไปตอนที่คลอดออกมา ถึงได้เหลือแต่ความเลวแบบนี้ “อย่ามาทำรุ่มร่าม นี่งานแต่งพี่ชายคุณ” พยาบาลสาวพยายามข่มความโมโห “เหรอ งั้นเราไปหาที่เงียบ ๆ คุยกันดีไหม” “ไม่!!!” เรื่องอะไรเธอจะไปกับคนอันตรายอย่างเขา “หรือผมควรบอกเรื่องนี้ให้สายน้ำกับธาร์รู้ดี ว่าเรื่องที่ผมโดนนางแบบสาวคนนั้นด่าจนเสื่อมเสียถึงวงศ์ตระกูลเพราะคุณเป็นต้นเหตุ” ธีริศรากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เวรกรรมอะไรของเธอที่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคนแบบนี้ “อาไธม์ ป้ากล้วย” เทวดาตัวน้อยมาช่วยเธอไว้ทัน ใครจะคิดว่าเลี้ยงมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย ตอนนี้น้ำเหนือจะช่วยให้เธอหลุดพ้นจากมารตรงหน้าได้ “ว่าไงครับเหนือ” “ป้ากล้วย เหนือปวดอึ” เด็กชายศิรากระซิบผู้เป็นป้า “ปะ เดี๋ยวป้าพาไป” เธอเห็นทางหนีเขาได้จึงรีบพาหลานชายออกมา แต่คนที่ไม่ควรเดินตามมากลับเดินตามม
“งกไปไหน ลูกผัวไม่มี” ธาร์บ่นให้น้อง “ต้องงกสิ ไม่มีผัวนั่นแหละถึงต้องประหยัด” คนไม่มีผัวแก้ต่าง ใช่สิ เธอไม่มีผัวนี่นา แล้วคนที่มาจีบก็น้อยนิดเหลือเกิน เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็นามสกุลของเธอนี่ไง ‘โชติภิวรรธ’ ตระกูลหมอ เจ้าของโรงพยาบาล คลินิกและธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะพ่อกับแม่ของเธอยังเป็นคนดังในวงการบันเทิงอีก “อายุแค่นี้ไม่ต้องรีบมีหรอกสามีน่ะ” สายน้ำบอกกับคุณหมอสาว “คุณแม่ลูกสามอย่างน้ำบอกเราว่าไม่ต้องรีบเหรอ” ใบบุญญาเอียงคอมองคนพูด นี่หวังดีจริง ๆ ใช่ไหม “เอ่อ พี่ธาร์รู้จักกับเจ้าประกายแก้วเหรอคะ”เจ้าประกายแก้วคือเจ้าของตึกที่เธอขอเช่า “เคยเจอ เขาเป็นแฟนคลับของแม่พี่” “แฟนคลับป้าศิตาเหรอ” ใบบุญญาไม่อยากจะเชื่อ ว่าโลกจะกลมขนาดนี้ แต่เพราะแม่ของธาร์ดังกว่าแม่ของเธอที่เป็นนางร้ายกลางแถว ไม่แปลกที่จะมีคนรู้จักมากกว่า “ถามทำไม” ธาร์หรี่ตามองคนที่ถาม ปกติใบบุญญาไม่ค่อยสนใจเรื่องชาวบ้าน เธอทำงานที่เกี่ยวกับเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว จึงอยากใช้ชีวิตนอกเวลางานไม่ใส่ใจเรื่องชาวบ้านมากกว่า “เปล๊า! พี่มีอ
คุณหมอสาวใบบุญญามองหลานสาวทั้งสองในวัยสามขวบที่พูดชัดยิ่งกว่าเด็กวัยเดียวกัน คงเพราะถูกเลี้ยงโดยคุณป้าศศิตาแน่เลย เพราะท่านชวนเด็ก ๆ คุยไม่หยุด “อาใบมีแฟนยังคะ” เด็กวัยสามขวบถามจิตแพทย์สาวด้วยคำถามที่คนฟังแอบสะอึกเล็กน้อย “เอ่อ ยังไม่มีจ้า อาใบงานเยอะไม่มีเวลาเลยค่ะ” จิตแพทย์สาวใบบุญญาบอกกับหลานสาวเสียงหวาน เธอย้ายมาประจำโรงพยาบาลจิตเวชที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่ ทั้งยังใหญ่ที่สุดในภาคเหนือตอนบน ยิ่งสังคมเมืองเจริญมากขึ้นเท่าไร ปัญหาด้านสุขภาพจิตยิ่งตามมามากขึ้น ใบบุญญาตั้งใจเรียนสาขาจิตเวชเพื่อต้องการเป็นส่วนหนึ่งที่จะได้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านจิตใจ ฟังแล้วนางเอกมาก นางเอกจริง ๆ แต่ตอนนี้นางเอกยังหาพระเอกไม่ได้ “อาใบสุดสวย ไม่ต้องมีหรอกครับแฟน เหนือยังไม่มีเลยครับ ตอนนี้เหนืออยากโฟกัสเรื่องงานกับการเรียนมากกว่า เราสองคนก็เหมือนกัน พูดเรื่องแฟนได้ไง ยังเด็ก” ศิราหรือน้ำเหนือในวัยชั้นประถม แต่กลับทำตัวเป็นผู้ใหญ่วัยมหาวิทยาลัย ใบบุญญากะพริบตาปริบ ๆ นี่แหละนะ ความต่างของการเลี้ยงดู หลานชายของเธออยู่กับปู่เลยกลายร่า
“น้ำเก่งเลี้ยงเหนือมาอย่างดี” “พี่ธาร์ก็ช่วยเลี้ยง อย่าลืมสิว่าเงินที่น้ำกับลูกกินใช้ มาจากเงินและจากการเช่าคอนโดที่พี่ทิ้งไว้ให้น้ำให้ลูก” ฉันละมือจากจานผลไม้ตรงหน้า ถอดถุงมือสำหรับทำอาหารออก ฉันหมุนตัวเปลี่ยนจากให้เขากอดฝ่ายเดียวกลายเป็นเราทั้งคู่กอดกัน “พี่ธาร์ทำไมให้เงินน้ำเยอะขนาดนั้นคะ ไม่เสียดายเหรอ” มูลค่าทรัพย์สินที่เขายกให้ฉันตอนนั้นรวม ๆ กันแล้วหลายล้านบาททีเดียว “ไม่เสียดาย กลัวน้ำลำบาก” “แล้วไม่กลัวน้ำเอาเงินไปเสวยสุขกับคนใหม่เหรอ” ถ้าตอนนั้นฉันไม่มีลูกฉันอาจเอาเงินนั่นไปซื้อผู้ชายหรือหาผู้ใหม่เพื่อลืมเขา “มันเป็นสิ่งที่น้ำควรได้ ส่วนน้ำจะเอาไปใช้ทำอะไรพี่คงห้ามไม่ได้ ในเมื่อให้น้ำแล้ว แต่ตอนเจอน้ำตอนนั้นก็แอบน้อยใจนะ ว่ากูไม่น่าให้เงินเอาไปเลี้ยงผัวใหม่ แอบงอนด้วยนะ แต่น้ำไม่รู้หรอก” “งอนแล้วไม่บอกใครจะรู้คะ” ฉันแซวคนขี้งอน งอนแต่ไม่บอกใครจะรู้กัน “ไม่กล้าหรอก ตอนนั้นเหนือขู่ไว้ด้วย ถ้าจีบแม่ยังไงก็จีบไม่ติดแม่รักพ่อ บอกพี่อย่างงี้ ใครจะกล้างอนถ้าเกิดน้ำไม่คุยด้วยพี่ก็ซวยสิ” “แล้วทำไมมาจีบล
“พี่ธาร์ เร็วสิคะ” ฉันเร่งเร้าเมื่อเขาจับมือฉันไว้ไม่ให้ได้ทำอย่างที่คิด “น้ำอยากให้พี่ทำอะไรครับ” เขาแกล้งกันใช่ไหม “กินน้ำสิ กินตรงนี้” ฉันร้องขอพร้อมทั้งเด้งเอวขึ้นให้เขารับรู้ว่าอะไรที่ต้องการให้เขากิน “น้ำฉ่ำมากเลย พี่ไม่เกรงใจแล้วนะครับ” “อื้ม...แรง ๆ ค่ะ” ฉันนอนหมดแรงอยู่บนที่นอนนุ่ม บทรักร้อนแรงในห้องน้ำกินเวลานานเกือบหนึ่งชั่วโมง คุณหมอนักรักใช้เวลาวันหยุดของเขาอย่างคุ้มค่า ละเลียดชิมทุกซอกทุกหลืบ หนึ่งชั่วโมงในห้องน้ำว่าหนักหนาแล้ว เทียบไม่ได้กับชั่วโมงครึ่งบนเตียง เราสองคนร้อนแรงยิ่งกว่าโดนยาปลุก จัดหนักหลายท่ายิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ผ้าปูเตียงที่ยับย่นเพราะความร้อนแรงที่ฉันกับหมอทำได้แค่สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง วันศุกร์หรรษา วันหยุดของเขาและลูกไปโรงเรียนช่วงเวลากลางวันที่ร้อนแรง เร่าร้อนและยาวนาน “พี่ธาร์ อีกเหรอคะ” ฉันครางถามเมื่อความคับแน่นแทรกผ่านกลีบดอกไม้เสียดสีจนฉันกระตุกตอบ “พี่หิวน้ำ โคตรหิว” “อา...”“เลือกได้หรือยังคะ” ฉันมองเด็กหญิงฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่ากำลังตั้งอกตั้งใจเลือกของขวัญวันเ
“ลินน์ กินข้าวก่อนเลยเดี๋ยวพี่ทำให้นะครับ” พี่ธาร์หรือคุณพ่อลูกสามวางถาดอาหารเช้าของเด็กทั้งสามไว้ตรงหน้า เมนูวันนี้กุ้งไข่ข้นกับต้มจืดกะหล่ำยัดไส้หมูสับของโปรดของสองแฝด “พ่อ ไปอาบน้ำก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่ดูลูกเอง” “เหนือกินข้าวครับ” มือฉันที่ตักข้าวป้อนลูกชายคนโต เพราะมือของเหนือยังไม่ว่างทำผมให้น้องสาว ส่วนเด็กหญิงทั้งสองกำลังตักข้าวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ข้อดีของเด็กหญิงทั้งสองคือกินเก่ง ไม่ต้องบังคับเหมือนพี่ชาย “เสร็จแล้วลีธ สวยมากครับ” ทำผมให้น้องเสร็จแล้วเหนือก็ชมพร้อมทั้งหอมหัวเหม่งน้องสาวหนึ่งครั้ง คนโดนหอมก็ยิ้มตาหยี ยกมือขึ้นไหว้พี่ชายตัวเองพร้อมกล่าวคำขอบคุณ ฉันมองภาพตรงหน้าอดยิ้มไม่ได้กับความรักของลูก ๆ ย้ายจากทำผมให้ลีธแล้วลูกชายก็มาทำผมให้ลินน์ต่อ ใช้เวลาประมาณสิบนาทีผมของลูกสาวคนเล็กก็เสร็จเรียบร้อย “น้องพี่สวยแล้วครับ” เหนือทำแบบเดียวกันกับลีธคือการหอมเหม่งและน้องก็จะไหว้ขอบคุณเช่นกัน “กินข้าวกันต่อค่ะ เดี๋ยวต้องออกจากบ้านแล้วลูก” วันนี้เป็นวันที่เชียงใหม่อากาศหนาว ฤดูหนาวที่มีเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ยังด