ณ โรงแรม
"ที่นี่เหรอมิริน?" คิ้วสวยขมวดเป็นปม เธอเงยหน้ามองยังโรงแรมที่มิรินพามา ซึ่งมันไกลจากมหา'ลัยมาก ไหนตอนแรกมิรินบอกว่าไม่ไกลไง มิรินโกหกเธออย่างนั้นเหรอ? "ใช่ ที่นี่แหละ" หญิงสาวส่งยิ้มให้คนตัวเล็กก่อนจะเดินเข้าไปยังด้านในโดยไม่รอเธอ ฮันน่ามองตามแผ่นหลังเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ เธอถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะตามไป ฮันน่าไม่ลืมที่จะส่งโลเคชั่นให้ขุนพล เพราะมันคือคำสั่งจากอีกคนที่ย้ำเธอมาตลอดทาง เขาส่งข้อความกำซับให้เธอส่งที่อยู่ให้ ไม่อย่างนั้นเขาจะตามมาถึงที่ และเธอก็เชื่อว่าขุนพลทำจริง เพราะเขาไม่เคยพูดเล่นเลยสักครั้ง Line! ขุนพล : ไหนบอกไม่ไกล อีกนิดออกนอกกรุงเทพแล้ว ฮันนา : เราก็ไม่รู้ มิรินบอกเองว่าใกล้มอ ขุนพล : แม่งตลอดเลย กำลังไป ฮันนา : ขุนพลไม่ต้องมานะ มันไกล ไร้การตอบกลับจากอีกคน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าขุนพลกำลังมาหาเธอ และฮันน่าต้องถอนหายใจออกมาเป็นครั้งที่สอง เธอเลือกอะไรได้บ้างตอนนี้ "ฮันน่า!" คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองยังเจ้าของเสียงเรียก เท้าเล็กรีบสาวยาว ๆ ตรงไปหาด้วยความเร่งรีบ "มาแล้วเหรอ" เธอหมายถึงคนคุยมิริน "ใช่ รออยู่บนห้องแล้ว" มิรินแสดงอาการตื่นเต้นดีใจจนปิดไม่มิด ฮันน่าทำได้เพียงฝืนยิ้มไปเล็กน้อย เธอรู้สึกไม่สบายใจยังไงไม่รู้ที่มายืนอยู่ตรงนี้ "ทำไมถึงนัดที่นี่ล่ะ" ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องนัดที่โรงแรม เธอไม่ใช่พวกอินโนเซ้นท์ถึงขนาดไม่รู้ว่าเขานัดกันมาทำอะไร ถ้ารู้ตั้งแต่แรกจะไม่มาด้วยเด็ดขาด มันใช่เรื่องที่เราต้องมานั่งเฝ้าเขาทำเรื่องอย่างว่ากันไหม "ไม่รู้พี่เขาน่ะ" มิรินตอบปัด เธอมีหน้าที่มาตามนัดแค่นั้น "เธอไม่ได้คุยกันเหรอมิริน" ฮันน่ารู้สึกว่าตัวเองมองมิรินผิดไป เธอนึกว่าคนตรงหน้าจะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่สนสิ่งรอบตัว ทว่า... "คุยแล้ว" หญิงสาวตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก มิรินเอาแต่ก้มหน้ากดมือถือจนไม่สนใจเธอที่มาเป็นเพื่อน "แล้วทำไม.." "ไปเถอะพี่เขารอนานแล้ว" ไม่รอให้ฮันน่าพูดจบ มิรินลากแขนคนตัวเล็กเข้าลิฟต์ไปทันที ระหว่างที่ลิฟท์เคลื่อนตัวขึ้นไปเรื่อย ๆ มือเล็กจึงหยิบมือถือมาดูข้อความขุนพลว่าได้ตอบกลับมาหรือเปล่า "ไม่ตอบเลยแฮะ" เธอพึมพำเสียงเบาก่อนจะเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าเหมือนเดิม "ถึงแล้ว" มาถึงยังชั้นที่มิรินนัดกับคนของเธอเอาไว้ ทั้งสองเดินตามทางไปเรื่อย ๆ กระทั่งไปหยุดที่หน้าห้อง ๆ หนึ่ง มิรินเอื้อมมือไปกดออด คนตัวเล็กกวาดตามองไปรอบ ๆ ชุดที่อยู่บนตัวเธอตอนนี้เป็นชุดนักศึกษา กลัวคนมาเห็นแล้วเข้าใจผิดเหลือเกินว่าเธอเป็นพวกผู้หญิงอย่างว่า ซึ่งในขณะเดียวกัน.. ครืน ครืน #เฮียฟลินต์ "เดี๋ยวก่อนมิริน" รั้งแขนอีกคนไว้ "มีอะไรเหรอฮันน่า" หญิงสาวหันมองด้วยความสงสัย "เราขอไปคุยโทรศัพท์กับเฮียก่อนนะ" พร้อมกับหันหน้าจอให้ดูว่าพี่ชายเธอโทรมาจริง ๆ "อ๋อ ได้สิ" หญิงสาวตอบไม่เต็มเสียง แม้มันจะหงุดหงิดใจเล็กน้อยที่เธอต้องเข้าไปคนเดียว แต่เธอเองก็ไม่อยากมีปัญหากับพี่ชายฮันน่าเช่นเดียวกัน "มิรินเข้าไปก่อนได้เลย" มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว เธอต้องเข้าไปก่อนระหว่างฮันน่ากลับมา "อืม ๆ" พยักหน้าตอบ หลังจากฮันน่าออกไปคุยกับสายพี่ชาย มิรินจึงหันกลับมาสนใจที่ประตู หญิงสาวกดออดหน้าห้องอีกครั้งเพื่อเรียกคนด้านในให้มาเปิดประตู แกร็ก! แอดด แววตานิ่งขรึมมองหญิงสาวในชุดนักศึกษาที่ลูกน้องเป็นคนหามาให้ตั้งแต่หัวจรดเท้า มิรินส่งยิ้มให้คนตรงหน้าก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้องพักคอนโดหรู สิ้นเสียงประตูปิดลง ร่างสูงขยับตามองเธอนิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเย็น "มาคนเดียวใช่ไหม" เขาไม่ชอบพวกทำอะไรเกินข้อตกลง เพราะไม่อยากให้ใครรู้ แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่รักษาสัญญา นั่นหมายความว่าเธอได้เลือกจุดจบของตัวเองแล้ว "ชะ ใช่ค่ะ" ก้มหน้าตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ "ไปรอในห้อง" "ค่ะ" มิรินรีบสาวยาว ๆ ไปรอครูซในห้องตามคำสั่งอย่างว่าง่าย เพราะรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา เธอไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงด้วยแน่นอน หลังจากหญิงสาวเข้าห้องไป ร่างสูงหมุนตัวก้าวไปยังระเบียงห้องพัก มือหนาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ นัยน์ตาเรียบนิ่งมองลงไปยังด้านล่าง ห้องที่เขายืนอยู่ตอนนี้อยู่ชั้นแปด ทำให้เห็นผู้คนเดินไปเดินมาได้อย่างชัดเจน ความจริงคอนโดนี้เป็นของเขาเอง แต่ห้องนี้เขามีไว้ปลดปล่อยกับผู้หญิงเท่านั้น ห้องพักส่วนตัวจะอยู่ชั้นบนสุดของคอนโด นานทีเขาจะมานอนที่นี่ ปกติอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในขณะนั่นเอง.. "...." หญิงสาวคนหนึ่งกำลังคุยมือถืออยู่กับใครสักคน แขนแกร่งค้ำกับราวระเบียงห้อง เขายืนมองเธอคนนั้นไม่ละสายตาไปไหน Part : ฮันน่า "หนูพาเพื่อนมาทำธุระค่ะ" (ที่ไหน) เฮียฟลินต์ถามเสียงเข้มทันทีเมื่อฉันบอกว่ามาทำธุระกับเพื่อน "เกือบนอกเมืองเลยค่ะ" (เพื่อนคนไหน?) นั่นไง ว่าแล้วต้องถามคำนี้ ถ้าบอกว่าเป็นมิรินเฮียต้องถามอีกแน่นอนว่าคนไหน เพราะเฮียรู้จักเพื่อนฉันทุกคน แต่กับมิรินเฮียยังไม่เคยเจอ "คนนี้เฮียไม่รู้จัก" (ทำไมไปไหนมาไหนไม่บอกเฮียก่อนฮันน่า) โดนบ่นอีกแล้ว "หนูโตแล้วนะ อีกไม่กี่เดือนก็จบแล้ว" (โตแล้วแต่ยังไม่ทันคน) เนี่ย ทั้งเฮียฟลินต์ เฮียวาฟิกซ์ชอบว่าให้ฉันแบบนี้อยู่เรื่อย ถึงฉันจะดูไม่ทันคนแต่ไม่เคยให้ใครมารังแกก็แล้วกัน ฉันรู้ว่าเฮียน่ะห่วงฉัน ไม่งั้นคงไม่มานั่งบ่นหรือกำซับแบบนี้หรอก "เดี๋ยวหนูก็กลับแล้ว" (ไปรถอะไร) "แท็กซี่ค่ะ" (ต้องฟ้องเฮียแแล้วมั้ง) "ไม่เอานะ" ถ้าฟ้องเฮียวาฟิกซ์ฉันต้องโดนตัดค่าขนมและโดนกักขังบริเวณแน่ (เดี๋ยวเฮียไปรับ) "ไม่ต้องค่ะ ขุนพลมารับหนูแล้ว" (มันถึงหรือยัง) "น่าจะใกล้แล้วแหละ" (ถ้าถึงแล้วถ่ายรูปมาด้วย) "รับทราบครับ!" (แค่นี้ก่อน เฮียต้องไปประชุมต่อแล้ว) "โอเคค่ะ สู้ ๆ นะคะคนเเก่งของหนู" (ครับ) "เราต้องขึ้นไปดีไหมอะ" ฉันพูดหลังจากวางสายเฮียฟลินต์ ไม่อยากขึ้นไปขัดจังหวะใคร หรือว่าฉันควรนั่งรอข้างล่างดี เอาไงดีแกยัยฮันน่า ฉันมองขึ้นไปยังชั้นบน แต่ในขณะนั้นเอง.. "ทำไมคุ้นจัง" ฉันรู้สึกคุ้นแผ่นหลังผู้ชายที่กำลังเดินเข้าห้องไปยังไงไม่รู้ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน น่าจะไม่มีอะไรหรอกมั้ง สงสัยนอนน้อยเลยคิดไปเอง "ฮันน่า" เสียงขุนพลหนิ "ขุนพล" มาเร็วจัง ขับหรือบินมาเนี่ย "ทำไมมานั่งตรงนี้" ขุนพลถามฉันพร้อมกับเหลือบขึ้นไปบนโรงแรม "เราไม่อยากขึ้นไปกวนมิรินน่ะ" "มาทำธุระอะไรที่โรงแรม" มาอีกคนแล้ว "เราก็ไม่รู้" "มีแต่มาเอาเท่านั้นแหละ" ทำไมเพื่อนฉันแต่ละคนปากร้ายกันจังเลย ว่าคีรินกับฟ้าครามปากจัดแล้วนะ เจอขุนพลไปมีร้องไห้กันบ้างแหละ รายนี้ยิ่งพูดไม่สนโลกด้วย "ขุน ไปว่ามิรินอย่างนั้นได้ยังไง" เหนื่อยกับเขาจริงเลยคนนี้ "กลับเลยไม่ต้องไปรอแม่งแล้ว" "จะบ้าหรือไง แล้วมิรินล่ะ" "มันไม่ตายหรอกแค่นี้ วิ่งมาหาผู้ชายได้ขนาดนี้ก็สุดยอดแล้ว" เห้อ~ ทำไงกับเพื่อนคนนี้ดีทุกคน "รอมิรินก่อนนะ" "ไม่คือไม่ ไปขึ้นรถ" โทนเสียงแบบนี้ห้ามขัดใจเด็ดขาด ไม่งั้นเรื่องถึงหูเฮียวาฟิกซ์แน่ "แต่ว่า.." ฉันไม่อยากทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว มาด้วยกันต้องกลับด้วยกันสิ แต่ขุนพลเองก็น่ากลัว "หรือจะให้ฟ้องเฮียวา" นั่นไง "กลับก็ได้ เดี๋ยวขอเราส่งข้อความไปบอกมิรินก่อน" "อืม" ฉันเอามือถือขึ้นมากดเข้าไลน์เพื่อส่งข้อความไปบอกมิรินว่าขอกลับก่อน ดูแล้วคงอีกนานกว่ามิรินจะเสร็จธุระ อย่างที่เคยบอกไป ถ้ารู้ว่ามาทำอะไรตั้งแต่แรกฉันคงปฏิเสธไม่มาด้วย ไม่ได้โง่ถึงขั้นไม่รู้ว่าผู้หญิงผู้ชายอยู่ในห้องกันสองต่อสองเขาทำอะไรกัน ต่อให้ฉันยังไม่เคยมีแฟนหรือผ่านเรื่องแบบนั้นมาก็เถอะ ฉันเรียนเรื่องพวกนี้มาเหมือนกัน "ไปกันเถอะ" "อืม" ฉันและขุนพลเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ขุนพลเป็นคนที่ไม่เคยปล่อยให้ฉันไปไหนมาไหนคนเดียวพอ ๆ กับเฮียทั้งสอง ต่อให้ไม่บอกก็ตามจนรู้ว่าฉันอยู่ไหนกับใคร ที่สำคัญเลยคือ..ขี้บ่นเหมือนกันทั้งสามคน "ทำไมขุนดูไม่ค่อยชอบมิรินเลย" ฉันถามเมื่อเข้ามานั่งในรถ ไม่ใช่แค่ขุนพลคนเดียว แต่เพื่อนฉันทุกคนดูไม่มีใครชอบมิรินเลยสักคน ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม "เรื่องวันนี้น่าจะทำให้ตาสว่างบ้างนะ" "ยังไง" "ไม่มีใครชวนเพื่อนมานั่งดูตัวเองเอากันหรอกนะ" "ขะ ขุน" เหลือเชื่อเลยผู้ชายคนนี้ "พูดให้เห็นภาพ อย่าโง่ฮันน่า" "ทำไมต้องดุ" "มันน่าไหมล่ะ ใครให้ช่วยอะไรก็ทำหมด" ใครบอกว่าขุนพลเป็นคนเงียบ มาดูตอนนี้เลยว่าเขาพูดมากแค่ไหน บ่นเก่งที่สุด บ่นจนบางทีฉันหลับไปเลย "ขี้บ่น" "เดี๋ยวแวะหาไอ้สองตัวนั้นก่อน" "สองฟ้าเหรอ" "อืม" "โอเค" จากนั้นขุนพลก็ขับรถออกจากโรงแรมมุ่งหน้าไปยังบ้านของฟ้าสวยฟ้าครามทันที ฉันไม่รู้จะทำอะไรเลยหยิบมือถือขึ้นมาดูซีรีส์เรื่องโปรดระหว่างทางไปบ้านสองคนนั้น ดูไปดูมาเหมือนหนังตาจะเริ่มหย่อน ขอตัวไปงีบหลับก่อนนะทุกคนPart : ครูซ"กูเรียกมาเอง""ไอ้ครูซ?" ผมปรายตามองไอ้ฟลินต์ มันขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนคนกำลังสงสัย มันคงสงสัยแหละว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้คุณป้า หรือแม่เมียผมนั่นแหละ "สวัสดีลูก" ท่านรับไหว้พร้อมกับเดินมาสวมกอดผม "แม่ไปกอดมันทำไม" ไอ้ฟลินต์ถามทันทีเมื่อแม่มันเดินผ่านหน้ามันเพื่อมากอดผม กูจะทำให้มึงเป็นหมาหัวเน่าให้ดู"เอ๊ะ ตาลูกคนนี้หนิ" ท่านหันไปปรามมันเสียงดุ สมน้ำหน้าไอ้ลูกพ่อแม่ไม่รัก"กับผมแม่ยังไม่กอดเลย" ก็มึงมันลูกเมียน้อย"เรามีคดีอยู่นะเจ้าฟลินต์" เยอะเลยคดีมันน่ะ"ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย" หน้าด้านมาก พูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไร ให้กูบรรยายความเหี้xมึงไหมไอ้เวร"พ่อไม่เกี่ยวนะ" ผมขยับสายตามองไปยังลุงชีวอน พ่อของมัน"พ่อมาทำไม" "มากับเมีย" "แล้วน้องล่ะลูก" แม่ผมถามหาฮันน่า "น้องนอนอยู่ครับ" เมื่อกี้เธองอแงขอนอนต่อสักงีบ ผมที่สงสารจึงยอมใจอ่อนให้นอนก่อนค่อยขึ้นไปปลุก "งั้นเรามาคุยกันก่อนระหว่างรอน้องตื่น" เห็นด้วยครับแม่"เชิญทางนี้ครับ" ผมผายมือให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่เดินไปนั่งที่โซฟาราวกับว่านี่เป็นบ้านของผม แล้วไอ้ฟลินต์กับพี่มันคือคนมาขออาศัยอย
สามวันต่อมา.."ฮันน่าออกมาคุยกับเฮียหน่อย" ฟลินต์และวาฟิกซ์พยายามง้อน้องสาวที่งอนตุ๊บป่องขังตัวเองอยู่ในห้องราวสามชั่วโมงกว่า เธอยื่นคำขาดหากทั้งสองพังประตูเข้ามาเธอจะหนีไปอยู่ที่อื่น สาเหตุที่ทำใหเธองอนก็มาจากเรื่องนั้นแหละ เชื่อไหมว่าครั้งสุดท้ายที่เธอได้คุยกับครูซคือวันเดินทางตอนอยู่บนเครื่อง ฮันน่าพยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ติดต่ออีกคนไม่ได้ วาฟิกซ์เองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนหายไปไหน สุดท้ายเขาต้องเดินทางมาหาน้องสาวคนเดียว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเขาต้องมากับครูซ "ไม่ค่ะ" "เฮียขอโทษ" ทั้งสองไม่นึกว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ เขาตั้งใจจะแกล้งเล่น ๆ ไหงกลายเป็นว่าครูซเสียใจแล้วหายไปเลย เบอร์มือถือก็ปิด ไลน์ก็ไม่ตอบ ปิดหนีทุกช่องทาง"เพราะมึงเลยไอ้ฟลินต์""แม่งใครจะคิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ว่ะ""มึงเคลียร์กับน้องให้หายงอนกูเลยไอ้เวร" เขาโดนหางเลขไปด้วยทั้งที่มันคือความคิดของฟลินต์คนเดียว"เครียดเลยกู" ฟลินต์เกาหัวตัวเองแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด แม่งผิดแผนไปหมดเลยตอนนี้ "ไปจัดการสิไอ้ฟลินต์" วาฟิกซ์คาดคั้นให้น้องชายเข้าไปง้อน้องสาว"กูเข้าไปหาน้องไม่ได้มึงก็เห็น" ก็ยืนอยู่ด้วยกันเห็นอยู่ว่าน้องล็อ
สองวันต่อมาณ สนามบินหญิงสาวตัวเล็กที่หน้าท้องเริ่มใหญ่เดินเคียงคู่มากับพี่ชาย ไร้เหงาอีกคนมาส่งอย่างที่ควรจะเป็น ฮันน่ายังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินตามฟลินต์ไปขึ้นเครื่องโดยที่เขาเป็นคนขับอีกเช่นเคย"หิวไหม""ไม่ค่ะ""คิดถึงมันเหรอ""เฮียก็รู้" เอ่ยหน้าเศร้า "หึ ทนหน่อยคนเก่ง" เขาว่าพลางจูงมือน้องสาวไปขึ้นเครื่อง หากคนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นคงเข้าใจว่าทั้งสองคือคู่สามีภรรยา เพราะความอ่อนโยนที่ฟลินต์มีให้น้องสาว ผู้หญิงเห็นต่างก็หลงใหลอยากได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นพ่อของลูก กระทั่งฟลินต์พาฮันน่าขึ้นมานั่งบนเครื่องบินส่วนตัว"อีกครึ่งชั่วโมงเครื่องออก" ต้องรอใครบางคนก่อน "หนูของีบก่อนนะคะ""ครับ"อีกด้านPart : ครูซ"นายทำอะไรอยู่""ออกไป" ผมไล่มันออกไป ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้น ผมนั่งมองรูปฮันน่าในมือถือตัวเองนิ่ง ในเมื่อเธอขอไม่ให้ผมไปส่งผมก็จะไม่ไป แต่อย่าเพิ่งคิดว่าผมจะยอมแพ้ ไม่มีทาง..คนอย่างผมไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกี่ยวกับเธอ"คิดจะหลอกกูมันไม่ง่ายหรอกไอ้พวกเวร" มันคงคิดว่าผมโง่จนไม่รู้ว่าพวกแม่งกำลังวางแผนแกล้งผมอยู่ อยากเล่นผมก็จะเล่นด้วยกลัวเด็
เวลา 16:00"....." ผมพาตัวเองมาอยู่หลังบ้านคนเดียวเงียบ ๆ ในสมองคิดเรื่องก่อนหน้านี้ เธอจะไปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แล้วเขาล่ะ ทำไมคนสุดท้ายต้องเป็นเขาตลอดที่รู้เรื่อง"นาย" "...." ไร้ซึ่งการตอบกลับจากอีกคน หนึ่งมองผู้เป็นนายแววตางุนงงก่อนจะก้าวไปหยุดข้าง ๆ "นายอกหักอีกแล้วเหรอ คนไหนอีกล่ะรอบนี้" น้ำเสียงเย้าแหย่ถูกส่งไปให้ผู้เป็นนาย นัยน์ตาเรียบนิ่งขยับมองลูกน้องตัวเองนิ่งแต่แฝงไปด้วยแรงอาฆาตที่พร้อมพุ่งไปกระชากให้หลับกลางอากาศ"สายตาแบบนี้ ใบหหน้าแบบนี้..""ไปไกล ๆ ตีนกู" ประโยคแรกที่เขามอบให้ลูกน้อย"ผมเอา..""ไอ้หนึ่ง!" ฟลินต์มาจากไหนไม่รู้ตะโกนเรียกหนึ่งเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจพร้อมกับหันไปมอง"คุณฟลินต์" ทำไมฟลินต์ต้องทำราวกับว่ากลัวอะไรสักอย่าง"มาช่วยกูยกของหน่อย" "แต่ว่า.." เขาคุยกับเจ้านายยังไม่จบ หนึ่งมองผู้เป็นนายที่เบือนหน้าไปทางอื่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาฟลินต์แทน"คุณฟลินต์ไม่มีเงินจ้างลูกน้องแล้วเหรอครับ ผมให้ยืมเอาไหม" ลูกน้องฟลินต์มีน้อยซะที่ไหน ทำไมหวยต้องมาตกที่เขา"อย่าไปยุ่งกับมัน""นายโดนคุณฮันน่าบอกเลิกหรือครับ""ไม่ กูนี่แหละบอกเลิ
น่าย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว" ที่บอกว่าย้ายถาวรไม่ได้พูดเล่น เขาให้ฮันน่าย้ายไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ ซึ่งในตอนแรกเขาจะให้น้องสาวไปอยู่กับป้า แต่พอมาคุยกับจริงจังฟลินต์เลยตัดสินใจที่จะซื้อบ้านใหม่เพื่อน้องสาวกับหลานที่กำลังจะเกิด แล้วพ่อแม่พวกเขาเห็นด้วยกับเรื่องนี้ หลังจากกลับไปรอบนี้ คนที่จะมาอยู่กับฮันน่าเป็นคนที่ฟลินต์จ้างมาโดยเฉพาะ เขามั่นใจว่าคนนั้นจะดูแลน้องสาวแทนพวกเขาได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากพวกเขาแน่นอน"ไม่เห็นหนูบอกเฮียเลย" ครูซถามคนตัวเล็กด้วยความน้อยใจ เขาตัวติดเธอทุกวันทำไมหญิงสาวถึงไม่บอกอะไรเขาเลย หรือที่เธอทำดีด้วยทุกวันนี้เพียงเพราะสงสารเท่านั้น พอคิดได้อย่างนั้นครูซก็นิ่งไป เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี มันรู้สึกน้อยใจ แต่เขายังไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเธอทั้งนั้น เห็นเขาเสนอหน้าอยู่ในบ้านก็เพราะความหน้าด้านของตัวเองล้วน ๆ คิดว่าเธอจะไม่ไปไหนแน่นอน สุดท้ายแล้วเธอก็ทิ้ง.."คือว่า.." มีท่าทีอึกอักเล็กน้อย"หนูไม่อยากอยู่กับเฮียใช่ไหม" เขาก้มหน้าเพื่อไม่ให้เธอเห็นดวงตาแดงก่ำของตัวเอง มันน่าสมเพชหากต้องร้องไห้ให้ใครเห็น"ใช่ น้องกูไม่อยากอยู่กับมึง" พอได้เห็นอาการครูซ ฟลินต์ยิ่งยากแกล
"ทำไมยังไม่นอนอีกมันดึกแล้ว" ครูซเข้ามาดูหญิงสาวในห้องของเธอ เข้ามาก็พบฮันน่ายังนอนทำตาแป๋วดูซีรีส์หน้าตาเฉย"กำลังจะนอนค่ะ" "จะนอนก็ปิดไอแพคก่อน" "เฮียไม่พักผ่อน" เธอเปลี่ยนเรื่องไปถามเขาแทน ครูซที่รู้ทันจึงส่ายหัวเบา ๆ กับความแสบซนของเธอ"เดี๋ยวเฮียเอาหนูนอนก่อนค่อยไป" ไม่อยากให้เธอนอนดึก ยิ่งกำลังท้องอยู่ด้วย มันไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองและลูกน้อยซึ่งในขณะนั้นเอง... ก็อก ก็อกครูซกำลังจะล้มตัวนอนเป็นต้องดีดตัวลุกนั่งเหมือนเดิมเพราะเสียงเคาะประตูห้อง เขาเดินเพื่อไปดูว่าเป็นใคร แล้วคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นฟลินต์พี่ชายคนตัวเล็ก แอดด"มึงมาทำไมไอ้ฟลินต์" "กูมานอน แล้วช่วยตั้งคำถามใหม่ด้วยนะ" นี่มันบ้านของเขา ซึ่งไม่ว่าเขาจะเดินหรือทำอะไรก็ได้ไม่ผิด คำถามนี้เป็นเขามากกว่าที่ควรถามครูซ"มึงจะมานอนนี่ทำไมห้องมึงก็มี" "นั่นแหละคำถามกู" "แต่ฮันน่าเป็นเมียกู" "กูอยากนอนกับน้องกู มึงมีปัญหาอะไร""น้องมึงแต่เมียกู""...." ฟลินต์ไม่ตอบเขาเดินผ่านหน้าชายหนุ่มไปยังเตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหน้าตาเฉย"เพิ่งกลับเหรอคะ" "ครับ" "เดี๋ยวนี้ติดสาวนะเฮีย""เหมือนที่หนูติดมัน"