Share

บทที่ 1123

Author: ไห่ตงชิง
แผนการปฏิรูป

สีหน้าของจางปี้อู่กับฟู่อวี้จือเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียบทันที

คำนี้ พวกเขาได้ยินมาจากปากของจ้าวเสวียนจีเป็นครั้งแรก

แม้ไม่รู้ว่าจ้าวเสวียนจีได้ข่าวมาจากที่ใด แต่พวกเขารู้ดีว่า จ้าวเสวียนจีไม่มีทางหยิบเรื่องสำคัญถึงเพียงนี้มาพูดเล่นแน่

“แผนการปฏิรูปนี้… แท้จริงแล้วจะปฏิรูปสิ่งใดกันแน่?” ฟู่อวี้จือเอ่ยถาม

จ้าวเสวียนจีตอบด้วยเสียงทุ้มว่า “ข้าก็ไม่ทราบรายละเอียด รู้เพียงว่าองค์รัชทายาทวางแผนนี้มานานแล้ว ส่วนรายละเอียด เนื้อหา ล้วนไม่ปรากฏ แต่สิ่งที่ชัดเจนในเวลานี้คือ แผนการนี้กำลังจะถูกนำเสนอออกมา อย่าลืมว่า พรุ่งนี้คือการเข้าเฝ้าเช้าครั้งแรกในรอบเดือน ต้องมีเหตุการณ์ใหญ่แน่นอน”

จางปี้อู่สีหน้าหนักแน่น กล่าวว่า “แล้วเราจะรับมืออย่างไร?”

จ้าวเสวียนจีถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “ทำได้เพียงก้าวไปทีละก้าว ดูสถานการณ์ไปก่อนเท่านั้น”

ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางปี้อู่กับฟู่อวี้จือก็ลุกขึ้นขอลา

“ท่านทั้งสอง สถานการณ์ในยามนี้ยากลำบากยิ่งนัก แต่ยิ่งเป็นยามคับขัน ก็ยิ่งเห็นจิตใจที่แท้จริง เวลานี้สำหรับพวกเราก็อาจนับว่าเป็นโอกาสเช่นกัน”

จ้าวเสวียนจีเดินมาส่งทั้งสองถึงหน้าห้องหนังสือ พลางเอ่ยด้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1125

    ฟู่อวี้จือรู้สึกว่าคำพูดของจางปี้อู่นั้นรุนแรงและสุดโต่งเกินไป แฝงไปด้วยความไม่ไว้วางใจและความคับข้องใจต่อจ้าวเสวียนจีแต่เขาก็จำต้องยอมรับว่า สิ่งที่จางปี้อู่พูดนั้นก็มีเหตุผลอยู่บ้างเวลานี้ เรืออย่างสำนักราชเลขากำลังรั่วซึมจนเต็มไปหมด ทว่าความคิดแท้จริงของจ้าวเสวียนจีคืออะไร พวกเขากลับไม่เคยล่วงรู้เลยฟู่อวี้จือขมวดคิ้วแน่น เอ่ยว่า “ท่านจาง สิ่งที่เจ้าพูดก็มีเหตุผลอยู่บ้าง เพียงแต่ข้าคิดว่า ขุนนางอาวุโสคงมีเหตุผลของตน”“เหตุผลอะไรนักหนา!”จางปี้อู่กระแทกเสียงอย่างไม่พอใจ “เวลานี้สถานการณ์ก็ย่ำแย่ถึงเพียงนี้แล้ว เขาแม้จะกล่าวว่าเป็นโอกาสดีให้เราจัดระเบียบคนในใหม่ จะได้ไม่เป็นเป้าสายตาเช่นเมื่อก่อน แต่เขาเคยคิดหรือไม่ว่า ตำหนักบูรพาจะให้โอกาสเราจัดคนใหม่อีกครั้งหรือ?”“อย่าว่าแต่จวนข้ากับจวนเจ้าเลย แม้แต่จวนจ้าวบัดนี้ก็กลายเป็นเขตหวงห้ามที่ผู้คนไม่กล้าเหยียบย่าง กลัวว่าจะถูกระบุว่าเป็นพวกของสำนักราชเลขา แล้วโดนโจมตี หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สำนักราชเลขาก็เหลือแต่ชื่อ ไม่มีตัวตนอีกแล้ว!”ฟู่อวี้จือยิ้มขมขื่นแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้น ท่านจางคิดจะทำอย่างไร?”“ข้าไม่ต้องทำอะไรหรอก”จางปี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1124

    พอได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพเหลียว หัวหน้าคนรับใช้ก็รู้ในทันทีว่าเรื่องเช่นนี้ตนไม่มีสิทธิ์ซักถามแม้แต่คำเดียว เขาจึงโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ข้าน้อยรับคำสั่งขอรับ”เขารีบเดินไปยังห้องหนังสือ ก็เห็นว่าบนโต๊ะมีจดหมายฉบับหนึ่งจริงๆ หัวหน้าคนรับใช้เห็นแค่เพียงคำว่า “เรียนโดยตรงถึงองค์รัชทายาทเย่หลี่เสินเสวียน แห่งแคว้นเหลียว” บนซอง หัวใจก็เหมือนถูกบีบรัดทันทีเขายกจดหมายขึ้นด้วยสองมือ ไม่แม้แต่จะเหลือบดูเพิ่มอีกครึ่งตา ก่อนจะเก็บซ่อนไว้แนบกาย จากนั้นก็รีบออกไปทำหน้าที่ทันทีเขารู้ดีว่า ถึงตนจะหัวหลุดก็ยังไม่เป็นไร แต่หากจดหมายฉบับนี้เกิดปัญหาแม้แต่น้อย ตนคงจะมีชะตาที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตายขณะเดียวกัน จางปี้อู่กับฟู่อวี้จือก็มาถึงหน้าจวนจ้าวพอดีเกี้ยวที่เป็นของทั้งสองคนจอดเรียงอยู่หน้าประตูจวนจ้าว รอให้ทั้งสองขึ้นเกี้ยวกลับบ้านจางปี้อู่ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนประตูจวนจ้าวนี่เปลี่ยนธรณีทุกสองสามปี เพราะคนเข้าออกมากเสียจนเหยียบจนพัง แต่มาตอนนี้ ดูท่าคงไม่ต้องเปลี่ยนไปอีกนานแล้วล่ะ”ฟู่อวี้จือเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “จวนข้าก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก ท่านจาง”จางปี้อู่หันไปมองยั

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1123

    แผนการปฏิรูปสีหน้าของจางปี้อู่กับฟู่อวี้จือเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียบทันทีคำนี้ พวกเขาได้ยินมาจากปากของจ้าวเสวียนจีเป็นครั้งแรกแม้ไม่รู้ว่าจ้าวเสวียนจีได้ข่าวมาจากที่ใด แต่พวกเขารู้ดีว่า จ้าวเสวียนจีไม่มีทางหยิบเรื่องสำคัญถึงเพียงนี้มาพูดเล่นแน่“แผนการปฏิรูปนี้… แท้จริงแล้วจะปฏิรูปสิ่งใดกันแน่?” ฟู่อวี้จือเอ่ยถามจ้าวเสวียนจีตอบด้วยเสียงทุ้มว่า “ข้าก็ไม่ทราบรายละเอียด รู้เพียงว่าองค์รัชทายาทวางแผนนี้มานานแล้ว ส่วนรายละเอียด เนื้อหา ล้วนไม่ปรากฏ แต่สิ่งที่ชัดเจนในเวลานี้คือ แผนการนี้กำลังจะถูกนำเสนอออกมา อย่าลืมว่า พรุ่งนี้คือการเข้าเฝ้าเช้าครั้งแรกในรอบเดือน ต้องมีเหตุการณ์ใหญ่แน่นอน”จางปี้อู่สีหน้าหนักแน่น กล่าวว่า “แล้วเราจะรับมืออย่างไร?”จ้าวเสวียนจีถอนหายใจเบาๆ กล่าวว่า “ทำได้เพียงก้าวไปทีละก้าว ดูสถานการณ์ไปก่อนเท่านั้น”ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางปี้อู่กับฟู่อวี้จือก็ลุกขึ้นขอลา“ท่านทั้งสอง สถานการณ์ในยามนี้ยากลำบากยิ่งนัก แต่ยิ่งเป็นยามคับขัน ก็ยิ่งเห็นจิตใจที่แท้จริง เวลานี้สำหรับพวกเราก็อาจนับว่าเป็นโอกาสเช่นกัน”จ้าวเสวียนจีเดินมาส่งทั้งสองถึงหน้าห้องหนังสือ พลางเอ่ยด้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1122

    ส่วนตำแหน่งบุคลากรในสำนัก หลี่เฉินจำต้องควบคุมไว้ในมือและสำหรับความนัยที่หลี่เฉินซุกซ่อนไว้ ซูเจิ้นถิงก็เห็นทีจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วเขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวว่า “ฝ่าบาท แม่ทัพคนแรกแห่งสำนักเสบียง หากให้หูซื่อฟานดำรงตำแหน่ง พระองค์เห็นว่าเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”หลี่เฉินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยหูซื่อฟานเป็นอดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของเทพสงคราม มีความจงรักภักดีต่อเทพสงคราม และภักดีต่อสกุลซูอย่างยิ่งดูจากการที่เขาร่วมปราบกบฏครานี้ ระดมกองทัพเหลียวตงฝ่าฟันกว่าพันลี้โดยไม่ย่อท้อ ก็ย่อมเห็นได้ว่าแม่ทัพเฒ่าผู้นี้ได้เดิมพันเกียรติยศและชีวิตทั้งชีวิตลงไปแล้วที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาอายุมากแล้วเขาเคยกล่าวไว้แต่แรกแล้วว่า หลังจากครั้งนี้อยากจะวางมือและด้วยวัยของเขา หลี่เฉินก็มีแผนจะหาผู้สืบทอดที่เหมาะสมเพื่อให้เขาได้เกษียณอย่างสงบแต่ในเวลานี้ ความคิดของซูเจิ้นถิงกลับเปิดแนวทางใหม่ให้กับหลี่เฉิน“หูซื่อฟานเป็นผู้บัญชาการแนวหน้า รู้ดีว่าทหารต้องการสิ่งใด รู้ถึงความสำคัญของสำนักเสบียง ตำแหน่งนี้ในยามสงบอาจดูไม่โดดเด่น แต่หากเกิดศึกสงครามเมื่อใด ก็จะกลายเป็นหัวใจหลักเสมอ นับแต่โบราณ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1121

    มีประสบการณ์ล้ำหน้ากว่าพันปีในภายหน้า อีกทั้งยังมีวิสัยทัศน์ในด้านการสร้างกองทัพยุคใหม่ หลี่เฉินจึงเชี่ยวชาญในเรื่องการปฏิรูปโครงสร้างของราชสำนักและกองทัพเป็นอย่างยิ่งแผนผังการวางยุทธศาสตร์ทั้งหมดล้วนบรรจุอยู่ในสมองของเขาแท้จริงแล้วในสายตาของหลี่เฉิน สิ่งที่เหมาะสมที่สุดก็คือการนำบทบาทงานการเมืองของกองทัพยุคใหม่เข้ามาใช้ในกองทัพ ทว่าไม่สอดคล้องกับสภาพบ้านเมือง ไม่เข้ากับระดับอารยธรรมของสังคม และไม่สอดรับกับระบบการปกครองของแผ่นดิน หลี่เฉินจึงทำได้เพียงละวางความคิดนี้แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังรวบอำนาจทหารจากจวนผู้บัญชาการทั้งห้ากับกรมยุทธนาการเดิมมารวมเป็นหนึ่ง แล้วแบ่งแยกออกเป็นสามส่วนความสัมพันธ์สามเส้า เป็นโครงสร้างที่มั่นคงที่สุดเสมอทั้งสามฝ่ายต่างถ่วงดุล ตรวจสอบกันและกัน โดยที่หลี่เฉินไม่จำเป็นต้องลงมือทำสิ่งใดมากมาย สามกรมนี้ก็จะเกิดการแข่งขันกันเองโดยธรรมชาติการแข่งขันเชิงสร้างสรรค์เช่นนี้ นั่นแหละคือสิ่งที่หลี่เฉินต้องการบรรลุเขาเพียงต้องดูแลแกนกลางผู้นำของทั้งสามกรมให้ดี ก็สามารถควบคุมกองทัพทั่วทั้งแผ่นดินได้โดยอ้อมซูเจิ้นถิงเดิมทีเข้าใจว่า การปฏิรูปของหลี่เฉินคงเปลี

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1120

    หากเรื่องนี้เกิดกับใครก็ตาม เมื่อได้ยินว่าข้างบนคิดจะยุบหน่วยงานที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ ย่อมต้องตกใจในบัดดลแต่ซูเจิ้นถิงกลับเพียงแค่ตะลึงไปเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า “อันที่จริง สำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็มิได้มีความจำเป็นต้องดำรงอยู่อีกต่อไป”การที่หลี่เฉินจะยุบสำนักบัญชาการทหารสูงสุด หาใช่เรื่องพร่ำเพ้อไร้เหตุผลและเหตุการณ์ครั้งนี้ แม้จะมิใช่สาเหตุหลัก ก็ยังถือว่ามีอิทธิพลอยู่บ้าง ทำให้หลี่เฉินเร่งแผนการออกมาเร็วขึ้นสำนักบัญชาการทหารสูงสุดก็จำเป็นต้องยุบ ไม่เช่นนั้น หน่วยงานนี้จะกระทบต่อการควบคุมกองทัพของตำหนักบูรพาในอนาคตโดยตรง“สำนักบัญชาการทหารสูงสุด เดิมคือกองบัญชาการแม่ทัพใหญ่ที่ก่อตั้งโดยปฐมจักรพรรดิเมื่อครั้งสร้างแคว้น ต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักกิจการลับ และสุดท้ายกลายเป็นสำนักจอมทัพห้ากองเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน”หลี่เฉินกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า “แรกเริ่ม สถานะของหน่วยงานนี้คือช่วยปฐมจักรพรรดิในการควบคุมกองทัพทั่วหล้า นับเป็นระบบบัญชาการสูงสุดของกองทัพต้าฉิน เพราะเมื่อตอนสร้างแคว้นใหม่ๆ ทุกด้านต่างก็อยู่ในภาวะขาดแคลน ซากเดนของราชวงศ์ก่อนหน้า โจรภูเขา และขุนศึกท้องถิ่นต่างยังไม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status