แชร์

บทที่ 1149

ผู้เขียน: ไห่ตงชิง
ว่างเว้นไร้กิจจึงมาฟังเพลงในหอเริงรมย์

ที่อี้หงหยวนข้างจุดพักแรม หวงจี๋เทียนขดตัวอยู่บนเตียงตัวยาว มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ อีกมือหนึ่งเคาะหน้าตัวเองเป็นจังหวะ

ข้างกาย มีหญิงงามอันดับหนึ่งสองนางผลัดกันปอกผลไม้ป้อนใส่ปาก

ด้านหน้าเตียงไม่ไกลนัก มีนักร้องชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบรรเลงเพลงน้อยเสียงใส

เพลงที่ร้อง ล้วนแฝงนัยลึกซึ้งเฉพาะผู้ใหญ่ แม้ไม่โจ่งแจ้ง แต่ก็ชวนให้จินตนาการ ถึงขนาดหวงจี๋เทียนที่ยึดตนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ยังต้องขบคิดอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะเข้าใจความหมาย

และเพราะเหตุนี้ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ถึงกับแทงใจกลับยิ่งดูน่าสนุกขึ้นมา

ผู้ชายหนอ ก็เป็นเช่นนี้กันทั้งนั้น

สิ่งใดได้มาง่ายย่อมไม่หวงแหน ตรงกันข้าม หากต้องใช้ความพยายาม แทรกเล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อยกว่าจะได้มา จะรู้สึกทั้งพึงใจและภูมิใจ

“ชีวิตเช่นนี้ ต่อให้เป็นเซียนข้าก็ไม่แลกหรอกนะ”

หวงจี๋เทียนอ้าปากรับองุ่นลูกหนึ่งที่หญิงงามข้างกายป้อน แล้วหันไปซดน้ำลูกหยางเหมยเย็นๆ อีกคำ ก็รู้สึกว่าคนต้าฉินช่างรู้จักใช้ชีวิตดีเหลือเกิน คิดแล้วก็น่าเศร้า ตัวเขาในแคว้นจินก็เป็นถึงองค์ชายแท้ๆ แต่ไม่เคยลิ้มรสความสุขเช่นนี้เลย

มิน่าล่ะ ถึงได
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1151

    สีหน้าหยอกเย้าของหวงจี๋เทียนแข็งค้างไปครู่หนึ่ง แล้วก็หัวเราะออกมาดังลั่น “เจ้าช่างชอบล้อเล่นนัก แต่เรื่องเช่นนี้ อย่านำมาล้อเล่นเลย ข้าว่าคนเขาจะตกใจตายเอา”หลี่เฉินหันศีรษะไปมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ผู้ใดล้อเล่นกับเจ้ากัน? ข้าจริงจังมาตลอด”ครานี้หวงจี๋เทียนหัวเราะไม่ออกจริงๆเขาพิจารณาใบหน้าของหลี่เฉินอย่างละเอียดถี่ถ้วน ก็ไม่อาจเห็นเค้าลางของการล้อเล่นแม้แต่น้อย หวงจี๋เทียนสะบัดมือหลี่เฉินออกทันที“เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!? กองทัพเกราะม้าหกแสนนั้น ใช่สิ่งที่เอามาล้อเล่นได้หรือ? ขอพูดตรงๆ เลยนะ กองทัพเกราะม้าหกแสนของแคว้นเหลียวล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น หากนำออกมาเพียงลำพัง ก็อาจล้มต้าฉินของเจ้าและแคว้นจินของข้าได้ไม่ยาก!”“ก็เพราะเช่นนั้นจึงต้องกลืนมันเสีย”หลี่เฉินแบมือกล่าว “ไม่เช่นนั้นเจ้าก็กลับไปล้างก้นรอให้กีบม้ากองทัพทหารเหลียวเหยียบเอาเถอะ?”หวงจี๋เทียนโมโหจนหัวเราะออกมา “เจ้าพูดจาเหลวไหล!”“เลิกพูดจาไร้สาระ พวกเจ้าแคว้นจินส่งทหารสามแสน ข้าต้าฉินส่งสี่แสน รวมเป็นเจ็ดแสน ลองสู้กับเหลียวดูสักครั้ง!”หลี่เฉินสีหน้าเหี้ยมเกรียม “ศึกนี้ ถ้าไม่ใช่เราสองฝ่ายพินาศ ก็ต้องเป็นแคว้น

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1150

    หวงจี๋เทียนหัวเราะเสียงดัง “องค์รัชทายาทต้าฉินยังว่างถึงขนาดห่วงใยข้าด้วยหรือ?”“ข้าไม่ว่างนักหรอก”หลี่เฉินก้าวมายังระเบียง หยุดยืนข้างหวงจี๋เทียน มองเมืองหลวงที่ลอยอยู่ในม่านฝน สูดหายใจลึก หลังฝนตกต่อเนื่องหลายวัน อากาศยิ่งเย็นสดชื่นราวกับความเย็นซึมผ่านโพรงจมูกลงปอด แล่นขึ้นสู่ศีรษะ ทำเอาทั้งคนสดชื่นขึ้นทันใด“แท่นเยียนไถเมื่อมองไกล ใจแขกพลันสะท้าน เสียงกลองแตรกึกก้อง ค่ายทหารฮั่นไหวไหว หมื่นลี้แสงเย็นปกคลุมหิมะขาว สีรุ่งสามชายแดนสะบัดธงกรานภัย ควันศึกในทะเลทรายพาดจันทร์แดนเถื่อน หมู่เมฆขาวล้อมเมืองจีริมหาดไกล แม้ข้าเยาว์หาได้เป็นเสนาบดีผู้วางพู่กัน ขอเพียงชิงเชือกยาวผูกขุนศึกไว้!”หลี่เฉินเอ่ยบทกวี ‘ทอดมองจี้เหมิน’ ออกมา น้ำเสียงสง่างาม บทกวีเปี่ยมด้วยสำนวนสูงส่ง ใครได้ยินย่อมทราบทันทีว่าเป็นผลงานของผู้เชี่ยวชาญตัวจริงหวงจี๋เทียนฟังช่วงแรกก็ยังพยักหน้าชมชอบ แต่พอฟังถึงช่วงหลัง สีหน้ากลับมืดลงบทกวีบทนี้ยืมภาพบรรยากาศเพื่อเปรียบเปรยถึงตัวบุคคล ความมุ่งมั่นใฝ่ศึกของผู้เขียนนั้น ชัดเจนราวกับตบหน้าเขาในฐานะ ‘คนป่าเถื่อน’“องค์รัชทายาทต้าฉิน ไม่เกินไปหน่อยหรือ? แค่ร่ายบทกวีถึงกั

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1149

    ว่างเว้นไร้กิจจึงมาฟังเพลงในหอเริงรมย์ที่อี้หงหยวนข้างจุดพักแรม หวงจี๋เทียนขดตัวอยู่บนเตียงตัวยาว มือข้างหนึ่งเท้าศีรษะ อีกมือหนึ่งเคาะหน้าตัวเองเป็นจังหวะข้างกาย มีหญิงงามอันดับหนึ่งสองนางผลัดกันปอกผลไม้ป้อนใส่ปากด้านหน้าเตียงไม่ไกลนัก มีนักร้องชายหญิงคู่หนึ่งกำลังบรรเลงเพลงน้อยเสียงใสเพลงที่ร้อง ล้วนแฝงนัยลึกซึ้งเฉพาะผู้ใหญ่ แม้ไม่โจ่งแจ้ง แต่ก็ชวนให้จินตนาการ ถึงขนาดหวงจี๋เทียนที่ยึดตนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ยังต้องขบคิดอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะเข้าใจความหมายและเพราะเหตุนี้ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ถึงกับแทงใจกลับยิ่งดูน่าสนุกขึ้นมาผู้ชายหนอ ก็เป็นเช่นนี้กันทั้งนั้นสิ่งใดได้มาง่ายย่อมไม่หวงแหน ตรงกันข้าม หากต้องใช้ความพยายาม แทรกเล่ห์เหลี่ยมนิดหน่อยกว่าจะได้มา จะรู้สึกทั้งพึงใจและภูมิใจ“ชีวิตเช่นนี้ ต่อให้เป็นเซียนข้าก็ไม่แลกหรอกนะ”หวงจี๋เทียนอ้าปากรับองุ่นลูกหนึ่งที่หญิงงามข้างกายป้อน แล้วหันไปซดน้ำลูกหยางเหมยเย็นๆ อีกคำ ก็รู้สึกว่าคนต้าฉินช่างรู้จักใช้ชีวิตดีเหลือเกิน คิดแล้วก็น่าเศร้า ตัวเขาในแคว้นจินก็เป็นถึงองค์ชายแท้ๆ แต่ไม่เคยลิ้มรสความสุขเช่นนี้เลยมิน่าล่ะ ถึงได

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1148

    ด่านเย่ว์หยาเป็นสถานที่พิเศษและปิดตายถึงเพียงนั้น แม้แต่ราชสำนักจะเข้าไปแทรกแซงก็ยังยาก ดังนั้นในทั้งราชสำนักและแผ่นดินนี้ มีเพียงจ้าวเสวียนจีเท่านั้นที่สามารถสอดมือเข้าไปได้หลี่เฉินเดิมทีคิดว่า เมื่อส่งพี่น้องสกุลอู๋ไป ด่านเย่ว์หยาก็น่าจะหมดปัญหาในคราเดียวแต่ไม่นึกเลยว่า เจ้าแก่เจ้าเล่ห์อย่างจ้าวเสวียนจีจะซ่อนแผนการไว้ลึกถึงเพียงนี้ ยังมีไพ่ใบสุดท้ายเก็บไว้อีกเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ ไม่ใช่แค่หลี่เฉินที่ไม่คาดคิด เกรงว่ากระทั่งต้าสิงฮ่องเต้เองก็คงไม่เคยคิดถึงจ้าวเสวียนจีลอบนำกองทัพแคว้นเหลียวเข้าประเทศ หากเลวร้ายที่สุด จักรวรรดิต้าฉินอาจเผชิญกับภัยล่มสลายทั้งแผ่นดินแม้ในสถานการณ์ที่เบาที่สุด ก็เท่ากับเป็นการเริ่มต้นสงครามขนาดใหญ่ระหว่างสองแคว้น กองทัพแคว้นเหลียวระดมทหารถึงหกแสน หากรบกันจริง จำนวนทหารรวมของทั้งสองฝ่ายย่อมทะลุล้านคนเป็นแน่จะเสียหายทั้งแรงงานและทรัพย์สินก็ว่าไปอย่าง ที่น่ากลัวคือ ตอนนี้ต้าฉินมิได้อยู่ในสภาพที่จะรบศึกใหญ่อย่างนี้ได้เลยซูเจิ้นถิงเห็นหลี่เฉินยังเต็มไปด้วยโทสะ จึงรีบกล่าวว่า “ฝ่าบาท บัดนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบสถานการณ์ที่ด่านเย่ว์หยาใ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1147

    “กระหม่อมทั้งหลาย ขอส่งเสด็จฝ่าบาท”ขุนนางทั้งราชสำนักลุกขึ้นพร้อมกันเพื่อส่งเสด็จทว่า เมื่อร่างของหลี่เฉินหายลับไปแล้ว ก็มีผู้หนึ่งเพิ่งตระหนักขึ้นมาตำแหน่งของจางปี้อู่ยังไม่ได้ประกาศ!หลังการปฏิรูประบบใหม่ คณะเสนาบดีแทบไม่มีอำนาจเหลืออยู่เลย สิทธิ์ขาดทั้งหมดถูกแบ่งให้กับสามกรมใหม่อย่างสิ้นเชิง และจากรายชื่อที่เพิ่งประกาศเมื่อครู่ ก็ทำให้ทุกคนตระหนักว่า ตำหนักบูรพาไม่ได้คิดกำจัดพวกคณะเสนาบดีให้หมดสิ้นตำแหน่งในสามกรม ถูกแบ่งในสัดส่วนประมาณหกต่อสี่ ระหว่างฝ่ายตำหนักบูรพากับฝ่ายคณะเสนาบดีตำหนักบูรพาได้เปรียบมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เด็ดขาดถึงขั้นตัดหัวฝ่ายตรงข้ามนี่ก็เป็นเรื่องปกติของการเมืองถึงอย่างไรจ้าวเสวียนจีก็ยังไม่ได้ล่มสลาย ฝ่ายคณะเสนาบดีย่อมยังต้องมีที่ยืนอยู่บ้างเพราะต้องเข้าใจว่า ขุนนางที่มีคุณวุฒิสูงและประสบการณ์มากที่สุดในราชสำนัก ส่วนใหญ่ล้วนมาจากคณะเสนาบดีหากจะกำจัดทิ้งเพียงเพราะที่มาทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เช่นนั้นก็ไม่มีทางหาใครมาเติมเต็มสามกรมได้เพียงพอแน่นอนแต่ถึงทั้งหมดจะดูปกติ กลับมีเพียงคนเดียวในฝ่ายคณะเสนาบดีที่เป็นหัวใจสำคัญอย่างจางปี้อู่…กลับไม่ได้ตำแหน่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1146

    ข่าวที่มาอย่างกะทันหัน ทำให้ตะเกียบของหลี่เฉินที่กำลังคีบอาหารค้างอยู่กลางอากาศผ่านไปครู่หนึ่ง หลี่เฉินจึงวางตะเกียบลงช้าๆ แล้วยกมือขึ้น วั่นเจียวเจียวที่ยืนรอรับใช้ด้านข้างก็เข้าใจทันที รีบย่อตัวส่งผ้าเช็ดปากมาให้หลี่เฉินรับผ้าเช็ดปาก เช็ดปากเบาๆท่าทางเช่นนี้ ทำให้ขุนนางทั้งห้องอาหารพร้อมใจกันวางตะเกียบลงสองคนที่เพิ่งคีบอาหารเต็มปาก รีบกลืนลงไปด้วยความร้อนรน แต่กลับติดคอจนตาเหลือกหลี่เฉินกวาดตามองขุนนางทั่วห้อง แล้วเอ่ยขึ้นว่า “ต่อไปนี้ ข้าจะประกาศการแต่งตั้งตำแหน่งที่ได้ตัดสินใจไว้แล้วโดยตรง”ไม่ทันตั้งตัวเลยแม้แต่น้อยเป็นการไม่ทันตั้งตัวโดยสิ้นเชิงตามปกติ การแต่งตั้งตำแหน่งระดับใหญ่เช่นนี้ ควรเป็นพิธีการที่เคร่งครัด ยิ่งกว่านั้นควรประกาศในพระที่นั่งไท่เหอด้วยซ้ำ ผู้มีสายตาเฉียบแหลมล้วนรู้ว่าองค์รัชทายาทตั้งใจจะทำเช่นนั้นอยู่แล้วแต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เฉินทงมากระซิบกับรัชทายาทเพียงคำเดียว กลับทำให้องค์รัชทายาทเร่งรัดตารางทั้งหมดขึ้นทันที?เขาบอกเรื่องอะไรกันแน่?ขุนนางไม่น้อยรู้สึกราวกับมีแมวข่วนอยู่ในอกแต่หลี่เฉินไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาครุ่นคิด กล่าวต่อว่า “สวีฉั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status