INICIAR SESIÓN“จะให้ผมไปถามใคร และที่พาคุณมาก็แค่อยากรู้ว่าตอนนี้พี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันไม่รู้...ก็ไม่ได้พบพี่อรมาตั้งหลายเดือนแล้ว”
“โกหก!” เขาเขย่าตัวหล่อนแรง ๆ “ผมไม่เชื่อหรอกนะว่าคุณจะพูดความจริงในเมื่อคุณสนิทกับพี่สาวของคุณยิ่งกว่าอะไร”
“แล้วนี่คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันสนิทกับพี่อรมาก พี่น้องกันอาจจะไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันก็ได้”
“ก็พี่สาวคุณชอบพูดถึงน้องสาวตัวเองบ่อยๆ บอกผมว่าสนิทกับน้องสาวมาก”
และยิ่งเมื่อได้พบหน้าวิคเตอร์ก็เกือบจะคิดว่าอิงธารกับอิงอรเป็นฝาแฝดกันด้วยซ้ำ เค้าโครงหน้าของอิงธารคล้ายกับอิงอรมากผิดกันก็แต่สายตาและท่าทางเหมือนสาวไม่เจนโลกของคุณครูคนสวย เขาเลิกรอยยิ้มเหี้ยม
“บอกผมมาดี ๆ จะดีกว่าว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”
“ก็บอกว่าไม่รู้ไง”
“ผมไม่เชื่อ!”
“บ้ารึไง คนไม่รู้จะบอกว่ารู้ได้ยังไง”
“แกล้งทำเป็นหนิม ๆ แบบนี้อย่าคิดว่าผมไม่รุ้ทันผู้หญิงอย่างคุณ ทำตัวเป็นครูสอนเด็กแต่เบื้องหลังไม่รู้ทำอะไรเลวร้ายอย่างพี่สาวของคุณไว้บ้าง”
“อย่ามาว่าฉันนะ อย่ามาดูถูกอาชีพของฉัน”
“ดูถูกน่ะมันถูกแล้ว คนอย่างผมดูอะไรไม่เคยผิด”
“ปล่อย!”
ร่างเล็กออกแรงดิ้นสุดตัวแต่กลับถูกชายหนุ่มจับข้อมือแล้วกดไว้ข้างลำตัว หล่อนพยายามหาทางออกด้วยการกรีดร้องและสุดท้ายก็โพล่งออกไปว่า
“ปล่อยฉันนะ...คนบ้า คนโรคจิต!”
“บอกแล้วไงอย่าด่าว่าผมโรคจิต!”
“ถ้าไม่ยอมปล่อยฉันก็จะด่ามันไปแบบนี้ล่ะ ไอ้คนโรคจิต ไอ้...”
เสียงหวานขาดหายไปในลำคอเพราะปากของหล่อนถูกปากได้รูปบนหน้าคมคร้ามประกบปิดไว้แน่น แน่นเสียจนแทบหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ อิงธารตาเบิกโพลงเมื่อถูกคนแปลกหน้าคุกคามด้วยการจ้วงลิ้นสากหนาเข้าไปในปาก คุณพระคุณเจ้า เขาไม่ได้ขู่และทำให้หล่อนได้อายจริง ๆ ด้วย เป็นครั้งแรกที่คุณครูคนสวยผู้ไม่เจนจัดโลกถูกผู้ชายจูบ
หล่อนถูกจูบ!!
แถมจูบนั้นหนักหน่วง ร่างหนาเบียดเข้าหาร่างเล็กที่พยายามดึงดันแต่ยิ่งดิ้นหล่อนกลับยิ่งเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่ปากของหล่อนเท่านั้นที่เขาคุกคามแต่มือของหล่อน ตัวของหล่อนยังถุกเขาปิดกั้นด้วยร่างหนาใหญ่จนขยับตัวไปไหนไม่ได้
“อื๊อ!...อื๊อ!”
อิงธารเปล่งเสียงดังแค่ในลำคอ ปากของหล่อนถูกประกบปิดแน่นจนไม่มีช่องว่างให้อากาศไหลผ่าน วิคเตอร์ร้ายกาจอย่างที่สุด เขาเป็นใครถึงอุกอาจทำกับหล่อนอย่างนี้ได้ ชายหนุ่มบดเบียดริมฝีปากของเขากับกลีบปากของหญิงสาวจนรู้สึกได้ถึงรสชาติแสนหวานอย่างน่าประหลาดที่มันดึงดูดให้เขาแนบปากนิ่งอยู่อย่างนั้น และเป็นจูบนานพอที่จะทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความอ่อนด้อยประสบการณ์ของหญิงสาว เขาฉกลิ้นเข้าไปลึกแต่หล่อนกลับไม่รู้จักตอบสนองแถมยังตัวแข็งเหมือนเสาหลัก แต่พอเขาถอนปากออกอิงธารกลับอ่อนระทวย ปากหล่อนบวมเจ่อเพราะเขาเผลอกดปากหนักไปสักหน่อย เบ้าตาคู่สวยกลบด้วยน้ำรื้นซึ่งทำให้วิคเตอร์ถึงกับชะงักไปเสี้ยววินาที ทว่าเมื่อดึงสติกลับมาอีกครั้งเขากลับทำหน้ายักษ์ใส่โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายหน้าซีดคล้ายคนจะเป็นลม
“บอกแล้วไงว่าอย่าท้าก็ไม่เชื่อ...อ๊ะ!”
เขาส่งเสียงเมื่อคว้าข้อมือของหญิงสาวที่ตั้งท่าจะทุบถองบนหน้าคมเข้มได้ทัน
“อะไรกัน เล่นทีเผลอหรือนี่...อยากจะโดนอีกสักทีใช่ไหม”
“อย่านะ!” หล่อนตวาดแหวจ้องหน้าเขาเหมือนนางแมวป่า “คุณนี่มันบ้าจริงๆ...มีสิทธิอะไรมาทำอย่างนี้กับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย”
เขายักไหล่และทำหน้าท้าทาย “ผมทำได้ทุกอย่าง ถ้าเค้นความจริงจากปากคุณไม่ได้ก้จะไม่ยอมกลับเด็ดขาด”
“แต่ฉันต้องกลับไปสอนเด็ก ฉันมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ”
“เรื่องนี้คุณก็ต้องรับผิดชอบ คุณต้องบอกผมให้ได้ว่าตอนนี้พี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้! ก็ฉันไม่รู้นี่นา”
“หรือต้องให้ผมออกแรงอีกหน”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ...ออกไปจากรถคันนี้ได้เมื่อไหร่คุณโดนตำรวจซิวข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวแน่ๆ”
เขาเลิกคิ้วยิ้มเยาะ “กักขังหน่วงเหนี่ยว? จะฟ้องใคร ถ้าจะฟ้องตำรวจเขาจะมาตั้งข้อหาอะไรกับผู้ชายที่อยากจะจูบจะกอดแฟนในรถตัวเอง”
“ห๊า! ว่าอะไรนะ...แฟนเหรอ ใครเป็นแฟนใคร”
“ก็คุณไงที่เป็นแฟนผม”
“บ้าแล้ว!...อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ”
“ผมมีให้เลือกแค่สองทาง จะยอมบอกผมดี ๆ หรือว่าจะให้ใช้วิธีการรุนแรงกว่านี้”
“อะไร...อะไรคือวิธีการรุนแรงของคุณ”
“ผมรู้มาว่าคุณกับพี่สาวของคุณเหลือแม่อยู่แค่คนเดียว”
พุดจบก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาพร้อมทั้งจ้องหน้าหญิงสาวอย่างมาดหมาย
“แค่ผมโทรหาคนของผมให้ไปที่บ้านของคุณตอนนี้ แม่ของคุณอยู่คนเดียวนี่ไม่ใช่เหรอ”
“อย่านะ! อย่าๆๆ”
“วิค...วิคคะ...อื๊อ...”อิงธารพยายามส่งเสียง โชคร้ายที่หล่อนไม่กล้าแหวใส่เขาเสียงดังเพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน“วิค...อะ...อุ๊ย!”ร่างเล็กเกือบจะร้องออกมาเสียงดังดีว่ารีบเอามืออุดปากไว้ได้เสียก่อนเพราะจู่ ๆ คนตัวใหญ่ก็พลิกร่างขึ้นทาบทับอยู่เหนือหล่อน หญิงสาวพยายามจะดันตัวใหญ่โตของวิคเตอร์ที่หนักอึ้งให้พ้นแต่กลายเป็นว่าหล่อนต้องนอนหอบเหนื่อยอยู่ใต้ร่างหนาที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แก้มของเขาแนบกับแก้มของอิงธารที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดด้วยความอับอายเพราะไม่เคยมีผู้ชายมานอนทับบนตัวหล่อนอย่างนี้มาก่อน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณตื่นแล้ว นี่คุณแกล้งฉันใช่ไหม”หล่อนเข่นเขี้ยวใส่แต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนนึกอยากจะกรีดเล็บบนหน้าหล่อ ๆ ที่ตอนนี้มันแนบอยู่กับแก้มนิ่มถ้าไม่ติดว่าแขนถึงทับไว้ด้วยลำตัวทั้งใหญ่และหนัก ร่างน้อยรวบรวมกำลังใจส่งเสียงลอดไรฟันอีกหน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณแกล้ง คุณ...”เสียงหวานหายไปเสียเฉย ๆ เพราะจังหวะที่หล่อนกำลังเผยอปากออกก็ถูกคนแกล้งหลับ
อิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”บทที่ 1
หญิงสาวอุทานพร้อมหมอนที่ยังสวมปลอกไม่ทันเสร็จหลุดจากมือเมื่อร่างสูงลุกพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียง เขานึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจสักนิด อิงธารขยับหนี“เราสัญญากันแล้วนะคะว่านี่มันแค่ละคร คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรรุ่มร่ามกับฉันอย่างเด็ดขาด”“วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรคุณแต่หลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วน่ะไม่แน่”“คนตระบัติสัตย์! ฉันไม่ใช่เมียจริง ๆ ของคุณสักหน่อย”“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้วเอ็มมี่”“ว๊าย!”บทที่ 10 อิงธารร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าหาและใช้ความเร็วรวบตัวหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด“คุณนี่มัน...ฉันจะใช้คำพูดอะไรกับคุณดี คนบ้า คนหื่น”“คุณนี่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ นะเอ็มมี่ ก็ลองด่าผมเสียงดัง ๆ ดูซี แม่คุณจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“อย่าเอาแม่ฉันมาเป็นข้อต่อรองจะดีกว่า ถ้าคุณเป
เอื้อมรักษ์ส่ายหน้า “อรชอบทำตัวลึกลับ บอกแม่ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าที่ดิน บางทีก็ส่งเงินมาให้มากจนแม่ตกใจ แต่หลังจากติดต่อกันครั้งนั้นก็หายตัวไปโดยที่แม่ก็ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของอิงอยู่ที่ไหน...ช่างเถอะนะ พ่อวิคไม่ต้องฟังแม่ให้มากก็ได้เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ”“ไม่เครียดครับ เรื่องทุกเรื่องที่บ้านของเอ็มมี่ก็เหมือนเรื่องของผม ในเมื่อเรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”“ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญพ่อวิคตามสบายก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารเย็นให้ อยากทานแบบไหนล่ะจ๊ะ แม่ทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยนะ”“แบบไทย ๆ ก็ได้ครับ ผมชอบอาหารไทย”เอื้อมรักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว อิงธารฉวยจังหวะนั้นรีบเดินตามมารดาเข้าไป“แม่คะ”หญิงสาวเรียก เมื่อมารดาหันกลับมาหล่อนจึงเข้าไปยกมือไหว้และจับมือเอื้อมรักษ์ไว้แน่น“แม่ขา...อิงขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือว่า...”“ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะอิง แม่เข้าใจ” นางบีบมือบุตรสาวตอบ “อิง...เรามีกันส
อิงธารเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นมารดาของหล่อนมีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่จากปากของชายแปลกหน้า แต่แล้วเอื้อมรักษ์กลับยกมือปรามบุตรสาวที่กำลังจะก้าวเข้าไปหา“ดะ...เดี๋ยวนะอิง...ผู้ชายคนนี้...เอ้อ...วิคเตอร์ เป็นแฟนกับลูกจริง ๆ เหรอจ๊ะ แล้วเขาบอกแม่ว่าเขากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับลูก...อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”“แม่คะ...อิงขอโทษค่ะแม่”“โอ...อิงจ๋า...นี่ลูกกำลังจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เหรอนี่ แม่ดีใจกับลูกด้วย”การณ์กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่วิคเตอร์บอกกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับเอื้อมรักษ์ที่ดึงอิงธารมากอดไว้แน่น หญิงสูงวัยหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่และมองเขาด้วยแววตาปลื้มปริ่มยินดี“โอ...นี่เป็นข่าวดีมากที่สุดเลยสำหรับฉันนะพ่อหนุ่ม แม่ต้องเรียกวิคซีนะถึงจะถูก ถ้าอย่างนั้นเข้าบ้านกันก่อนเถอะนะ”เอื้อมรักษ์ดึงมือลูกสาวเข้าบ้านโดยวิคเตอร์เดินตามเข้าไปและเห็นว่าด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยของประดับแบบไทยดั้งเดิมดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับเขา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเห็นว่าบ้านเรือนของคนไทยเปลี่ยนไป มีคว
“พะ...พอแล้วค่ะ!”หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”“หืมม์...บอกอะไร”“คุณยังไม่ได้รับ







