LOGINหล่อนร้องห้ามพร้อมน้ำตาไหลพรากทั้งที่วิคเตอร์ยังไม่ทันต่อโทรศัพท์ออกไปด้วยซ้ำ คราวนี้เขายิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ อิงธารอ่อยปวกเปียก มือที่กำหมัดคลายลงอย่างหมดทางสู้
“ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ แต่อย่ายุ่งกับแม่ของฉัน ท่านแก่มากแล้ว”
“ให้ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่...อะไรก็ได้”
เสียงสั่นเครือและหน้าซีดขาวของอิงธารทำให้วิคเตอร์รู้สึกว่าหล่อนอาจพูดความจริงเรื่องที่ไม่รู้ว่าพี่สาวไปอยู่เสียที่ไหนในตอนนี้ แต่จะให้เขาสงสารแล้วปล่อยหล่อนไปคงทำไม่ได้แน่ เพราะอิงอรทำกับเขาไว้เจ็บแสบ เชิดทั้งเงินทั้งโฉนดที่ดินแถมหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ ทางที่ดีเขาควรเก็บน้องสาวของหล่อนไว้เพื่อเป็นตัวประกันให้หล่อนกลับมาเพื่อชดใช้จะดีกว่าที่เขาไม่มีอะไรไว้ต่อรองเสียเลย
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ตัดสินใจที่จะไม่...กลับอเมริกาวันนี้ แต่จะอยู่กับคุณที่นี่จนกว่าพี่สาวของคุณจะกลับมา”
“อยู่กับฉัน...คุณจะอยู่ได้ยังไง”
“ผมจะไปอยู่ที่บ้านของคุณ คอยติดตามดูคุณทุกฝีก้าวและผมยิ่งกว่าแน่ใจว่าถึงวันนี้คุณจะไม่รู้ว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน แต่วันหนึ่งเอ็มม่าจะต้องติดต่อกลับมาหาคุณแน่ ๆ และเมื่อถึงตอนนั้นผมจะรวบหัวรวบหางหล่อนจับเข้าซังเตให้หลาบจำ!”
“คุณไปอยู่กับฉันที่บ้าน...ไม่ได้หรอกนะ”
“ไหนว่าทำได้ทุกอย่างไง รับปากแล้วอย่าบิดพลิ้ว คุณเป็นครูไม่ใช่เหรอ ครูก็ต้องสอนเด็กไม่ให้โกหกแต่ถ้าตัวเองโกหกเสียเองแล้วจะให้เรียกว่าอะไร”
“นี่ฉันปฏิเสธนิดเดียวทำไมต้องด่ากันยาวยืด ที่ฉันบอกว่าคุณจะไปอยู่บ้านฉันไม่ได้ก็เพราะว่าแม่ของฉัน...ท่านไม่เข้าใจหรอกนะคะว่าทำไมจู่ ๆ จะมีผู้ชายแปลกหน้าไปอยู่กับท่าน”
เขาทำหน้าไม่ยี่หระ “ง่ายจะตายไป แค่บอกว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน”
“ไม่ได้ค่ะ!” หล่อนยืนยันเสียงแข็งขึ้นมา “วัฒนธรรมไทยน่ะ ผู้หญิงกับผู้ชายต้องเป็นผัวเมียกันซีคะถึงจะอยู่ด้วยกันได้”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็เป็นผัวเมียกัน”
“บ้า! คุณต้องบ้าไปแล้วจริงๆ ฉันกับคุณไม่มีพิธีการแต่งงานด้วยซ้ำ แล้วแม่ฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าเรา...เอ้อ...เป็นผัวเมียกัน”
ยิ่งพูดก็ยิ่งกระดากปากเป็นบ้า แต่ที่บ้ายิ่งกว่าคือคนแปลกหน้าที่คุกคามข่มขู่หล่อนทุกวิถีทาง วิคเตอร์เลิกคิ้วสูง นัยน์ตาคมคู่นั้นฉายแววสำนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ถ้าไม่มีพิธีการแต่งงานล่ะ อะไรที่จะช่วยยืนยันว่าเราสองคนเป็นผัวเมียกันอย่างถูกต้อง อ้อ...หลักฐานการเป็นผัวเมียนี่หมายถึงต้องจดทะเบียนสมรสกันใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นผมจะพาคุณไปจดทะเบียนสมรสกันวันนี้”
“คุณเป็นคน...ประสาทที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบมาเลย”
“บ้ากว่านี้ผมก็ทำมาแล้ว เรื่องแค่นี้ทำไมจะทำไม่ได้”
“แต่การจดทะเบียนระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติมันมีขั้นตอนยุ่งยาก ทำวันนี้ไม่มีทางเสร็จหรอกนะคะ”
“อย่าคิดว่าผมไม่รู้อะไรซีคุณครูที่รัก มีบริษัทรับจ้างจัดการการจดทะเบียนเยอะแยะไป แค่ผมบอกให้คนของผมหาพวกออแกนไนเซอร์มาจัดการให้ทุกอย่างก็เรียบร้อยใช้เวลาไม่เกินสามวันด้วยซ้ำ”
อะไรมันจะสะดวกง่ายดายปานนั้น...ใช่...เดี๋ยวนี้ทุกอย่างล้วนแต่สะดวกไปหมดเพราะมีบริษัทช่วยจัดการให้คู่สมรสชาวไทยและชาวต่างชาติแบบครบวงจรอย่างที่เขาว่ามาจริง ๆ อิงธารนึกเจ็บใจ ทำไมต้องมีบริษัทพวกนั้นด้วยก็ไม่รู้ ไม่อย่างนั้นหล่อนคงหาวิธีการหลบเลี่ยงที่จะไม่ให้เขาเข้าบ้านของหล่อนได้
“คิดอะไรอยู่หรือครับคุณครู”
วิคเตอร์ถามขณะเบียดตัวเข้าหาหญิงสาวซึ่งกลิ่นหอมที่ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมราคาแพงแต่อบอวลเหมือนแป้งเด็กอ่อนจากตัวของหล่อนมันดึงดูดเขาได้อย่างน่าประหลาด อิงธารเม้มปากแน่นสนิท
“ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าคุณจะไปจัดการเรื่องของคุณซะให้เสร็จเสียก่อนแล้วค่อยไปที่บ้านของฉัน...อย่างนั้นใช่ไหมคะ?”
เขาไหวไหล่ “ผมจะไปบ้านของคุณวันนี้”
“ไม่ได้นะคะ!”
“จะให้ผมไปดี ๆ หรือว่า...”
“ก็ได้ค่ะ...แต่ว่า...ตอนนี้ฉันกำลังจะ...หายใจไม่ออกอยู่แล้ว”
หล่อนจำนนในที่สุดแต่ก็พยายามผลักหน้าอกเขาออกห่างเพราะวิคเตอร์เบียดจนอกกว้างของเขาชิดหน้าอกนุ่มของหล่อนแทบจะหลอมเป็นเนื้อเดียว ชายหนุ่มเหยียดมุมปาก น่าแปลกแท้ที่เขาไม่อยากขยับออกห่างแต่ก็ต้องผ่อนเบาตัวเองลงหลังจากแสดงความหยาบเถื่อนกับอิงธารที่รีบถอนลมหายใจทันควันเมื่อเขาเลื่อนตัวห่างออก แต่ที่ห่างนั้นมันก็แค่ขยับตัวเขาออกไปนิดเดียว ห่างจากหล่อนแค่คืบเท่านั้น
“วิค...วิคคะ...อื๊อ...”อิงธารพยายามส่งเสียง โชคร้ายที่หล่อนไม่กล้าแหวใส่เขาเสียงดังเพราะกลัวว่าแม่จะได้ยิน“วิค...อะ...อุ๊ย!”ร่างเล็กเกือบจะร้องออกมาเสียงดังดีว่ารีบเอามืออุดปากไว้ได้เสียก่อนเพราะจู่ ๆ คนตัวใหญ่ก็พลิกร่างขึ้นทาบทับอยู่เหนือหล่อน หญิงสาวพยายามจะดันตัวใหญ่โตของวิคเตอร์ที่หนักอึ้งให้พ้นแต่กลายเป็นว่าหล่อนต้องนอนหอบเหนื่อยอยู่ใต้ร่างหนาที่ไม่ยอมเปิดเปลือกตา แก้มของเขาแนบกับแก้มของอิงธารที่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดด้วยความอับอายเพราะไม่เคยมีผู้ชายมานอนทับบนตัวหล่อนอย่างนี้มาก่อน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณตื่นแล้ว นี่คุณแกล้งฉันใช่ไหม”หล่อนเข่นเขี้ยวใส่แต่ดูเหมือนเขาไม่ยอมตอบโต้อะไรกลับมา และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวหมั่นไส้จนนึกอยากจะกรีดเล็บบนหน้าหล่อ ๆ ที่ตอนนี้มันแนบอยู่กับแก้มนิ่มถ้าไม่ติดว่าแขนถึงทับไว้ด้วยลำตัวทั้งใหญ่และหนัก ร่างน้อยรวบรวมกำลังใจส่งเสียงลอดไรฟันอีกหน“วิค...ฉันรู้นะว่าคุณแกล้ง คุณ...”เสียงหวานหายไปเสียเฉย ๆ เพราะจังหวะที่หล่อนกำลังเผยอปากออกก็ถูกคนแกล้งหลับ
อิงธารส่งเสียงแหบโหย ถึงพยายามขัดขืนแต่หล่อนไม่กล้าส่งเสียงดังมากไปกว่าพยายามกดมันเสียงลงต่ำเมื่อปากเป็นอิสระ ไม่เคยมีใครทำอย่างนี้กับหล่อนมาก่อน วิคเตอร์ทั้งหยาบร้ายและกักขฬะ มือของหล่อนไม่สามารถจิกข่วนเขาได้เพราะถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือของเขาเพียงข้างเดียว อิงธารได้ยินเสียงหายใจหอบหนักของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวของเขาแทบจะหลอมละลายหล่อนได้ ร่างเล็กแอ่นขึ้นแต่ดันตัวเขาออกไปไม่สำเร็จ ตรงข้ามกลับยิ่งเหนื่อยอ่อนและทำให้หมดแรงเสียเปล่าปลี้ เมื่อไม่สามารถขยับหนีร่างอรชรจึงค่อยผ่อนลงในที่สุด หล่อนได้แต่ร้องไห้อยู่ใต้ร่างหนาใหญ่ที่คุกคาม วิคเตอร์ขบกรามแน่นและจ้องหน้าสวยหยดของหญิงสาวซึ่งตอนนี้ซีดเหมือนกระดาษ หยดน้ำตาไหลลงไปทางขมับขณะที่หล่อนหอบแฮ่ก ปากของอิงธารบวมเจ่อและมีรอยแตกจากการขบกัดของเขาเมื่อครู่ ชายหนุ่มเหยียดปากตึงเครียดออก“ทีหลังอย่าท้าทายผมอีก จำไว้ด้วยเอ็มมี่...ว่าคุณไม่มีวันชนะผม นับแต่นี้ไปสิ่งที่คุณทำได้คือต้องเชื่อฟังและทำตาม อีกอย่าง ถ้าผมจับได้ว่าคุณโกหกเรื่องเอ็มม่า...มันจะไม่มีคำเตือนจากผมเป็นหนที่สอง!”บทที่ 1
หญิงสาวอุทานพร้อมหมอนที่ยังสวมปลอกไม่ทันเสร็จหลุดจากมือเมื่อร่างสูงลุกพรวดขึ้นไปนั่งบนเตียง เขานึกจะทำอะไรก็ทำไม่ได้มีความเกรงอกเกรงใจสักนิด อิงธารขยับหนี“เราสัญญากันแล้วนะคะว่านี่มันแค่ละคร คุณไม่มีสิทธิ์ทำอะไรรุ่มร่ามกับฉันอย่างเด็ดขาด”“วันนี้ผมยังไม่ทำอะไรคุณแต่หลังจากเราจดทะเบียนสมรสกันแล้วน่ะไม่แน่”“คนตระบัติสัตย์! ฉันไม่ใช่เมียจริง ๆ ของคุณสักหน่อย”“เดี๋ยวก็ได้เป็นแล้วเอ็มมี่”“ว๊าย!”บทที่ 10 อิงธารร้องเสียงหลงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าหาและใช้ความเร็วรวบตัวหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด“คุณนี่มัน...ฉันจะใช้คำพูดอะไรกับคุณดี คนบ้า คนหื่น”“คุณนี่ปากคอเราะร้ายจริง ๆ นะเอ็มมี่ ก็ลองด่าผมเสียงดัง ๆ ดูซี แม่คุณจะได้รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”“อย่าเอาแม่ฉันมาเป็นข้อต่อรองจะดีกว่า ถ้าคุณเป
เอื้อมรักษ์ส่ายหน้า “อรชอบทำตัวลึกลับ บอกแม่ว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าที่ดิน บางทีก็ส่งเงินมาให้มากจนแม่ตกใจ แต่หลังจากติดต่อกันครั้งนั้นก็หายตัวไปโดยที่แม่ก็ไม่รู้เลยว่าพี่สาวของอิงอยู่ที่ไหน...ช่างเถอะนะ พ่อวิคไม่ต้องฟังแม่ให้มากก็ได้เดี๋ยวจะเครียดเสียเปล่าๆ”“ไม่เครียดครับ เรื่องทุกเรื่องที่บ้านของเอ็มมี่ก็เหมือนเรื่องของผม ในเมื่อเรากำลังจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”“ขอบใจนะ ถ้าอย่างนั้นเชิญพ่อวิคตามสบายก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเตรียมอาหารเย็นให้ อยากทานแบบไหนล่ะจ๊ะ แม่ทำอาหารได้หลากหลายเมนูเลยนะ”“แบบไทย ๆ ก็ได้ครับ ผมชอบอาหารไทย”เอื้อมรักษ์ยิ้มกว้างก่อนจะลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในครัว อิงธารฉวยจังหวะนั้นรีบเดินตามมารดาเข้าไป“แม่คะ”หญิงสาวเรียก เมื่อมารดาหันกลับมาหล่อนจึงเข้าไปยกมือไหว้และจับมือเอื้อมรักษ์ไว้แน่น“แม่ขา...อิงขอโทษนะคะกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คือว่า...”“ไม่ต้องขอโทษแม่หรอกนะอิง แม่เข้าใจ” นางบีบมือบุตรสาวตอบ “อิง...เรามีกันส
อิงธารเองก็รู้สึกตกใจเมื่อเห็นมารดาของหล่อนมีสีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อหูตัวเองที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่จากปากของชายแปลกหน้า แต่แล้วเอื้อมรักษ์กลับยกมือปรามบุตรสาวที่กำลังจะก้าวเข้าไปหา“ดะ...เดี๋ยวนะอิง...ผู้ชายคนนี้...เอ้อ...วิคเตอร์ เป็นแฟนกับลูกจริง ๆ เหรอจ๊ะ แล้วเขาบอกแม่ว่าเขากำลังจะจดทะเบียนสมรสกับลูก...อย่างนั้นเหรอจ๊ะ”“แม่คะ...อิงขอโทษค่ะแม่”“โอ...อิงจ๋า...นี่ลูกกำลังจะมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เหรอนี่ แม่ดีใจกับลูกด้วย”การณ์กลับกลายเป็นว่าสิ่งที่วิคเตอร์บอกกล่าวเป็นข่าวดีสำหรับเอื้อมรักษ์ที่ดึงอิงธารมากอดไว้แน่น หญิงสูงวัยหันกลับไปยังร่างสูงใหญ่และมองเขาด้วยแววตาปลื้มปริ่มยินดี“โอ...นี่เป็นข่าวดีมากที่สุดเลยสำหรับฉันนะพ่อหนุ่ม แม่ต้องเรียกวิคซีนะถึงจะถูก ถ้าอย่างนั้นเข้าบ้านกันก่อนเถอะนะ”เอื้อมรักษ์ดึงมือลูกสาวเข้าบ้านโดยวิคเตอร์เดินตามเข้าไปและเห็นว่าด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกตกแต่งด้วยของประดับแบบไทยดั้งเดิมดูแปลกตาอย่างยิ่งสำหรับเขา เพราะเดี๋ยวนี้เขาเห็นว่าบ้านเรือนของคนไทยเปลี่ยนไป มีคว
“พะ...พอแล้วค่ะ!”หญิงสาวป้องปากเขาไว้ด้วยมือเรียวบาง หล่อนกำลังตกอยู่ในอารมณ์ก้ำกึ่งระหว่างตระหนกและตื่นเต้น วิคเตอร์จูบฝ่ามือของหล่อนที่แนบบนปากเขา อิงธารดึงกลับแทบไม่ทัน หล่อนนิ่วหน้า“คุณนี่มันฉวยโอกาส พวกคนรวยไม่รู้จักคำว่ามารยาทหรือยังไงกันคะ”“ผมแค่ซักซ้อมทำความเข้าใจกับคุณเท่านั้น ทำให้ชินว่าเราสองคนน่ะ...”“แม่ฉันอยู่ข้างในค่ะ”อิงธารเปลี่ยนเรื่องแต่พวงแก้มสีระเรื่อของหล่อนที่แดงก่ำมากขึ้นไม่อาจปกปิดความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ได้เลย เพราะมันมีทั้งความอับอายและเขินอาย ก็หล่อนไม่เคยถูกผู้ชายจูบ หนำซ้ำวิคเตอร์ยังเป็นคนแปลกหน้าเสียด้วย ใบหน้าของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเครียดขรึมอีกครั้ง เขาทำเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างที่อิงธารไม่อาจหยั่งเห็น และในเวลานั้นหล่อนก็เริ่มกลัวขึ้นมาอีก ร่างสูงคลายวงแขนให้ร่างน้อยเป็นอิสระแต่เมื่อเขากำลังจะเปิดประตูรถอิงธารกลับรั้งแขนเขาไว้“วิคเตอร์...เมื่อกี๊คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยนะคะ”“หืมม์...บอกอะไร”“คุณยังไม่ได้รับ







