แองเจลีน “...”ให้ตายเถอะ เขาผลักไสเธอในขณะที่เขาดึงดูดเธอแบบนี้ได้อย่างไรกัน?ทำไมตอนนี้เขาถึงได้รังเกียจเธอในเมื่อเธอก็ทำตัวเหมือนเดิม?คนขับรถอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเมื่อคิดได้ว่ามันน่าอับอายขนาดไหน แองเจลีนก็ขู่คนขับรถอย่างชั่วร้ายว่า “หัวเราะอีกสิ แล้วฉันจะขอให้หมอฉีดเชื้อคลอสทริเดียม โบทูลินัมให้นายสักสองเข็ม”คนขับรถต้องกลั้นหัวเราะอย่างไม่มีทางเลือกเมื่อรถเฟอร์รารี่แล่นมาถึงสวนบันทึกรัก แองเจลีนดึงเจย์ออกมาจากรถด้วยการดึงที่ปลายของผ้าฝ้ายที่มัดข้อมือของเจย์ไว้ แล้วเขาก็เดินมุ่งไปยังตัวบ้านใบหน้าที่ดูดีของเจย์ดูมืดมนกว่าเถ้าถ่าน เขารู้สึกอับอายอย่างมากที่ถูกนางมารร้ายปฏิบัติเหมือนกับเป็นสัตว์เลี้ยงแองเจลีนดึงเขาเข้าไปในห้องนอน เธอหยิบกุญแจมือคู่หนึ่งออกมาจากลิ้นชักแล้วใส่กุญแจมือไว้ที่มือซ้ายของเขาเข้ากับเสาเตียง จากนั้นก็แก้ผ้าฝ้ายที่ผูกไว้รอบข้อมือของเขาออกเจย์พยายามปลดกุญแจมือออก แต่ก็ไม่ได้ผลเขาจ้องเขม็งไปที่แองเจลีนและตะคอกว่า “คุณมันวิปริต!”แองเจลีนเยาะเย้ยและถามว่า “นี่คุณเองก็คิดว่ามันวิปริตสำหรับคุณจริง ๆ เหรอ?”ให้ตายสิ คำว่า ‘วิปริต’ ไม่ได้เข้าไปอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เสียงที่ดื้อดึงและดื้อรันก็ดังออกมาจากใจเธอ “แองเจลีน เซเวียร์ นี่เธอคิดว่าเธอจะตัดใจจากเขาแล้วเหรอ?”แต่คำตอบของเธอยังคงมั่นคงและหนักแน่น “ไม่ ฉันจะไม่มีทางตัดใจจากเขา ไม่มีวัน”เจย์นั่งลงบนเตียงอย่างขุ่นมัว ท้องของเขาเริ่มรู้สึกดีขึ้นแล้ว เขาเอามือข้างหนึ่งวางบนท้องที่อึดอัดของเขา ในขณะที่เหงื่อเย็นก็ซึมไหลลงมาจากหน้าผาก หน้าของเขาซีดผิดปกติในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โรคกลัวเชื้อของเขามักจะกำเริบเกือบทุกวัน ทำให้เขาอาเจียนบ่อยมากและทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแอลงไปอีก มากไปกว่านั้น เขาดูเหมือนจะแย่ลงไปทุกทีเพราะเขากินไม่ลง นอนไม่หลับ และยังต้องใช้แรงงานในช่วงที่ผ่านมานี้แล้วตอนนี้เขาก็อยู่ในกำมือของนางมารร้ายคนนี้ เขารู้ว่าเขาไม่อาจรอดไปได้หลังจากมองไปรอบ ๆ ห้องหรูหราที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ เขาก็เผยรอยยิ้มที่ปลอบใจตัวเองขึ้นที่มุมปาก ที่แห่งนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นที่ที่ดีสำหรับการตายแองเจลีนผลักประตูเข้ามาและยืนตรงหน้าเขา แล้วมองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์หลังจากเห็นใบหน้าซีด ๆ ของเขา ความตื่นตกใจก็ฉายในแววตาของแองเจลีน เธอรีบเร่งเดินเข้าไปหาเขาและเอื้อมมือไปแตะที่หน
สายตาของเจย์มองไปที่ชามที่แตกบนพื้น แล้วก็มีแววตาที่ทำอะไรไม่ถูก “ชามราคาเท่าไหร่? เดี๋ยวผมจ่ายให้”แองเจลีนโพล่งออกมาว่า “831 เหรียญ”เจย์มองเธออย่างสงสัย เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่านางมารร้ายคนนี้กำลังกลั่นแกล้งเขาด้วยเหตุผลบางอย่างที่เขาไม่อาจรับรู้ได้แองเจลีนยื่นมือที่เรียวสวยของเธอออกมา “จ่ายมาสิ!”เจย์รู้สึกลำบากใจ เขาไม่มีเงินเลยสักเพนนีเดียว แล้วเขาจะชดใช้ให้เธอได้อย่างไร?“ผมจะจ่ายให้คุณตอนที่ผมมีเงินนะ” เขากล่าวแองเจลีนโน้มไปข้างหน้า เธอยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “คุณไม่มีเงินเลยเหรอ ให้ใจฉันมาสิ”เจย์มองเธออย่างหมดคำพูด “คุณคิดว่าผมมีค่าแค่ 831 ดอลล่าร์เหรอ?” เขาจงใจเน้นคำว่า ‘ดอลล่าร์’แองเจลีนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็จริงนะที่เงิน 831 เหรียญคงไม่พอกับความหล่อของคุณหรอก เอาแบบนี้สิ ฉันจะให้เงินคุณ 831,224 ดอลลาร์ เป็นยังไงบ้าง?”เจย์ค่อนข้างมั่นใจว่านางมารร้ายคนนี้กำลังแกล้งเขาอยู่เขาจ้องเขม็งไปที่เธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึมที่ดูเหมือนอยากจะพูดว่า ‘มียศถาบรรดาศักดิ์และความร่ำรวยไม่ควรทำตัวเหลวไหล ตกอับยากจนแค่ไหนอุดมการณ์ไม่เคยเปลี่ยน เจอกับอำนาจอิทธิพลมาข่มขู่ก็ไม่ยอมสยบ’“ไม่
วินาทีที่เธอเห็นเขา เธอก็รู้ได้เลยว่าเขาได้สูญเสียความทรงจำไปไม่เช่นนั้น เขาคงไม่มองเธอด้วยสายตาที่ไม่แยแสและไม่คุ้นเคยเช่นนั้นคุณหมอพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “แล้วลิ่มเลือดนี้ก็ไปอยู่ในจุดที่ผิดปกติอย่างมากครับ ต้องดูแลให้เขาอย่าได้รับการกระทบกระเทือนหรือให้เขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเลือดออกในสมองนะครับ”แองเจลีนรู้สึกเหมือนมีระเบิดเวลาวางอยู่บนร่างของเธอ“มีวิธีรักษาไหม?” แองเจลีนถามอย่างลำบากใจคุณหมอแนะนำว่า “บางทีเมื่อเวลาผ่านไป ก้อนเลือดอาจหดเล็กลงและหายไปเองได้ครับ ถ้าเราทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะออก มันอาจจะมีความเสี่ยงได้ครับ!”แองเจลีนยกมือขึ้นทันทีเพื่อหยุดเขา “เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอก”แองเจลีนไม่อาจทำใจที่จะให้เขาต้องผ่านความทรมานด้วยการเอาชีวิตของเขาไปวางไว้บนเส้นด้ายเพื่อช่วยให้เขาฟื้นความทรงจำกลับมาวันต่อมา เจย์ก็ค่อย ๆ ฟื้นจนได้สติขึ้นมาเขาเห็นแองเจลีนนอนหลับอย่างสบายอยู่ข้าง ๆ เตียงของเขา ไม่มีคำไหนสามารถอธิบายสีหน้าของเขาในตอนนี้ได้เลยระยะห่างระหว่างใบหน้าของพวกเขาใกล้กันมากจนมันได้ก้าวข้ามเส้นแบ่งทุกเส้นไปแล้วเขาขยับถอยแล้วก็พินิจพิเค
แองเจลีนจ้องไปที่เขาด้วยสีหน้าที่พอใจอย่างมาก “แล้วจะเอายังไงต่อ? อยากทำงานให้ฉันไหม?”“ไม่” เขากัดฟันพูดผู้หญิงคนนี้ตรวจสอบประวัติความเป็นมาเขางั้นเหรอ?“ผมจะคืนในสิ่งที่ผมติดค้างคุณไว้ให้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วกัน” เจย์ลุกขึ้นจากเตียงโรงพยาบาล เลิกผ้าห่มออก แล้วเดินออกไปแองเจลีนคอตกและรู้สึกถึงความพ่ายแพ้“แล้วพิมพ์เขียวล่ะ? คุณจะรับผิดชอบที่พิมพ์เขียวมันมีบางอย่างผิดพลาดไปตอนนี้เลยไหม?” แองเจลีนตะโกนใส่แผ่นหลังที่สูงตรงของเขาเจย์ยืนค้างอยู่ที่ประตู น้ำเสียงของเขามีความเกรี้ยวกราด “ผมมั่นใจว่าคุณต้องรู้ว่าผมไม่ได้เป็นคนทำมัน อย่าใช้วิธีสกปรกแบบนั้นเล่นงานผมเลย มันจะยิ่งทำให้ผมดูถูกคุณมากยิ่งขึ้น”แล้วเขาก็สะบัดแขนเสื้อและจากไปแองเจลีนโกรธจัดจนเตะเตียงของโรงพยาบาล “ภูมิใจอะไรนักหนา? คุณกล้าดียังไงดูถูกฉัน เจย์ อาเรส? ใครเป็นคนไล่ตามและเกลี้ยกล่อมฉันในตอนนั้นกันล่ะ? ให้ตายสิ!”หลังจากที่เจย์ออกจากโรงพยาบาลแกรนด์เอเซีย แองเจลีนก็กลับไปที่ห้องทำงานของประธานแกรนด์เอเซียในสภาพโทรมเมื่อเซย์นเห็นแองเจลีนเดินเข้ามาด้วยสีหน้าชอกช้ำ เขาม้วนกระดาษในมือเขาเก็บไปและเดินเข้าไ
แองเจลีนกล่าวว่า “ไม่ใช่เพราะฉันไม่อยากจะทุบนายหรอกนะ แต่เป็นเพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างรอให้ฉันทำอยู่จนฉันไม่มีแรงเหลือที่จะจัดการกับนายแล้ว”เซย์นตกตะลึงแม้ว่าจะเจอกับพฤติกรรมที่แข็งกระด้างของเจย์มา แต่แองเจลีนก็ยังเป็นห่วงเขาอยู่“ไปตามหาเขาเถอะ พี่เซย์น จัดหางานที่ง่ายกว่าให้เขา” แองเจลีนพูดพร้อมกับนวดบริเวณหว่างคิ้วของเธอ“เขาความจำเสื่อม แล้วก็ไม่ต่างอะไรเลยกับคนที่ไม่มีความรู้และโง่เขลาอย่างนาย”ด้วยเหตุนี้ ปมด้อยของเซย์นจากการที่ถูกเจย์กำหราบมานานหลายปีก็เจอความสมดุลในที่สุด “งั้นก็ดีเลย ฉันกำลังมองหาบอดี้การ์ดอยู่”แองเจลีนจ้องมองเขา “นายรู้แค่วิธีล่อลวงคนอื่นไปทั่วทั้งวัน เพื่อนของนายเป็นคนขี้เกียจหรือไม่ก็ไม่ทำธุรกิจหรืออาชีพที่ถูกต้องตามกฎหมายเลย และคนที่นาสไปมีปัญหาด้วยก็คือพวกโจรใต้ดินหรือไม่ก็พวกอันธพาลทั้งนั้น มันอันตรายเกินไปสำหรับเขาที่จะเป็นบอดี้การ์ดของนาย”เซย์นกระตุกปากของเขา “ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันควรเอาเขาไปไว้ในพิพิธภัณฑ์และเอาเขาขึ้นแสดงเป็นหุ่นขี้ผึ้งไหม?” เขาพูดเสริมว่า “ถ้าฉันขังเขาไว้ในตู้ ฉันรับรองได้เลยว่าแม้แต้เส้นผมเส้นเดียวของเขาก้จะไม่หายไป”แองเ
“คุณหมายความว่ายังไงเหรอครับในปริมาณที่พอเหมาะพอควร?” นักข่าวถามด้วยความงุนงง“เมื่อเราพบเจอกับปัญหาที่ยากลำบาก เราต้องกล้ามากพอที่จะแบ่งปันความยากลำบากนั้นกับอีกคนหนึ่งมากกว่าแบกรับมันไว้คนเดียวแล้วก็ทรมานอยู่เงียบ ๆ น่ะค่ะ”เจย์จ้องมองไปที่แองเจลีนที่อยู่ในจออย่างเงียบ ๆ แล้วก็เผยแววตาสงสัยที่เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยเธอแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไม่เลือกต่อหน้าเขา แต่แสร้งทำเป็นว่ามีเกียรติและศักดิ์ศรีในระหว่างการสัมภาษณ์ช่างเป็นเจ้าแม่ดราม่าอะไรเช่นนี้!แล้วจู่ ๆ เซย์นปรากฏตัวขึ้นและนั่งลงข้าง ๆ เจย์เขาจ้องไปที่หน้าจอและตำหนิแองเจลีนอย่างตามอำเภอใจ “ฉันรู้จักนางพญาเสือตัวนี้ เธอเป็นจักรพรรดินีของอาณาจักรแกรนด์เอเซีย เธอรู้สิ่งต่าง ๆ ที่รอบด้านเธอหมดและเธอก็ยกยอตัวเองขึ้นอย่างยโสโอหัง เธอมีลูกน้องผู้ชายอยู่ในการควบคุมของเธอเยอะมาก ซึ่งพวกเขาจะทำทุกอย่างตามที่เธอสั่งพวกเขาให้”เจย์มองไปที่เซย์น มีไอความรู้สึกของความสูงส่งและความเยือกเย็นที่ไม่อาจเข้าถึงได้ปะปนอยู่ในดวงตาที่ลึกซึ้งและล้ำลึกของเขา“ไปให้พ้น” เสียงของเขาต่ำลงและน่ากลัวราวกับเสียงคำรามที่ลึกล้ำและเกรี้ยวกราดของสัตว์
เซย์นตอบหลับ “โรเซ็ต อาเรส นายก็แค่เรียกเธอว่าเซ็ตตี้น้อย”“โอเค”เจย์ออกไปหลังจากที่ทั้งสองแลกเบอร์โทรศัพท์เซย์นถอนหายใจและพูดอย่างไม่พอใจว่า “นายควรเป็นคนที่ขอร้องฉัน ทำไมฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่กำลังอ้อนวอนนายล่ะ?”หลังจากที่มอบหมายงานของเขา เซย์นก็ไปยังสวนบันทึกรักและรายงานกับแองเจลีนเซ็ตตี้น้อยก็บังเอิญอยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันทันทีที่เซย์นเห็นเซ็ตตี้น้อย เขาพูดอย่างขี้โม้ว่า “ฉันเจอครูเปียโนของหนูด้วย เซ็ตตี้น้อย ฉันสัญญาว่าหนูจะชอบเขามากหลังจากที่เห็นเขา”หลังจากสามปี เซ็ตตี้ได้โตขึ้นจากลูกบอลขนอ้วนกลมเป็นคุณหนูผอมเพรียว เธอมีคิ้วและตาสวยสดใจรางกับฤดูใบไม้ร่วงที่มีเสน่น์ที่ทำให้ดูสวยมาก เธอสวมรองเท้าคู่สีขาวด้วยขายาวสวยซึ่งทำให้เธอมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่โดยไม่สลัดความไร้เดียงสาและนิสัยร่าเริงของเธอในฐานะคุณหนูเลยเมื่อเธอได้ยินว่าเซย์นได้จ้างครูสอนเปียโนให้กับเธอ เซ็ตตี้น้อยก็บุ้ยปากและต่อต้านในทันที “หนูไม่อยากได้ครูสอนเปียโน ฟินน์ฝึกเล่นเปียโนกับหนูก็ได้”แองเจลีนดูเหมือนจะรู้อยู่แล้วและถามอย่างมีเลศนัยว่า “เขาตกลงเป็นครูของเซ็ตตี้ไหม?”เซย์นยืดอก “เธอคิดว่าพี่จะให