โรสเป็นคนเดียวที่รู้ความลับของลูก้า และยังเป็นคนที่รู้จักลูก้าเป็นอย่างดีมากกว่าใครหน้าไหนทั้งนั้น โรสรู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ แต่เธอก็ยืนยันจะทำสิ่งนั้นต่อ อย่างไม่แคร์สิ่งที่จะตามมาที่หลัง เหมือนกับที่ทำทุกครั้ง โรสก็แค่ผู้หญิงที่แสวงหาความสุขให้ตนเอง
ในขนั้นเดียวกัน ก็มีฝนตกลงมาอย่างกะทันหัน เสียงฟ้าร้องดังสะเทือนไปทั่วโรงเรียนและหมู่บ้านที่อยู่แถวนั้น ช่วงเวลาที่ใกล้จะค่ำขึ้นเรื่อยเรือยพร้อมฝนที่ตกลงมาอย่างหนักแบบไม่หยุดหยั่ง มันทำให้ลูก้าที่กำลังตามหาเมเบลอยู่นั้น ยิ่งเป็นห่วงเมเบลมากขึ้นไปด้วย ตอนนี้ในใจของลูก้ามันไม่มีคำว่า"แค่ชอบเลยอยากเอาชนะใจเธอ"แต่มันเป็นความรักความผูกพันทุกครั้งที่ได้คุยกันและได้ทำอะไรด้วยกัน บ่อยครั้งลูก้าก็ไม่ได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าจะทำแบบนั้นไปทำไม ทำไมต้องใส่ใจหรือดูแลในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ แต่ ณ ตอนนี้เขารู้แล้ว ว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้น เพราะเขาได้ตกหลุมรักเธออย่างจริงใจและหมดหัวใจ ลูก้าพยายามวิ่งตามหาไปทั่วรอบรั่วโรงเรียน จนไปได้ยินเสียงของเด็กสาวดังสะอื้นอยู่ใกล้ใกล้กับตรงที่จอดรถ ลูก้าที่ได้ยินเสียงแผ่วเบาจากตรงนั้น จึงรีบวิ่งไปดูอย่างไว ปรากฏว่าได้เจอกับเมเบลจนได้สักที แต่ในตอนนั้นน้ำตาของเมเบลค่อยค่อยไหลออกมาเรื่อยเรื่อย พร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นที่ดังออกมาตลอดอย่างเบาเบา ลูก้าที่ได้เห็นเธออยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจแบบนั้น ก็เข้าไปโอบกอดพร้อมทั้งลูปหัวเธอไปด้วย และพูดกับเธอด้วยความจริงใจแบบลึกซึ้ง "ผมขอโทษที่ทำให้พี่ต้องร้องไห้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้น พี่กำลังเข้าใจผมผิดอยู่นะ ได้โปรดเถอะนะครับ ให้ผมได้อธิบายให้ฟังก่อนนะครับ ผมขอร้อง เมเบลที่ได้ยินประโยคนั้น ก็ยอมฟังลูก้าเล็กน้อย แต่ภายใต้ในใจเธอนั้นก็ได้แตกสลายเป็นเสี่ยงเสี่ยงไปแล้วด้วยเหมือนกัน และความเชื่อใจในตัวลูก้าก็ได้ค่อยค่อยหายไปทีละน้อยลงด้วยเช่นกัน "อธิบายมาสิ ฉันจะตั้งใจฟังเธอ" เมเบลมองหน้าลูก้าด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหมือนกับกำลังโดนทำร้ายหัวใจไปล้านครั้งพันครั้งในครั้งเดียว บางคนอาจจะคิดว่าเรื่องแค่นี้เองทำไมต้องโศกเศร้าเสียใจจะเป็นจะตาย แต่หากรู้ไม่ว่า ความเจ็บปวดเพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่าคนตายได้เหมือนกัน ความรู้สึกทางจิตใจ มันเจ็บกว่าความเจ็บด้านทางร่างกายมากกว่าเป็นร้อยเท่าเลยนะ เมเบลมองด้วยความตั้งใจที่จะฟังคำอธิบายของลูก้า ลูก้าดึงเมเบลเข้ามาใกล้ตนเองและพูดด้วยความจริงใจทั้งหมด "ผมกับโรส เราเคยเป็นมากกว่าเพื่อนกันมาก่อนและผมก็ทำผิดกับเธอไว้เยอะด้วยเหมือนกัน ผมยอมรับว่า ผมเคยเป็นคนเลวอย่างที่คุณพูด แต่ ณ ตอนนี้ และเวลานี้ ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อพี่คนเดียว ผมจะพิสูจน์ให้พี่ดู ว่าผมก็เป็นคนที่ดีได้เหมือนกัน" ลูก้าเอื้อมมือไปจับมือทั้งสองข้างของเมเบล พร้อมกับเอามาประกบที่ใบหน้าของตนเอง และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ผมขอสัญญา ว่าผมจะเป็นคนที่ดีขึ้น และจะไม่ทำให้พี่ต้องมาเป็นแบบนี้อีกในครั้งต่อไป ได้โปรดมาเป็นคนรักของผมเถอะครับ ผมจะไม่มีวันทิ้งพี่เลยเด็ดขาดครับ! และผม...รักพี่มากนะครับ" ลูก้าพุ่งตัวเข้าไปพรมจูบเมเบลอย่างอ่อนโยน เมเบลรู้สึกตกใจอยู่ลึกลึกที่เห็นลูก้าทำเช่นนั้น แต่ทำยังไงได้ล่ะ เธอก็รักลูก้ามากไม่น้อยไปกว่าที่ลูก้านั้นรักเธอเช่นกัน ลูก้าปลดจูบจากเมเบลเล็กน้อย พร้อมทั้งยิ้มด้วยความอ่อนโยน "ผมรักพี่ที่สุดในจักรวาลเลยนะครับ ฮิฮิ" เมเบลเขินแก้มแดงอยู่ไม่น้อย ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนและหันหน้าหนีลูก้าแบบเขินอาย "ฉันเข้าใจที่เธอพูดมาทั้งหมดแล้วล่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ" ณ ตอนนั้นตะวันตกลงและได้ลาลับตาไปจนท้องฟ้ามืดไปหมด เมเบลยืนคิดอยู่เล็กน้อยว่าจะกลับบ้านยังไงดี ก่อนจะนึกออกได้ว่าตนเองนั้นลืมจักรยานไว้อยู่ที่จอดรถจักรยานหน้าโรงเรียน ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น และคนที่โทรเข้ามา คือเจมส์ เมเบลยังไม่ทันได้กดรับโทรศัพท์ ลูก้าก็ดึงโทรศัพท์เมเบลออกจากมืออย่างรวดเร็ว "เธอจะทำอะไรของเธอน่ะ ยัยเด็กบ้า!" ลูก้าก้มหน้าลงมาตรงหน้าของเมเบลเล็กน้อย และยิ้มหวานให้เธอ ลูก้าพูดกับเมเบลด้วยเสียงออดอ้อน "ดึกแล้วน้าครับ ให้ผมไปส่งเถอะนะครับ ผมมีรถยนต์นะ" เมเบลยืนคิดอยู่ไม่นาน ก็ได้พยักหน้าตอบตกลงไป "งั้นฝากด้วยนะ" ลูก้ายิ้มให้เล็กน้อย ก่อนจะยืดมือไปจับมือเธอ และเดินไปที่รถของเขาด้วยกัน พอถึงที่รถของลูก้า ลูก้าจึงได้เปิดประตูให้เธอ "เชิญครับ คุณผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก" เมเบลเข้าไปนั่งในรถ พร้อมทั้งดึงลูก้าเข้ามาใกล้แล้วจุ๊บที่แก้มเบาเบา "ขอบคุณนะคะ"ร้านอาหารเล็กๆ ดูอบอุ่นในยามเช้า แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดผ้าม่านลูกไม้สีขาวนวล เจมส์พาเธอมานั่งที่โต๊ะริมหน้าต่าง เมเบลสัมผัสได้ถึงไออุ่นของเขาจากที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมของขนมปังอบใหม่โชยมาแตะจมูก รอบข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงกระซิบกระซาบของคนอื่นๆ และเสียงช้อนส้อมกระทบจานเบาๆ เจมส์มองเธอด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก “ทานอะไรหน่อยไหม?” เขาเอ่ยเสียงเบา คล้ายกลัวจะรบกวนบรรยากาศ เมเบลสบตาเขาครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองเมนูตรงหน้า หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอรู้สึกถึงความเงียบที่อบอวลไปด้วยความตึงเครียด ราวกับมีบางสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น "เอ่อ.....คือ....ช่วยแนะนำเมนูอาหารให้ฉันหน่อยได้ไหม?" เจมส์ยิ้มเล็กน้อย และค่อยๆเลือกชี้นิ้วไปที่เมนูหนึ่งในนั้น" "ลองดูเมนูนี้ไหม? แต่ส่วนมากเขาจะแนะนำสำหรับคู่รักหรือสามีภรรยาที่แต่งงานแล้ว" "ทำไมล่ะ?"เมเบลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่สงสัย พร้อมกับเอียงคอเล็กน้อย เจมส์เผลอหน้าแดงออกมา อย่
ณ ห้องนอนของเมเบล แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดหน้าต่างเข้ามา กลิ่นกายจางๆ ของทั้งคู่ยังอบอวลในอากาศ ลูก้าค่อยๆ ขยับตัว รู้สึกถึงความอบอุ่นข้างกาย เมื่อหันไปมองก็พบเมเบลนอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ผมเผ้ากระจายเต็มหมอน "อรุณสวัสดิ์ครับ" เขากระซิบเบาๆ พลางลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ เมเบลขยับตัวเล็กน้อย แต่ยังคงหลับตาอยู่ ลูก้าจ้องมองใบหน้าของเธออย่างพิจารณา ความรู้สึกผิดแผ่ซ่านเข้ามาในใจ เมื่อคืนนี้ เขาไม่ควรปล่อยตัวไปตามอารมณ์แบบนั้นเลย "ลูก้า..." เสียงเธอแผ่วเบาเหมือนละเมอ ทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก "ตื่นแล้วหรอครับ?"ลูก้าถามด้วยเสียงไพเราะ "อือ...เช้าแล้วหรอ?"
ณ ในบ้านของเมเบล แสงไฟสลัวสาดส่องกระทบพื้นผิวโต๊ะไม้ขัดเงา เวลาล่วงเลยมาเกือบสามทุ่มแล้ว เมเบลนั่งตรงข้ามรุ่นน้องคนสนิท หัวเราะคิกคักกับเรื่องตลกที่ลูก้าเล่า ถ้วยอาหารที่ถูกเก็บไปแล้วเผยให้เห็นรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเธอ เจมส์ ยืนพิงกรอบประตูห้อง ดวงตาคมกริบจับจ้องมายังเธออย่างไม่วางตา ไร้ร่องรอยของความรู้สึกใดๆ บนใบหน้าหล่อเหลา นอกจากความเงียบงัน เขาก้าวเท้าเข้ามาในห้อง แสงไฟสะท้อนกับนาฬิกาข้อมือเมื่อยกขึ้นดูเวลา "ดึกมากแล้ว กลับได้แล้วมั้ง" น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยอำนาจบางอย่าง "ดึกแล้วหรอเนี่ย? งั้นเธอจะกลับบ้านเลยไหม?"เมเบลเอ่ยถามลูก้า เสียงใส "ผมคิดว่าอยากจะอยู่กับพี่ให้นานกว่านี้จังเลยครับ คืนนี้ผมนอนกับพี่ได้ไหมครับ"เสียงที่ออดอ้อน คล้ายกับลูกหมาน้อยน่ารักที่กำลังร้องขอ เจมส์จ้องด้วยสายตาหึงหวง"ไม่ได้หรอก! เพราะคืนนี้ฉันจะอยู่ข้างๆเมเบลเอง"กล่าวด้วยเสียงเข้มครึม
รุ่งอรุณ แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านม่านสีขาวบางตามของห้องพักผู้ป่วย เมเบลลืมตาขึ้นช้าๆ ความเจ็บปวดจางหายไปบ้างแล้ว แต่ความรู้สึกหน่วงในใจยังคงอยู่ รอบกายเงียบสงัดเกินไป ราวกับเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังแผ่วเบาก็ยังบาดหู เจมส์เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม “วันนี้กลับบ้านได้แล้วนะครับ” เธอพยักหน้าเบาๆ รับรู้ แต่สายตากลับกวาดมองไปรอบห้องอย่างค้นหา ลูก้าไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไม่ได้มาเยี่ยมเธอเลย แม้แต่ข้อความสั้นๆ ก็ไม่มี เมื่อจัดเก็บของเสร็จ เมเบลเดินออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบงัน ความคิดวนเวียนแต่เรื่องของเขา "เขาไปไหน ทำไมถึงไม่มา" เจมส์มองหน้าเมเบล เขาสัมผัสได้ถึงความเศร้าในใจของเธอที่ออกมาจากดวงตามัวหมอง เดินก้มหน้าเหม่อลอยไร้อารมณ์ เจมส์เอียงคอมองเธอ พร้อมกับรอยยิ้มสดใส สายตาสื่อถึงความอยากเอาใจใส่
"เมเบล! นี่จะนอนไปถึงไหนเนี่ย? เที่ยงวันแล้วนะ ลงมาทานข้าวได้แล้ว!!!" เมเบลสะดุ้งตื่นจากเสียงตะโกนดังของแม่ เธอนึกถึงเรื่องเมื่อวาน วนคิดไปคิดมาไม่สิ้นสุดสักที กว่าเธอจะได้นอนหลับไป มันก็เกือบรุ่งเช้าของอีกวันแล้ว เพราะความคิดมากของเธอนั้นเอง จึงทำให้เธอตื่นสาย "ปวดหัวจังเลยย~" เมเบลพยายามควบคุมร่างกายไม่ให้หลับไหลอีกรอบ เธอลุกขึ้นด้วยความขี้เกียจ เดินลงไปข้างล่างและล้างหน้าเพื่อลบล้างความขี้เซาของเธอ "รู้สึกเหมือนบ้านมันหมุนได้เลย" "ตุ๊บ!" แม่ของเธอได้ยินเสียงเหมือนมีบางสิ่งตก จึงเดินไปดูด้วยความรวดเร็ว "เมเบล!" แม่ของเมเบลตกใจจนเบิกตาโต สิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือเมเบลที่นอนสลบบนพื้น พร้อมกับเสียงลมหายใจแผ่วบางค่อยๆลดลง โรงพยาบาลรัฐบาล เวลา 13:17 น. แสงไฟสีขาวนวลจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ส่องสว่างวาบเหนือศีรษะ แม่ ยืนรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน เสียงเครื่องมือแพทย์ดังแผ่วเบาแทรกกับเสียงประกาศตามสาย ภายในใจแม่เงียบงัน "คุณหมอว่ายังไงบ้างคะ?" แม่ถามเสียงสั่นกับพยาบาลที่เดินออกมา พยาบาลสาวมองหน้าเขาด้วยความเห็นใจ "คนไข้แค่พักผ่อนไม่เพียงพอและร่างกายอ่อนเพลียมากค่ะ ทางเราให้น้ำเ
เจมส์หัวเราะคึกคัก ที่เห็นเศษอาหารเลอะเทอะเต็มทั้งใบหน้าของลูก้า "นี่! หยุดหัวเราะนะ ไอ้แก่!" "ว่าใคร ไอ้แก่?" "คุยกับใครอยู่ก็ ว่าคนนั้นนั่นแหละ!" "ฟังแล้วอารมณ์ขึ้นเลยว่ะ!!!!" เจมส์โมโหเลือดขึ้นหน้า พร้อมกับพูดด้วยเสียงที่โกรธเคือง ลูก้าลุกขึ้นยืน ขี้หน้าเจมส์ และทั้งตะคอกใส่เจมส์ "แก่แล้วยังจะอวดดีอีก!" "ไอ้เด็กบ้าเอ้ยย!!!!" "ก็เข้ามาดิ ไอ้แก่!" ในขนั้นที่ทั้งคู่กำลังจะตีกัน เมเบลทุบโต๊ะสองมือเสียงดังสนั่นสั้นไหว จนจานข้าวและอาหารเคลื่อนไหวตามไปด้วยแรงสั่นสะเทือน "หยุด!!!! ทำบ้าอะไรของพวกเธอเนี่ย นี่มันเป็นวันเกิดฉันนะ หัดทำตัวดีๆหน่อยสิ!" เมเบลตะโกนดุเขาสองคนเสียงดังไปทั่วทั้งห้อง สีหน้าของเธอดูไม่เป็นมิตรเลยสักหน่อย และยังมีดวงตาที่เคร่งขรึมมืดมนไปด้วยความโกรธ เจมส์กับลูก้าทำหน้าเสีย พร้อมกับเข้าไปปลอบโยนเมเบลใกล้ๆ "ขอโทษนะครับ ที่ทำให้พี่ต้องโกรธ เดี๋ยวผมป้อนข้าวให้นะครับ" ลูก้าเอาช้อนตักข้าวขึ้นมา เขามือสั่นเกร็งเล็กน้อย รวมถึงเอามือลองไว้ไม่ให้หก "อะอ้ำๆหน่อยครับ" ในตอนนั้นเอง เจมส์ลุกไปนั่งคุกเข่าขอโทษเมเบลที่ตักเบาๆ แววตาเผยให้เห็นถึงความรู้สึก