เฌอปาดน้ำตาที่ยังไม่แห้งดีออกจากพวงแก้มและขอบตาอย่างลวกๆ แล้วจิกตามองน้องสาวต่างสายเลือดเพื่อเค้นถาม ก่อนที่มันจะเอาไปพูดให้น้าเพียบกับพ่อฟัง
“แม่! ยัยเฌอท้องอะแม่ มันท้อง!”
เสียงของยัยตัวแสบดังไปทั่วบ้าน เผลอๆ อาจจะดังไปถึงข้างบ้านเลยด้วยซ้ำ เล่นเอาเธอโกรธจัดผลักเกลจนตัวไปกระแทกกับผนัง ก่อนจะเข้าไปตบตีซ้ำอีกรอบพร้อมกับเสียงตวาดและร้องไห้
เธอไม่ใช่คนที่จะทำร้ายใครง่ายๆ แต่เธอเครียดกับเรื่องนี้มาหลายวันแล้วจนคิดหาทางออกไม่เจอ มันทำให้สติของเธอกระเจิงไปหมด ถือว่ายัยเกลคือที่ระบายความเครียดทั้งหมดแล้วกัน
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงตะคอกของเพียบดังขึ้น ร่างของเฌอถูกกระชากออกจากตัวของเกลแล้วถูกผลักให้ล้มลงไปกองกับพื้น
เธอไม่ใช่คนที่หาเรื่องใครก่อน ไม่ชอบการใช้กำลังมากกว่าสมองแต่ตอนนี้สมองเธอมันเหมือนใช้งานไม่ได้ชั่วขณะ ในเมื่อยัยเกลรนหาที่ก็รับแรงระบายนี้ไป
“แม่ มันตบเกลแม่ ฮืออ”
“มาตบลูกฉันทำไม! ลูกฉันไปทำอะไรให้!” แม่เลี้ยงใจร้ายทำท่าจะถลาเข้ามาหาเธอ มือวาดขึ้นกลางอากาศ ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งขัดขึ้น
“มีอะไรกัน “
” พ่อ ยัยเฌอมันท้อง เกลได้ยินมันคุยโทรศัพท์ แล้วมันก็โกรธที่เกลรู้ไล่ตีเกลแบบนี้"
คำบอกเล่าของเกลทำให้ภาคภูมิเงียบไปชั่วขณะ ค่อยๆ หันมาทางลูกตัวเองเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากปากลูกเลี้ยง
"ท้องอะไรกันเฌอ”
เฌอเงียบ นั่งอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกไปไหน เรี่ยวแรงที่มีก่อนหน้านี้มันหายไปหมด เมื่อเรื่องที่เฌอหนักใจอย่างแสนสาหัสถูกเปิดเผยให้ผู้เป็นพ่อรู้ มันเป็นสิ่งที่เธอกลัวที่สุด กลัวที่จะบอกกับบุพการี แต่แล้วยังไง
ตอนนี้พ่อก็รู้จากปากคนอื่นที่พร้อมจะขย้ำซ้ำเติมกัน
“ขะ…ขอโทษ หนูขอโทษ”
ดวงตากลมโตที่แดงก่ำนั้นสั่นระริกมองบุพการี ผู้ชายคนเดียวที่เธอเรียกว่าครอบครัวได้ แต่ไม่รู้มันจะยังเป็นแบบนั้นอยู่อีกหรือเปล่าเมื่อเธอได้เห็นแววตาแห่งความผิดหวังของพ่อ
“แกท้องกับใคร!”
เธอหลุบตาต่ำ ร่างกายสั่นสะท้านไปตามจังหวะลมหายใจที่เข้าออกอย่างหนักหน่วง มันจุกที่คอ แน่นที่อก พูดไม่ออกไม่มีคำตอบให้ผู้เป็นพ่อ น้ำตาไหลเต็มสองแก้ม เปียกปอนไปถึงเสื้อยืดรัดรูปผ้าเรยอนที่สวมใส่จนมันเป็นวาววงใหญ่
จะให้ตอบว่าอย่างไร
ใครสักคนที่เธอเองก็ไม่รู้จัก ผู้ชายที่เจอร้านเหล้าตอนหนีเที่ยวหรือคนแปลกหน้าที่นอนด้วยกันตอนเมา
คำตอบไหนก็ไม่น่าฟัง แค่คิดจะพูดออกไปยังรู้สึกสมเพชตัวเอง แม่เลี้ยงก็รอซ้ำเติมหน้าระรื่นอยู่ด้านหลัง ลูกของหล่อนก็ยังยิ้มในสถานการณ์แบบนี้ได้ คิดว่ามีใครบ้างที่จะรับฟังปัญหาของเธอ
“ฉันถามว่าใคร!”
ภาคภูมิโกรธจัดจนเลือดขึ้นหน้า รู้สึกผิดหวังกับลูกสาวเพียงคนเดียวที่เขาอยากฝากฝังชีวิตในบั้นปลายเอาไว้ให้ ขอร้องอ้อนวอนอยากเรียนมหาวิทยาลัยก็ให้เรียน ทั้งที่พ่อก็ไม่มีปัญญาส่ง ด้วยรับปากว่าจะหาเงินเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเห็นลูกสาวตั้งใจเรียนมาตลอด ถึงแม้จะเริ่มหัวรั้นบ้างกับเมียใหม่เขาแต่เฌอก็ไม่เคยทำตัวเหลวไหลเลยสักครั้ง ไม่เคยมีเรื่องผู้ชายผ่านหูให้ได้ยิน วันนี้เขาถึงอดไม่ได้ที่จะบันดาลโทสะใช้กำลังออกไปด้วยความโกรธ
ฝ่ามือหนาฝากลงข้างแก้มนวลผ่อง จนเฌอริตาต้องยกฝ่ามือเล็กขึ้นมาแนบไว้เพราะร้อนวาบจนชา มันเจ็บ แต่ก็ไม่เท่ากับตรงนั้น ที่อกข้างซ้ายของเธอ ก้อนเนื้อในนั้นมันเจ็บจนจุก คล้ายจะหายใจไม่ออก
“ถ้าแกอยากมีผัวก็ไม่ต้องเรียน หาเงินเลี้ยงลูกแกเอง ไม่ต้องมาพึ่งพาฉันอีก นังลูกไม่รักดี! ฉันเลี้ยงแกมาอย่างดีอยากให้แกเป็นฝั่งเป็นฝา กลับมาเลี้ยงดูฉัน แล้วดูสิ่งที่แกทำกับฉัน!”
“พี่ภูมิ ใจเย็นก่อนนะ” น้าเพียบเอื้อมมือมาแตะที่แขนของพ่อเธอ แต่เธอดูออกว่าหญิงวัยห้าสิบทำไปอย่างนั้น เพราะนัยน์ตาคู่นั่นมันแฝงไปด้วยความสะใจจนเธอดูออก
“ออกไปจากบ้านนี้ ออกไปให้พ้นหน้าฉัน!”
“พ่อ…”
“มีปัญญาหาผัวทำลูก แกก็หาเงินเลี้ยงมันเอาเอง หรือถ้าแกไม่มีปัญญาก็ไปหาเงินเอาออก อย่ามาทำให้ฉันเดือดร้อน"
คนตัวเล็กยืนสั่นสะท้านไปทั้งตัว ทุกคนค่อยๆ หันหลังให้เธอจนกระทั่งไม่เหลือใครเลย แม้แค่คนที่เธอคิดเอาไว้ว่าเป็นเพียงคนเดียวที่เธอจะพึ่งพาได้ กลับเป็นคนที่ใจร้ายที่สุดในตอนนี้
ถ้าแม่ยังอยู่ แม่จะพูดกับเฌอแบบนี้ไหม แม่จะตบตีเฌอแบบนี้หรือเปล่า แต่ทั้งหมดนี้มันเกิดจากตัวหนูเอง หนูทำตัวแย่จนไม่น่าให้อภัย ทำเรื่องที่พ่อรับไม่ได้ต้องตบหนูต่อหน้าคนที่เขาเกลียดหนูแบบนี้
เฌอริตากลืนก้อนสะอื้นยอมรับความผิดที่ตัวเองก่อ คิดตัดพ้อและโทษตัวเองอยู่ในใจ เป็นเพราะเธอเองที่ทำให้พ่อผิดหวัง มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยที่จะขอให้พ่ออภัยให้เธอแล้วจบได้เลย
--------------
บอกใครๆว่านิยายรักหวานแหวว ตอนนี้จะโดนหยุมหัว 😅
บทที่ 24เสียงนาฬิกาปลุกดังซ้ำอยู่หลายทีแล้ว แต่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะขยับ คนที่ปลุกไม่ยอมตื่นส่วนคนที่ตื่นไม่ได้ตั้งปลุกมือน้อย ๆ ของเด็กชายธีธัชตบลงที่แขนแม่เฌอหลายที เมื่อแม่ไม่ตื่นเขาจึงคลานขยับไปอีกนิด ตบที่แขนของผู้เป็นพ่อ คราวนี้มีคนปิดเสียงรบกวนที่ฟังไม่รื่นหูเสียที“อือ~” คนร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย แต่แขนกำยำยังกอดก่ายอยู่บนร่างกายของเมียเขา ปรือตามองเพียบเล็กน้อยก็เห็นว่าลูกชายนั่งมองเขากับเธออยู่บนเตียงตากลมแป๋ว“พ่อบูม”ลูกชายชินแล้วที่เห็นหน้าชายหนุ่มตอนตื่นนอนแต่ที่ไม่ชินคงเป็นเพราะเขาเลื่อนขั้นมาอยู่บนเตียงแถมยังได้กอดเมียทั้งคืน บูมยิ้มให้ลูกชายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อ้าแขนให้ลูกเข้ามาหา“ตื่นเช้าจัง มาหาพ่อเร็ว”น้องฌอนคลานข้ามตัวแม่ไปหาพ่อ คว้าเอามือถือไปด้วยให้เขาช่วยปิด บูมเลิกคิ้วแต่เมื่อพลิกจอดูแล้วถึงรู้ว่านาฬิกาปลุกของคนที่ยังหลับปุ๋ยนั้นดังอยู่หลายครั้งแล้วเมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็ม แตกยกแรกแล้วต่อยกสองที่ครัว จัดต่อในห้องน้ำ จนเธอหลับไหลคา…อกเขาอยากเห็นแบบนี้ทุกวัน อยากตื่นนอนแล้วได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าเมีย กอดหอม ดอมดมทั้งลูกทั้งเมียเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้
บทที่ 23ยกจนหมดอีกกระป๋องเฌอก็เริ่มกรึ่มได้ที่ กลิ่นหอมที่ลอยตลบผ่านลมโชยเข้าจมูกชวนให้ใจดวงน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังใกล้เข้ามาเตรียมจะพัดพาร่างของเธอให้ลอยหวือลอยหวือ!ร่างบอบบางถูกรวบกอดแล้วยกจนตัวลอยให้ไปนั่งอยู่บนตักในท่าเดิม เขารวดเร็วจนเธอตกใจ อาบน้ำห้านาทีไม่มีขาดเกิน“ห้านาทีไม่เกินจริง สะอาดไหมเนี่ย”“สะอาดทุกซอกมุม”คำว่า ‘ซอกมุม ‘ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง ขนลุกไปทั้งตัว อุตส่าห์คิดว่าเบียร์สองกระป๋องจะทำให้เธอใจกล้าหน้าด้านแต่เรียกความกล้าหน้าด้านนั้นมาแล้วมันก็ไม่ยอมออกมาเสียที“ขออีกป๋อง”“พอแล้วเดี๋ยวเมาหลับ”ก็ต้องหลับไม่ใช่หรือ“ง่วงแล้วเหมือนกัน” เธอแกล้งว่าทั้งที่ตื่นทั้งตาทั้งอวัยวะส่วนอื่น“เธอครับ พี่รีบอาบน้ำยิ่งกว่าอยู่ค่ายทหาร”เฌอหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเขามอบจุมพิตหวานหอมให้คนเร่งรีบอาบน้ำเป็นรางวัล ถ้าแกล้งอีกสงสัยมีงอนให้เธอได้ง้อแน่“รีบทำไมเฌออยากรู้”“รีบมากิน…เบียร์กับเธอ”“แต่ไม่เห็นแตะเบียร์”“เบียร์ในปากเธออร่อยกว่า”เขาดื่มเบียร์ไปเพียงหนึ่งกระป๋อง อีกสองเธอดื่ม เหลือไว้หนึ่งกระป๋องที่สงสัยจะถูกเมินแล้ว บูมเหมือนเมาได้ที่ ม
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อารมณ์ตกใจ ประหลาดใจปะปนกันไปหมด หัวใจเต้นโครมครามกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าเป็นห่วง จนนึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อเมื่อกี้ฉันทำอะไรค้างไว้นะเขาเองก็ไม่เคยพูดเรื่องของแม่ให้เธอฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเธอกับเขาแล้วหรือยัง แต่ดูจสกภาพที่เห็น สรรพนามที่เธอได้รับเดาว่าคงรู้แล้ว“แม่จะเข้ามาหาหลานหลายทีแล้ว แต่เจ้าบูมบอกว่าเพิ่งมา กลัวแม่เฌอตกใจ” เพ็ญศรีหัวเราะขบขัน “ไม่ต้องตกใจนะ แม่แค่เหงาอยากมาเล่นกับหลานน่ะ”“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆเฌอริตาขยับขาที่แข็งเป็นหินนั้นไปข้างหน้า หวังจะเดินไปเก็บของเล่นลูกชายที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแต่แทบสะดุดขาตัวเองล้มเมื่อเพ็ญศรีพูดประโยคถัดมาหน้าระรื่น“แม่จะมาคุยเรื่องหมั้นหมายด้วยน่ะ”เธอหันขวับไปที่คุณนายเพ็ญศรี นึกว่าหูตัวเองฟังผิดเพี้ยนไป อ้าปากพะงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงพูดเพราะคิดคำไม่ออกสถานการณ์ชักน่าเป็นห่วง แต่เฌอรู้ว่าไม่มีใครมาช่วยคิดอะไรได้เลยจึงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเพ็ญศรีกับลูกชายแทน“คือว่า…” เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้“เจ้าบูมมันไม่บอกหรือ” เพ็ญศรีมองด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจเฌอริตาสั่นหน้า เพ็ญศรีจึงตบขาต
บทที่ 22เรื่องราวของทั้งคู่กลายมาเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงแทนเรื่องตำแหน่งดาวเดือน หลายคนให้กำลังใจแต่ก็มีอีกส่วนน้อยที่ยังด่าว่าคนประเภทนั้นจะเรียกว่าไม่อยู่ในความสนใจก็ไม่ใช่ เขาสนใจที่จะเก็บหลักฐานไปฟ้องเล่น ๆ แต่ไม่สนใจจะเอาคำพูดพวกมันมาใส่ใจ คนพวกนี้ไม่ต่างกับหมาที่นั่งเห่าอยู่หน้าจอไปวัน ๆ“เงินเหลือเหรอมึง”“เออ มีสปอนเซอร์ดี” คุณนายเพ็ญศรีตัวแม่เขาตอบเพื่อนที่นั่งหัวเราะมองเขาเก็บภาพที่มีคนด่าว่าบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาให้ทนายส่วนตัวของแม่จัดการให้เข็ดหลาบส่วนพลอยก็หายไปจากชีวิตของเขาเลยจนไม่ต้องทำอะไร นอกจากอวดลูกกับเมียไปวัน ๆกระเช้ากูก็ไม่เอาและไม่ต้องมายกมือไหว้กู!“ว่ากูไม่เท่าไร ด่าลูกเมียกูกูไม่ยอม”“กล้าเรียกเขาว่าเมียเขายอมให้มึงเป็นผัวหรือยัง”คำแซวของไมเนอร์ทำเอาคนฟังสะอึก นอกจากจูบแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเผื่อแผ่มาให้เขาได้ลิ้มลอง เฌอไม่เปิดโอกาสให้เขาสักทีนี่ก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอยอมรับเข้า แต่เขารอได้ อีกไม่นานเกินรอ ก็เขาอ่อยเธออยู่ทุกเช้าเย็น ทั้งถอดเสื้อเดินผ่าน โชว์กล้ามหน้าท้องปึ๋งปั๋ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอให้เธอรู้ว่าอ้อมกอดเขามันอบอุ่น แล้วมั
ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบหนัก ในหัวอื้ออึง สติกระจัดกระจายไปหลายที่ ร่างกายอ่อนเปรี้ย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำปรือ“หวานจัง”ขยับพูดขณะที่ริมฝากยังแนบชิด ขบกลีบปากของเธออย่างหยอกเย้า คนตัวเล็กอกสั่นขวัญผวาเมื่อเขาขยับริมฝีปากออกจากลีบปากเธอ กดแนบลงที่แก้ม ขยับไปที่ขมับ“พี่บูม” อยากตีปากตัวเองสักสิบที ตั้งใจจะห้ามเขาแต่เสียงเธอกลับสั่นพร่าราวกับเชื้อเชิญ“ครับ” เขาตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการก่อกวนเธอ กำปั้นเล็กที่ทุบอยู่ตรงอกไม่มีผลให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน กล้ามเนื้อไม่มีสะเทือนเลยสักนิด“ไปดูลูกก่อนค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะหึคล้ายชอบใจ เธอเลือกใช้คำได้ดีทีเดียว อยากจะให้เขาปล่อยแล้วหนีแต่ให้ความหวังคล้ายจะกลับมาต่อกันอีก“ข้างนอกหนาวจัง นอนข้างในด้วยได้ไหม”“เฌอมีผ้าห่มให้”“พี่นอนกับพื้น ไม่ขึ้นเตียงให้เธอต้องลำบากแน่นอน”เฌอริตาไม่ยอมตอบเธอขยับตัวเพื่อให้เขาปล่อย อยู่อย่างนี้ต่อรองไปเธอก็แพ้ เขากอดรัดเธอไว้ทั้งร่างจะเอาแรงที่ไหนไปสู้“ได้คืบจะเอาศอก”“ไม่ได้จะเอาศอก” จะเอาเธอต่างหากเขาคิดเล่น ๆ แล้วยิ้มตามหลังคนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะเ
บทที่ 21นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมปริปากพูดกับเขา แต่ใบหน้าสะสวยนั้นยังซุกซบอยู่กับลาดไหล่แกร่ง เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ไม่ขยับตัวไปไหนที่เป็นอย่างนั้นเพราะมันทั้งรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย“เฌอแค่เหนื่อยจนอยากร้องไห้”เสียงของเธออู้อี้อยู่บนตัวเขา“แค่เหนื่อยหรือมีมากกว่านั้น พูดมันออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บมันไว้สักเรื่อง”เธอเงียบอยู่เป็นนาทีถึงขยับใบหน้าออกมา ไม่ทันจะยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตามือของเขาก็ทำหน้าที่แทนเสียแล้ว เข้าใช้ฝ่ามืออบอุ่นนั้นประคองใบหน้า ใช้นิ้วโป้งปาดเอาหยดน้ำตาที่เกาะพราวกับของตานั้นออก สัมผัสที่ใส่ใจและนุ่นนวลนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเป็นกองโดนเขาตกอีกแล้ว เหมือนกับตอนนั้นเมื่อสองปีก่อน“พี่บูมรู้ไหม เฌอไม่มีใครเลยน้องจากลูก เพราะเฌอถูกไล่ออกจากบ้านตอนที่ทุกคนรู้ว่าท้อง”เขารู้ถึงไม่เคยถามให้เธอรู้สึกไม่ดี รู้ตั้งแต่ตอนที่ตามไปดูเธอถึงบ้านเมื่อสองปีก่อน“รู้ครับ”“รู้ได้ยังไง” เธอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำถึงแม้จะหยุดร้องแต่น้ำตามันก็พร้อมจะทะลักออกมาทุกเมื่อ“ที่เล่าให้ฟังไปไง เมื่อสองปีที่แล้วพี่ตามไปดูเราเห็นเราถูกไล่ออกจากบ้าน”เฌอพยักหน้าอย่างเข้าใจจสกนั้นเธอก็พูดต่อ“แม่เฌ