เสียงเครื่องยนต์หรูดับลงหน้าบ้านทรงโมเดิร์นสไตล์มินิมอลหลังใหญ่ในย่านใจกลางเมืองหลวง…
คีตะ โชติธาดา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ปี 3 สถาบันดัง ปลดหมวกกันน็อกออกจากศีรษะ ขยี้ผมเล็กน้อยก่อนเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อยตามประสาคนเรียนโหด
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทอม...เขาจะได้พักผ่อนยาว ๆ ตลอดสองเดือนช่วงปิดเทอมเสียที
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน กลับได้ยินเสียงหัวเราะของใครบางคน เสียงใส ๆ ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน… แต่ฟังแล้วทำให้คิ้วเขากระตุกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
“คีตะ~ กลับมาแล้วเหรอลูก!”
คุณแม่อัญญาเอ่ยเรียก พลางเดินนำเด็กสาวในชุดเดรสสีชมพูที่ดูสดใส และ…หน้าตาคุ้น ๆ แต่อ่อนวัยกว่าเขาเล็กน้อย เดินเข้ามาใกล้
“นี่น้องเมษาไงจ๊ะ… ลูกของคุณดิลกกับปาริฉัตร เพื่อนสนิทพ่อแม่น่ะ”
คีตะปรายตามองเธออย่างสุภาพ — ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากนิด ๆ ตามมารยาท…แต่ดวงตาคมเข้มนั้นเฉยชาอย่างสิ้นเชิง
ในขณะที่เขาคิดว่า ‘น้องเมษา’ ก็เป็นแค่เด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง—
เธอ…กลับมองว่า...เขาคือเจ้าชายในฝันมาตลอด 10 ปี!
‘พี่คีตะ!! ‘
เมษา ยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าแดงก่ำ ใจเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก เธอพยายามสงบนิ่ง พยายามเก็บอาการให้ดูเป็นสาวเรียบร้อยแบบที่อยากให้เขาชอบ
‘อย่าเผลอร้องกรี๊ด...อย่าเผลอวิ่งไปกอดพี่เขา...’
‘พี่เขา...ยังหล่อกระชากใจเหมือนเดิม ไม่สิ ๆ ๆ!!’
‘หล่อมากกว่าเดิม หล่อแบบวัวตายควายล้ม’
ภาพความทรงจำแวบกลับเข้ามา...
เมื่อสิบปีก่อน…เธออายุแค่ 11 ปี
เขาอายุ 14 แต่กลับหล่อจนทำให้เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่เคยลืมได้เลย วันนี้เธออายุ 19 แล้ว และสอบติดมหา’ ลัยเดียวกับเขา—คณะสถาปัตย์!
คีตะยืนกอดอก มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสัยเล็กน้อย
เธอดูสวยแบบใส ๆ ผิวขาวเนียนจัด ใบหน้าเรียวเล็กตาโต—ชุดเดรสสีชมพู ดูสวยใส สะอาดเรียบเนี้ยบ แต่ท่าทางดูกระตือรือร้นผิดปกติ
“เราเคยเจอกันมาก่อนเหรอ?”
เสียงทุ้มต่ำถามอย่างตรงไปตรงมา เมษาเกือบทรุดลงไปกรี๊ดกับพื้น—ไม่ใช่เพราะเขาจำเธอไม่ได้ แต่เพราะเสียงของเขายังทำให้เธอใจเต้นเหมือนตอนเด็กไม่มีผิด
“ก็ตอนงานวันเกิดของหนูไงคะ...” เธอยิ้มหวานแบบที่ซ้อมมาหลายปี
“พี่คียังตัดเค้กวันเกิดให้หนูเลยด้วยค่ะ!”
“ฮะ?” คีตะเลิกคิ้ว
“ตอนนั้นเธอตัวเท่าไอติมแท่งเองมั้ง...”
‘พูดงี้ได้ไงคะพี่คี! เมษาโตแล้ว โตพร้อมจะเป็นเจ้าสาวแล้วด้วยซ้ำ!’
เธอกรีดร้องในใจ แต่อมยิ้มเอาไว้—เพราะนี่แหละ…คือการเริ่มต้นใหม่ของเธอ เมษาจะทำทุกอย่างให้พี่คีตะตกหลุมรัก
ผัวะ!!
“ไอ้ลูกบื้อเอ๊ย!!” เป็นแม่ของเขาที่ตบไหล่เขาอย่างแรงจนแทบไหล่หลุด พร้อมมองเขาคาดโทษ
“หนูเมษาอย่าไปถือสาคีตะเลยนะลูก” คุณอัญญาหันมากล่าวเสียงอ่อน ก่อนจะจับมือนุ่มของเมษาแล้วพาเดินเข้าไปด้านใน
ภายในห้องนั่งเล่น คุณธนา—พ่อของคีตะ กำลังพูดคุยอยู่กับท่านทูตดิลกและคุณปาริฉัตร พ่อแม่ของเมษาอย่างเป็นกันเอง
“ต้องขอบคุณจริง ๆ ที่ให้เมษาได้มาอยู่ด้วยนะครับ” ท่านทูตดิลกกล่าวด้วยความสุภาพ
“เพราะโดนคำสั่งให้ไปประจำอยู่ที่สถานทูตอังกฤษ ผมกับปาริฉัตรก็ห่วงลูกสาวคนเดียวมาก จะให้ไปอยู่คนเดียวก็ใช่ที่”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะ” คุณอัญญายิ้ม
“ฉันอยากมีลูกสาวมานานแล้ว หนูเมษาน่ารักจะตาย”
คีตะที่เดินตามเข้ามาในห้องขมวดคิ้ว
“แม่พูดอะไรเนี่ย?” เขาถาม พลางเคี้ยวคุกกี้ที่เพิ่งหยิบมาจากจานในครัว
คุณอัญญาหันมายิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบ
“ตั้งแต่วันนี้ หนูเมษาจะมาอยู่กับเราน่ะสิ ห้องว่างข้าง ๆ ลูกยังไงล่ะ”
!!!
🌸 🌸 🌸
“โว้ยย~ ตื่นเต้นเกินไปแล้ว...” เมษาพึมพำขณะวางกล่องของใช้ลงบนเตียงใหม่ในห้องสีพาสเทลสะอาดตา
แม้จะยังไม่ได้จัดของเข้าที่เรียบร้อยดีนัก แต่เพียงแค่ได้ยืนอยู่ในห้องนี้—ข้างห้องของคีตะ เธอก็รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสังเวียนรักที่เตรียมตัวมาอย่างยาวนาน
ย้อนไปก่อนหน้าหนึ่งวัน
“ไม่ค่ะ หนูไม่ไปอังกฤษ” เมษายืนยันเสียงแข็ง
“หนูเพิ่งสอบติดสถาปัตย์ หนูอยากเรียนที่นี่ค่ะ แม่ขา~” เมษาหันไปอ้อนแม่ เพราะรู้ว่าพ่อของเธอไม่ยอมใจอ่อน
“ไม่ได้ ลูกอยู่คนเดียวไม่ได้!”
“แต่หนูโตแล้วนะคะพ่อ หนูดูแลตัวเองได้จริง ๆ”
เสียงเถียงกันไปมาระหว่างพ่อลูกดังก้องทั่วห้องนั่งเล่น ก่อนที่เมษาจะงัดไม้ตายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลปนลูกอ้อนเต็มพิกัด
“งั้น...ให้หนูไปอยู่กับลุงธนากับน้าอัญญาแทนได้มั้ยคะ~?”
“ว่าไงนะ?” ท่านทูตดิลกเลิกคิ้ว
“ก็คุณลุงคุณน้าเป็นเพื่อนสนิทพ่อแม่นี่นา หนูจะได้ไม่เหงาด้วยไง~”
เมษายิ้ม ส่งสายตาหวานใส พลางเอาหน้าถูไถต้นแขนพ่อของเธอ ในขณะที่คุณแม่ปาริฉัตรหรี่ตามองลูกสาวอย่างรู้ทัน
“ให้ลูกไปเถอะค่ะ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าให้อยู่คอนโดคนเดียวจริงไหม?”
“...ก็ได้” ท่านทูตรดิลกยอมอย่างเสียไม่ได้
“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” เมษายิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนจะกอดพ่อและหอมแก้มด้วยความรัก
เมษายิ้มออกมาอย่างสมใจ
“เมษา...จะจีบพี่คีตะให้สำเร็จให้ได้เลยคอยดู!” เธอพูดเสียงเบาในลำคอ ขณะค่อย ๆ แกะกระเป๋าเสื้อผ้าออกมาจัดเรียงลงในตู้
เสื้อผ้าในกระเป๋าล้วนเป็นชุดกระโปรงหวาน ๆ ที่เธอเตรียมไว้เพื่องานนี้โดยเฉพาะ—เพราะถ้าอยากจะให้พี่คีมองแบบคนรัก…เมษาจะต้องเนียนให้สุดและน่ารักให้สุด
เธอเหลือบมองประตูที่กั้นห้องกับห้องข้าง ๆ แล้วหัวใจเต้นแรงอีกครั้ง
‘จากวันนี้ไป...เราอยู่บ้านเดียวกันแล้วนะคะ พี่คี’
🌸
เช้านี้เมษาตื่นเร็วกว่าทุกวัน เพราะมันไม่ใช่เช้าธรรมดา—แต่มันคือเช้าที่เธอได้ตื่นในบ้านหลังเดียวกับ ‘พี่คีตะ’
“วันนี้ต้องสวย! ต้องสดใส! ต้องพร้อมจีบ!”
เธอพึมพำกับตัวเองหน้ากระจกขณะม้วนปลายผมให้เป็นลอนธรรมชาติ
ผิวเนียนใสที่โบกครีมบำรุงตั้งแต่เมื่อคืนดูเปล่งประกาย ชุดอยู่บ้านที่เธอเลือกเป็นเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้น ดูน่ารักแต่ไม่โป๊จนแม่ดุ
ทุกอย่างถูกเซ็ตมาอย่างดี—แม้จะดูเหมือนลุคอยู่บ้านสบาย ๆ แต่แท้จริงแล้วคือลุคพิฆาตพี่คีตะที่ซุ่มซ้อมมาแล้วนับสิบรอบ
เมษาคว้าผ้าขนหนูพับใหม่ในตะกร้า กะว่าจะเอาไปช่วยคุณน้าอัญญาในครัว แต่ทันใดนั้น...
แกร๊ก...
เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น
เมษาชะงักฝีเท้า เงยหน้าขึ้น—แล้วโลกทั้งใบก็หยุดหมุนไปชั่วขณะ
พี่คีตะ...
ยืนอยู่ตรงหน้าห้องน้ำในสภาพเสื้อยืดตัวเดียวกับกางเกงวอร์มหลวม ๆ หยดน้ำเกาะตามใบหน้าคมคาย ร่วงลงช้า ๆ ตามแนวกราม และลำคอที่เปียกชื้น
เขากำลังล้างหน้า—เสยผมขึ้นอย่างลวก ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ
ช็อตนั้น...เมษาแทบหยุดหายใจ
ใบหน้าตื่นนอนของพี่คียังดูง่วงนิด ๆ แต่หล่อทะลุน้ำทะลุแสงยามเช้าอย่างกับหลุดออกมาจากโฆษณายาสระผม!
‘พี่คีตะ...ชนะน็อค!!’
แต่เธอไม่มีเวลาจะช็อกนาน เพราะบทของสาวหวานต้องเดินต่อ!
เธอรีบปรับท่าทาง ยืดหลังตรง สะบัดผมเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปยื่นผ้าขนหนูให้พร้อมกับรอยยิ้มสดใสที่สุดในชีวิต
“พี่คีตะคะ...ผ้าค่ะ”
คีตะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือรับไปแบบงง ๆ
“ขอบใจ” เขาพูดเรียบ ๆ แต่แววตาดูยังไม่ค่อยตื่นเต็มที่
เมษายิ้มหวาน พยายามรักษาสมดุลรอยยิ้มกับเลือดที่กำลังจะพุ่งออกจมูก
‘นิ่งไว้เมษา...นิ่งงงง!’
เธอค้อมหัวเบา ๆ แล้วรีบเดินหนีออกมาด้วยท่าทางสวยงามเหมือนคุณหนู แต่ทันทีที่พ้นระยะสายตาของเขา...
‘กรี๊ดดดดดด~!!!’
เสียงหวีดในใจดังกระหึ่ม
‘นี่มัน...เปิดฉากตอนเช้าอันตรายมาก! หัวใจจะวายตั้งแต่วันแรกแล้วววว ยัยเมษา!!!!’
🌸 🌸 🌸
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ในรั้วมหา’ ลัย—ช่วงหัวค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศในบ้านก็เงียบสงบ แสงไฟสีวอร์มไลท์ส่องออกมาจากโคมไฟหัวเตียงในห้องแต่ละห้องอย่างอบอุ่นเมษาในชุดนอนเสื้อยืดลายแมวน้อยกับกางเกงขาสั้นสีชมพูพาสเทล ผมยาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยเล็ก ๆ หนึ่งข้าง เธอยืนลังเลอยู่หน้าห้องพี่คีตะ มือหนึ่งถือหนังสือฟิสิกส์ อีกมือเคาะประตูเบา ๆก็อก ๆ ๆไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาเปิดประตู แล้วใบหน้าหล่อเข้มของคีตะในชุดเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงผ้าลำลองก็มาปรากฏตรงหน้า“หืม? มีอะไรรึ?”“หนู...ขอโทษที่รบกวนค่ะ แต่คือว่า...”เมษายกหนังสือขึ้นบังหน้า ทำตาใสแป๋วมองเขา“วิชาฟิสิกส์มันยากจังเลย หนูไม่เข้าใจเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเวกเตอร์กับแรงลัพธ์ พี่คีตะช่วยสอนหนูหน่อยได้มั้ยคะ?”คีตะนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกกว้างขึ้นแล้วพูดเรียบ ๆ“เข้ามาสิ”เมษายิ้มหวาน รีบเดินตัวปลิวเข้าไปนั่งขัดสมาธิบนพรมข้างเตียง เปิดหนังสือออกพาดบนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ๆ ที่วางโน้ตบุ๊กไว้คีตะนั่งลงฝั่งตรงข้าม หยิบดินสอขึ้นมาแล้วเขียนสมการลงบนสมุดอย่างคล่องแคล่ว“เนื้อหานี้ไม่ได้ยาก ถ้าเข้าใจภาพรวม ฉันจะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ...”เมษาทำหน้าเห
แดดยามบ่ายคล้อยเริ่มอ่อนแรง—นักศึกษาทยอยเดินออกจากตึกเรียน เมษากับพริ้มเดินออกมาด้วยกัน เพราะพวกเธอตั้งใจจะไปร้านคาเฟ่ที่ชาวโซเชียลรีวิวเอาไว้ทั้งสองคนพูดคุยกันหัวเราะคิกคัก เดินเลี้ยวไปยังทางเดินข้างคณะ เพื่อมุ่งไปยังลานจอดรถของวิศวะ กลับพบว่าทางเดินถูกบล็อกด้วยสาวรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง—ชุดนักศึกษาพอดีตัว รองเท้าส้นสูง และท่าโพสกอดอกเหมือนพร้อมจะถ่ายขึ้นปกนิยายนางร้าย“จะรีบไปไหนจ๊ะ...น้องปีหนึ่ง”เสียงหวานติดเย็นดังขึ้นจากหญิงสาวผมประบ่า หน้าคมแต่งหน้าจัด ยืนอยู่กลางกลุ่มด้วยท่าทางน่าเกรงขาม“น้องชื่อเมษาใช่มั้ย? เมษา…ที่ซ้อนท้ายคีตะมาเมื่อเช้า?”พริ้มจับแขนเมษาเบา ๆ ทันที สัญชาตญาณบอกว่า ไม่ปลอดภัยแล้วแน่ ๆเมษาหันกลับมา มองรุ่นพี่ทุกคนด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ในแววตากลับเยียบเย็นอย่างน่าประหลาดริมฝีปากแดงธรรมชาติยกยิ้มนิด ๆ“ค่ะ เมษาเอง แล้วมีอะไรเหรอคะ รุ่นพี่?”“แหม...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะถามเฉย ๆ ว่าน้องมีสิทธิ์อะไรถึงได้ใกล้ชิดกับคีตะขนาดนั้น?”“สิทธิ์เหรอคะ?” เมษากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อย“หนูก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่หนูอยู่บ้านเดียวกันกับพี่คีตะน่ะค่ะ~”ผ่าม!คำตอบของเธอท
เช้าวันนี้ที่บ้านของคีตะ...เป็นวันเปิดเทอมใหม่วันแรก“คีตะ เปิดเทอมวันแรก พาน้องไปด้วยนะ”คุณอัญญาหันมาบอกลูกชายขณะวางจานไข่กระทะบนโต๊ะอาหารคีตะ—ในชุดเสื้อช็อปวิศวะพับแขน กับกางเกงยีนส์ซีดตัวเก่ง เหลือบมองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินลงมาจากบันได...สายตาเขาชะงักไปชั่วครู่เสื้อนักศึกษาพอดีตัวกระชับช่วงเอวและหน้าอก...กระโปรงพรีสสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยพอให้เห็นเรียวขาขาวเนียน ผมหางม้าถูกรวบหลวม ๆ เผยใบหน้าใสซื่อ แต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่เขาไม่กล้าอธิบายรองเท้าผ้าใบสีขาวดูสดใสเข้ากับบุคลิกเด็กปีหนึ่งสุด ๆ“ผมไปมอไซค์นะ...เมษาจะไหวเหรอ?” เขาถามเสียงเรียบ แต่แววตานั้นแอบเหลือบมองขา พลางคิดในใจ...ยังดีที่ไม่โป๊...“สบายมากค่ะ พี่คีตะ~” เมษาตอบใบหน้ายิ้มระรื่น“หนูใส่กางเกงขาสั้นกันโป๊ไว้แล้วค่ะ!”เธอชูนิ้วเป็นรูปตัววี ประกอบรอยยิ้มสดใส มั่นใจสุด ๆคีตะกระแอมเบา ๆ แสร้งเมิน“อืม งั้นก็...ไปกัน”เมษาวิ่งตามไปยังลานจอดรถ พร้อมสายตาที่จับจ้องมอเตอร์ไซค์คันโปรดของเขา—ดูเคติ มอนสตาร์ สีดำด้าน ที่ทั้งสวย หรู ดูแพงแบบมีระดับพอเห็นเขายื่นหมวกกันน็อคให้ เธอก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที (แถมแอบเขยิบให้แนบชิ
“เมษา...หนูหั่นแครอทเป็นดอกไม้อีกแล้วเหรอลูก~”เสียงหัวเราะนุ่มของคุณอัญญาดังขึ้นจากห้องครัว ตั้งแต่เช้าแสงแดดยังอุ่นอ่อน และกลิ่นขนมปังอบกับเบคอนก็ลอยตลบอบอวลทั่วบ้าน“ก็หนูอยากให้คุณลุงคุณน้าทานอาหารแล้วอารมณ์ดีค่ะ”เมษายิ้มหวาน ขณะวางแครอทรูปหัวใจลงในกระทะข้างไข่ดาว รูปหัวใจก็เช่นกันตลอดสองเดือนก่อนเปิดเทอมแทนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนหรือช็อปปิ้งเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป เมษาใช้ชีวิตอยู่ในครัว ทำอาหารกับคุณน้าอัญญาทุกเช้า — และแน่นอนว่าเธอทำด้วยใจทั้งหมด…เพื่อผู้ชายที่ชื่อ ‘คีตะ’“พี่คีตะคะ กาแฟค่ะ”เธอถือแก้วกาแฟดำมาเสิร์ฟตรงหน้าชายหนุ่มผู้มีผมสีเข้มยุ่งเล็กน้อยจากการเพิ่งตื่นนอน คีตะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงระเบียงบ้านด้านข้าง หันมารับแก้วอย่างเกือบจะไม่ทัน“ขอบใจ”เขารับไปแค่สั้น ๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้เมษาระเบิดหัวใจตัวเองเบา ๆ‘ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบให้ใส่น้ำตาล...แต่หนูเติมความหวานไว้ในสายตาแล้วนะคะ’เธอแอบคิดในใจ ก่อนจะรีบถอยห่างไปตั้งหลักพอตกบ่ายเธอมักจะนั่งเล่นหมากรุกกับคุณลุงธนาผู้สุขุม ใจเย็น และชอบวางหมากเหมือนวางแผนธุรกิจ“แน่ใจนะว่าเดินหมากตรงนี้?”“มั่นใจค่ะลุง” เมษายิ้มตาหยี แล้ววาง
เสียงเครื่องยนต์หรูดับลงหน้าบ้านทรงโมเดิร์นสไตล์มินิมอลหลังใหญ่ในย่านใจกลางเมืองหลวง…คีตะ โชติธาดา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ปี 3 สถาบันดัง ปลดหมวกกันน็อกออกจากศีรษะ ขยี้ผมเล็กน้อยก่อนเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อยตามประสาคนเรียนโหดวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทอม...เขาจะได้พักผ่อนยาว ๆ ตลอดสองเดือนช่วงปิดเทอมเสียทีทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน กลับได้ยินเสียงหัวเราะของใครบางคน เสียงใส ๆ ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน… แต่ฟังแล้วทำให้คิ้วเขากระตุกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว“คีตะ~ กลับมาแล้วเหรอลูก!”คุณแม่อัญญาเอ่ยเรียก พลางเดินนำเด็กสาวในชุดเดรสสีชมพูที่ดูสดใส และ…หน้าตาคุ้น ๆ แต่อ่อนวัยกว่าเขาเล็กน้อย เดินเข้ามาใกล้“นี่น้องเมษาไงจ๊ะ… ลูกของคุณดิลกกับปาริฉัตร เพื่อนสนิทพ่อแม่น่ะ”คีตะปรายตามองเธออย่างสุภาพ — ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากนิด ๆ ตามมารยาท…แต่ดวงตาคมเข้มนั้นเฉยชาอย่างสิ้นเชิงในขณะที่เขาคิดว่า ‘น้องเมษา’ ก็เป็นแค่เด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง—เธอ…กลับมองว่า...เขาคือเจ้าชายในฝันมาตลอด 10 ปี!‘พี่คีตะ!! ‘เมษา ยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าแดงก่ำ ใจเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก เธอพย