“เมษา...หนูหั่นแครอทเป็นดอกไม้อีกแล้วเหรอลูก~”
เสียงหัวเราะนุ่มของคุณอัญญาดังขึ้นจากห้องครัว ตั้งแต่เช้าแสงแดดยังอุ่นอ่อน และกลิ่นขนมปังอบกับเบคอนก็ลอยตลบอบอวลทั่วบ้าน
“ก็หนูอยากให้คุณลุงคุณน้าทานอาหารแล้วอารมณ์ดีค่ะ”
เมษายิ้มหวาน ขณะวางแครอทรูปหัวใจลงในกระทะข้างไข่ดาว รูปหัวใจก็เช่นกัน
ตลอดสองเดือนก่อนเปิดเทอม
แทนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนหรือช็อปปิ้งเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป เมษาใช้ชีวิตอยู่ในครัว ทำอาหารกับคุณน้าอัญญาทุกเช้า — และแน่นอนว่าเธอทำด้วยใจทั้งหมด…เพื่อผู้ชายที่ชื่อ ‘คีตะ’
“พี่คีตะคะ กาแฟค่ะ”
เธอถือแก้วกาแฟดำมาเสิร์ฟตรงหน้าชายหนุ่มผู้มีผมสีเข้มยุ่งเล็กน้อยจากการเพิ่งตื่นนอน คีตะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงระเบียงบ้านด้านข้าง หันมารับแก้วอย่างเกือบจะไม่ทัน
“ขอบใจ”
เขารับไปแค่สั้น ๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้เมษาระเบิดหัวใจตัวเองเบา ๆ
‘ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบให้ใส่น้ำตาล...แต่หนูเติมความหวานไว้ในสายตาแล้วนะคะ’
เธอแอบคิดในใจ ก่อนจะรีบถอยห่างไปตั้งหลัก
พอตกบ่าย
เธอมักจะนั่งเล่นหมากรุกกับคุณลุงธนาผู้สุขุม ใจเย็น และชอบวางหมากเหมือนวางแผนธุรกิจ
“แน่ใจนะว่าเดินหมากตรงนี้?”
“มั่นใจค่ะลุง” เมษายิ้มตาหยี แล้ววางหมากกินม้าลุงธนาได้อย่างสวยงาม
“หืม...ฝีมือไม่เบาเลยนี่นา”
คุณธนาหัวเราะเบา ๆ
“เจ้าคี จะนั่งเงียบทำไม...มาเล่นด้วยกันสิ”
“ไม่เอาอ่ะ เหนื่อย” คีตะที่นอนอ่านแบบบ้านอยู่ตรงโซฟาในห้องรับแขกตอบเสียงเนือย
แต่บางวันเขาก็จะเข้ามาเล่นด้วยแบบไม่คาดคิด และเมษาก็เล่นแพ้ให้...แบบเนียน ๆ
‘ใครจะไปชนะคนที่เรารักกันล่ะ!’
และในวันหนึ่ง…
“ติ๊งต่อง~”
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น เมษาที่กำลังเก็บผ้าเช็ดโต๊ะหน้าบ้านอยู่หันไปมองก่อนจะเดินไปเปิดประตู
ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในเสื้อเชิ้ตเปิดกระดุมเม็ดบน ใบหน้าคมเข้มประดับรอยยิ้มกว้างราวกับพระอาทิตย์แสนอบอุ่นยืนอยู่หน้ารั้ว
“โย่ว คีตะอยู่มั้ย?”
“เอ่อ…อยู่ค่ะ เชิญเข้ามาก่อนค่ะ”
เมษายิ้มรับอย่างสุภาพ แต่ในใจแอบประเมินรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายอยู่เงียบ ๆ
‘หล่อดีนะ…แต่ไม่ใช่สเป๊กแน่นอน ฉันรักพี่คีคนเดียว!’
“เราชื่อภูผานะ เป็นเพื่อนสนิทของคีตะตั้งแต่ม.ปลาย” เขาว่าพลางยื่นกล่องขนมในมือให้เธอ
“เรียกพี่ก็ได้ครับ น้อง...?” เขาเอียงคอถามอย่างเป็นกันเอง พร้อมยิ้มละลายใจ
แต่ก่อนที่เมษาจะได้ตอบ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ก็ดังขึ้นจากบันได
คีตะในชุดเสื้อยืดสีขาวธรรมดา กับแจ็กเก็ตยีนส์สีน้ำเงินซีด เดินลงมาด้วยใบหน้าสะลึมสะลือ ผมยุ่งเบา ๆ ราวกับเพิ่งตื่นจากการงีบ—หน้ามึนแต่สายตามองเลยเธอไปมองเพื่อนตรง ๆ
แค่นั้น…หัวใจของเมษาก็เต้นแรงอีกครั้ง
‘แค่เสื้อยืดกับยีนส์ธรรมดา ทำไมพี่ถึงเท่ได้ขนาดนี้…’
เธอหลบสายตาเล็กน้อย ยกมือขึ้นกุมอกตัวเองเบา ๆ
“ไอ้ภูมาได้ไง?”
“เบื่ออะ อยากมาหามึง” ภูผาหัวเราะ
“เชิญพี่ตามสบายนะคะ” เมษายิ้มหวานให้ตามมารยาท ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางสงบ...แต่ในใจฟูเกินต้าน
คีตะยืนกอดอก มองเพื่อนรักที่โผล่มาโดยไม่บอกล่วงหน้า
“มึงจะมาเพื่อ?”
“กูจะชวนไปเล่นเกมใหม่ที่ห้างฯ” ภูผายิ้มกวน ๆ แล้วก้าวเข้ามาใกล้ ดึงคอเสื้อเพื่อนให้โน้มมา
“ว่าแต่น้องคนนั้นชื่อไรวะ? ทำไมมาอยู่บ้านมึง?” เสียงกระซิบกระซาบมีความสนใจเต็มพิกัด
“เมษา ลูกเพื่อนพ่อกับแม่ เพิ่งสอบติดมหาลัยที่นี่” คีตะตอบเสียงเรียบตามสไตล์
“น้องเมษา~ สวย น่ารัก สดใส... มีเสน่ห์ว่ะ” ภูผายกมือทาบอกทำท่าจะละลาย
“มีแฟนยังวะ?”
“กูจะไปรู้เรอะ” คีตะเริ่มขมวดคิ้วอย่างรำคาญ
“มึงจะชวนกูเล่นเกมไม่ใช่เหรอ ไปดิ”
“เฮ้ย เดี๋ยว!” ภูผาหัวเราะแล้วเอาแขนพาดบ่าเพื่อน
“ไม่ใช่ว่า... มึงแอบเคลมน้องอยู่เงียบ ๆ หรอกนะ”
คีตะถอนหายใจแล้วหันหลังเดินนำ
“ไอ้ภู! มึงนี่มโนเก่ง น้องเขาเพิ่งปี 1 หาเรื่องให้กูชิบ…”
สองหนุ่มเดินไปทางลานจอดรถ คีตะหยิบหมวกกันน็อคของเขาแล้วโยนอีกใบให้ภูผา
ที่มุมหนึ่งของบ้าน…เมษาแอบเปิดผ้าม่านมองเงียบ ๆ
สายตาของเธอหยุดอยู่ที่มอเตอร์ไซค์สีดำด้าน ทรง Naked Bike รุ่นท็อปสุดของค่ายดังจากอิตาลี ที่วาววับและล้อเงางามจนสะท้อนแสงแดด
เบาะหนังแท้เย็บมือ ท่อไอเสียไทเทเนียมที่ส่งเสียงทุ้มต่ำขณะสตาร์ต—ทุกอย่างมันหล่อ มันเท่ มันคือลุคของพี่คีตะสุด ๆ
แต่เหนืออื่นใด...สิ่งที่ทำให้หัวใจเมษาเต้นไม่เป็นจังหวะคือร่างสูงในชุดเสื้อยืดนั้นเอง ที่ขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์ด้วยท่วงท่าชำนาญ มือหนึ่งหมุนกุญแจ อีกมือสวมถุงมือขี่รถอย่างเท่
‘พี่คีตะหล่อเหมือนพระเอกหนังสายบู๊เลย… จะตายแล้ว!’
เธอกัดริมฝีปากล่าง กลั้นเสียงกรี๊ดในลำคอ
‘ผู้หญิงคนอื่นเห็นไม่ได้เด็ดขาด… เขาคือของฉัน!!’
🌸🌸🌸
🏬 ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง
เสียงเกมอาร์เคดจากชั้นบนของห้างชื่อดังกลางเมืองดังคลอไปกับเสียงผู้คนเดินขวักไขว่
สองหนุ่มในเสื้อยืดเรียบ ๆ กับกางเกงยีนส์ดูธรรมดา แต่กลับดึงดูดสายตาโดยเฉพาะจากกลุ่มสาววัยมหาลัยแถวนั้น
คีตะในชุดเสื้อยืดสีขาวกับแจ็กเก็ตยีนส์ทับบางเบา ผมหน้าม้าเซ็ตยุ่งนิด ๆ จากสายลมที่ขี่มอเตอร์ไซค์มา ส่วนภูผาก็หล่อไม่แพ้กัน ใส่เสื้อเชิ้ตเปิดคอ กับกางเกงลำลองและรองเท้าผ้าใบสีสด—ทั้งคู่เดินตรงไปยังโซนเกมทันที
“หึ วันนี้มึงอย่าพากูแพ้นะ ไอ้คี” ภูผาหัวเราะพลางหยอดเหรียญใส่เครื่อง
“มึงแพ้ตั้งแต่เกมที่แล้ว แล้วมั้ย” คีตะยักคิ้วอย่างท้าทาย
ขณะเดียวกัน ตรงมุมเสาใกล้ร้านคาเฟ่บนชั้นเดียวกัน
เมษาในชุดกระโปรงคิวท์โทนชมพูพีช พรางตัวหลังต้นไม้ปลอมข้างเสา มือหนึ่งกำแก้วชาไข่มุกแน่น ขณะแอบส่องกล้องทางไกลมองไปยังสองหนุ่มที่กำลังเล่นเกมยิงปืนกันอย่างดุเดือด
“โอ๊ย...ทำไมพี่คีตะถึงได้เท่แบบนี้นะเนี่ย!!!”
เธอบ่นเบา ๆ กับตัวเอง หน้าแดงจาง ๆ ขณะมองเขาหัวเราะกับเพื่อนอย่างเป็นธรรมชาติ
ข้าง ๆ เธอ มีชายหนุ่มในสูทเข้ารูปสีดำ ยืนกอดอกอย่างนิ่งขรึม
รูปร่างสูงโปร่งประมาณ 185 ซม. ผิวแทนแบบคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ ใบหน้าคมเข้มสไตล์ลูกครึ่ง ดวงตาคมเฉียบภายใต้แว่นกันแดด ผมสีน้ำตาลเข้มเซ็ตเรียบร้อย หูข้างหนึ่งมีบลูทูธติดอยู่แบบแทบมองไม่เห็น
“อคิน” – บอดี้การ์ดหนุ่มฝีมือดีวัย 29 ปี ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้และป้องกันตัวทุกแขนง เคยผ่านการฝึกในหลายประเทศและได้รับใบรับรองด้านการรักษาความปลอดภัยจากองค์กรระดับโลก
เขาคอยดูแลความปลอดภัยของเมษา—คุณหนูลูกสาวท่านทูตดิลก—มาตั้งแต่เธออยู่ชั้นประถม และแม้เขาจะขรึม เย็นชา แต่ในใจก็เอ็นดูเมษาเหมือนน้องสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง
เขาพูดเสียงเบาแต่เด็ดขาดผ่านบลูทูธ
“คุณหนูเมษายังปลอดภัย กำลังตามเป้าหมายอย่างใกล้ชิด...ยังไม่ต้องเคลื่อนกำลังเสริม”
เมษาหันกลับมามองอคิน แล้วเอานิ้วแตะริมฝีปาก
“ชู่! อย่าเสียงดังสิ พี่คิน เดี๋ยวพี่คีตะรู้ว่าหนูตามมา”
อคินถอนหายใจเบา ๆ
“ครับคุณหนู แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติ ผมจะพากลับทันที”
“ไม่ผิดปกติค่ะ แค่หัวใจหนูเต้นผิดจังหวะเท่านั้นเอง~”
เมษาพูดพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ใบหน้าแดงเรื่อเหมือนสาวม.ปลายแอบชอบรุ่นพี่อยู่ไกล ๆ
อคินหันไปมองเด็กสาวในความดูแลที่กำลังก้มหน้าเขินอายซุกหลังต้นไม้ปลอมด้วยรอยยิ้มบาง ๆ มุมปาก
‘คุณหนูเมษา...โตขึ้นเยอะจริง ๆ’
เขาคิดในใจเงียบ ๆ ภาพของเด็กหญิงผูกผมหางม้าเมื่อหลายปีก่อนยังชัดเจนในความทรงจำ แต่ตอนนี้...เธอกลายเป็นสาวน้อยผู้แอบรักเข้าเต็มเปา
อยู่ ๆ เสียง “ฮึ่ย!” เบา ๆ ก็หลุดออกมาจากปากเมษา
“อะไรอีกล่ะคุณหนู...” อคินเลิกคิ้ว
เมษาหรี่ตามองไปที่หน้าร้านเกมอีกครั้ง
สาวสวย 2 คน—ในชุดไปรเวทเสื้อสายเดี่ยวกระโปรงสั้น—เดินเข้าไปหาคีตะและภูผาที่เพิ่งออกจากเครื่องเกม
“ขอโทษนะคะ...พี่เล่นเกมเก่งจังเลย~”
“มี I* หรือแอปฟ้าแอปเขียวมั้ยคะ? ขอแอดได้มั้ย~?”
คีตะดูจะไม่ได้สนใจนัก เขาเอียงคอเล็กน้อย แล้วหันไปมองภูผาที่กำลังอมยิ้มเจ้าเล่ห์
เมษาตาโต โกรธจนควันออกหู ฟองในแก้วชาไข่มุกแทบปะทุขึ้นมาเองจากความร้อนแรงในใจเธอ
“อ๊ากกกกก!! เดี๋ยวนี้สาว ๆ จีบผู้ชายกันเร็วมากแบบนี้เหรอคะ!! แถมจะแลกทั้งแอปเขียว แอปฟ้าอีก!! 😤”
เธอกัดหลอดชาไข่มุกจนแทบขาด ก่อนจะหันมากระซิบกับอคินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง
“พี่คิน! หนูขอเวลา 3 นาที...จะไม่ปล่อยให้พี่คีตะหลุดเข้าฮาเร็มของผู้หญิงพวกนั้นแน่ ๆ!!”
อคินขมวดคิ้ว
“คุณหนูจะทำอะไรอีกครับ?”
“สกัดดาวรุ่งสิคะ!!!” เธอกำหมัดแน่น
แล้วก็เริ่มปฏิบัติการทันที—เมษาปรับกระโปรงให้เรียบร้อย หยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมา แล้วทำทีเดินผ่านหน้าร้านเกมอย่างไม่ตั้งใจ
...ก่อนจะสะดุดพื้นและทำผ้าเช็ดหน้าหล่นพอดีตรงหน้าคีตะอย่างแม่นยำ
“อ๊ะ...! ขอโทษค่ะ...อ้าว...พี่คีตะ?”
เสียงใส ๆ เรียกชื่อเขาอย่างแสนดีใจ ทำเอาสาวสองคนนั้นถึงกับชะงัก
“โอ๊ย พี่คีตะ~ บังเอิญจัง~”
เธอยิ้มตาแป๋ว โบกแก้วชาไข่มุกขึ้นโชว์
“กินมั้ยคะ? หนูเลี้ยงได้นะ~”
คีตะขมวดคิ้วนิด ๆ
“เธอมาทำอะไรที่นี่?”
“ก็...มาเดินเล่นค่ะ~ เหนื่อย ๆ ก็เลยหาของหวานกิน แล้วก็ว่าจะไปหาอะไรทานพอดีค่า~” เมษาตีหน้าใสไร้พิษสง
“ว้าว น้องเมษา หิวข้าวมั้ย ไปทานข้าวกับพี่มั้ยจ๊ะ” ภูเสียงภูผาดังขึ้นทันที หนุ่มวิศวะหัวไวหันมาชวนด้วยรอยยิ้มละลายใจ
“ไอ้ภู น้อย ๆ หน่อย” คีตะเอื้อมมือยันหน้ามันออกไปให้พ้น
“อะไรล่ะ กูก็แค่ชวนน้องกินข้าวด้วยเฉย ๆ นี่หว่า” ภูผาขำ
“ค่า~ หนูไปด้วยค่า~” เมษาตอบรับทันควัน ก่อนจะส่งยิ้มให้ภูผาอย่างน่ารัก
(แต่ในใจน่ะเหรอ...กำลังมโนว่าตัวเองนั่งกินข้าวตรงข้ามกับพี่คีตะอยู่สองคน~)
ด้านภูผานั้น…ถึงกับหัวใจเต้นผิดจังหวะ
‘...น้องเมษาน่ารักชะมัด’
‘ใส ๆ แต่ก็ดูฉลาด มีเสน่ห์แบบไม่รู้ตัว...’
‘ถ้ามึงไม่เอานะคีตะ กูจะเอาแล้วนะเว้ย’
แต่แน่นอน…คนที่ไม่รู้เรื่องที่สุดก็คือ ‘ตัวต้นเหตุ’
คีตะพยักหน้า ก่อนเดินนำไปโดยไม่รู้เลยว่า... น้องที่อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันน่ะ แอบรักเขาเข้าเต็มเปาแล้ว
สาวสองคนนั้นได้แต่มองหน้ากันงง ๆ ก่อนจะถอยห่างจากวงสนทนา
“พี่คะ งั้นพวกหนูขอไปก่อนนะคะ~”
“ไว้เจอกันใหม่นะคะ…ถ้ายังไม่มีแฟนอะค่ะ” (เสียงเบาแทบไม่ได้ยิน)
เมษาโบกมือให้พวกเธอ ยิ้มหวานแบบไม่รู้สึกรู้สาใด ๆ ทั้งสิ้น
แต่ภายใต้กระโปรง...มือเล็ก ๆ ของเธอกำหมัดแน่น‘ภารกิจสกัดดาวรุ่ง...สำเร็จ!’
ขณะที่อคิน—ซึ่งยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดจากไกล ๆ —ได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหัวเบา ๆ
“คุณหนูตัวน้อยของผม... ยังซนไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ”
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ในรั้วมหา’ ลัย—ช่วงหัวค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศในบ้านก็เงียบสงบ แสงไฟสีวอร์มไลท์ส่องออกมาจากโคมไฟหัวเตียงในห้องแต่ละห้องอย่างอบอุ่นเมษาในชุดนอนเสื้อยืดลายแมวน้อยกับกางเกงขาสั้นสีชมพูพาสเทล ผมยาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยเล็ก ๆ หนึ่งข้าง เธอยืนลังเลอยู่หน้าห้องพี่คีตะ มือหนึ่งถือหนังสือฟิสิกส์ อีกมือเคาะประตูเบา ๆก็อก ๆ ๆไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาเปิดประตู แล้วใบหน้าหล่อเข้มของคีตะในชุดเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงผ้าลำลองก็มาปรากฏตรงหน้า“หืม? มีอะไรรึ?”“หนู...ขอโทษที่รบกวนค่ะ แต่คือว่า...”เมษายกหนังสือขึ้นบังหน้า ทำตาใสแป๋วมองเขา“วิชาฟิสิกส์มันยากจังเลย หนูไม่เข้าใจเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเวกเตอร์กับแรงลัพธ์ พี่คีตะช่วยสอนหนูหน่อยได้มั้ยคะ?”คีตะนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกกว้างขึ้นแล้วพูดเรียบ ๆ“เข้ามาสิ”เมษายิ้มหวาน รีบเดินตัวปลิวเข้าไปนั่งขัดสมาธิบนพรมข้างเตียง เปิดหนังสือออกพาดบนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ๆ ที่วางโน้ตบุ๊กไว้คีตะนั่งลงฝั่งตรงข้าม หยิบดินสอขึ้นมาแล้วเขียนสมการลงบนสมุดอย่างคล่องแคล่ว“เนื้อหานี้ไม่ได้ยาก ถ้าเข้าใจภาพรวม ฉันจะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ...”เมษาทำหน้าเห
แดดยามบ่ายคล้อยเริ่มอ่อนแรง—นักศึกษาทยอยเดินออกจากตึกเรียน เมษากับพริ้มเดินออกมาด้วยกัน เพราะพวกเธอตั้งใจจะไปร้านคาเฟ่ที่ชาวโซเชียลรีวิวเอาไว้ทั้งสองคนพูดคุยกันหัวเราะคิกคัก เดินเลี้ยวไปยังทางเดินข้างคณะ เพื่อมุ่งไปยังลานจอดรถของวิศวะ กลับพบว่าทางเดินถูกบล็อกด้วยสาวรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง—ชุดนักศึกษาพอดีตัว รองเท้าส้นสูง และท่าโพสกอดอกเหมือนพร้อมจะถ่ายขึ้นปกนิยายนางร้าย“จะรีบไปไหนจ๊ะ...น้องปีหนึ่ง”เสียงหวานติดเย็นดังขึ้นจากหญิงสาวผมประบ่า หน้าคมแต่งหน้าจัด ยืนอยู่กลางกลุ่มด้วยท่าทางน่าเกรงขาม“น้องชื่อเมษาใช่มั้ย? เมษา…ที่ซ้อนท้ายคีตะมาเมื่อเช้า?”พริ้มจับแขนเมษาเบา ๆ ทันที สัญชาตญาณบอกว่า ไม่ปลอดภัยแล้วแน่ ๆเมษาหันกลับมา มองรุ่นพี่ทุกคนด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ในแววตากลับเยียบเย็นอย่างน่าประหลาดริมฝีปากแดงธรรมชาติยกยิ้มนิด ๆ“ค่ะ เมษาเอง แล้วมีอะไรเหรอคะ รุ่นพี่?”“แหม...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะถามเฉย ๆ ว่าน้องมีสิทธิ์อะไรถึงได้ใกล้ชิดกับคีตะขนาดนั้น?”“สิทธิ์เหรอคะ?” เมษากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อย“หนูก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่หนูอยู่บ้านเดียวกันกับพี่คีตะน่ะค่ะ~”ผ่าม!คำตอบของเธอท
เช้าวันนี้ที่บ้านของคีตะ...เป็นวันเปิดเทอมใหม่วันแรก“คีตะ เปิดเทอมวันแรก พาน้องไปด้วยนะ”คุณอัญญาหันมาบอกลูกชายขณะวางจานไข่กระทะบนโต๊ะอาหารคีตะ—ในชุดเสื้อช็อปวิศวะพับแขน กับกางเกงยีนส์ซีดตัวเก่ง เหลือบมองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินลงมาจากบันได...สายตาเขาชะงักไปชั่วครู่เสื้อนักศึกษาพอดีตัวกระชับช่วงเอวและหน้าอก...กระโปรงพรีสสั้นเหนือเข่าเล็กน้อยพอให้เห็นเรียวขาขาวเนียน ผมหางม้าถูกรวบหลวม ๆ เผยใบหน้าใสซื่อ แต่เต็มไปด้วยพลังบางอย่างที่เขาไม่กล้าอธิบายรองเท้าผ้าใบสีขาวดูสดใสเข้ากับบุคลิกเด็กปีหนึ่งสุด ๆ“ผมไปมอไซค์นะ...เมษาจะไหวเหรอ?” เขาถามเสียงเรียบ แต่แววตานั้นแอบเหลือบมองขา พลางคิดในใจ...ยังดีที่ไม่โป๊...“สบายมากค่ะ พี่คีตะ~” เมษาตอบใบหน้ายิ้มระรื่น“หนูใส่กางเกงขาสั้นกันโป๊ไว้แล้วค่ะ!”เธอชูนิ้วเป็นรูปตัววี ประกอบรอยยิ้มสดใส มั่นใจสุด ๆคีตะกระแอมเบา ๆ แสร้งเมิน“อืม งั้นก็...ไปกัน”เมษาวิ่งตามไปยังลานจอดรถ พร้อมสายตาที่จับจ้องมอเตอร์ไซค์คันโปรดของเขา—ดูเคติ มอนสตาร์ สีดำด้าน ที่ทั้งสวย หรู ดูแพงแบบมีระดับพอเห็นเขายื่นหมวกกันน็อคให้ เธอก็กระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที (แถมแอบเขยิบให้แนบชิ
“เมษา...หนูหั่นแครอทเป็นดอกไม้อีกแล้วเหรอลูก~”เสียงหัวเราะนุ่มของคุณอัญญาดังขึ้นจากห้องครัว ตั้งแต่เช้าแสงแดดยังอุ่นอ่อน และกลิ่นขนมปังอบกับเบคอนก็ลอยตลบอบอวลทั่วบ้าน“ก็หนูอยากให้คุณลุงคุณน้าทานอาหารแล้วอารมณ์ดีค่ะ”เมษายิ้มหวาน ขณะวางแครอทรูปหัวใจลงในกระทะข้างไข่ดาว รูปหัวใจก็เช่นกันตลอดสองเดือนก่อนเปิดเทอมแทนที่จะไปเที่ยวพักผ่อนหรือช็อปปิ้งเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป เมษาใช้ชีวิตอยู่ในครัว ทำอาหารกับคุณน้าอัญญาทุกเช้า — และแน่นอนว่าเธอทำด้วยใจทั้งหมด…เพื่อผู้ชายที่ชื่อ ‘คีตะ’“พี่คีตะคะ กาแฟค่ะ”เธอถือแก้วกาแฟดำมาเสิร์ฟตรงหน้าชายหนุ่มผู้มีผมสีเข้มยุ่งเล็กน้อยจากการเพิ่งตื่นนอน คีตะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงระเบียงบ้านด้านข้าง หันมารับแก้วอย่างเกือบจะไม่ทัน“ขอบใจ”เขารับไปแค่สั้น ๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้เมษาระเบิดหัวใจตัวเองเบา ๆ‘ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบให้ใส่น้ำตาล...แต่หนูเติมความหวานไว้ในสายตาแล้วนะคะ’เธอแอบคิดในใจ ก่อนจะรีบถอยห่างไปตั้งหลักพอตกบ่ายเธอมักจะนั่งเล่นหมากรุกกับคุณลุงธนาผู้สุขุม ใจเย็น และชอบวางหมากเหมือนวางแผนธุรกิจ“แน่ใจนะว่าเดินหมากตรงนี้?”“มั่นใจค่ะลุง” เมษายิ้มตาหยี แล้ววาง
เสียงเครื่องยนต์หรูดับลงหน้าบ้านทรงโมเดิร์นสไตล์มินิมอลหลังใหญ่ในย่านใจกลางเมืองหลวง…คีตะ โชติธาดา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาคมคาย นักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ปี 3 สถาบันดัง ปลดหมวกกันน็อกออกจากศีรษะ ขยี้ผมเล็กน้อยก่อนเดินเข้าบ้านด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าเล็กน้อยตามประสาคนเรียนโหดวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเทอม...เขาจะได้พักผ่อนยาว ๆ ตลอดสองเดือนช่วงปิดเทอมเสียทีทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน กลับได้ยินเสียงหัวเราะของใครบางคน เสียงใส ๆ ที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน… แต่ฟังแล้วทำให้คิ้วเขากระตุกเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว“คีตะ~ กลับมาแล้วเหรอลูก!”คุณแม่อัญญาเอ่ยเรียก พลางเดินนำเด็กสาวในชุดเดรสสีชมพูที่ดูสดใส และ…หน้าตาคุ้น ๆ แต่อ่อนวัยกว่าเขาเล็กน้อย เดินเข้ามาใกล้“นี่น้องเมษาไงจ๊ะ… ลูกของคุณดิลกกับปาริฉัตร เพื่อนสนิทพ่อแม่น่ะ”คีตะปรายตามองเธออย่างสุภาพ — ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากนิด ๆ ตามมารยาท…แต่ดวงตาคมเข้มนั้นเฉยชาอย่างสิ้นเชิงในขณะที่เขาคิดว่า ‘น้องเมษา’ ก็เป็นแค่เด็กสาวน่ารักคนหนึ่ง—เธอ…กลับมองว่า...เขาคือเจ้าชายในฝันมาตลอด 10 ปี!‘พี่คีตะ!! ‘เมษา ยืนตัวแข็งทื่อ ใบหน้าแดงก่ำ ใจเต้นระรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก เธอพย