เมื่อหนึ่งหญิงสองชายได้อยู่ร่วมกัน ความรัญจวนพลันครอบงำบรรยากาศภายในห้อง หลี่รี่กลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
“ไท่จื่อกับอี๋ชินอ๋อง ต้องการให้หม่อมฉันถวายการรับใช้ใครก่อนเพคะ”
“ผู้ที่มีความอดทนน้อยกว่า” ซ่งหยวนซีตอบ สายตาท้าทายมองไปที่ซ่งเหยียนหมิง
เรื่องยั่วกิเลส... หลี่รี่เชี่ยวชาญยิ่งนัก
พระสนมคนงามเปลื้องเสื้อคลุมตัวบางออกจากกายแล้วลุกขึ้น ร่างอวบอัดอรชรเยื้องย่างไปยังเตียงตั่งฝั่งตรงข้าม พลางปลดอาภรณ์ทีละชิ้น จนเหลือเพียงเอี๊ยมบังทรงตัวเล็ก ปล่อยให้สะโพกผายกลมเปล่าเปลือยไร้สิ่งปกปิด
เมื่อนางหมุนตัวมาทางชายหนุ่มรูปงามทั้งสอง พวกเขาถึงกับหลุดเสียงอุทานแหบห้าวออกมาจากลำคอ...
หลี่รี่หย่อนสะโพกผายนั่งลงบนเตียงตั่ง แผ่นหลังนวลเนียนเอนอิงหมอนผ้าไหม พระสนมคนงามจัดวางท่วงท่านอนกึ่งนั่งชันเข่า ก่อนจะแยกท่อนขาเรียวสล้างกางออกจากกัน เปิดเปลือยเนินหนั่นอิตถีเพศอันอวบอูมสู่สายตาชาย
เนื้อนูนทรงสามเหลี่ยมหลังเต่ามีเส้นขนสีอ่อนบางเบาชวนให้รู้สึกคันหัวใจ ตรงหลืบลับกลางกลีบสวาท แลเห็นไข่มุกเม็ดสีชมพูเข้มโผล่แพลมออกมารำไร ยั่วยุให้บังเกิดความคิดฟุ้งซ่าน
“เจ้าเลือกได้ดี” ซ่งหยวนซีเอ่ยปากชมสหาย
“ข้ามั่นใจว่านางร้อนแรงกว่าเมรัยร้อยปีของท่าน” ดวงตาคมกริบของซ่งเหยียนหมิง จับจ้องที่ศูนย์รวมความอ่อนไหวแห่งวัยสาว ติ่งเสียวของนางเต้นกระหน่ำราวกับมีหัวใจ
หลี่รี่ลูบโลมท่อนขาขาวสล้างอย่างยั่วยวน มือข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นมากอบกุมเต้านมนุ่มหยุ่น มืออีกข้างไล้ลงมาที่โหนกเนินหฤหรรษ์ นางเขี่ยนิ้วบดวนบนจุดเกิดกำหนัดด้วยจังหวะเนิบเน้นวาบหวาม ขณะเดียวกันก็ใช้สายตาเร่าร้อน มองเชิญชวนสองชายหนุ่มรูปงาม
ภายในห้องอันใหญ่โตโอ่อ่า ได้ยินเสียงลมหายใจกระวนกระวาย ความต้องการเพศตรงข้ามที่ถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้พวกเขากระสับกระส่ายนั่งไม่ติดที่
“ไท่จื่อกับอี๋ชินอ๋อง ไม่ทรงร้อนบ้างหรือเพคะ? พอไม่มีเสื้อผ้าติดกาย หม่อมฉันรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้นมากเลยทีเดียว” พูดพลางบีบเคล้นก้อนเนื้อขาวอวบอย่างหนักมือ กระทั่งสายเอี๊ยมขาด
หลี่รี่ปัดผ้าผืนน้อยทิ้งไปไม่ใยดี จากนั้นก็ขยำขยี้หนั่นนมกลมขาวราวหมั่นโถวก้อนใหญ่แบบไม่ออมแรง นางใช้นิ้วแหวกกลีบสวาทที่เปียกแฉะคาวลื่นอ้าออก เพื่อจะบดบี้ติ่งเสียวได้อย่างถนัดถนี่ยิ่งขึ้น
ซ่งหยวนซีกับซ่งเหยียนหมิงไม่อยากเอาเปรียบสตรี ทั้งคู่ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในสีขาว รูปรอยบนเนื้อผ้า แสดงให้เห็นถึงขนาดความเป็นชายอันใหญ่ยาว ชวนขวัญผวา
แต่หลี่รี่หาได้ครั่นคร้าม ตรงกันข้าม... ความหื่นทำให้นางรู้สึกคอแห้ง อยากดื่มกินน้ำรักจากท่อนกระสันของพวกเขา อยากโดนของแข็งชำเราเอาเปรียบใจจะขาด
“สะ เสียว... เสียวร่องเหลือเกินเพคะ ซี๊ดดด” หญิงสาวแลบลิ้นเลียรอบริมฝีปากสีชาด แววตาฉ่ำสวาทมองต่ำกว่าระดับเข็มขัดชายหนุ่มทั้งสอง ความแข็งแกร่งดันเป้ากางเกงจนตุงโด่งโค้งเป็นลำยาว
หลี่รี่แอ่นเกร็งสะโพกผาย นางกดนิ้วเรียวชำแรกเข้าสู่รูเสียวอย่างแช่มช้า ยามชักนิ้วออกมา น้ำกำหนัดก็หลั่งรดฟูกผ้าไหมปูตั่งยาวเป็นด่างดวง ทุกจังหวะสอดใส่สุดสยิว ได้ยินเสียงความแฉะฉ่ำดัง แจะ แจะ แจะ ทรมานความรู้สึกคนมอง
“อาาา ซี๊ดดด... มะ หม่อมฉัน อยากโดน... อูยยย มะ ไม่ไหวแล้วเพคะ” นางครวญครางอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา
“เจ้าอยากโดนของใคร... พูด” ซ่งหยวนซีคาดคั้น
หลี่รี่ตอบแบบไม่คิด
“หม่อมฉันอยาก... ทั้งสองพระองค์”
ลีน่าตกใจจนแทบจะเป็นลม เมื่อจู่ๆ ม่านผ้าดิบถูกคนด้านนอกเปิดเข้ามาอย่างพรวดพราด ขณะที่อี๋ชินอ๋องกำลังอุ้มนางแหวกว่ายอยู่ในธารน้ำตกด้วยเรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ สายตาหวงแหนที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกกระดาก จนต้องขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรงที่โอบกอด“ท่านมาเร็วกว่าที่คิด”ซ่งเหยียนหมิงเอ่ยทักทายญาติผู้พี่อย่างไม่รู้สึกร้อนหนาว“ยังมีอีกหลายสิ่งที่ข้าทำได้เร็วกว่านี้” ซ่งหยวนซีถอดเสื้อผ้าออกจากร่างอย่างว่องไง ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ล้อนจ้อนจะเดินลงไปในธารน้ำตก และว่ายน้ำไปแย่งเอาพระสนมตัวน้อยกลับคืนมา“เหยียนหมิงรังแกเจ้าไปกี่ครั้ง” เขาถามนาง น้ำเสียงหงุดหงิด“ครั้งเดียวเพคะ” เธอไม่กล้าสบตากับชายหนุ่มซ่งหยวนซีไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน แต่ก็ไม่พูดพร่ำสิ่งใดให้เป็นการเสียเวลาอีก เขาอุ้มร่างอรชรเดินไปท
ลีน่าถูกเขาเคี่ยวกรำอย่างหนัก เธอสุดจะกลั้นเสียงร้องครวญคราง ร่างอรชรบิดเร่าแอ่นระแน้ด้วยความสยิวทรมาน สาสมใจคนเจ้าเล่ห์“อาา... ข้างในของเจ้าเหมือนสวรรค์ ช่าง... ดี... ดีเหลือเกิน” ซ่งเหยียนหมิงใช้ฝ่ามือใหญ่โอบอุ้มสะโพกผายกลมกลึงเอาไว้ เขาโก่งบั้นท้ายและยกร่างบางขึ้น ก่อนจะกดนางลงพร้อมกับกระแทกกระทั้นแก่นกายแกร่งชูชันใส่ความสาว“อ่ะ! หม่อมฉัน... มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊าา...”นางเว้าวอนอย่างน่าสงสาร น้ำเสียงครวญครางกระเส่าสะอื้น ใบหน้างามแดงเรื่อราวกับมีพิษไข้ หากไม่อาจจะหยุดยั้งเรือนกายแกร่งที่เคลื่อนไหวราวกับบ้าคลั่งซ่งเหยียนหมิงประคองสะโพกผายกลมกลึงวางเกยบนขอบบ่อน้ำแร่ร้อน แล้วดันท่อนขาเพรียวสะล้างของนางพับขึ้น ระดับความสูงพอเหมาะช่วยหนุนเนินโหนกอวบอูมลอยเด่นจนเห็นชัดถนัดใจ แววตาของชายหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์ราวกับจะล
ร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือเรือนกายเปลือยเปล่าของซ่งเหยียนหมิง และไม่ใช่เรื่องง่ายที่ลีน่าจะทำใจให้เคยชินกับความบ้าระห่ำเหนือการคาดเดาของเขา“เจ้าอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว” น้ำเสียงกระเซ้าเย้าแหย่ เขาจับข้อเท้าของนางแยกออกจากกัน แล้วพิศมองเนื้อในความสาวความร้อนทำให้ผิวบอบบางบริเวณนั้นแดงก่ำและดูยิ่งโป๊เปลือยชวนให้ขัดเขิน เมื่อตกอยู่สภาพที่ถูกมองเห็นแบบชัดเจนถึงรูขุมขนขนาดนี้แล้ว ทำให้หัวใจเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกทรวงอก“พอแล้วเพคะ อย่าจ้องหม่อมฉันแบบนั้น” ลีน่าเอาฝ่ามือปิดบังของสงวนแววตาของซ่งเหยียนหมิงเกือบลุกเป็นไฟ เขาอยากเอาตัวตนที่เหยียดขยายจนแข็งชูชันชำแรกเข้าไปในความสาวสดรัดรึงของนางแทบใจจะขาด แต่ทั้งคู่เพิ่งขึ้นมาจากบ่อน้ำแร่ร้อน หากลงไม้ลงมืออย่างบุ่มบ่ามเขาจะทำให้หลี่น่าเจ็บ“ข้าอยากดื่มน้ำหวานในตัวเจ้า” ซ่งเหยียนหมิงดึงมือเรียวเล็กออกจากเนินเนื้ออวบอูม แล้วก้ม
ซ่งหยวนซีไม่มีความคิดจะเปิดโอกาสให้ซ่งเหยียนหมิงไปพรอดรักกับหลี่น่าสองต่อสอง ท่ามกลางแมกไม้ทัศนียภาพอันงดงามเหมือนสวรรค์เช่นนั้น“ท่านมีฏีกาสำคัญที่ต้องตรวจสอบมิใช่รึ” ซ่งเหยียนหมิงมีสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์เธอรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที ดูท่าทางเรื่องนี้คงยากที่ใครสักคนจะยอมแพ้ ลีน่าซึ่งเป็นคนกลางจนปัญญาจะจัดการกับพวกเขาคนใดคนหนึ่ง“หม่อมฉันขอเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ไท่จื่อกับอี๋ชินอ๋องตกลงกันเรียบร้อยแล้วค่อยตามไปทีหลังจะดีกว่าเพคะ” พระสนมตัวน้อยกล่าวตัดสินอย่างเฉียบขาดพลันมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสองหนุ่มกับหนึ่งสาวหันมองสบตากัน คล้ายต่างคนต่างมีคำถาม ปกติจะไม่มีใครกล้าบังอาจเข้ามาขัดจังหวะที่ทั้งส
จูเยี่ยนตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อครู่ที่นางเปิดประตูห้องบรรทมของพระชายาหลี่รี่เข้าไปแล้วเห็นภาพบัดสีบนเตียง ยิ่งไปกว่านั้น... ชายชู้ที่นายหญิงนอนเปลือยกายกอดก่ายแนบชิด คือองค์ชายเยว่หัว รัชทายาทแห่งแคว้นตงเยว่ภาพที่ได้เห็นทำให้จูเยี่ยนนึกถึงเหตุการณ์เลวร้ายในอดีต ยี่สิบปีก่อน... ทหารของแคว้นตงเยว่ลักลอบข้ามเขตชายแดนของแคว้นฉงเยว่เข้ามารุกรานชาวบ้าน ครอบครัวของจูเยี่ยนถูกทหารตงเยว่สังหารอย่างโหดเหี้ยม พวกมันจับนางไปที่ค่าย รุมย่ำยีนางจนสลบและโยนทิ้งลงไปในแม่น้ำ เพราะพวกมันคิดว่านางตายแล้ว แต่โชคดีมารดาของหลี่รี่บังเอิญได้พบร่างของจูเยี่ยนที่ลอยมาติดอยู่ท่าน้ำหลังบ้านและได้ช่วยชีวิตจูเยี่ยนเอาไว้ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา จูเยี่ยนถวายการรับใช้สองแม่ลูกด้วยความซื่อสัตย์ภักดี และไม่เคยขัดคำสั่งพวกนาง แม้ว่าพวกนางจะสั่งให้จูเยี่ยนทำเรื่องที่เลวทรามต่ำช้าเพียงใด หรือจะโขกสับเยี่ยงทาส จูเยี่ยนยกย่องเทิดทูนพวกนางสองแม่ลูกประหน
“ข้าก็อยาก...เจ้า แทบจะทนไม่ไหวแล้ว”เยว่หัวขยับนอนท่าถนัด เรือนกายหนาหอบหายใจด้วยอารมณ์พิศวาสรุนแรง สายตาเร่าร้อนจ้องมองสัดส่วนวัยสาวด้วยความหื่นกระหาย เขายกร่างเปลือยเปล่าควบคร่อมเหนือหน้าตัก ดุนดันปลายองคชาติเสียบคาไว้ที่กลีบสวาทของนาง แล้วกดสะโพกผายกระแทกลงมาแรงๆ “อ๊าาา!!!” หลี่รี่ร้องครางเสียงแหลม เมื่อท่อนเนื้อเขื่องแข็งเสียบแทงเข้ามาความสาวจนจุกเสียด ปลายทวนของเยว่หัวหยั่งเข้าไปถึงส่วนลึกของนาง ความใหญ่ยาวของเขาทำให้นางอึดอัดจนต้องอ้าปากระบายลมหายใจ“หลี่รี่ ...เจ้ายอดเยี่ยมที่สุด อาาา...”เยว่หัวสูดปากครางด้วยความสยิว ชายหนุ่มเกร็งบั้นท้ายหมุนคว้านภายในความสาว เข้าไปสัมผัสจุดกระสันที่ซ่อนเร้น แล้วจ้วงแทงเข้าออกในตัวนางอย่างบ้าคลั่ง“องค์ชาย! องค์ชาย!” โฉมสะคราญร่ำร้องขอความเมตตา