แต่เหล่าแฟนคลับคู่จิ้นก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขายังยกสารพัดเหตุผลมาอ้าง เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมันคือเรื่องจริง ขนาดเรียกเรือของตัวเองว่า “เรือรบ” กันเลยทีเดียว
อย่างเช่น เขาไม่เคยรับเล่นฉากจูบ ไม่เคยสร้างคู่จิ้นกับใคร ตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิง แถมยังรักษาระยะห่างกับผู้หญิงได้ดีมากอีกต่างหาก ที่สนิทจริงๆ ก็แค่กับ “ห่าวอี้” เท่านั้น แล้วยังคอยปกป้องอีกฝ่ายแบบไม่มีเงื่อนไขอีกนะ ก็ไม่แปลกที่หยางอิงจะเชื่อสนิทใจว่าสองคนนั้นรักกันจริง
ระหว่างที่หยางอิงกำลังคุยกับเด็กสาวลูกค้าประจำ คุณลุงหวังก็คุยอยู่กับคุณลุงซ่ง ถังเหยาเดินถือชาน้ำอุ่นกับข้าวออกมาให้กู้จื่ออวี่
“วันนี้เป็นเมนูที่ฉันกับหยางอิงชอบ ลองดูนะคะว่ารสชาติเป็นไงบ้าง”
ปกติกู้จื่ออวี่จะตรงต่อเวลามาก โดยเฉพาะเรื่องกินไม่มีพลาด แต่วันนี้มากช้ากว่าปกติเล็กน้อย “ขอบคุณครับ วันนี้ถ่ายช้ากว่าปกตินิดหน่อย”
แต่เหล่าแฟนคลับคู่จิ้นก็ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขายังยกสารพัดเหตุผลมาอ้าง เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวเองเชื่อมันคือเรื่องจริง ขนาดเรียกเรือของตัวเองว่า “เรือรบ” กันเลยทีเดียวอย่างเช่น เขาไม่เคยรับเล่นฉากจูบ ไม่เคยสร้างคู่จิ้นกับใคร ตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยมีข่าวกับผู้หญิง แถมยังรักษาระยะห่างกับผู้หญิงได้ดีมากอีกต่างหาก ที่สนิทจริงๆ ก็แค่กับ “ห่าวอี้” เท่านั้น แล้วยังคอยปกป้องอีกฝ่ายแบบไม่มีเงื่อนไขอีกนะ ก็ไม่แปลกที่หยางอิงจะเชื่อสนิทใจว่าสองคนนั้นรักกันจริงระหว่างที่หยางอิงกำลังคุยกับเด็กสาวลูกค้าประจำ คุณลุงหวังก็คุยอยู่กับคุณลุงซ่ง ถังเหยาเดินถือชาน้ำอุ่นกับข้าวออกมาให้กู้จื่ออวี่“วันนี้เป็นเมนูที่ฉันกับหยางอิงชอบ ลองดูนะคะว่ารสชาติเป็นไงบ้าง”ปกติกู้จื่ออวี่จะตรงต่อเวลามาก โดยเฉพาะเรื่องกินไม่มีพลาด แต่วันนี้มากช้ากว่าปกติเล็กน้อย“ขอบคุณครับ วันนี้ถ่ายช้ากว่าปกตินิดหน่อย”
[แมวเหมียว น้องสาวตัวน้อย รู้ตัวไหมว่างานของเธอคืออะไร อย่าทิ้งคนดูไว้กลางทางแบบนี้สิ อย่างน้อยก็บอกหน่อยว่ารสชาติเป็นยังไง จะพูดแค่สลัดผักแล้วหายไปแบบนี้ไม่ได้นะ!][นี่แม่แมว! เชื่อไหมว่าฉันอยากคว้าค้อนฟาดเธอสักที หยุดเงียบเดี๋ยวนี้เลยนะ รู้ไหมว่าทำแบบนี้มัน...มันฆ่าคนแบบไม่ใช้มีดชัดๆ!][ให้ตายสิ ครั้งแรกในชีวิตที่เห็นแมวน้อยเงียบไม่พูดอะไรเลย ดูหน้าฟินๆ กับแก้มที่พองๆ ของเธอสิ ต้องอร่อยมากแน่เลย ฮือออ อยู่ดีๆ ก็หิวขึ้นมาเฉยเลย...][ดูสีหมูพะโล้ดิ โอ้ยยย ซี่โครงวัวก็ชวนน้ำลายไหลเกินไปแล้ว ขอโทษนะคะ แต่ฉันเผลอกลืนน้ำลายไปตอนไหนไม่รู้เลย][ฉันรู้สึกทั้งโมโหทั้งหิวจนอยากจะร้องไห้ แม่บอกว่าฉันดูน่ากลัวมากตอนนั่งกลืนน้ำลายใส่หน้าจอ ฮือออ มันน่ากินเกินไปแล้ว!]แฟนคลับถึงกับพูดไม่ออก บางคนก็หัวเราะ บางคนก็หิวจนตาลาย เพราะหลังจากที่หยู่เยียนก้มหน้าก้มตากินไม่พูดไม่จา ไม่นานสองสาวกินกันเกล
วันนี้มากับเพื่อนสนิทชื่อ “หยู่เยียน” ให้ช่วยถือกล้องให้ เธอจัดทรงผมนิดหน่อยก่อนจะเริ่มไลฟ์“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่Meo Blog ทายสิว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเอ่ย”หยู่เยียนรู้หน้าที่ดี รีบหมุนกล้องตามนิ้วของเธอที่ชี้ไปบริเวณรอบๆ“ถูกต้องค่า! ตอนนี้เราอยู่ที่เหิงเตี้ยน แฟนๆ เคยแนะนำมาว่าที่นี่มีร้านข้าวชื่อ ‘ตระกูลถัง’ อร่อยมาก วันนี้เลยตั้งใจจะมาลองให้ได้ และมาแชร์กับทุกคนด้วยนะคะ! ได้ข่าวว่าต้องต่อคิว ก็เลยรีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ อ้าว มีคนมารอก่อนเราแล้ว!”ซินหยางเดินมาเจอคนยืนรอคิวอยู่แล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงห้าโมงเย็น ทำเอาเธอพูดเสียงเบาลงทันที เพราะรอบตัวก็เริ่มมีคนเยอะขึ้น“ไม่น่าเชื่อเลยทุกคน ยังไม่ห้าโมงแท้ๆ แต่มีคนมารอกินข้าวกันแล้วอะ”ระหว่างรอ คนในคิวก็พูดคุยกันเพลิน ส่วนใหญ่ก็พูดถึงร้านตระกูลถังนั่นแหละ“ผมค
ด้านหน้าร้าน ถังเหยาได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเดินออกมาดู แล้วต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเกาเหวินยืนอยู่ตรงนั้นเจ็ดโมงครึ่งเช้าเองนะ...มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้ คิดจะมากินอาหารเช้าหรือยังไงกัน? ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเลยด้วยซ้ำ“สวัสดีครับคุณถัง ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านเปิดขายอาหารเช้าตอนกี่โมงครับ?”“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ร้านเราไม่ได้ขายอาหารเช้าค่ะ”เกาเหวินได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็พลันดูผิดหวังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถังเหยารู้สึกแปลกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องของกู้จื่ออวี้ให้เธอฟัง พร้อมหยิบใบวินิจฉัยสุขภาพเมื่อวานให้ดู เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมคนนั้น จะป่วยหนักขนาดนี้“จริงๆ ผมก็พยายามไปซื้อจากร้านอื่นให้แล้วนะครับ แต่เขากินไม่ได้เลย...ใครจะคิดว่าเมื่อวานเขาจะกินได้เยอะขนาดนั้น แถมตอนกลางคืนก็ยังหลับได้ดี ไม่กระสับกระส่ายเหมือนทุกที ผมเลยกะว่าจะมาซื้อให้ครบสามมื้อเลย แต่ไม่รู้ว่าร้านคุณไม่ได้ขายอาหารเช้า”
โต๊ะข้างๆ เป็นกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่เพิ่งกินเสร็จ ต่างก็มองมาทางเขาแล้วกระซิบกระซาบกันเบาๆ“คนนั้นใช่กู้จื่ออวี่รึเปล่านะ ฉันดูจากข้างหลังก็ว่าใช่เลย”“มองด้านข้างก็เหมือนอยู่นะ คนที่นั่งข้างๆ ใช่ผู้จัดการเการึเปล่า?”“น่าจะใช่แน่เลย ทำยังไงดี อยากขอลายเซ็นจังเลย”เกาเหวินหยิบหมวกส่งให้กู้จื่ออวี่สวม จากนั้นหันไปมองข้างนอกที่เริ่มมีคนมาต่อคิว ถ้าลุกขึ้นตอนนี้มีหวังสร้างความวุ่นวายให้ร้านแน่ เขาเลยกระซิบกับผู้ใหญ่เบาๆ ผู้กำกับเฉินจึงลุกขึ้นพาสองคนเดินไปทางครัว “เสี่ยวเหยา หนูว่างไหม ลุงมีเรื่องอยากขอหน่อย”ถังเหยาเพิ่งทำข้าวผัดให้ลูกค้าเสร็จ ยังไม่มีออเดอร์ใหม่จึงว่างอยู่พอดี หันมาอีกทีก็เห็นผู้กำกับเฉินยืนอยู่พร้อมกับชายสองคนด้านหลัง คนหนึ่งใส่แว่น มองเธอแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทีสุภาพ อีกคนสวมหมวกกับหน้ากาก พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็แค่กะพริบตาแล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงทักทายผู้กำกับเฉินมาขอเธอว่าอยากให้สองคนนี้ ไปรอนั่งที่ลานหลังบ้านสักพัก เพราะเหมือนจะมีแฟนคลับจำได้ ถ้าเดินออกไปตอนนี้เกรงว่าจะรบกวนลูกค้าคนอื่น ถังเหยามองไปข้างหลังครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ตกลง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้วผู
เกาเหวินรู้สึกว่าบรรยากาศของร้านนี้พิเศษจริงๆ ตอนแรกเขายังกลัวว่ากู้จื่ออวี่จะถูกคนจับตามอง แต่ผิดคาด ทุกคนในร้านต่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่มีใครว่างคุยกันด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่มองซ้ายมองขวา เพราะข้างนอกยังมีคนรออยู่ พอกินเสร็จก็ลุกแล้วรีบไปเลยยิ่งไปกว่านั้น แต่ละโต๊ะยังจัดแบบมีระยะห่าง ไม่อึดอัดเหมือนร้านทั่วไป โต๊ะของพวกเขาอยู่ใต้ต้นเหมยตรงมุมลาน มีโคมกระดาษแขวนบนกิ่งไม้ดูสวยงาม จากมุมนี้มองเข้าไปด้านในคล้ายโรงเตี๊ยมย้อนยุคยังไงยังงั้นหยางอิงกับลุงหวังยกอาหารมาเสิร์ฟ พอเห็นเป็นโต๊ะของคนรู้จัก ก็ไม่ลืมกำชับด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย “ลุงซ่งคะ ถังเหยาฝากมาบอกลุงทั้งสองว่าดื่มได้แค่ไหเดียวนะคะ ต้องดูแลสุขภาพไว้กินของอร่อยไปอีกนานๆ”“ได้สิ ได้แน่นอน ลุงสองคนแชร์กันแค่ไหเดียวพอ บอกเสี่ยวเหยาว่าไม่ต้องห่วงนะ”เกาเหวินถึงกับเหวอเมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยิ้มสดใสเ หมือนพระอาทิตย์เดินมาอยู่ตรงหน้า เผลอมองตามจนเธอเดินลับตาไป พอได้กลิ่นหอมลอยมาเขาถึงดึงสายตากลับได้โต๊ะของพวกเขาสั่งกับข้าวมาอย่างละจาน โดยเฉพาะหมูตุ๋นตงพอสั่งไซส์ใหญ่สุด วันนี้เลือกกินแค่ข้าวผัดหยางโจวกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อให้เข้ากับหมูตุ๋น เ