LOGINพอนั่งลงแล้วก็ไม่สามารถรับออเดอร์ได้อีก กลิ่นหอมของข้าวผัดลอยมาแล้ว ทั้งกลิ่นเนื้อ กลิ่นปลา หอมขนาดนี้ ใครจะไปมีแรงกดรับออเดอร์กันล่ะ
คุณลูกค้าทั้งหลาย ขออภัยด้วยนะครับ ตอนนี้พวกเราขอ “สัญญาณหลุด” ชั่วคราว
กลุ่มหนุ่มๆ พนักงานส่งของได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าว พร้อมกับแอบขอโทษลูกค้าในใจ กินไปได้ครึ่งจานถึงค่อยเริ่มกดรับออเดอร์อีกที พอดีกับที่เชฟทำอาหารเสร็จ แต่ละคนพากันหยิบอาหารแล้วออกไปส่ง
หน้าร้านตอนนี้มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ หนึ่งในนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายไปทางป้ายหน้าร้าน แล้วถามคนในสาย
“ลั่วลั่ว ร้านนี้ใช่ไหม?”
เสียงปลายสายตอบกลับมา “ใช่เลยเฟยอี้ อย่าลืมนะ ต้องพา ‘ท็อปไอดอล’ กลับมาให้ฉันด้วยล่ะ!”
“โอเค เดี๋ยวจะพาท็อปไอดอลกลับไปให้เธอเอง”
เฟยอี้วางสายแล้วหันไปบอกเพื่อนๆ ว่าใช่ร้านนี้แน่นอน จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน เพื่อนของเธอเคยมาทานข้าวเย็นที่ร้านนี้ กลับไปถึงบ้านก็เล่าใหญ่เลยว่าร้านนี้ดีแค่ไหน รสชาติสีสันอาหารเป็นยังไง บอกว่านี่คืออาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา
เพราะแบบนั้น เฟยอี้ถึงกับต้องลุกไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากินตอนดึกเพราะหิว แต่พอเห็นรูปอาหารแล้วก็ยังอยากกินอยู่ดี วันนี้เลยรีบใช้เวลาพักเที่ยงแวะมาให้ได้ แต่น่าเสียดายที่ทีมของลั่วลั่วต้องถ่ายทำถึงเย็น เธออยู่ฝ่ายแต่งหน้าเลยออกมาก่อนไม่ได้ ต้องรอให้ถ่ายเสร็จถึงจะว่าง
กลุ่มเฟยอี้พอเดินเข้ามาเห็นบรรยากาศในสวนใต้ร่มไม้ โต๊ะเก้าอี้ไม้ กับบ้านทรงเก่าแบบเรียบง่ายก็รู้สึกชอบมาก แต่น่าเสียดายโต๊ะด้านนอกเต็มหมดแล้ว เลยต้องย้ายเข้าไปนั่งในห้องข้างใน ซึ่งก็จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน
เพื่อนที่มาด้วยกันเปิดบานประตูไม้หลายบานออก แล้วใช้ไม้ยันประตูไว้ ก่อนจะหันไปมองบรรยากาศในลาน หน้าร้านที่เต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงกินข้าว
โต๊ะที่อยู่ใกล้เธอ ทุกคนกำลังกินไปยิ้มไป สีหน้าดูมีความสุขกันถ้วนหน้า นั่งอยู่ในห้องแล้วมองออกไปเห็นวิวลานด้านนอก ก็ให้ความรู้สึกเพลินตาเพลินใจไปอีกแบบ
“ร้านนี้แปลกดีเนอะ บรรยากาศเงียบจนน่าแปลก มีแต่เสียงตะเกียบกับช้อนกระทบชาม ลูกค้าก็เงียบๆ เหมือนกัน ทุกคนดูตั้งใจแค่กินอย่างเดียว ไม่ค่อยคุยกันเลย”
“แต่รู้สึกไหม? แค่ก้าวเท้าเข้ามาในร้านก็รู้สึกใจเบาขึ้นเฉยเลย เหมือนเวลาที่นี่เดินช้าลง ลมยังพัดเบาๆ จนรู้สึกแปลกใจเลยล่ะ”
ถังเหยากำลังผัดข้าวอยู่ก็เห็นว่าออเดอร์ในแอปเด้งรัวๆ หันไปดูซี่โครงวัวตุ๋นซอสเหลืออยู่นิดเดียว เลยบอกให้ หยางอิงปิดเมนูในแอปไปก่อน แล้วก็เตือนว่าไก่เสฉวนเหลือแค่สิบกว่าส่วน รีบปิดไว้เลยก่อนที่จะหมด
วันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ทำให้ของที่เตรียมไว้เริ่มไม่พอแล้ว ดูท่าไม่ทันถึงเวลาพักเที่ยงก็น่าจะขายหมดแล้วแน่ๆ
ถิงถิงเพิ่งไปช่วยเพื่อนในกองถ่ายทำธุระเล็กน้อย กลับมากะจะหยิบโทรศัพท์มาสั่งอาหารสักหน่อย แต่ดันเจอเรื่องประหลาด ในเมนูของร้านตระกูลถัง ขึ้นสถานะ เต็ม เกือบหมดแล้ว ไม่มีอะไรให้สั่งเลย
ฮะ? ซี่โครงวัวตุ๋นซอสหมดไปแล้ว ไก่ก็เหลือแค่ 2 ที่ โชคดีที่มือไวพอ กดใส่ตะกร้าได้ทันเวลา ต้องสั่งเต้าหู้สูตรพิเศษเพิ่มอีกสามที่ ซุปก็เหลือแค่ 3 ถ้วย รีบสั่งให้หมดไปเลย พอกดจ่ายเงินเสร็จแล้วลองออกจากหน้าแอปแล้วเข้าใหม่ ร้านก็ขึ้นว่า “อาหารหมด ไม่รับออเดอร์” แล้ว
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!
ถิงถิงยังงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นผู้กำกับเฉินเดินตรงมาจากฝั่งตรงข้าม ปรากฏว่าผู้กำกับอยากให้เธอช่วยสั่ง ซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดง ให้สองที่ ของเขากับผู้กำกับซ่ง เพราะวันนี้ทั้งคู่ต้องถ่ายทำจนไม่ได้ออกไปไหน
แต่ไก่เผ็ดเสฉวนยังเหลือแค่สองที่ ส่วนซี่โครงวัวตุ๋นนั้นหายไปจากเมนูนานแล้ว ถิงถิงเลยได้แต่บอกความจริงให้ผู้กำกับฟัง
พอผู้กำกับเฉินได้ยินว่าของหมดก็เสียดายสุดๆ วันนี้กองถ่ายไม่มีเวลาพักนาน เลยต้องสั่งมากินที่กอง เขายังจำรสชาติของซี่โครงตุ๋นได้ไม่ลืม ตั้งใจจะกินต่ออีกมื้อตอนเที่ยงแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าเพิ่งจะบ่ายโมงก็หมดแล้ว สุดท้ายก็ต้องกินรวมกับทีม แล้วค่อยแวะร้านตระกูลถังใหม่ตอนเย็น
ถังเหยายุ่งจนถึงเกือบบ่ายสองกว่าจะได้พัก ลูกค้าหมดแล้วถึงค่อยได้ปิดร้านขึ้นป้าย “อาหารหมด” ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะยังไม่ได้หยุดพักเลย จริงๆ แล้วเธอเขียนไว้ตั้งแต่ต้นว่ารับลูกค้ารอบเที่ยงถึงบ่ายโมง กับรอบเย็นตั้งแต่สองทุ่ม แต่คนที่มายืนต่อแถวด้านหลังมักไม่เห็นป้าย พอถึงคิวพวกเขา…เธอก็ใจอ่อนไม่กล้าปฏิเสธให้กลับ
“เที่ยงนี้คนเยอะจริงๆ แฮะ แบบนี้คงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ เราทำอาหารทันก็จริง แต่งานเก็บล้างใช้เวลามาก กลัวลูกค้าจะต้องรอนาน”
ถังเหยาก็เริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกัน หลังจบช่วงเที่ยงไม่คิดเลยว่าลูกค้าจะมากันแน่นขนาดนี้ เรียกว่าเต็มตั้งแต่ในห้องจนถึงหน้าระเบียง ส่วนลานหน้าร้านไม่ต้องพูดถึง โต๊ะนั่งหมดทุกตัวตลอดเวลา ปล่อยให้หยางอิงวิ่งไปวิ่งมาแค่คนเดียวก็ดูจะไม่ไหวจริงๆ
กำลังคิดว่าจะหาคนมาช่วยเพิ่มอยู่พอดี ก็ได้ยินเสียงลุงหวังที่กำลังนั่งจิบชาพูด “ถ้าหนูถังเหยาไม่รังเกียจ ลุงอยากลองช่วยทำงานนี้ดู ถ้าหนูโอเคลุงก็จะทำ แต่ถ้าไม่เหมาะก็ถือว่าลุงไม่ได้พูดก็ได้นะ”
“ลุงหวังพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าลุงช่วยหนูดีใจมากเลยค่ะ ลุงพูดออกมาแล้ว ทีนี้ก็อย่าเรียกหนูว่าคุณถังเหยาอีกเลย เรียกเสี่ยวเหยาก็พอแล้วค่ะ”
ถังเหยาไม่ได้แกล้งยิ้มหรือทำเป็นดีใจ แต่เธอดีใจจริงๆ ที่ลุงหวังเสนอตัวมาช่วย เพราะเมื่อคนเราเริ่มอยากทำอะไรบางอย่าง แปลว่าใจเปิดรับสิ่งใหม่ และเดินไปในทางที่ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของลุงหวังก็ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง งานในร้านเองก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เธอจึงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวที่จะตอบตกลง
ลุงหวังมองสองสาววัยรุ่นเดินออกไปอย่างร่าเริง ความคิดที่อยากช่วยก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ
เมื่อกลางวันขณะที่ลุงนั่งอยู่ลานหลังบ้าน มองผ่านหน้าต่างเห็น ถังเหยายุ่งจนแทบไม่ได้หยุดมือ แต่ก็ยังยิ้มและพูดคุยกับหยางอิงอย่างมีชีวิตชีวา ยังมีเวลาหันมาถามลุงอีกว่า “หิวไหม อยากกินอะไรก่อนไหมคะ?”
มองผ่านแผ่นไม้กันสายตา เห็นลูกค้าต่างนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย หรือเห็นสีหน้าตื่นเต้นของแขกที่เพิ่งก้าวเข้ามาในร้าน ลุงก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าชีวิตนี้ยังมีอะไรดีๆ รออยู่อีกมาก หรือจะพูดให้ชัดกว่านั้นก็คือ ลุงหวังยังอยากอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ต่อไปอีก
แม้ตอนเย็นวันนี้ถังเหยาจะตั้งใจทำอาหารเพิ่ม แต่ลูกค้าก็ยังหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด สุดท้ายเธอก็ต้องปิดแอปสั่งอาหารเร็วกว่าที่วางแผนไว้ เฉินผิงกับกลุ่มไรเดอร์ยังรู้สึกโชคดีอยู่เลยที่มากินช่วงเที่ยง ไม่อย่างนั้นคงได้แค่ยืนดมกลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากครัวหน้าร้านแน่นอน
และเมื่อเปิดร้านไปได้สักพัก ก็แน่นตั้งแต่สนามหน้าร้านยันทางเดิน ระเบียงด้านนอกก็เต็มหมด ห้องด้านในยังพอมีโต๊ะว่างอยู่แค่สองโต๊ะเท่านั้น แค่วันเดียว ร้าน “ตระกูลถัง” กลายเป็นคนละเรื่องไปเลย เหมือนลูกค้าทุกคนได้ยินข่าวแล้วรีบแห่กันมาอย่างไงอย่างนั้น
ของอร่อยกลายเป็นกระแสชั่วข้ามวัน
อีดิทไปหิวไปมีอยู่จริง!!!!
ถังเหยาอยากจะฟาดเขาสักที แต่พออีกฝ่ายยิ้มพูดอย่างเป็นมิตรแบบนั้น เธอก็ชะงักนิดหน่อยไม่อยากลงมือ“ลองค่อยๆ ทำความรู้จักผมดูก็ได้ การมีเพื่อนเพิ่มสักคนก็ดีไม่ใช่เหรอ อีกอย่างผมจริงใจมากนะ บอกตรงๆ ตอนเจอคุณที่สนามแข่ง ผมประทับใจมาก นี่เป็นครั้งแรกที่ผมแข่งแพ้คนอื่นแล้วดันเป็นผู้หญิงด้วย เลยอยากรู้จักคุณจริงๆ ครับ”ถังเหยาไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด รู้สึกได้ว่ามีสายตาหลายคู่กำลังมองมา จึงบอกว่าจะลองคิดดูก่อน แล้วเดินกลับที่เดิมลี่หลินวางแผนจะใส่เหล้าในแก้วของถังเหยา แล้วล่อลวงให้เธอไปกับตัวเอง ก่อนจะส่งต่อให้สปอนเซอร์รายใหญ่บนเตียง แต่พอเห็นว่าข้างๆ ถังเหยามีเชิ่งอี้อยู่ แถมอีกฝ่ายยังเหลือบตามองมาด้วยแววตาเตือน ก็คิดว่าแผนคงพังแน่ๆ คนที่เชิ่งอี้ให้ความสนใจ ต่อให้ใครมีแผนอะไรก็ต้องพับใส่กระเป๋าไว้ก่อน แม้ว่าลี่หลินไม่คาดคิดว่าเชิ่งอี้จะมาสนใจถังเหยา เพราะสวี่อ้ายปิงไม่ได้บอกเรื่องนี้หรือว่าสวี่อ้ายปิงจะตั้งใจใช้เธอทำเรื่องสกปรก แล้วถ
เผิงเหนียน, ห่าวอี้, ต้าอวิ๋นที่เพิ่งรู้เรื่อง ต่างก็มองไปที่ถังเหยาแล้วเลื่อนสายตาไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเธอกู้จื่ออวี่ขมวดคิ้ว คิดว่าอาจมีเรื่องเส้นสายซ่อนอยู่“ทำไมฉันต้องไปพบพวกเขาด้วยล่ะค่ะ”ถังเหยาไม่ได้อยู่ในวงการ และเธอมีความคิดเรียบง่าย ถ้าหากต้องการจะทำความรู้จักกันจริงๆ ก็ควรจะเป็นฝ่ายเข้ามาหาเอง จะให้เธอวิ่งไปหาทำไมผู้กำกับซูจงกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นกู้จื่ออวี่ชำเลืองมองมา สายตาที่เย็นชาและแฝงความไม่พอใจของเขา ก็ทำให้คำพูดของผู้กำกับต้องติดอยู่ในลำคออย่างไรเสียเขาก็เป็นแค่ผู้กำกับตัวเล็กๆ ไม่มีอำนาจพอที่จะขัดคำใครได้ จึงทำได้เพียงยิ้มขอโทษแล้วเดินจากไปกู้จื่ออวี่หยิบจานสเต๊กเนื้อของถังเหยามาหั่นให้เสร็จเรียบร้อย ก็เปลี่ยนจานกลับคืนให้เธอ จากนั้นยังกระซิบถามอะไรบางอย่าง ก่อนจะตักซุปวางไว้ข้างๆ ท่าทีที่ไม่ปิดบังนี้ ตกอยู่ในสายตาของทุกคนที่อยู่ในงาน
เมื่อสักครู่ทางรายการนำชุดเดรสรัดรูป, เกาะอก, สายเดี่ยว, ผ่าข้าง และดีไซน์แปลกๆ มาให้เลือกเต็มไปหมด แต่ดูสิกู้จื่ออวี่เลือกชุดเดรสที่แม้แต่มือก็ยังไม่โผล่! ปิดมิดชิดแม้กระทั่งไปทำเนียบรัฐบาล ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวให้เป็นทางการขนาดนี้ถังเหยา ฟังคำแนะนำของเผิงเหนียน แล้วเลือกชุดเดรสผ้าไหมสีขาว เสื้อผ้าไหมลายทางสีขาวแขนยาวหลวมๆ คอเสื้อแบบปาดไหล่รัดรูป ใต้เอวมีเข็มขัดรัดเล็กน้อย กระโปรงบานเป็นชั้นๆ ด้านในเป็นสีขาว ด้านนอกสุดเป็นสีเหลืองอ่อนเผิงเหนียนไม่อยากตัดสินรสนิยมของกู้จื่ออวี่ แต่เสื้อผ้าก็สะท้อนถึงความเย็นชาและเรียบง่ายของเขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่ยังมีชุดเดรสรัดเอวที่ช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ ส่วนชุดอื่นๆ เธอก็ไม่กล้าแม้แต่จะมองทันทีที่ถังเหยาเดินออกมา เผิงเหนียนที่หงอยเหงาเป็นลูกหมาเมื่อครู่ ก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาของเธอเป็นประกาย วิ่งวนรอบๆ มองอย่างชื่นชม ปากอ้าค้างจนหุบไม่ลง แม้แต่เกาเหวิน ที่อยู่ข้างๆ ก็ยังอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอ"พี่เสี่ยวเหยา ชุดน
ภาพของถังเหยาขับรถด้วยสองสไตล์ที่แตกต่างกัน ถูกแฟนๆ นำมารวมเป็นวิดีโอเดียวกันพร้อมชื่อเรื่องตลกๆ ว่า:"เมื่อฉันและพ่อขับรถคันเดียวกัน" ด้านล่างส่วนใหญ่เป็นความคิดเห็นที่สนุกสนาน มีแฟนคลับบางคนยังเลือกชื่อที่ตลกขบขันยิ่งทำให้การสนทนากว้างขวางขึ้นไม่เพียงเท่านั้น วิดีโอของถังเหยาที่เข้าโค้ง3 ครั้งด้วย 3 สไตล์ที่แตกต่างกัน กำลังขึ้นอันดับ1 ของโต่วอิน กระแสบนฮอตเสิร์ชแฮชแท็ก แซงหน้าคู่ท็อปอย่างกู้จื่ออวี่และห่าวอี้ขึ้นอันดับ 1 อุณหภูมิการสนทนาพุ่งสูงจนติดชาร์ตสีม่วงทั่วทั้งกระดานนานเกือบครึ่งวันคุณหนูใหญ่ถังคือภรรยาของฉัน: เมียจ๋า เธอสุดยอดมาก! ท่าทางที่สบายๆ ปล่อยใจ หมุนพวงมาลัยช้าๆ นั่นก็เย้ายวนพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าท่าทางที่สงบนิ่งตอนเหยียบคันเร่ง เบรก และหักพวงมาลัยแบบนั้นเท่สุดๆ มือคู่นั้นของเทพเจ้าชัดๆสามีของฉันแซ่ถัง: ตั้งแต่เจอสามี สายตาที่มองผู้ชายของฉันก็ลดลงอีกแล้ว! คนที่ทำอาหารอร่อย ยิงปืนแม่น ยิ
เสียงปืนดังขึ้น ลี่หลินยังเหยียบคันเร่งอยู่ รถคันอื่นก็พุ่งผ่านไปราวกับสายฟ้าแลบ เธอมองผ่านกระจกเพื่อดูว่าถังเหยา ยังคลานอยู่ข้างหลังเธอหรือไม่ แต่แปลกที่ไม่มีรถคันไหนเลย เธอเป็นคนที่รั้งท้าย!เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้ยังล้อเล่นว่าถังเหยาห่างจากเธอเป็นพันโยชน์เลย ทำไมตอนนี้ถึงมองไม่เห็นแล้วล่ะ? ลี่หลินไม่รู้ แต่ผู้ชมคือคนที่รู้ดีที่สุด ตามมาด้วยรถแข่งคันอื่นๆ ที่อยู่ข้างๆทันทีที่เสียงแตรดังขึ้น ถังเหยาก็เหยียบคันเร่งพุ่งออกไปอย่างเด็ดขาด ความเร็วของเธอเกือบจะเร็วที่สุดเมื่อออกจากเส้นสตาร์ท คนอื่นๆ ตอนแรกยังไม่ได้ระวังตัว ไม่คิดเลยว่าจะถูกเธอแซงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รถF1 ที่ใช้สำหรับการแข่งในสนามตอนนี้ กำลังต้องตามดมควันของซูเปอร์คาร์ทุกสายตามองหญิงสาวที่นำหน้า หัวใจของทุกคนต่างเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น ความร้อนแรงบนสนามแข่งแผ่ขยายไปถึงอัฒจันทร์ ทุกคนมองหน้าจอพร้อมตะโกนก้อง"ว้าว... ดูสาวน้อยที่ขับLotus Evija สีเทาเงินนั่นสิ! เร็วสุดๆ ไปเ
เผิงเหนียนเพิ่งจะนั่งบนซูเปอร์คาร์ก็ไม่กล้าขยับตัวแล้ว ตอนนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรจริงหรือปลอม พอได้ยินดังนั้นเธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้"พี่เสี่ยวเหยา...ฉันกลัวความสูงกับความเร็วค่ะ"ถังเหยายิ้มลูบผมของเด็กน้อย จากนั้นก็สวมหมวกกันน็อคให้เธอ "แกล้งเล่นน่ะ"ผู้ชมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกจุกอกกับฉากที่หวานซึ้งนี้[ผมแค่อยากจะบอกว่าพี่ใหญ่ถังตอนนี้อ่อนโยนมาก ละเอียดอ่อนมาก และแมนมาก ไม่มีคำว่าแต่][โอ้พระเจ้า! เห็นถังเหยาลูบผมเผิงเหนียนแล้วใจผมแทบละลาย เธอหัวเราะด้วย! เพิ่งเคยเห็นพี่ใหญ่ถังหัวเราะ! ความงามระดับเทพธิดา! เหมือนพระจันทร์ที่หลับใหลกำลังตื่นขึ้นมาเลย!][เวรเอ๊ย! ฉันโดนบิดเบี้ยวไปแล้ว! ดีมากถังเหยาเธอต้องรับผิดชอบฉันนะ!!!][ข้างบนโปรดเคารพตัวเอง นั่นเมียผมนะ][ทุกท่านโปรดเคารพตัวเอง...]







