LOGINพอนั่งลงแล้วก็ไม่สามารถรับออเดอร์ได้อีก กลิ่นหอมของข้าวผัดลอยมาแล้ว ทั้งกลิ่นเนื้อ กลิ่นปลา หอมขนาดนี้ ใครจะไปมีแรงกดรับออเดอร์กันล่ะ
คุณลูกค้าทั้งหลาย ขออภัยด้วยนะครับ ตอนนี้พวกเราขอ “สัญญาณหลุด” ชั่วคราว
กลุ่มหนุ่มๆ พนักงานส่งของได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าว พร้อมกับแอบขอโทษลูกค้าในใจ กินไปได้ครึ่งจานถึงค่อยเริ่มกดรับออเดอร์อีกที พอดีกับที่เชฟทำอาหารเสร็จ แต่ละคนพากันหยิบอาหารแล้วออกไปส่ง
หน้าร้านตอนนี้มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ หนึ่งในนั้นยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายไปทางป้ายหน้าร้าน แล้วถามคนในสาย
“ลั่วลั่ว ร้านนี้ใช่ไหม?”
เสียงปลายสายตอบกลับมา “ใช่เลยเฟยอี้ อย่าลืมนะ ต้องพา ‘ท็อปไอดอล’ กลับมาให้ฉันด้วยล่ะ!”
“โอเค เดี๋ยวจะพาท็อปไอดอลกลับไปให้เธอเอง”
เฟยอี้วางสายแล้วหันไปบอกเพื่อนๆ ว่าใช่ร้านนี้แน่นอน จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างใน เพื่อนของเธอเคยมาทานข้าวเย็นที่ร้านนี้ กลับไปถึงบ้านก็เล่าใหญ่เลยว่าร้านนี้ดีแค่ไหน รสชาติสีสันอาหารเป็นยังไง บอกว่านี่คืออาหารที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา
เพราะแบบนั้น เฟยอี้ถึงกับต้องลุกไปต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากินตอนดึกเพราะหิว แต่พอเห็นรูปอาหารแล้วก็ยังอยากกินอยู่ดี วันนี้เลยรีบใช้เวลาพักเที่ยงแวะมาให้ได้ แต่น่าเสียดายที่ทีมของลั่วลั่วต้องถ่ายทำถึงเย็น เธออยู่ฝ่ายแต่งหน้าเลยออกมาก่อนไม่ได้ ต้องรอให้ถ่ายเสร็จถึงจะว่าง
กลุ่มเฟยอี้พอเดินเข้ามาเห็นบรรยากาศในสวนใต้ร่มไม้ โต๊ะเก้าอี้ไม้ กับบ้านทรงเก่าแบบเรียบง่ายก็รู้สึกชอบมาก แต่น่าเสียดายโต๊ะด้านนอกเต็มหมดแล้ว เลยต้องย้ายเข้าไปนั่งในห้องข้างใน ซึ่งก็จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน
เพื่อนที่มาด้วยกันเปิดบานประตูไม้หลายบานออก แล้วใช้ไม้ยันประตูไว้ ก่อนจะหันไปมองบรรยากาศในลาน หน้าร้านที่เต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงกินข้าว
โต๊ะที่อยู่ใกล้เธอ ทุกคนกำลังกินไปยิ้มไป สีหน้าดูมีความสุขกันถ้วนหน้า นั่งอยู่ในห้องแล้วมองออกไปเห็นวิวลานด้านนอก ก็ให้ความรู้สึกเพลินตาเพลินใจไปอีกแบบ
“ร้านนี้แปลกดีเนอะ บรรยากาศเงียบจนน่าแปลก มีแต่เสียงตะเกียบกับช้อนกระทบชาม ลูกค้าก็เงียบๆ เหมือนกัน ทุกคนดูตั้งใจแค่กินอย่างเดียว ไม่ค่อยคุยกันเลย”
“แต่รู้สึกไหม? แค่ก้าวเท้าเข้ามาในร้านก็รู้สึกใจเบาขึ้นเฉยเลย เหมือนเวลาที่นี่เดินช้าลง ลมยังพัดเบาๆ จนรู้สึกแปลกใจเลยล่ะ”
ถังเหยากำลังผัดข้าวอยู่ก็เห็นว่าออเดอร์ในแอปเด้งรัวๆ หันไปดูซี่โครงวัวตุ๋นซอสเหลืออยู่นิดเดียว เลยบอกให้ หยางอิงปิดเมนูในแอปไปก่อน แล้วก็เตือนว่าไก่เสฉวนเหลือแค่สิบกว่าส่วน รีบปิดไว้เลยก่อนที่จะหมด
วันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ ทำให้ของที่เตรียมไว้เริ่มไม่พอแล้ว ดูท่าไม่ทันถึงเวลาพักเที่ยงก็น่าจะขายหมดแล้วแน่ๆ
ถิงถิงเพิ่งไปช่วยเพื่อนในกองถ่ายทำธุระเล็กน้อย กลับมากะจะหยิบโทรศัพท์มาสั่งอาหารสักหน่อย แต่ดันเจอเรื่องประหลาด ในเมนูของร้านตระกูลถัง ขึ้นสถานะ เต็ม เกือบหมดแล้ว ไม่มีอะไรให้สั่งเลย
ฮะ? ซี่โครงวัวตุ๋นซอสหมดไปแล้ว ไก่ก็เหลือแค่ 2 ที่ โชคดีที่มือไวพอ กดใส่ตะกร้าได้ทันเวลา ต้องสั่งเต้าหู้สูตรพิเศษเพิ่มอีกสามที่ ซุปก็เหลือแค่ 3 ถ้วย รีบสั่งให้หมดไปเลย พอกดจ่ายเงินเสร็จแล้วลองออกจากหน้าแอปแล้วเข้าใหม่ ร้านก็ขึ้นว่า “อาหารหมด ไม่รับออเดอร์” แล้ว
นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!!
ถิงถิงยังงุนงงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นผู้กำกับเฉินเดินตรงมาจากฝั่งตรงข้าม ปรากฏว่าผู้กำกับอยากให้เธอช่วยสั่ง ซี่โครงวัวตุ๋นไวน์แดง ให้สองที่ ของเขากับผู้กำกับซ่ง เพราะวันนี้ทั้งคู่ต้องถ่ายทำจนไม่ได้ออกไปไหน
แต่ไก่เผ็ดเสฉวนยังเหลือแค่สองที่ ส่วนซี่โครงวัวตุ๋นนั้นหายไปจากเมนูนานแล้ว ถิงถิงเลยได้แต่บอกความจริงให้ผู้กำกับฟัง
พอผู้กำกับเฉินได้ยินว่าของหมดก็เสียดายสุดๆ วันนี้กองถ่ายไม่มีเวลาพักนาน เลยต้องสั่งมากินที่กอง เขายังจำรสชาติของซี่โครงตุ๋นได้ไม่ลืม ตั้งใจจะกินต่ออีกมื้อตอนเที่ยงแท้ๆ ไม่คิดเลยว่าเพิ่งจะบ่ายโมงก็หมดแล้ว สุดท้ายก็ต้องกินรวมกับทีม แล้วค่อยแวะร้านตระกูลถังใหม่ตอนเย็น
ถังเหยายุ่งจนถึงเกือบบ่ายสองกว่าจะได้พัก ลูกค้าหมดแล้วถึงค่อยได้ปิดร้านขึ้นป้าย “อาหารหมด” ไม่อย่างนั้นเกรงว่าจะยังไม่ได้หยุดพักเลย จริงๆ แล้วเธอเขียนไว้ตั้งแต่ต้นว่ารับลูกค้ารอบเที่ยงถึงบ่ายโมง กับรอบเย็นตั้งแต่สองทุ่ม แต่คนที่มายืนต่อแถวด้านหลังมักไม่เห็นป้าย พอถึงคิวพวกเขา…เธอก็ใจอ่อนไม่กล้าปฏิเสธให้กลับ
“เที่ยงนี้คนเยอะจริงๆ แฮะ แบบนี้คงต้องหาคนมาช่วยเพิ่มแล้วล่ะ เราทำอาหารทันก็จริง แต่งานเก็บล้างใช้เวลามาก กลัวลูกค้าจะต้องรอนาน”
ถังเหยาก็เริ่มคิดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนกัน หลังจบช่วงเที่ยงไม่คิดเลยว่าลูกค้าจะมากันแน่นขนาดนี้ เรียกว่าเต็มตั้งแต่ในห้องจนถึงหน้าระเบียง ส่วนลานหน้าร้านไม่ต้องพูดถึง โต๊ะนั่งหมดทุกตัวตลอดเวลา ปล่อยให้หยางอิงวิ่งไปวิ่งมาแค่คนเดียวก็ดูจะไม่ไหวจริงๆ
กำลังคิดว่าจะหาคนมาช่วยเพิ่มอยู่พอดี ก็ได้ยินเสียงลุงหวังที่กำลังนั่งจิบชาพูด “ถ้าหนูถังเหยาไม่รังเกียจ ลุงอยากลองช่วยทำงานนี้ดู ถ้าหนูโอเคลุงก็จะทำ แต่ถ้าไม่เหมาะก็ถือว่าลุงไม่ได้พูดก็ได้นะ”
“ลุงหวังพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าลุงช่วยหนูดีใจมากเลยค่ะ ลุงพูดออกมาแล้ว ทีนี้ก็อย่าเรียกหนูว่าคุณถังเหยาอีกเลย เรียกเสี่ยวเหยาก็พอแล้วค่ะ”
ถังเหยาไม่ได้แกล้งยิ้มหรือทำเป็นดีใจ แต่เธอดีใจจริงๆ ที่ลุงหวังเสนอตัวมาช่วย เพราะเมื่อคนเราเริ่มอยากทำอะไรบางอย่าง แปลว่าใจเปิดรับสิ่งใหม่ และเดินไปในทางที่ดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ร่างกายของลุงหวังก็ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง งานในร้านเองก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เธอจึงไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียวที่จะตอบตกลง
ลุงหวังมองสองสาววัยรุ่นเดินออกไปอย่างร่าเริง ความคิดที่อยากช่วยก็เพิ่งจะเกิดขึ้นหมาดๆ
เมื่อกลางวันขณะที่ลุงนั่งอยู่ลานหลังบ้าน มองผ่านหน้าต่างเห็น ถังเหยายุ่งจนแทบไม่ได้หยุดมือ แต่ก็ยังยิ้มและพูดคุยกับหยางอิงอย่างมีชีวิตชีวา ยังมีเวลาหันมาถามลุงอีกว่า “หิวไหม อยากกินอะไรก่อนไหมคะ?”
มองผ่านแผ่นไม้กันสายตา เห็นลูกค้าต่างนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย หรือเห็นสีหน้าตื่นเต้นของแขกที่เพิ่งก้าวเข้ามาในร้าน ลุงก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าชีวิตนี้ยังมีอะไรดีๆ รออยู่อีกมาก หรือจะพูดให้ชัดกว่านั้นก็คือ ลุงหวังยังอยากอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ต่อไปอีก
แม้ตอนเย็นวันนี้ถังเหยาจะตั้งใจทำอาหารเพิ่ม แต่ลูกค้าก็ยังหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด สุดท้ายเธอก็ต้องปิดแอปสั่งอาหารเร็วกว่าที่วางแผนไว้ เฉินผิงกับกลุ่มไรเดอร์ยังรู้สึกโชคดีอยู่เลยที่มากินช่วงเที่ยง ไม่อย่างนั้นคงได้แค่ยืนดมกลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากครัวหน้าร้านแน่นอน
และเมื่อเปิดร้านไปได้สักพัก ก็แน่นตั้งแต่สนามหน้าร้านยันทางเดิน ระเบียงด้านนอกก็เต็มหมด ห้องด้านในยังพอมีโต๊ะว่างอยู่แค่สองโต๊ะเท่านั้น แค่วันเดียว ร้าน “ตระกูลถัง” กลายเป็นคนละเรื่องไปเลย เหมือนลูกค้าทุกคนได้ยินข่าวแล้วรีบแห่กันมาอย่างไงอย่างนั้น
ของอร่อยกลายเป็นกระแสชั่วข้ามวัน
อีดิทไปหิวไปมีอยู่จริง!!!!
ในขณะที่ข่าวยังคงเป็นประเด็นร้อนแรง และทุกคนกำลังสนุกกับข่าวใหญ่ชิ้นนี้ งาน Weibo Gala ก็ได้ประกาศรายชื่อแขกผู้มีเกียรติ และข่าวที่ร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ก็คือ คู่รักถังกู้ ยืนยันว่าจะเข้าร่วมงานนี้พร้อมกันเรือของฉันถึงฝั่งแล้ว: “หลีกไปๆ หลีกไปให้หมด เรือของฉันมาถึงแล้ว! ฮือๆ รอตั้งนานกว่าจะได้เห็นคู่รักของฉันปรากฏตัว คิดถึงพี่ๆ ทั้งคู่จะแย่แล้ว!”คู่รักถังกู้: “มาสนุกกันเถอะทุกคน คู่รักของเราจับมือกันมาแล้ว! นี่คือของขวัญแต่งงานสำหรับพวกเรา!”คุณนายและการกินเผือก: “โอ้โห…คู่รักมาเองเลย! ทุกคนหลีกทางให้หน่อย! โปรยดอกไม้และปูพรมแดง!”นอนรอ OTP: “ดีใจที่สุด วันนี้มาถึงแล้ว! วันนี้หยุดงานพอดี ตั้งใจจะซื้อของกินมานั่งดูทั้งวันเลย! ความหวานของคู่รักถังกู้ ไม่ค่อยได้เห็นแบบเปิดเผยเท่าไหร่ โอกาสแบบนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด!”เสพข่าวซุบซิบ: “เฮ้! ฉันอิจฉาแฟนคลับคู่นี้จริงๆ เลย! เรือของพวกเขาถึงฝั่งแล้ว และมีความสุขกันแบบเปิดเผย ส่วนเรือของฉันเพิ่งจะล่มแ ละยังทะเลาะกันอยู่เลย! โธ่เอ๊ย! เห็นสภาพบ้านของตัวเองแล้วเจ็บปวดหัวใจจริงๆ!”สมาคมคนชอบเม้าท์: “ถามจริง ในวงการใครจะมาสู้กับคู่รักคู่นี้ได้อีก! แฟนค
ประธานกลุ่มบริษัทหานเหยียน ที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศก็ไม่พลาดโอกาสนี้ เขาหัวเราะอย่างร่าเริงและสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานขึ้นมา“อย่าลืมนะว่าฉันก็เป็นพ่อทูนหัวของเจ้าหนูเสี่ยวอวี่เหมือนกัน พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะทำตัวห่างเหินไปทำไม”สวี่เหยียนยิ้มอย่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ และมีกลิ่นอายของผู้ชายที่น่าดึงดูดและเป็นผู้ใหญ่ ราวกับไวน์ชั้นดีที่ดึงดูดสายตาของพนักงานทุกคน “ใช่แล้ว! ถ้าซ่งไป๋นั่งได้ ทำไมฉันที่สนิทกับเสี่ยวอวี่ขนาดนี้ถึงนั่งไม่ได้ล่ะ อย่าเลือกปฏิบัติแบบนี้สิ”ไช่หนิงหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆ ด้วยความหมายที่ชัดเจน เธอจะไม่อนุญาตให้ใครมารังแกสามีได้ง่ายๆ คนที่เธอปกป้องและดูแลมาอย่างดี จะปล่อยให้แกะพวกนี้มารุมตอดได้อย่างไร มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถรังแกเขาได้ และคนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น“พวกคุณสองคนไปถามความเห็นของสามีฉันก่อน ถ้าเขายอมฉันก็ยอม พวกคุณห้ามทำให้สามีฉันไม่มีความสุขนะ”ทั้งสองคนมองไปที่กู้ซวนด้วยรอยยิ้มที่สดใสยิ่งขึ้น แต่ในใจกลับรู้สึกเปรี้ยวจี๊ด ที่เห็นท่าทางการปกป้องสามีของไช่หนิงอย่างชัดเจน ทำไมในสายตาของไช่หนิงถึงคิดว่ากู้ซวนเป็นคนที่น่าสงสาร ในข
คุณลุงหวังยังบอกอีกว่าถังเหยาเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ และเธอก็ปฏิเสธที่จะรับน้ำใจของเขา แต่ถังเหยาบอกให้เขาอยู่ที่นี่อย่างสบายใจ จนกว่าเขาจะต้องการกลับไป แต่ลูกๆ ของเขากลับไม่รู้สึกขอบคุณคนอื่นที่ดูแลพ่อของตัวเอง และไม่แม้แต่จะมาถามว่าชีวิตของพ่อเป็นอย่างไร สิ่งแรกที่พวกเขาทำ คือไปหาทนายความเพื่อถามเรื่องทรัพย์สินการกระทำที่ไร้หัวใจนี้ ทำให้คนรู้สึกเย็นชากว่าคนแปลกหน้าเสียอีก คุณลุงหวังจึงตัดสินใจนำทรัพย์สินไปตั้งเป็นกองทุนส่วนตัว เพื่อช่วยเหลือเด็กป่วยที่ไม่มีเงินรักษา ใจของเขาเย็นชาแล้ว และไม่ต้องการที่จะกลับไปอยู่กับลูกๆ ทั้ง 3 คน จะอยู่ที่บ้านของถังเหยาและเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จัก ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและดูแลบ้านให้เธอเหล่าชาวเน็ตที่ติดตามข่าวนี้ก็รู้สึกชื่นชมถังเหยาในใจอีกครั้ง เพราะเธอปฏิเสธทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ร้านอาหารเถิงเวยเก๋อได้เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แล้ว และไม่ต่างจากกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ จำนวนเงินนั้นมากพอที่จะทำให้ทุกคนลังเลที่จะปฏิเสธบ้านตระกูลกู้ในห้องฝึกศิลปะการต่อสู้ถังเหยาและกู้จื่ออวี่) กำลังนั่งดูแม่และพี่ชายของเขา กู้เฉินอี้ ดวลกัน ถังเหยาไม่คิดเลยว่าคุณนายไช่ที่ดูอ่อนช้อย
ฉันรักข่าวลือ: “ฮ่าๆๆ ในที่สุดทุกคนก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับถังเหยาแล้วใช่ไหม! คนข้างบนพูดถึงแค่ส่วนที่ปรากฏเท่านั้น แต่ก็ยังขาดอีกนะ! ไม่มีใครไปสืบเรื่องเฮลิคอปเตอร์ของประเทศซิลเวเนียเลยเหรอ! ทุกคนนี่แย่จังเลย!”ไม่ติดตามใครนอกจากเธอ: “ฉันคือคนที่เคยไปเที่ยวประเทศซิลเวเนีย พร้อมกับกลุ่มรายการโชว์ ทุกคนรู้ไหมว่ารูปของถังเหยาแขวนอยู่ข้างนอกเยอะมาก! ถามแล้วถึงได้รู้ว่าเธอเคยมาที่นี่ และช่วยเหลือประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้ประชาชนรักและเคารพเธอมาก ได้ยินมาว่าเธอได้รับเชิญให้ไปดำรงตำแหน่งอะไรบางอย่าง แต่ถังเหยาก็ปฏิเสธไป พวกเขาเปิดการท่องเที่ยว ก็เป็นคำแนะนำของพี่ใหญ่ถังอีกเช่นกัน และยังไม่ทันจะสิ้นปีเศรษฐกิจของประเทศ ก็เติบโตขึ้นถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว น่าขนลุกมากเลยทุกคน!”ชอบเดินตากฝน: “ฉันยังไม่รู้เลยว่าส่วนที่ซ่อนอยู่คืออะไร แต่แค่รู้คร่าวๆ ก็ทำเอาฉันพูดไม่ออกแล้ว! แอนตี้แฟนอยู่ไหน ยังมีชีวิตอยู่ไหม! ยกมือหน่อยสิเพื่อนเอ๋ย! ตอนนี้คงไม่รู้จะเอาหน้าไปซ่อนไว้ที่ไหนแล้ว ตอนแรกๆ ทำตัวน่ารังเกียจมากเลย ทั้งด่าว่าทั้งว่าถังเหยา ตอนนี้ฉันรู้สึกอับอายแทนพวกคุณจริงๆ!”ช่องทางสตรีมม
ชื่นชมความสามัคคี: “โอ้โห…นิยายรักโรแมนติกระหว่างพี่ชายปักกิ่งกับน้องสาวชิงหัว ที่ใครบางคนเคยพูดไว้เป็นจริงแล้ว! คนที่พูดคำทำนายนั้นอยู่ที่ไหน! ยกมือหน่อย! แล้วคุณยังจะทำตามที่พูดว่า ‘ขอถือศีลอดตลอดชีวิต’ อยู่ไหม ฮ่าๆๆ”เสพดราม่าบำรุงสมอง: “พรุ่งนี้จะต้องเป็นวันที่ชิงหัวยิ่งใหญ่แน่นอน! แค่คิดถึงภาพนักศึกษาปักกิ่ง เดินเข้าประตูมหาวิทยาลัยชิงหัวก็ขำแล้ว! โชคดีที่พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ ฉันจะได้ส่องดราม่าทั้งวัน!”วันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยบรรยากาศที่คึกคักและสนุกสนาน นักศึกษาทั่วประเทศต่างตื่นเต้นที่จะได้เข้าสู่มหาวิทยาลัยในฝันของตัวเอง นักข่าว บล็อกเกอร์ และอินฟูลฯ สายความรู้ ต่างก็ไม่พลาดช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์ของมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งสองแห่ง ตั้งแต่เช้าตรู่พวกเขาก็มาเพื่อเก็บภาพที่น่าสนใจเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดนักศึกษาของชิงหัว เดินเข้ามาจากทางซ้ายอย่างสง่างาม มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ทำให้เขามีท่าทางเท่ราวกับเป็นนักแสดง แม้จะต้องเจอกับมหาวิทยาลัยคู่แข่ง แต่เขาก็ยังคงความมั่นใจเหมือนกำลังเดินอยู่บนพรมแดงบังเอิญว่าทางด้านขวาก็มีเด็กสาวจากมหาวิทยาลัยปักกิ่งคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้สิ้นสุดลง ท่ามกลางความสนใจอย่างล้นหลาม ของเหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่อง ทุกคนเริ่มเดิมพันกันว่า นักเรียนที่เก่งที่สุดในปีนี้ จะเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวหรือปักกิ่ง และคู่แข่งที่ถูกกำหนดมาโดยสวรรค์คู่นี้ จะมีการดวลกันแบบพิเศษยังไง เพื่อแย่งชิงคนเก่งๆ ไปไว้กับตัวในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยช่วงเวลาที่สำคัญนี้ โพสต์หนึ่งจากคนธรรมดาๆ ก็กลายเป็นโด่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหันในโลกออนไลน์ ไม่เพียงแต่ติดเทรนด์เท่านั้น แต่ยังขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 ในชาร์ตบันเทิงอีกด้วยแฮชแท็ก #ชิงหัวใช้แผนสำเร็จโน้มน้าวเด็กหัวกะทิได้ ทันทีที่โพสต์นี้ถูกเผยแพร่ออกไป เหล่าชาวเน็ตที่ชอบสอดส่องก็รีบเข้ามาดูทันทีตามที่เจ้าของโพสต์เล่าว่า ตัวเองเป็นเพื่อนกับนักเรียนหัวกะทิของปีนี้ และได้เป็นพยานในความสามารถของการโน้มน้าวจิตใจของมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง แต่สุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือมหาวิทยาลัยชิงหัวเหตุผลหลักก็คือ มีความเป็นไปได้ที่ไอดอลของนักเรียนคนนี้ จะกลับมาเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ดังนั้นในปีนี้ก็อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้ง พวกเขายังบอกอีกว่ามหาวิทยาลัย กำล







