ตอนหนึ่งทุ่มครึ่งลูกค้ายังทยอยมากินอาหาร หนึ่งในนั้นก็มีผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่งด้วย แต่พอเดินมาถึงหน้าร้านก็ต้องหยุดชะงัก เพราะป้าย "ขออภัยอาหารหมด" แขวนอยู่หน้าประตู
แต่ละคนยืนมองร้านอย่างมึนงง เหลือบมองเข้าไปข้างในเห็นคนแน่นขนัด กลิ่นอาหารหอมลอยออกมาจากครัว หัวใจก็เริ่มโอดครวญอยากจะร้องไห้ ยังไม่สองทุ่มเลยอาหารหมดแล้วเหรอ? หรือว่าจะลองเข้าไปถามดูดีไหมว่าเหลือน้ำซุป หรือน้ำราดอะไรให้ติดมือกลับไปกินได้บ้าง
ทั้งวันพวกเขาเอาแต่คิดถึงข้าวร้านตระกูลถัง กลางวันก็สั่งไม่ได้ มาตอนเย็นก็ยังอดอีก แบบนี้คืนนี้จะอยู่รอดไปได้ยังไงเนี่ย...
สุดท้ายบรรดาคนที่ไม่ได้กินทั้งวันก็พากันขึ้นไป “ระบายความทุกข์” ที่กลุ่มกระแสเหิงเตี้ยน
หัวข้อ #วันนี้อดกินข้าวร้านตระกูลถัง กำลังกลายเป็นกระทู้สุดฮอต มีคนเข้าไปเมนต์ถล่มกันเพียบอยากกินมาก: “สารภาพมาซะดีๆ พวกคุณใ เหิงเตี้ยน มีใครแอบกดสั่งข้าวร้านตระกูลถังบ้าง? ยังไม่บ่ายดีแอปก็ปิดแล้ว ตอนเย็นยังไม่ถึงสองทุ่มก็ปิดอีก ฉันคิดถึงซี่โครงวัวอบซอสไวน์แดงทั้งวันเลยนะ! ถึงจะกินข้าวเย็นไปแล้ว แต่เพราะไม่ได้กินซี่โครงที่ว่า ก็ยังรู้สึกเหมือนขาดอะไรอยู่ดี โหดร้ายเกินไปแล้ว…”
ของอร่อยคือที่สุด: “ฮ่าๆๆ โชคดีสุดๆ ถึงจะไม่ทันสั่งซี่โครงวัว แต่เราเป็นคนสุดท้ายที่สั่งอาหารทันนะ ตอนนั้นกดมั่วๆ เลย ได้แค่เต้าหู้สูตรพิเศษหนึ่งจาน แต่พอได้กินแล้วแบบ…ว้าว! หมูสับหวานนุ่ม กุ้งก็สด เนื้อแน่น หอมกลิ่นเห็ดธรรมชาติ ทั้งหมดถูกเคลือบด้วยซอสรสชาติเยี่ยม ฉันเป็นคนไม่ชอบเต้าหู้นิ่มๆ นะ แต่เต้าหู้ร้านนี้พอซึมซับน้ำซุปแล้วคือดีมาก เชื่อเถอะ ร้านตระกูลถังไม่มีเมนูไหนไม่อร่อยเลย!”
เที่ยวเล่นในเหิงเตี้ยน: "ฮ่าๆๆ เวลา 11:35 ฉันนี่แหละคือคนสุดท้าย ที่กดสั่งซี่โครงวัวซอบอบไวน์แดงได้! แค่กัดเข้าไปหนึ่งคำ ความเศร้าก็หายวับไปเลย! เนื้อฉ่ำกัดแล้วกลิ่นหอมทะลุใจ แค่เอาน้ำซอสราดข้าวสวยก็อร่อยสุดๆ แล้ว เสียดายตอนเย็นกลับมาร้านปิด ไม่เคยเห็นร้านไหนปิดเร็วขนาดนี้เลยจริงๆ "
ไม่มีเนื้อไม่สุขใจ: "ไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะแนะนำร้านเด็ดขนาดนี้ ตอนมาถึงครั้งแรกยังตกใจกับบรรยากาศร้านเลยแน่ะ ครั้งหน้ามาเหิงเตี้ยนอีกเมื่อไหร่ ต้องแวะมากินอีก!"
คนชอบเมาท์แห่งเหิงเตี้ยน: "ดูเหมือนร้านตระกูลถังเพิ่งเปิดใหม่ แต่กำลังกลายเป็นดาวรุ่งเลย พรุ่งนี้จะไปลองแน่นอน จะต้องซื้อให้ได้ซี่โครงวัวอบซอสไวน์แดง แค่เห็นรูปก็หิวแล้ว!"
ถังเหยาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ก็ยังมีคนคิดถึงอาหารของเธออยู่ บางคนถึงกับนอนไม่หลับทั้งคืน คิดวนไปวนมาเรื่องจะได้กินไหม หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เธอก็ออกไปตลาดซื้อของ ถึงแผงขายเนื้อคนขายบอกว่าวันนี้ซี่โครงวัวมีจำกัด จึงได้มาไม่มาก เลยฝากไว้ว่าคราวหน้ามีเท่าไหร่ก็เก็บไว้ให้เธอด้วย จากนั้นก็หิ้วตะกร้าเดินไปซื้อของร้านถัดไปต่อ
ระหว่างเดินเธอก็คิดไปด้วยว่าจะเพิ่มเมนูอะไรดี ลูกค้าหลายคนบ่นว่าเปิดแอปไม่ทันแค่ชั่วโมงเดียวก็หมดแล้ว บางคนมาถึงร้านก็ไม่มีของให้กิน รู้สึกเกรงใจมาก
สรุปว่า...ต้องทำเมนูเพิ่มอีก!
พอไปถึงร้านขายเนื้อหมูเจ้าประจำ ก็พอดีกับที่เจ้าของร้านยังไม่ได้แล่ หมูทั้งตัวมีหมูสามชั้นอยู่สองแถบใหญ่ยังอยู่ครบ เมื่อเห็นหมูสามชั้นลายไขมันกับเนื้อสลับกันสวยงาม ถังเหยาก็คิดถึง "หมูตงพอ" ขึ้นมาทันที เธอเลยเหมาหมูสามชั้นทั้งหมดโดยไม่ต้องให้เจ้าของร้านหั่นให้ จะเอากลับไปจัดการเองที่ร้าน
เจ้าของร้านบอกว่าตอนบ่ายต้นๆ จะแล่หมูอีกตัว ถามว่าเธอจะเอาอีกไหม ถังเหยาไม่ลังเลรีบตอบรับแล้วจองหมูสามชั้นไว้อีกชุด เธอยังขอให้เจ้าของร้านช่วยเก็บหมูสามชั้นดีๆ แบบนี้ไว้ให้ทุกครั้งที่มีด้วย แต่ถ้าสัดส่วนไขมันกับเนื้อไม่สมดุลก็ไม่ต้องเก็บไว้ เพราะเธอไม่เอา
สำหรับหมูตงพอ ถ้าไขมันกับเนื้อไม่สมดุลกัน ก็ถือว่าแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้ม จริงๆ แล้วเธอเคยลองไปดูอีกร้าน แต่เนื้อไม่ดีเท่าจึงไม่ซื้อ ถังเหยามีหลักในการทำอาหารชัดเจน เธอขายเฉพาะของที่ตัวเองกินแล้วรู้สึกว่าอร่อยเท่านั้น พอของหมดก็ปิดร้าน ไม่ใช่ขายเพื่อเอาปริมาณ
พอกลับมาถึงร้านก็เริ่มจัดการกับเนื้อหมูก่อน โดยแช่หมูในน้ำเกลือเจือจาง 15 นาที แล้วล้างให้สะอาดอีกครั้ง จากนั้นต้มน้ำหม้อใหญ่ ใส่เหล้าเส้าซิง หอมซอย ขิง และพริกหอมลงไป พอน้ำเดือดก็ใส่หมูลงต้ม 3 นาที แล้วตักขึ้นมาล้างน้ำอีกครั้ง ขั้นตอนนี้ช่วยให้เนื้อสะอาด ไม่มีกลิ่นคาว แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของหอม ขิง พริกหอม และเหล้า
หยางอิงมองถังเหยาหั่นเนื้อหมูอย่างตั้งใจ ทุกชิ้นเท่ากันเป๊ะๆ โดยไม่ต้องใช้แม่พิมพ์หรือเครื่องวัดเลย เธอเคยได้ชิมหมูตงพอ ที่ถังเหยาทำมาก่อน รสชาตินั้นต้องเรียกว่า "สุดยอดในสุดยอด" ทำเอาคิดถึงไม่เคยลืม
“เสี่ยวเหยาเก็บไว้ให้ฉันหนึ่งส่วนนะ มื้อเที่ยงวันนี้อยากกินหมูตงพอ”
ถังเหยาเห็นเพื่อนสาวที่กำลังเด็ดผัก แต่สายตากลับจับจ้องอยู่ที่หมูในมือตัวเอง ก็หัวเราะรับคำแบบสบายๆ เธอไม่เคยเห็นใครที่จิตใจหมกมุ่นอยู่กับการกินได้เท่าหยางอิงมาก่อน ไม่ว่าเวลาไหนก็นึกถึงของกินได้เสมอ
โชคดีที่ยังมีหม้อดินใบใหญ่สองใบ แค่เอาออกมาล้างให้สะอาดก็ใช้งานได้เลย
หมูตงพอต้องใช้หม้อดินตั้งบนไฟอ่อนจากฟืน ถึงจะได้กลิ่นรสต้นตำรับแท้ๆ โชคดีอีกอย่างคือบ้านคุณตายังเก็บเตาฟืนไว้ใช้เวลาทำอาหารที่ต้องการความพิถีพิถันแบบนี้
แม้จะเพิ่งสิบโมงกว่า แต่กลิ่นหอมเข้มข้นเฉพาะตัวของหมูตงพอ ก็เริ่มฟุ้งไปทั่ว จนหยางอิงที่อยู่ข้างนอกถึงกับอดใจไม่ไหวบ่นอุบอิบไม่หยุด
ดูท่าว่าก่อนเปิดร้านต้องให้เธอได้กินก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสมาธิทำงานแน่
“โอ๊ยย เสี่ยวเหยาหอมเกินไปแล้ว!”
“หอมจะตายอยู่แล้ววว”
“เฮ้อ…ยังไม่ได้กินอีกเหรอเนี่ย”
แม้แต่ลุงหวังก็ยังอดใจไม่ไหว ต้องตามหยางอิงเข้าไปในครัว พอเปิดฝาหม้อดิน กลิ่นหอมอบอวลก็ลอยพุ่งออกมา ผ่านม่านไอน้ำบางๆ มองเห็นเนื้อหมูทรงสี่เหลี่ยม ที่เรียงกันสวยงามกำลังค่อยๆ ปรากฏให้เห็น
ถังเหยาเห็นทั้งสองคนมายืนจ้องก็อดไม่ได้ที่จะถาม “อยากกินเป็นมื้อเที่ยงเลยไหมคะ” ยังไม่ทันขาดคำ ทั้งลุงทั้งหลานก็พยักหน้าพร้อมกันอย่างรวดเร็ว
สุดท้ายก่อนเปิดร้าน ทั้งสามคนก็นั่งกินกันสบายใต้ต้นไม้ ไม่มีใครรู้เลยว่าตอนนี้ข้างนอกเ ริ่มมีคนมายืนชะเง้อรอหน้าร้านกันแล้ว
เมนูนี้เคยกินเมื่อครั้งไปจีน มันเลี่ยนนะคะ แต่ในความเลี่ยนมีความอร่อย
คือมันอร่อยจนแบบต่อให้เลี่ยนก็กินไหวววว
วันนี้มากับเพื่อนสนิทชื่อ “หยู่เยียน” ให้ช่วยถือกล้องให้ เธอจัดทรงผมนิดหน่อยก่อนจะเริ่มไลฟ์“สวัสดีทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่Meo Blog ทายสิว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเอ่ย”หยู่เยียนรู้หน้าที่ดี รีบหมุนกล้องตามนิ้วของเธอที่ชี้ไปบริเวณรอบๆ“ถูกต้องค่า! ตอนนี้เราอยู่ที่เหิงเตี้ยน แฟนๆ เคยแนะนำมาว่าที่นี่มีร้านข้าวชื่อ ‘ตระกูลถัง’ อร่อยมาก วันนี้เลยตั้งใจจะมาลองให้ได้ และมาแชร์กับทุกคนด้วยนะคะ! ได้ข่าวว่าต้องต่อคิว ก็เลยรีบมาตั้งแต่เนิ่นๆ อ้าว มีคนมารอก่อนเราแล้ว!”ซินหยางเดินมาเจอคนยืนรอคิวอยู่แล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงห้าโมงเย็น ทำเอาเธอพูดเสียงเบาลงทันที เพราะรอบตัวก็เริ่มมีคนเยอะขึ้น“ไม่น่าเชื่อเลยทุกคน ยังไม่ห้าโมงแท้ๆ แต่มีคนมารอกินข้าวกันแล้วอะ”ระหว่างรอ คนในคิวก็พูดคุยกันเพลิน ส่วนใหญ่ก็พูดถึงร้านตระกูลถังนั่นแหละ“ผมค
ด้านหน้าร้าน ถังเหยาได้ยินเสียงเคาะประตูเบาๆ จึงเดินออกมาดู แล้วต้องแปลกใจไม่น้อยเมื่อเห็นเกาเหวินยืนอยู่ตรงนั้นเจ็ดโมงครึ่งเช้าเองนะ...มาถึงตั้งแต่เช้าแบบนี้ คิดจะมากินอาหารเช้าหรือยังไงกัน? ยังไม่ได้เริ่มทำอาหารเลยด้วยซ้ำ“สวัสดีครับคุณถัง ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าร้านเปิดขายอาหารเช้าตอนกี่โมงครับ?”“ขอโทษด้วยค่ะคุณเกา ร้านเราไม่ได้ขายอาหารเช้าค่ะ”เกาเหวินได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็พลันดูผิดหวังขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ถังเหยารู้สึกแปลกใจเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเล่าเรื่องของกู้จื่ออวี้ให้เธอฟัง พร้อมหยิบใบวินิจฉัยสุขภาพเมื่อวานให้ดู เธอไม่คิดเลยว่าผู้ชายที่ดูสุขุมคนนั้น จะป่วยหนักขนาดนี้“จริงๆ ผมก็พยายามไปซื้อจากร้านอื่นให้แล้วนะครับ แต่เขากินไม่ได้เลย...ใครจะคิดว่าเมื่อวานเขาจะกินได้เยอะขนาดนั้น แถมตอนกลางคืนก็ยังหลับได้ดี ไม่กระสับกระส่ายเหมือนทุกที ผมเลยกะว่าจะมาซื้อให้ครบสามมื้อเลย แต่ไม่รู้ว่าร้านคุณไม่ได้ขายอาหารเช้า”
โต๊ะข้างๆ เป็นกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่เพิ่งกินเสร็จ ต่างก็มองมาทางเขาแล้วกระซิบกระซาบกันเบาๆ“คนนั้นใช่กู้จื่ออวี่รึเปล่านะ ฉันดูจากข้างหลังก็ว่าใช่เลย”“มองด้านข้างก็เหมือนอยู่นะ คนที่นั่งข้างๆ ใช่ผู้จัดการเการึเปล่า?”“น่าจะใช่แน่เลย ทำยังไงดี อยากขอลายเซ็นจังเลย”เกาเหวินหยิบหมวกส่งให้กู้จื่ออวี่สวม จากนั้นหันไปมองข้างนอกที่เริ่มมีคนมาต่อคิว ถ้าลุกขึ้นตอนนี้มีหวังสร้างความวุ่นวายให้ร้านแน่ เขาเลยกระซิบกับผู้ใหญ่เบาๆ ผู้กำกับเฉินจึงลุกขึ้นพาสองคนเดินไปทางครัว “เสี่ยวเหยา หนูว่างไหม ลุงมีเรื่องอยากขอหน่อย”ถังเหยาเพิ่งทำข้าวผัดให้ลูกค้าเสร็จ ยังไม่มีออเดอร์ใหม่จึงว่างอยู่พอดี หันมาอีกทีก็เห็นผู้กำกับเฉินยืนอยู่พร้อมกับชายสองคนด้านหลัง คนหนึ่งใส่แว่น มองเธอแล้วยิ้มให้ด้วยท่าทีสุภาพ อีกคนสวมหมวกกับหน้ากาก พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นเธอก็แค่กะพริบตาแล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงทักทายผู้กำกับเฉินมาขอเธอว่าอยากให้สองคนนี้ ไปรอนั่งที่ลานหลังบ้านสักพัก เพราะเหมือนจะมีแฟนคลับจำได้ ถ้าเดินออกไปตอนนี้เกรงว่าจะรบกวนลูกค้าคนอื่น ถังเหยามองไปข้างหลังครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้ตกลง เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยแล้วผู
เกาเหวินรู้สึกว่าบรรยากาศของร้านนี้พิเศษจริงๆ ตอนแรกเขายังกลัวว่ากู้จื่ออวี่จะถูกคนจับตามอง แต่ผิดคาด ทุกคนในร้านต่างก้มหน้าก้มตากินข้าว ไม่มีใครว่างคุยกันด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่มองซ้ายมองขวา เพราะข้างนอกยังมีคนรออยู่ พอกินเสร็จก็ลุกแล้วรีบไปเลยยิ่งไปกว่านั้น แต่ละโต๊ะยังจัดแบบมีระยะห่าง ไม่อึดอัดเหมือนร้านทั่วไป โต๊ะของพวกเขาอยู่ใต้ต้นเหมยตรงมุมลาน มีโคมกระดาษแขวนบนกิ่งไม้ดูสวยงาม จากมุมนี้มองเข้าไปด้านในคล้ายโรงเตี๊ยมย้อนยุคยังไงยังงั้นหยางอิงกับลุงหวังยกอาหารมาเสิร์ฟ พอเห็นเป็นโต๊ะของคนรู้จัก ก็ไม่ลืมกำชับด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย “ลุงซ่งคะ ถังเหยาฝากมาบอกลุงทั้งสองว่าดื่มได้แค่ไหเดียวนะคะ ต้องดูแลสุขภาพไว้กินของอร่อยไปอีกนานๆ”“ได้สิ ได้แน่นอน ลุงสองคนแชร์กันแค่ไหเดียวพอ บอกเสี่ยวเหยาว่าไม่ต้องห่วงนะ”เกาเหวินถึงกับเหวอเมื่อเห็นหญิงสาวคนนั้นยิ้มสดใสเ หมือนพระอาทิตย์เดินมาอยู่ตรงหน้า เผลอมองตามจนเธอเดินลับตาไป พอได้กลิ่นหอมลอยมาเขาถึงดึงสายตากลับได้โต๊ะของพวกเขาสั่งกับข้าวมาอย่างละจาน โดยเฉพาะหมูตุ๋นตงพอสั่งไซส์ใหญ่สุด วันนี้เลือกกินแค่ข้าวผัดหยางโจวกับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อให้เข้ากับหมูตุ๋น เ
ช่วงเวลานี้ที่กองถ่ายในเหิงเตี้ยนถือว่าเป็นช่วงที่วุ่นวายที่สุด ทุกคนต่างก็ขะมักเขม้นกับหน้าที่ของตัวเองเหิงเตี้ยนได้ชื่อว่าเป็นกองถ่ายที่ไม่เคยหลับใหล ไฟส่องสว่างอยู่ตลอดเวลาไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืนผู้กำกับเฉินและผู้กำกับซ่ง ได้นัดกันไว้ว่าเย็นนี้หากเลิกงานเร็วแล้วจะแวะไปที่ “ร้านตระกูลถัง” ขอเพิ่มเหล้าสักไห เหล่าซ่งนั่งดูวิดีโอของนักแสดงที่เพิ่งถ่ายเสร็จ ตอนนี้ในบรรดากองถ่ายทั้งหมดที่เหิงเตี้ยน มีแค่สองโปรเจกต์ที่ได้รับการลงทุนสูงที่สุดเรื่องหนึ่งของเขา อีกเรื่องคือของผู้กำกับเฉินกำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะถ่ายซ้ำฉากเมื่อกี้ดีไหม จู่ๆ ก็มีคนเดินเข้ามา “ผู้กำกับซ่งครับ ผมกลับมาแล้ว”เขามองไปทางผู้จัดการเกา สีหน้าอีกฝ่ายดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูแล้วเหมือนเรื่องจะไม่ง่ายอย่างที่คิด “เป็นอะไรไป? แล้วไอ้หนูคนนั้นหายไปไหน?”“เขาไปแต่งหน้าแล้วครับ แต่เรื่องที่ผมจะเล่า...หนักกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยครับ นักโภชนาการบอกว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ ร่างกายจะทรุดหนักแน่นอน และพอถึงตอนนั้นอาจจะสายเกินไป เขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมกิน แต่ยังไม่รู้สึกว่าควรกินด้วยซ้ำ วันนี้ทั้งวันถ้าผมไม่เตือน เขาคงลืมไปเลยว่าต้องกินข้าว
ความโดดเด่นที่สุดของจานนี้ ต้องยกให้กับฝีมือการปรุงรส และความสามารถในการควบคุมไฟของ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะทำได้ง่ายๆ ต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงถึงจะทำได้แบบนี้ จะใช้ไฟแรงตอนไหน ควรลดไฟหรือถอนฟืนเมื่อใด ทุกขั้นตอนล้วนต้องใช้ประสบการณ์ควบคุม เพื่อให้เนื้อหมูซึมซับน้ำซอสได้อย่างทั่วถึง โดยไม่เละ ไม่แห้ง และยังคงความสดฉ่ำของวัตถุดิบไว้อย่างสมบูรณ์แบบนี่เป็น หมูต้มตงพอ ที่อร่อยที่สุดที่เขาเคยกิน ยิ่งกว่าเมนูขึ้นชื่อของร้านดังเต๋ออี้จิ่วโหลว ที่เขาเคยหลงใหลเสียอีกที่นั่นแต่ละจานจะใช้หม้อดินขนาดเล็กเคี่ยวแยกกันทีละหม้อ ถึงจะได้รสชาติแบบนั้น แต่ที่ร้านตระกูลถังกลับเคี่ยวรวมหม้อใหญ่ แต่ยังคงความสวยงามและรสชาติระดับเทพเอาไว้ได้ทุกชิ้น ฝีมือเชฟสาวคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งเรื่องมีดและการควบคุมไฟ พรสวรรค์ชัดๆ!พอเที่ยงตรงนักแสดงตัวประกอบ รวมถึงพนักงานในกองถ่ายหลายคณะที่เพิ่งเลิกกอง พอมีเวลาปุ๊บก็รีบพุ่งไปที่ร้านตระกูลถัง หวังจะได้ลิ้มรสเมนูใหม่ที่ได้ยินข่าวลือมาว่ามีขายวันนี้ หมูต้มตงพอ สีสวยเคลือบน้ำซอสข้นๆ นั่นแหละ! เมนูในตำนานที่หลายคนรอคอย ยังไม่ทันจะได้กดสั่ง ก็เห็นข้อความที่ทำให้เข่าอ่อนหม