LOGINวันต่อมา...
วันนี้เป็นวันทดสอบความสามารถและความถนัดวันสุดท้าย และเป็นวันตัดสินว่าเธอจะได้ทำอะไร ตำแหน่งไหน และน่าเสียดายที่สายหมอกยังเรียนไม่จบ เธอเลยจำต้องไปเป็นผู้ช่วยนักบินกับนักบินคนอื่นก่อน และด้วยเพราะเธอยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการบิน จึงต้องบินภายในประเทศตามที่สายหมอกได้เขียนยื่นเรื่องให้
“คุณใบชาครับ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียกร่างเล็กที่กำลังจะเดินออกจากสนามบินจำลอง
“คะ?” ใบชาหันไปตามเสียงเรียกของชายร่างสูงคนหนึ่ง
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับ ผมคิงนะ”
หมับ!!
“อ๊ะ...”
“สวัสดีครับพี่คิง...” แขนแกร่งของสายหมอกโอบไปที่ไหล่ของใบชา ตามด้วยทักทายนักบินรุ่นพี่ที่เข้ามาทักทายใบชาเช่นกัน
“หมอกรู้จักคุณใบชาด้วยเหรอ” แอบหน้าเสียเล็กๆ ที่สายหมอกมาใกล้ชิดคนที่เขาเล็งเอาไว้
“รู้จักครับ รู้จักดีเลยล่ะ”
“เอ่อ...”
“ใช่ไหมครับพี่ใบชา” ไม่พอหันไปถามใบชาด้วยรอยยิ้มร้ายหวังบังคับกลายๆ ให้เธอตอบ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาจะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร หรือว่านี่คืออาการของคนที่กำลังหึง? รู้สึกดีจัง แต่ก็อึดอัด เพราะเขามีเจ้าของหัวใจแล้ว ทำแบบนี้มันก็ไม่เหมาะไม่ควรหรือเปล่า
“ค่ะ...หมอกเป็นรุ่นน้องที่คณะเมื่อก่อน” เธอตอบพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ ซึ่งความห่างเหินของเธอที่แสดงต่อหน้าเขาตอนนี้ มันน่าหงุดหงิดจริงๆ
“แฟนเก่ามากกว่ามั้ง” กดเสียงต่ำเน้นย้ำคำว่าแฟนเก่าให้คิงได้ยิน
“นี่หมอก!!”เธอหันไปดุเขาแต่ก็ต้องสงบสติอารมณ์ตัวเองเอาไว้เพราะเจอเขาทำหน้ากวนใส่ ดูไม่สะทกสะท้านต่อสายตาของเธอด้วยซ้ำ
“คนนี้พี่คิงอย่ายุ่งเลยครับ ผู้หญิงมีตำหนิ ไม่เหมาะกับพี่หรอก” ไม่คิดเลยว่าเขาจะหยาบคายกับเธอแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น นี่กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวเหรอ ใบชาคิด ก่อนที่จะสะบัดตัวออกจากเขาอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“ชาขอตัวนะคะคุณคิง ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” ยิ้มแห้งๆ แล้วรีบออกไปจากบรรยากาศที่แสนอึดอัดนั่นทันที
“ทำไม...ชอบพี่คิงเหรอ...” ขนาดเธอออกมาขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่วายวิ่งตามมา
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอก็ไม่คิดที่จะหยุด แถมยังรีบเดินต่อไปอีกโดยที่ไม่คิดที่จะสนใจเขาแม้สักนิด
“ใบชา!!”ตะโกนเรียกเพียงแค่ชื่อของเธอ จนร่างเล็กหยุดเท้าที่ก้าวลง ตามด้วยหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
“อย่ามาลามปาม พี่เป็นพี่หมอกตั้งกี่ปี”
“กี่ปีก็ไม่สน เพราะไม่ว่าจะห่างกันกี่ปี ก็ไม่มีผลต่อแนวราบ”
“หมอก!! หมอกจะแค้นอะไรพี่นักหนา ทำไมต้องทำตัวหยาบคายกับพี่แบบนี้ ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เหรอหมอก เรื่องมันก็จบไปนานแล้ว”
“เคยคิดจะถามหมอกไหมล่ะ ว่าหมอกอยากจบด้วยหรือเปล่า คนใจร้ายแบบพี่ ต้องรู้สึกซะบ้าง ว่าความเจ็บปวดที่หมอกต้องเจอมันเจ็บปวดแค่ไหน”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไง หมอกช่วยบอกพี่หน่อย ช่วยบอกหน่อยว่าพี่ต้องชดใช้ยังไง หมอกถึงจะพอใจ”
“ก็ไม่ต้องทำยังไง แค่รอรับความเจ็บปวดอย่างที่หมอกต้องเจอก็พอ” พูดจบก็เดินกระแทกไหล่เธอจนเซ ตามด้วยน้ำใสๆ ของร่างเล็กที่ไหลอาบแก้มลงมา
ด้านสายหมอก...
จริงๆ เขาก็ไม่ได้อยากที่จะสร้างความอัปยศให้เธอต่อหน้าคิวนักหรอก แต่วิธีนี้คงจะดีกับเธอแล้ว เพราะคิงน่ะ คือผู้ชายที่ล่าแต้ม สาวๆ ในสายการบินส่วนใหญ่ก็ล้วนตกเป็นของเขากันทั้งนั้น การประกาศว่านี่คือคนของเขา นับว่าปลอดภัยสำหรับเธอแล้ว แต่จะให้บอกไปตรงๆ ว่าที่ทำอยู่คือการปกป้องเธอมันก็ไม่ใช่เรื่อง เธอยังต้องรับแรงแค้นจากเขาอยู่ ถึงอย่างนั้นก็เถอะเขาทำร้ายเธอได้คนเดียว คนอื่นไม่มีสิทธิ์
“แล้วดึกป่านนี้ ทำไมยังไม่กลับคอนโดอีก...จะรอให้ใครมาฉุดหรือไง” ร่างสูงเอ่ยถามตัวเองในรถอย่างขัดใจ เมื่อมองดูใบชานั่งอยู่ที่ป้ายรถเมล์มาร่วมชั่วโมงแล้ว และเธอก็ไม่รู้ตัวเลย ว่ามีเขาแอบมองเธออยู่
ในขณะที่เขากำลังจะปลดเข็มขัดแล้วออกไปนอกรถ เธอก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปโบกแท็กซี่และขึ้นไป เขาจึงทำได้แค่ขับตามไปดูห่างๆ แถมก่อนจะขึ้นคอนโดเธอก็ไม่วายแวะเข้าร้านสะดวกซื้อและซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ติดไม้ติดมือขึ้นไปด้วย ไม่ใช่แค่เพียงกระป๋องสองกระป๋องเท่านั้น เพราะในถุงที่เธอถือ เห็นทีคงจะกินให้เมากันไปข้าง
หมับ!
“อ๊ะ...หมอกทำอะไรเนี่ย...”
“หมอกโตแล้ว...จะทำอะไรก็เรื่องของหมอก” มือหนาเดินไปแย่งถุงเครื่องดื่มนั้นมาถือเอาไว้ แล้วเดินเข้าลิฟต์ไปทันที ส่วนใบชาก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาหนักๆ อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำอยู่ตอนนี้ ก่อนที่จะเดินตามเขาเข้าไปในลิฟต์ แล้วยืนอีกมุมหนึ่งเงียบๆ ไม่หือไม่อืออะไรทั้งนั้น
“พี่ขอโทษนะ ที่ทำให้หมอกไม่พอใจ แต่ขอเถอะ เราต่างใช้ชีวิตจะได้ไหมหมอก”
“คงจะไม่ได้หรอกครับ 6ปีที่ผ่านมากว่าหมอกจะผ่านมันมาได้ มันไม่ง่ายเลย คำพูดขอร้องเพียงไม่กี่คำ อย่าคิดที่จะมาห้ามหมอก บอกแล้วไงว่าหมอกเจ็บเท่าไหร่ พี่ต้องเจ็บกว่า”
ติ้ง!
พูดจบ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟต์เปิดออก เขาจึงรีบก้าวเท้าออกจากลิฟต์ไป แล้วมุ่งตรงไปยังห้องของประกายดาวที่บัดนี้มีเขาเป็นผู้อาศัยชั่วคราว ส่วนเธอก็จำต้องเดินกลับห้องตัวเองไปมือเปล่า ทั้งที่ตั้งใจจะเมาให้มันลืมๆ ไปซะ แต่เขาก็ดันมาแย่งมันไปทั้งถุงต่อหน้าต่อตา
“โอ๊ย...ปวดท้องชะมัดเลย” คนตัวเล็กพูดขึ้นกับตัวเอง พร้อมกับนั่งลงที่โซฟา งอตัวกุมหน้าท้องเพราะถูกความเจ็บปวดเข้าเล่นงาน “เฮ้อ...แล้วผ้าอนามัยก็ดันอยู่ในถุงนั่นอีก เจ้าเด็กบ้านั่นคิดจะแก้แค้นฉันไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะเนี่ย” เธอกล่าว
“อ๊ะ...” ความรู้สึกร้อนวูบวาบที่ช่องคลอด ทำให้เธอรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำ และใช่ เธอเป็นประจำเดือน ทั้งที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย จะไปทวงก็คงไม่ได้ ไม่อยากจะทะเลาะกับเขาให้ไปกันใหญ่
“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป ชุดฉันเลอะหมดแน่ๆ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
ระหว่างที่เธอกำลังหาทางแก้ปัญหาอยู่ๆ เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงรีบเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วไปเปิดประตูห้องเพื่อดูว่าใครมา ในใจก็คิดแล้วแหละว่าต้องเป็นเขาที่อาจจะมาหาเรื่องเธอไม่จบไม่สิ้น แต่ดันผิดคาด เพราะหลังจากที่เปิดออกมา ก็ไม่มีใครอยู่หน้าห้องเลย มีเพียงแค่ถุงอะไรสักอย่างที่ห้อยอยู่ที่หน้าประตู
“ใครเอามาห้อยไว้เนี่ย” พูดกับตัวเองเบาๆ แล้วหยิบมันเข้าห้องมาด้วย
และพอเปิดดู ก็เห็นว่าในถุงนั้นมีถุงน้ำร้อน ผ้าอนามัย และยาแก้ปวด ไม่พอมีโจ๊กร้อนๆ ติดมาด้วย ถ้าจะบอกว่าเป็นเขาเอามา ก็ไม่กล้าที่จะคิดเลย แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ ตอนนี้ก็ต้องขอบคุณจริงๆเพราะทุกอย่างที่อยู่ในถุงมันช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้จริงๆ
หลายวันต่อมา...หลังจากวันที่รันเวย์ได้เห็นรูปถ่ายความสงสัยของเด็กน้อยก็ไม่ได้จางหายไป แต่ยายและแม่นี่สิ ไม่คิดที่จะบอกความจริงเขาเลย และเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งคู่คุยกันอยู่ ความจริงทั้งหมดได้เข้าหูเด็กน้อยอย่างรันเวย์เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน แต่เพราะกลางดึกเขาบังเอิญปวดฉี่และต้องการจะเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้เขารู้ว่าผู้ชายที่เขาเรียกว่าคุณลุง แท้จริงแล้วคือพ่อของเขา แต่เพราะเป็นเด็กที่ฉลาด ในเมื่อแม่และยายไม่อยากให้รู้ เขาเองก็ต้องเก็บความลับเอาไว้ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป@ทริปเปิ้ลทรีคอนโดมิเนียม“หม่ามี๊ครับ...นี่คอนโดใหม่ของหม่ามี๊เหรอครับ” รันเวย์เอ่ยถาม พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ คอนโดหรูที่ใหม่ที่แม่พาย้ายมา“ใช่ครับ รันเวย์ชอบไหม”“ชอบครับ...มีอ่างอาบน้ำใหญ่กว่าที่เก่าอีก”“งั้น...รันเวย์อยากไปแช่น้ำในอ่างไหมครับ ถ้าอยากเดี๋ยวมี๊จะไปเตรียมน้ำให้”“แล้วไม่ให้เวย์ช่วยจัดห้องเหรอครับ”“ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวมี๊จัดการเอง...มีของแค่นิดเดียวเดี๋ยวมี๊จัดเสร็จมี๊จะเตรียมอาหารรอ”“จะได้กินข้าวผัดปูไหมครับ?” เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยแววตาแห่งความหวัง“แน่นอนคร
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด







