Masukหลายวันต่อมา...
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอถูกเรียกตัวไปบิน โชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอหยุด ไม่อย่างนั้นคงทำงานลำบากแน่ๆ เพราะประจำเดือนเธอมา บินเที่ยวแรกเธอบินจากกรุงเทพไปที่ขอนแก่น บินไปกลับแค่หนึ่งชั่วโมง แต่ด้วยความที่เป็นนักบิน การทำงานไม่ได้เหมือนสายงานอื่น เพราะฉะนั้นการเตรียมความพร้อมก่อนที่เครื่องจะออกก็ต้องมีกำหนดเหมือนกัน
อย่างเช่นวันนี้ที่เธอมีบิน7โมงเช้า ก็ต้องตื่นตี5 และการบินภายในประเทศนักบินจะต้องมีการไปเตรียมตัวก่อนเครื่องออกอย่างน้อย2ชั่วโมง เราเรียกช่วงเวลานี้ว่าช่วงรีพอร์ต ต้องเตรียมความพร้อมในการดูแลลูกเรือและต้องตรวจสอบเอกสารก่อนบินตามกฎระเบียบของสายการบิน
พออาบน้ำเตรียมตัวเสร็จก็กินเวลาไปชั่วโมงกว่า เธอจึงรีบออกจากห้องไป และระหว่างที่เธอกำลังรอลิฟต์ เสียงประตูห้องสุดท้ายของอีกฝั่งตึกก็ดังขึ้น ตามด้วยร่างสูงที่แสนคุ้นเคยเดินออกมาจากห้องนั้น ด้วยชุดนักศึกษา กลิ่นกายหอมๆ ที่โชยออกมาแม้จะอยู่ไกลก็ยังได้กลิ่น
ถึงแม้ว่าเธอจะอยากหันไปมองแค่ไหน สุดท้ายก็ทำเป็นเมิน ส่วนเขาก็มายืนอยู่ข้างๆ รอลิฟต์เหมือนกัน วินาทีนี้บอกเลยว่าอึดอัดสุดๆ ทำตัวไม่ถูก ในใจก็เต้นกระหน่ำราวกับมีใครมาตีกลองอยู่ในนั้น
ครืด!!
เพียงไม่นานนักลิฟต์ก็เปิดออก พร้อมกับร่างเล็กที่เดินเข้าไปในนั้นก่อน ตามด้วยเขาที่เดินตามเข้าไปติดๆ ภายในลิฟต์มีเขาและเธอยืนกันอยู่คนละฝั่ง ไม่มีใครพูดหรือเอ่ยคำใดออกมา ทั้งที่ในใจของทั้งคู่นั้น อยากที่จะพูดมันทุกอย่าง เขาก็อยากจะถามเธอเรื่องไปทำงาน ส่วนเธอก็อยากถามเขาเรื่องเรียน
“เอ่อ...ขอบคุณนะเรื่องของที่ซื้อไปให้” และก็เป็นเธอที่ทำลายความมาคุภายในลิฟต์ลง
แต่แทนที่เขาจะตอบเธอ เขากลับเมินทำเป็นไม่สนใจ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเกร็งเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าเขาจะตอบหรือไม่ตอบ ก็นับว่าเธอได้ขอบคุณไปแล้ว และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจ ว่าของในถุงวันนั้นเป็นเขาที่ซื้อมาให้เธอ รู้ได้ยังไงน่ะเหรอ ก็เพราะเมื่อก่อนที่เธอกับเขายังคบกันอยู่ เวลาเธอเป็นประจำเดือน ก็จะมีเขานี่แหละคอยซื้อของพวกนี้มาให้
ติ้ง!!
พอถึงชั้นล่างสุด สายหมอกก็ก้าวเท้าออกไปจากลิฟต์ทันที ไม่สนใจ ไม่ตอบ ไม่หันมองเธอเลยแม้สักนิดเดียว เธอที่เห็นเช่นนั้นก็เดินคอตกออกจากลิฟต์ไป
@บวรแอร์ไลน์
นับว่าการทำงานวันแรกก็หัวหมุนเลย หลังจากตรวจสอบเอกสารเสร็จก็ต้องไปเตรียมความพร้อมของเครื่อง และสั่งน้ำมันว่าจะต้องใช้เท่าไหร่ ด้วยเพราะเหตุฉุกเฉินอะไรก็เกิดขึ้นได้จึงจำเป็นต้องสั่งเพิ่ม เผื่อสภาพอากาศไม่ดีจะได้มีเผื่อสำรองเอาไว้ใช้บินวนก่อนที่จะลงจอด จัดแจงในส่วนนี้เสร็จก็ต้องตรวจสอบรอบเครื่องและดีที่สายการบินนี้เครื่องบินมีคุณภาพสูง จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงทำการสั่งให้เริ่มบอร์ดผู้โดยสารได้ในเวลาต่อมา กว่าจะบินแต่ละรอบก็จะต้องเข้มงวด เพราะเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสารต้องมาเป็นอันดับแรก
“คุณใบชาจัดการเช็กทุกอย่างดีแล้วใช่ไหมครับ” คิงเอ่ยถาม
“เรียบร้อยแล้วค่ะกัปตันคิง” เธอตอบ
เมื่อได้รับคำยืนยันเขาก็เดินไปประจำที่ โดยมีเธอตามไปด้วยติดๆ เธอรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยกัปตัน ด้วยเพราะยังใหม่จึงจำต้องคอยฝึกฝนและเรียนรู้ให้ชำนาญการกว่านี้ แต่ใช่ว่าหน้าที่ของเธอจะต่ำต้อยกว่า เพราะสุดท้ายแล้วทุกเที่ยวบินเธอก็ทำหน้าที่ไม่ต่างจากกัปตันเลยด้วยซ้ำ เพียงแค่เธอไม่ได้เป็นคนไปบังคับเครื่องเอง
“วันนี้ทำหน้าที่ได้เก่งมากๆ เลย ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับคุณใบชา” คิง กล่าวด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ส่งผู้โดยสารถึงที่หมายปลายทางอย่างปลอดภัย
“ขอบคุณคุณคิงเช่นกันนะคะ ที่คอยสอนงานชา งั้น...ไม่มีอะไรที่ชาต้องทำแล้ว ชาขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”
“ครับ เจอกันเที่ยวบินหน้าครับ”
“ค่ะ” โค้งตัวเล็กน้อยแล้วยิ้มบางๆ ให้เขา
“อะ...เอ่อ...คุณใบชาครับ” ยังไม่ทันที่เธอจะหมุนตัวเดินออกไป เขาก็รั้งเธอเอาไว้ด้วยเสียงของเขาก่อน
“คะ?...”
“คุณใบชากับหมอก...เอ่อ...จะเสียมารยาทไหมครับหากผมจะถาม”
“ค่ะ...ตามนั้น...ฉันกับหมอกเราเคยคบกัน”ตอบไปตามความจริงไม่ได้คิดจะปิดบัง
“อะ...อ๋อ...งั้นก็แปลว่าตอนนี้...เลิกกันแล้ว?”
“ค่ะ...”
“แล้วตอนนี้...คุณใบชา...มีคนในใจแล้วหรือยังครับ”
“มีแล้วค่ะ...” แม้จะเลิกกันแต่คนในใจเธอก็ยังคงเป็นเขาไม่เคยจางหายไป
“อะ...อ๋อ...ขอโทษที่ถามครับ” แอบเสียดายอยู่หน่อยๆ ที่เธอดันมีคนในใจอยู่แล้ว เอาจริงๆ สำหรับเขาเธอจะเคยคบใครมาเขาเองก็ไม่ได้ติดหรอก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอโคตรจะเข้าตา
“ค่ะ...งั้นชาขอตัวนะคะ”
ใบชากลับมาถึงคอนโดก็เป็นเวลาเกือบจะเย็น พอถึงห้องเธอก็อาบน้ำแต่งตัวหวังจะลงไปซื้อของใช้ที่จำเป็นอยู่มินิมาร์ทใต้คอนโด ทว่าพอเปิดประตูออกมากลับเจอสายหมอกยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง พร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ตีเข้าหน้าเธออย่างจัง
“มะ...หมอก!”
หมับ!!
“อื้ม...” ร่างเล็กถูกดันกลับเข้าไปในห้อง ก่อนที่ร่างสูงจะรีบปิดประตูตามด้วยจู่โจมเธอด้วยการจูบอย่างหนักหน่วง
พลั่ก!
“อื้อ!!...” กำปั้นน้อยๆ ยกขึ้นทุบแผงอกของเขาทั้งสองข้าง เพื่อดึงสติของเขา และเพื่อให้เขาหยุดการกระทำอันอุกอาจนี้
แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามต่อต้านเขาแค่ไหน ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากเขาไปได้ ร่างสูงเดินต้อนให้เธอไปจนมุม จนแผ่นหลังของเธอแนบชิดไปกับกำแพง ในขณะที่ปากก็บดจูบจนปากเล็กๆ แทบบวมช้ำ เขากระหน่ำจูบเธออยู่หลายนาที พยายามแทรกเรียวลิ้นอันร้อนระอุเข้าไปในโพรงปากนุ่มๆ นั้นด้วย แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเธอเม้มและปิดปากแน่น
“อื้อ...มะ...หมอก...ปล่อย” ยกมือขึ้นดันหน้าเขาออกแต่กลับถูกเขารวบมือเธอขึงไว้ที่เหนือหัว ตามด้วยก้มลงมาป้อนจูบให้เธออีกครั้ง
และเนื่องจากว่าจูบของเขามันสูบพลังของเธอ จนแทบขาดอากาศหายใจ ทำให้เธอเผลออ้าปากขึ้นเพื่อกอบโกยเอาอากาศเข้าไปในปอดให้ได้มากที่สุด แต่เขากลับใช้จังหวะนั้นสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปฉกชิมความหอมหวานในปากของเธอแทน
“อื้อ...” เรี่ยวแรงตอนนี้ที่มีแทบมลายไปจนหมดสิ้น ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรของเขา ถึงได้จูบเอาเป็นเอาตายจนเธอแทบสิ้นใจแบบนี้ แถมยังทำเธอรู้สึกมึนๆกับแอลกอฮอล์ในปากของเขาที่แผ่ไปทั่วลิ้น
พลั่ก!!
“โอ๊ย!!” เธอตัดสินใจใช้แรงเฮือกสุดท้ายของตัวเองยกเข่าขึ้นกระแทกไปที่เป้าของเขาอย่างแรง และสำเร็จเพราะมันทำให้เธอหลุดออกจากพันธนาการของเขาในทันที
พรึ่บ หมับ!!
พอเขากุมมือไปที่เป้า เธอก็รีบผลักร่างของเขาออก แล้วจ้องมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจว่าตอนนี้เขาต้องการอะไร แล้วทำแบบนี้กับเธอทำไม ทว่าพอมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของเขา มันกลับทำให้เธอนั้นโกรธแทบไม่ลง ดวงตาทั้งสองข้างของเขามันแดงก่ำราวกับผ่านการร้องไห้อย่างหนัก เขาไม่โวยวาย ได้แต่มองเธอด้วยแววตาละห้อย
หมับ พรึ่บ!!
เธอยืนมองเขานิ่งเพียงชั่วครู่ เขาก็พุ่งเข้าไปกอดเธอแน่น ซุกหน้าลงไปที่ไหล่ พร้อมกับเนื้อตัวที่สั่นเทาเพราะพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเอง ส่วนเธอก็ทำได้แค่ยืนนิ่งๆ ปล่อยให้เขากอดและร้องไห้อยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่าสาเหตุที่เขาเป็นแบบนี้คืออะไรกันแน่
เขายังคงกอดเธอเนิ่นนานหลายนาที ผ่านไปเกือบจะครึ่งชั่วโมง โดยที่ไม่พูดอะไรออกมา ส่วนเธอก็ไม่ได้กอดเขาตอบ เพราะกลัวว่ามันจะดูให้ความหวัง อีกอย่างก็กลัวว่าตัวเองจะเผลอใจไปกับเขา พยายามตอกย้ำกับตัวเองว่ามันไม่ควร เขาจะแต่งงานแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์ทำอะไรตามความรู้สึกตัวเองอีกแล้ว
“พี่ชา...หมอกหิว...” ร่างสูงผละกอดออกพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงอ้อนๆ จนร่างเล็กแปลกใจ
ผู้ชายที่จ้องมองเธอด้วยความแค้น หายไปไหนแล้ว ทำไมอยู่ๆ มาอ้อนเธอแบบนี้ แล้วยังมาบอกว่าหิวอีก ยิ่งพานทำให้เธอสับสนเข้าไปกันใหญ่ ไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ทว่าท่าทีของเขาในตอนนี้กลับทำให้เธอใจอ่อน
“อะ...เอ่อ...ห้องพี่ไม่มีอะไร”
“หมอกอยากกินข้าวผัดปู ช่วยทำให้หมอกกินหน่อยได้ไหมครับ”
“ห๊ะ?” เลิกคิ้วมองหน้าเขาด้วยความแปลกใจ
“นะครับ” ทำหน้าเว้าวอนหวังให้เธอตามใจ
นี่ถ้าเป็นตอนยังคบกัน แบบนี้ก็คือปกติ เวลาหิวเรียกให้เธอทำให้ตลอด และเมนูโปรดของเขาก็คือข้าวผัดปูฝีมือเธอ ซึ่งไม่ใช่แค่เขาหรอก แน่นอนว่ารันเวย์เองก็เช่นกันที่ชอบเมนูนี้
“อะ...อื้ม...งั้นรอแป๊บนะ...พี่ขอไปซื้อของก่อน” พยักหน้าตอบรับแล้วเดินไปทิ้งตัวที่ค่อนไปทางเซลงนอนที่โซฟา
“เฮ้อ...พ่อกับลูกจำเป็นต้องเหมือนกันขนาดนี้ไหม” เธอเอ่ยขึ้นกับตัวเองเบาๆ หลังจากออกมาที่นอกห้อง แอบแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้มาอ้อนเธอแบบนี้
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด
“มี๊ครับ มี๊ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่าครับ” รันเวย์ยืนขึ้นแล้วใช้หลังมืออังไปที่หน้าผากใบชา“มี๊ไม่เป็นอะไรครับ...เอ่อ...งั้นเดี๋ยวมี๊ไปเปิดน้ำอุ่นให้แช่นะครับ วันนี้จะเอาฟองสีอะไร” ว่าแล้วก็เอ่ยถามลูกชาย เพราะปกติเขาจะชอบใช้บาธบอมม์ สบู่อโรม่าฟองฟู่ในอ่างทุกครั้งเวลาแช่น้ำ“สีฟ้าครับมี๊”“โอเคครับ เดี๋ยวมี๊ไปเตรียมให้นะ” พูดจบก็เดินไปเตรียมน้ำให้ลูกชาย พอเตรียมเสร็จ เธอก็ปล่อยให้รันเวย์เล่นน้ำไป ส่วนเธอก็ออกไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้เขาด้วยเพราะเธอหยุดหลายวัน และรันเวย์ก็จะได้นอนกับเธอสองคืน เธอจึงมีการเตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ทำกับลูกชาย บวกกับต้องเจียดเวลาทำคุกกี้อีก จะหักโหมมากก็ไม่ได้ เพราะการเป็นนักบิน การนอนต้องเพียงพอ“รันเวย์ครับ...เล่นพอหรือยังครับ...ข้าวผัดปูเสร็จแล้วน้า”“โอเคครับมี๊...มี๊ช่วยมาถูหลังให้เวย์หน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเห็นว่าลูกเล่นจนพอใจแล้ว เธอก็ไปอาบน้ำล้างตัวให้ลูกเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วเตรียมตัวกินข้าวต่อ แต่สักพักก็จามถี่ๆ ด้วยเพราะแช่น้ำนาน บวกกับอากาศในห้องค่อนข้างที่จะเย็น เลยมักจะเป็นหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆ หลังอาบน้ำ พอเห็นรันเวย์เป็นแบบนี้ก็อดคิดถึงสายหมอ







