“ก็ในฐานะผู้หญิงของผมไง...!! แล้วคุณจะยังต้องการอะไรอีกงั้นหรือ”น้ำเสียงที่บอกออกมาอย่างหัวเสียด้วยเพราะไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้าต้องการอะไรจากเขาอีก ในเมื่อสิ่งที่เขามอบให้มันก็ดีที่สุดสำหรับเธอแล้ว การที่เขายอมอยู่กับเธอได้สร้างครอบครัวอย่างที่เธอต้องการด้วยกัน อีกทั้งเธอพูดว่าในอนาคตเธออยากมีสามีเขาเองก็ยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งที่จะเป็นให้ แล้วไหนที่เธอบอกว่าอยากมีลูกอีก เขาก็ไม่ได้ติดเลยสักนิดถ้าหากเธอจะท้องลูกของเขา และเหนือสิ่งอื่นใดเธอเองก็ไม่ต้องมาคอยนั่งห่วงอนาคตของลูกอีกด้วยเพราะเขาเองก็สามารถเลี้ยงทั้งสองคนให้สุขสบายโดยไม่ต้องลำบากไปตลอดชีวิต“แต่มนต์ไม่ได้ต้องการชีวิตแบบนั้น...!!” น้ำเสียงเด็ดขาดถูกปล่อยออกมาพร้อมกับน้ำใสที่ไหลรินออกมาทางหางตาอย่างไม่อาจห้ามได้อีกแล้ว อีกทั้งร่างกายที่พยายามสลัดตัวให้หลุดออกจากพันธนาการของเขา แต่ทำเท่าไรมือกาวนั้นก็ยังกอบกุมต้นแขนแน่นอยู่ดี“มนต์ คุณอย่าทำให้เรื่องมันยากนักเลย”ส่วนเขาที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดเธอถึงปฏิเสธเขาได้ลง ทั้งที่เขาไม่เคยยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิต เขาที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะลงห
พรวด ~~“อึก...อร๊ายยยย ~~” เสียงร้องลั่นที่ระคนไปด้วยความเสียวและความจุกหลังจากถูกเอ็นเนื้ออุ่นกระทุ้งเข้ามารวดเดียวทั้งลำ พร้อมกันกับที่ร่องสาวกระตุกเกร็งตอดตอบรับสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย“ขยับเลยได้ไหม” คนบนร่างเอ่ยถามเสียงกระเส่า อีกทั้งใบหน้ายังเหยเก เนื่องจากตอนนี้อาวุธร้ายของเขากำลังโดนอาวุธร้ายที่เหนือกว่าโอบรัดจนปวดหนึบไปหมด“อือ...” ดวงหน้าหวานใสที่ตอนนี้ก็ต่างบิดเบี้ยวไม่แพ้กัน ได้แต่พยักหน้าพร้อมกับตอบรับในลำคอเบา ๆและทันทีที่สิ้นคำอนุญาตจากหญิงสาวแล้ว ชายหนุ่มที่ถูกไฟสวาทรุกเร้าจนลำเอ็นอุ่นแทบจะมอดไหม้ก็ได้จัดการขยับบั้นเอวเพื่อระบายเพลิงสวาทที่แผดเผาอยู่ในถ้ำหรรษาโดยการสาดน้ำสีขาวขุ่นให้ออกมาเพื่อดับไฟปรารถนาในครั้งนี้ปั่ก...ปั่กๆๆ“อ๊ะ อ๊ะ ทำไมมันรู้สึกดีขนาดนี้” น้ำเสียงทุ้มแหบพร่าครวญครางระบายความรู้สึกข้างใน หลังจากขยับแก่นกายได้เพียงไม่กี่ครั้ง ด้วยเพราะความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าเกิดจากความโหยหาที่ไม่ได้สัมผัสความอบอุ่นนี้มานาน หรือเป็นเพราะร่องรักของเธอมันดีเกินไปและความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ทว่า...หญิงสาวที่ถูกเอ็นอุ่นขยับ
จุ๊บ ~~“อื้อออออ ~~” (O///O)ความอ่อนโยนที่ถูกส่งออกมาจากการที่คนตัวโตค่อย ๆ บรรจงสัมผัส ทำให้หญิงสาวที่ออกอาการขัดขืนด้วยความตกใจในหะแรกค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นยอมรับแล้วปล่อยให้ความรู้สึกไหลตามไปกับรสสัมผัสของเขาจากนั้น...เจ้าของริมฝีปากทรงเสน่ห์ก็ค่อย ๆ ส่งลิ้นเรียวอุ่นชื้นให้แทรกเข้ามายังโพรงปากสวยเพื่อหาอวัยวะที่มีลักษณะเดียวกัน แล้วจัดการปลุกปั่นคล้ายกับต้องการสอนวิชาให้กับลิ้นเล็กที่ไร้เดียงสาให้เป็นชำนาญงานมากยิ่งขึ้นจ๊วบ ~~“อืมมมมม ~~” เสียงครางที่ส่งออกมาจากลำคอเรียวระหงเบา ๆ หลังจากความรู้สึกวาบหวามได้ก่อตัวตีมวนมากขึ้น และในขณะเดียวกันมือหนาที่เคยโอบกอดเอวบางนิ่ง ๆ ก็ค่อย ๆ เริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเอื่อย ๆการสัมผัสแสนอบอุ่นนุ่มนวลจากมือหนาที่ผสานเข้ากับความหอมหวานที่คละคลุ้งอยู่ในโพรงปากทำให้ร่างบางยอมโอนอ่อนผ่อนตามสัมผัสที่คนตัวโตมอบให้สองปากสองมือจากคนสองคนที่ต่างปรนเปรอกอดก่ายกันอย่างเนิ่นนานเสมือนว่าทั้งสองถูกห้อมล้อมด้วยบรรยากาศที่มีเพียงเรา นั่นจึงทำให้กว่าที่เราสองคนจะยอมถอดถอนความหวานออกจากกันก็เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างมอบความชุ่มฉ่ำจนทั้งเรียวปากนุ่มนิ่มและริมฝีป
ฉันกลับเข้ามาด้วยความรู้สึกที่ไม่ยินยอมมากนัก เนื่องจากฉันกำลังเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและความคิดมากมายหลังจากที่เราเพิ่งจะมีโอกาสได้คุยกันอย่างสบาย ๆ แม้ว่าหลังจากในบทสนทนาสุดท้ายจะเป็นคำหลอกด่าของฉันก็ตามหลังจากที่เราเข้ามาในห้องโถงแล้ว เราสองคนก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ เพราะต่างฝ่ายต่างดื่มด่ำจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองถึงเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเราที่มันเกิดขึ้น และไม่รู้ว่ามันจะไปจบ ณ ที่ตรงไหน...เพราะในเมื่อคนคนหนึ่งก็ยังไม่มั่นใจถึงความรู้สึกที่ทั้งเปลี่ยนแปลงไปและเกิดขึ้นมาอย่างกะทันหันเกินจะเข้าใจได้ นั่นจึงทำให้เขาเองก็ยังไม่อยากให้สถานะกับเธอในตอนนี้ได้เช่นกันส่วนอีกคนที่แม้จะหวั่นไหวต่อการกระทำการแสดงออกของอีกคนที่ตลอดหลายวันที่ผ่านมาเขาดูจะเป็นห่วงเป็นใยในตัวของหญิงสาวมากน่าดู อีกทั้งดูแล้วสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นก็ดูท่าจะออกมาจากใจมิได้เสแสร้งแต่อย่างใด นั่นจึงทำให้ความรู้สึกที่ได้รับก็ยิ่งพร้อมจะพุ่งทะยานอยากให้คนตรงหน้าชัดเจนมากขึ้น เพียงแต่ว่า...ทุกอย่างมันดันกลับถูกกดเอาไว้ด้วยคำว่าของสนองตัณหา หรือถ้าจะเรียกสั้น ๆ ง่าย ๆ เลยก็คือ นางบำเรอ นั่นเอง และด้วยคำตราหน้า
กระทั่งเมื่อเขาอุ้มฉันเข้ามาในลิฟต์แล้ว ฉันที่รู้ดีว่าชั้นที่พักอาศัยของฉันนั้นถึงก่อนที่พักของเขาก็ได้เอ่ยปากบอกให้เขาปล่อยให้ฉันลงเพื่อเตรียมตัวเมื่อลิฟต์เคลื่อนตัวใกล้ไปถึง“ปล่อยมนต์ลงได้แล้วค่ะใกล้จะถึงชั้นที่มนต์พักแล้ว” ฉันบอกเขาด้วยเสียงไม่ดังมากนัก“ใครบอกว่าผมจะให้คุณกลับห้องพักล่ะ”และด้วยคำพูดของเขาก็ทำให้ถึงกับตาโต พร้อมกับหลุดอุทานออกมาด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ“หา...!!”“ไม่ต้องหาผมไม่ได้หายไปไหน”“มุกเก่ามากเลยค่ะ” ฉันที่ยังไม่ทันหายตกใจกับเจตนารมณ์ของเขา ถึงกับถอนหายใจให้กลับมุกโบราณที่เขาส่งมาแต่ก่อนที่ฉันจะเผลอลืมสิ่งสำคัญไป ฉันก็ได้ถามเขาขึ้นอีกครั้ง...ถึงเหตุที่ทำไมเขาไม่ปล่อยให้ฉันกลับห้องของฉัน“ข้อเหตุผลดี ๆ ให้มนต์หน่อยได้ไหมคะว่าทำไมถึงต้องพามนต์ไปห้องคุณด้วย” ฉันยู่ปากถามใส่คนเจ้าเล่ห์“อยากนอนกอด”และเพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ที่ส่งมานั้นกลับทำใจสาวเต้นระรัว“บนรถก็กอดไปแล้วไงคะ” ฉันบ่นอุบอิบแต่ก็ดังพอที่จะทำให้คนตัวโตได้ยิน เนื่องจากเราอยู่ในลิฟต์กันเพียงลำพัง“ก็ยังไม่หายคิดถึง” เขาที่ได้ยินตอบกลับหน้าตาเฉย“ไม่หายคิดถึงอะไรกันค่ะก็อยู่ด้วยกันทุกวันไ
ดวงตากลมสวยจ้องมองไปยังคนตรงหน้าที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับ ก่อนที่จะถอนหายใจออกมาอย่างปลงตกและพยายามใจเย็นเพื่อพูดกับเขาดี ๆ อีกครั้ง“คุณวาคิมค่ะ มนต์ขอพูดเรื่องนี้หน่อยได้ไหมคะ” ฉันค่อย ๆ ลดมือที่ถูกกอบกุมลงแล้วใช้มืออีกข้างของตัวเองวางไว้บนมือเขาเบา ๆ“ผมไม่อยากฟัง แค่ทำตามที่ผมบอกมันยากนักเหรอไง” เขายังคงแสดงท่าทีไม่ยินยอมหน้าบึ้งหน้าบูด“แต่มนต์ขอร้องในฐานะมนุษย์ ไม่ใช่ฐานะนางบำเรอได้ไหมคะ” ฉันพยายามพูดให้เขาได้ฉุกคิด“หมายความว่าไง คุณจะหาว่าผมทำกับคุณเหมือนไม่ใช่คนงั้นเหรอ” เขาที่แปลสารฉันผิดไปไกลมากเริ่มพูดจาด้วยอารมณ์ที่รุนแรงยิ่งขึ้น“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ มนต์ไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลย” ฉันเริ่มเสียงแข็งขึ้นมาบ้าง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้งี่เง่าแบบนี้“แต่สิ่งที่มนต์อย่างจะบอก ในฐานะที่มนต์เป็นอยู่คุณอาจจะมองมนต์เป็นเพียงสิ่งของบรรเทาความใคร่ แต่ถึงอย่างนั้นในฐานะมนุษย์มนต์ก็อยากให้คุณให้เกียรติมนต์บ้าง มนต์อยากให้เกียรติคนอื่นในฐานะเพื่อนมนุษย์ที่ควรจะมีต่อกัน มนต์ไม่ได้มีฐานะสูงส่งไปกว่าพี่เรย์หรือพี่ปราบ มนต์ไม่อยากถูกพวกเขาเกลียด” ฉันเริ่มร่ายยาวอธิบาย แต่ก็ไม่วายถูกเ